ตอนที่7พี่สาวอย่างฉันก็ขอยกให้เธอ
ยินไป่ฝันได้ฟังคำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยวก็ลุกขึ้นมาจากโซฟาของตัวเองสายตาโกรธเกรี้ยวมองยินเสี้ยวเสี้ยวเขม็งยื่นนิ้วชี้ของตัวเองออกมาแล้วชี้ตรงไปที่เขาความรู้สึกผิดที่มีอยู่แต่เดิมภายในใจก็หายไปจนหมดตะคอกเสียงดัง:“ยินเสี้ยวเสี้ยวฉันบอกเธอว่าเธอต้องแต่งวันนี้ก็คือต้องแต่งไม่แต่งอย่างไรก็ต้องแต่ง!บ้านยินไม่เคยเป็นสถานที่ของเธอ”
สีหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวในตอนนี้ขาวซีดคล้ายกับว่าสีของเลือดหายออกไปหมดมองดูแล้วทำให้คนเจ็บปวดใจ
ในห้องเต็มไปด้วยความเงียบสงบยินไป่ฝันหลังจากพูดจบก็ไม่ได้จากไปไหนแต่กลับยืนอยู่ตรงนั้นรอลูกสาวของตัวเองตอบโต้อย่างหนักแน่นวันนี้เขาไม่เชื่อว่าเขาจะใช้สถานะความเป็นพ่อกดดันความดื้อรั้นของยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้!
มองพ่อที่อยู่ตรงหน้ายินเสี้ยวเสี้ยวถึงได้เข้าใจว่าอะไรคือเคราะห์ซ้ำกรรมซัดวันนี้เธอสูญเสียความรักสี่ปีของตัวเองไปและครอบครัวที่ไม่สามารถคาดหวังเกินได้เลยแม้แต่น้อยก็ได้เตะเธอออกไปอย่างต่อเนื่อง!เธอจะอดทนได้ถึงขนาดนั้นจริงๆหรือ?
หลี่หมึ้งรีบเดินไปอยู่ข้างกายยินไป่ฝันทันทียื่นมือไปลูบหลังเขาอย่างอ่อนโยน:“ไป่ฝันคุณก็เป็นซะอย่างนี้ก็รู้อยู่ว่าเสี้ยวเสี้ยวต้องฟังคำพูดของคุณอย่างแน่นอนคุณจะยังไปโกรธอะไรขนาดนั้นอีกล่ะค่ะ?ถึงอย่างไรบ้านยินของพวกเราก็ไม่เลี้ยงไร้ประโยชน์อยู่แล้วใครก็รู้ตอนนี้แม้แต่รั่วอวิ๋นของพวกเรายังต้องทิ้งความสุขไปแล้วแต่งงานกับบ้านเซี่ยงเสี้ยวเสี้ยวที่เป็นถึงพี่สาวไหนเลยจะไม่เข้าใจความเจ็บปวดใจของพวกเราจะพูดอย่างไรสุดท้ายพวกเขาก็ยังเป็นคนของบ้านยินนะคะ”
ยินรั่วอวิ๋นที่ได้ฟังประโยคเหล่านั้นก็รีบลากยินเสี้ยวเสี้ยวออกมาพูดอย่างระมัดระวัง:“พี่สาวคะที่จริงแล้วฉันคิดว่าคุณลุงจางก็ออกดีนะคะมันทำให้เจ็บปวดมากใช่ไหมล่ะ?อีกอย่างฉันได้ยินมาว่าตอนนี้บ้านจางขึ้นอยู่กับเขาเมื่อคุณแต่งงานออกไปแล้วจะต้องไม่ลำบากอย่างแน่นอนแถมยังจะมีความสุขอีกด้วยนะคะ”
ยินเสี้ยวเสี้ยวทำเสียงเยาะเย้ยขึ้นมามันดังชัดเจนเป็นพิเศษในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบนี้กลอกตามองยินรั่วอวิ๋นแล้วพูด:“ถ้าอย่างนั้นเธอก็แต่งให้คุณลุงจางเป็นอย่างไร?ถ้าหากเขาดีขนาดนั้นล่ะก็พี่สาวอย่างฉันก็ขอยกให้เธอ”
เสียงที่พูดออกไปสีหน้าของยินรั่วอวิ๋นก็ขาวลงทันทีสายตาลึกๆมองยินเสี้ยวเสี้ยวด้วยความเกลียดชัง
“เสี้ยวเสี้ยวทำไมเธอถึงพูดอย่างนั้น?น้องสาวของเธอคิดเพื่อเธอนะเธอดูสิใกล้จะเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วยังไม่มีแฟนข่าวซุบซิบนินทามีไม่น้อยเธอยังคิดที่จะทำตัวเป็นผีเสื้อลายหรือ!ช่างไร้ยางอายเสียจริง!”หลี่หมึ้งรีบเข้ามาเปลี่ยนประเด็นทันทีและยังพูดต่อ:“ถ้าเธอมีความสามารถจริงๆก็หาแฟนมาให้ฉันดูหน่อยถ้าเธอสามารถแต่งงานกับแฟนหนุ่มได้ถ้าอย่างนั้นฉันกับพ่อของเธอจะไม่บังคับให้เธอแต่งงานในครั้งนี้!”
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองทั้งสามคนด้วยสายตาเย็นชาภายในใจเกือบจะหัวเราะเป็นเวลานานถ้าพูดว่าหลี่หมึ้งและยินรั่วอวิ๋นไม่รู้ความสัมพันธ์ของเธอและเซี่ยงเฉิงอย่างไรเธอก็ไม่เชื่อตอนนี้หลี่หมึ้งยังกล้าพูดใหญ่โตมั่นใจในคำพูดของตัวเองอย่างนี้หาแฟน?
มโนธรรมของเธอถูกสุนัขกินไปแล้วหรือ!?
ยินไป่ฝันที่ได้ฟังคำพูดนี้ก็ส่งเสียงออกมามองท่าทางของยินเสี้ยวเสี้ยวถึงแม้ว่าในใจของเขาจะไม่ค่อยพอใจแต่ก็พูดเหมือนกับหลี่หมึ้งเสียงของเขาดังชัดเจนกว่าหลี่หมึ้งและน่าเชื่อถือกว่ามาก:“เสี้ยวเสี้ยวถ้าหากเธอมีแฟนแล้วทางที่ดีพากลับมาให้พวกเราดูเมื่อถึงเวลานั้นหากว่าเหมาะสมกันพวกเธอก็จะได้แต่งงานถ้าไม่เหมาะสมเธอก็ต้องยอมแต่งงานกับคุณลุงจางแต่โดยดีพ่อไม่ได้จะทำร้ายเธอนะ”
ยินเสี้ยวเสี้ยวกัดริมฝีปากของตัวเองถลึงตามองหลี่หมึ้งด้วยความโกรธพูดอย่างกล้าหาญ:“ฉันมีแฟนแล้วและฉันจะพามากลับมาให้พวกคุณดูดังนั้นการแต่งงานครั้งนี้พวกคุณก็ควรจะยกเลิกได้แล้ว!”
“อย่างนี้ไม่ได้ใครจะไปรู้ว่าที่เธอพูดเป็นความจริงหรือโกหก?ต้องพาคนมาให้ฉันดูก่อนค่อยว่ากันอย่าให้พอถึงเวลานั้นมาหลอกลวงพวกเราและหลอกลวงคุณลุงจางสีหน้าของพ่อเธอดูไม่ดีแล้วเธออย่าได้โทษว่าพวกเราทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีเลยนะ”หลี่หมึ้งตัดจบประโยคไม่เปิดโอกาสให้ยินเสี้ยวเสี้ยวได้พักหายใจ:“ไว้ค่อยคุยกันเถอะครอบครัวของพวกเรากับบ้านจางทำธุรกิจด้วยกันมากมายเธอเรียนออกแบบก็คงไม่ได้รู้อะไรมากมายจะไปรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งไหนมีน้ำหนักและสำคัญกัน”
คำพูดนี้เป็นการเตือนเพื่อตบตายินไป่ฝันต้องดึงเอาความสัมพันธ์ของบ้านยินและบ้านจางมาเพื่อให้เห็นด้วยกับวิธีการพูดของหลี่หมึ้งจากนั้นก็พูดอย่างจริงจัง:“พรุ่งนี้พรุ่งนี้เธอต้องพาแฟนของเธอมาให้พวกเราดู”
ระยะเวลาที่ให้ยินเสี้ยวเสี้ยวมีจำกัดในเวลานั้นสีหน้าก็คล้ำและหดหู่