ตอนที่14น้องสาวที่ชอบยุยง
จิ๋นลี่ยวนไม่ใช่คนโง่เขาได้ยินเสียงทะเลาะกันตั้งแต่ตอนที่อยู่ตรงประตูทางเข้าแล้วเมื่อเข้ามาก็เห็นยินไป่ฝันเตรียมที่จะลงมือตีคนจึงเข้าไปหยุดด้วยสัญชาตญาณแล้วเผชิญหน้ากับคนที่อยู่ในห้องสีหน้าของจิ๋นลี่ยวนไม่ได้น่าดูนักคนพวกนี้ถือตัวเองสูงส่งแถมยังมีความรู้สึกว่าเหนือกว่าโดยธรรมชาติจึงหยิ่งยโสเขาไม่ชอบคนแบบนี้
“คุณรู้จักยินเสี้ยวเสี้ยวไหม?คุณถึงได้กล้าแต่งงานกับเธอคุณอย่าได้โดนเธอหลอกเลย”พูดเพื่อพาให้คนสงสัยในคำพูดของตัวเองหลี่หมึ้งรีบพูดเพิ่มอีกหลายคำ:“อย่างไรเสียเรื่องของบ้านยินของเราคนภายนอกส่วนใหญ่ก็ล้วนรับรู้กันหมดแล้วพวกเราไม่อยากให้จนถึงตอนที่แต่งงานคุณถึงได้รู้เรื่องเกี่ยวกับเสี้ยวเสี้ยวของพวกเราเสี้ยวเสี้ยวก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อดทนต่อคนพูดของคนไม่ได้”
เดิมทียินเสี้ยวเสี้ยวคิดว่าอย่างน้อยจิ๋นลี่ยวนจะหันกลับมาเพื่อขอคำยืนยันจากเธอเล็กน้อยแต่ทว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ทำเรื่องอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อยเพียงปล่อยให้สายลมพัดผ่านไปแผ่วเบาการเปิดปากพูดครั้งนี้เธอคล้ายจะรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด
“ผมเชื่อเธอผมเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดีผมไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองเลือกแล้ว”
น้ำเสียงทุ้มต่ำของจิ๋นลี่ยวนแต่พอพูดออกมาแล้วสามารถทำให้ผู้คนเชื่อถือได้ร่างกายของสั่นเทาเล็กน้อยขนาดพ่อแท้ๆของเธอยังไม่เชื่อเธอเลยแต่กับผู้ชายที่พบกันเพียงแค่สองครั้งกลับเชื่อเธออย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าเขาจะมีจุดประสงค์อะไรยินเสี้ยวเสี้ยวก็อดยอมรับไม่ได้ว่าในเวลานี้ในใจของเธออบอุ่นอบอุ่นมากๆ
พูดจบจิ๋นลี่ยวนก็หันมามองทางยินเสี้ยวเสี้ยวก้มศีรษะลงเล็กน้อยมองจากสายตาคนนอกท่าทางอย่างนั้นค่อนข้างสนิทสนมกันมากยินเสี้ยวเสี้ยวได้ยินน้ำเสียงที่น่าฟังของเขาดังขึ้น:“เสี้ยวเสี้ยวของที่ผมเอามาด้วยอยู่บนรถให้คนไปเอาของพวกนั้นลงมาหน่อยสิ”
ยินเสี้ยวเสี้ยวกะพริบตาสองครั้งแล้วให้คนรับใช้ของที่บ้านไปนำของที่อยู่บนรถของจิ๋นลี่ยวนลงมา
สิ่งของจำนวนไม่มากแต่สามารถทำให้อ้าปากค้างและตาเป็นประกายได้
ไวน์จากโรงบ่มอันดับหนึ่งในบอร์โดประเทศฝรั่งเศสไวน์แดงปี1945สองขวดและยังมีบุหรี่ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกาอีกสองกล่องมาร์ลโบโรแม้แต่ผลิตภัณฑ์บำรุงบางตัวที่เป็นของมีราคาก็มี
เพียงแค่มองผู้คนในห้องก็รับรู้ได้ว่าคนตรงหน้าสถานะไม่ได้ต่ำต้อยสามารถนำไวน์แดงสองขวดและบุหรี่สองกล่องนั้นมาทำให้ยินไป่ฝันและหลี่หมึ้งเบิกตากว้างจนหยุดไม่อยู่ได้ทางด้านผู้จัดการจางที่มองอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะลูบจมูกไปมา
ต้องรู้ก่อนว่าในเมืองTคนที่สามารถเอาของเหล่านี้ออกมาได้มีจำนวนน้อยมากลำพังเพียงแค่ขวดไวน์สองขวดก็มีมูลค่าเท่ากับผลกำไรระหว่างการร่วมทุนของบ้านจางและบ้านจางแล้วหรืออาจจะมากกว่านั้น
จิ๋นลี่ยวนคล้ายมองไม่เห็นปฏิกิริยาของคนทั้งหมดทำเพียงจับมือของยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วให้เธอมายืนอยู่เคียงข้างตัวเองเท่านั้นหลังจากที่ได้ยินเรื่องของตัวเองเมื่อหลายปีก่อนได้ยิน‘คำบอกรัก’ที่ดีที่สุด
ความจริงใจที่อยู่ในน้ำเสียงของเขาคล้ายเป็นการเอ่ยเรียกตามธรรมชาติราวกับว่าเขาเคยเรียกมาหลายครั้งแล้วริมฝีปากบางของจิ๋นลี่ยวนพูด:“คุณพ่อครับวันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้เข้ามาไหว้ที่บ้านต้องขอโทษที่ผมรีบร้อนแต่งงานกับลูกสาวของท่านแต่ว่าขอให้ท่านเชื่อมั่นได้เลยว่าผมจะปฏิบัติต่อเธออย่างดีจะไม่ทำให้เธอเจ็บช้ำท่านได้โปรดไว้วางใจในตัวของผมด้วยนะครับ”
คำพูดที่เป็นทางการของช่วยดึงยินไป่ฝันกลับมาจากอาการตกตะลึงอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรออกมาแต่กลับไม่มีคำพูดใดออกมาเลยทำได้เพียงพยักหน้าแล้วยอมรับ
ทางด้านหลี่หมึ้งและยินรั่วอวิ๋นกลับมองจิ๋นลี่ยวนอย่างไม่พอใจเท่าไรนักหลี่หมึ้งส่งแววตาให้ยินรั่วอวิ๋นยินรั่วอวิ๋นรีบให้เข้าไปยืนอยู่ข้างกายของจิ๋นลี่ยวนใบหน้าเล็กถามอย่างสงสัย:“คุณคือสามีของพี่สาวฉันหรือคะคุณทำงานอะไรหรือคะ?ทำไมก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยเห็นคุณมาก่อนละคะคุณกับพี่สาวของฉันคบกันตั้งแต่เมื่อไรหรือคะ?”
จิ๋นลี่ยวนหลุบตาลงมองยินรั่วอวิ๋นแต่ก็ไม่ได้ตอบกลับมีเพียงยินไป่ฝันเท่านั้นที่เคลื่อนตัวไปนั่งบนโซฟาและยินเสี้ยวเสี้ยวยังนั่งอยู่ข้างกายเขาทั้งสองคนยึดพื้นที่บนโซฟาตามสถานะยินรั่วอวิ๋นทำได้แค่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งแล้วถามอย่างสงสัย:“ฉันจำได้ว่าพี่สาวของฉันมีแฟนตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยนะคะ?คนคนนั้นเป็นคุณใช่ไหมคะ?ดีจริงๆพี่สาวได้แต่งงานแล้ว”
ยินรั่วอวิ๋นมองจิ๋นลี่ยวนอย่างไร้เดียงสาไม่เป็นอันตรายจิ๋นลี่ยวนได้ฟังก็เลิกคิ้วขึ้นมองไปทางยินเสี้ยวเสี้ยวที่ไม่พูดอะไรอยู่ข้างกาย