ตอนที่29 คนนี้เป็นคู่หมั้นของฉัน
หลังจากกินข้าวที่บ้านจิ๋น จิ๋นหยวนเฟิงและภรรยาก็ไม่ได้มีเวลามาคุยกับเธอมาก แค่เพียงถามถึงสิ่งที่ต้องการในงานแต่งงานแล้วก็ไปทำธุระต่อ ก่อนจากไปหยูเจียห้วยก็พายินเสี้ยวเสี้ยวมาส่งที่หน้าประตูห้องจิ๋นลี่ยวน
ยืนอยู่หน้าประตู ยินเสี้ยวเสี้ยวนิ่งรู้สึกเหมือนกับว่าริมฝีปากแห้งคอแห้งแบบนั้น มองดูห้องตรงหน้าเธอก็รู้สึกเหมือนเห็นจิ๋นลี่ยวนท่าทางเย็นชาแบบนั้น หายใจเข้าลึกมือเล็กหมุนลูกบิด ยินเสี้ยวเสี้ยวเดินเข้าไปในห้องของจิ๋นลี่ยวน
เรียบง่าย ดูดี สะอาด
ความรู้สึกครั้งแรกของยินเสี้ยวเสี้ยวต่อห้องของจิ๋นลี่ยวน สิ่งที่ตามมาคือความเฉยเมยและว่างเปล่า
บางทีอาจเป็นเพราะอาชีพของจิ๋นลี่ยวน นานเข้ายินเสี้ยวเสี้ยวก็รู้สึกว่าในนี้หนาวเย็นเหมือนในโรงพยาบาลเป็นพิเศษ เดินไปถึงห้องทำงานของจิ๋นลี่ยวน ด้านหลังเป็นชั้นหนังสือขนาดใหญ่เต็มไปด้วยหนังสือ แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
บนชั้นมีหนังสือการแพทย์อยู่ไม่น้อยก็เป็นเรื่องปกติรวมถึงด้านอื่นๆก็ปกติ แต่ที่นี่กลับมีบรรณานุกรมหนังสือการแพทย์กับการเล่นหุ้นอยู่เกือบครึ่ง นั่นทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวแปลกใจ………….
จิ๋นลี่ยวนกำลังเรียนรู้การเล่นหุ้นหรือไง?
เธอไม่รู้เรื่องการแพทย์และก็ไม่รู้เรื่องหุ้น สำหรับเธอหนังสือของจิ๋นลี่ยวนไม่ได้ดึงดูดเธอเลย มองดูบนโต๊ะมีนิตยสารแนะนำวัฒนธรรมต่างประเทศเธอก็หยิบขึ้นมาเดินไปอ่านไปและนั่งลงที่เตียงสีขาวดำของจิ๋นลี่ยวน อ่านจนหลงเพลินจากนั้นก็พิงลงไปและค่อยๆเข้าสู่ความฝัน
ช่วงบ่ายคุณย่าจิ๋นตื่นขึ้นมาเตรียมพร้อมไปหายินเสี้ยวเสี้ยว เพียงแค่เดินเข้าไปเห็นฉากแบบนั้น ก็รีบเรียกให้คนเอากล้องของเธอมา ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบ…….
เดินเล่นกับคุณย่าจิ๋นมาทั้งวัน ยินเสี้ยวเสี้ยวอ่อนล้าไปบ้าง แต่ในตอนท้ายคุณย่าจิ๋นกลับไม่พูดคำว่ากลับบ้านออกมา แต่กลับลากยินเสี้ยวเสี้ยวมาที่โรงพยาบาลหนันหยู………
นี้เป็นครั้งแรกที่ยินเสี้ยวเสี้ยวได้มาที่ทำงานของจิ๋นลี่ยวน เธอรู้สึกระมัดระวังจนจะเป็นบ้าโดยไม่รู้ตัว
“เสี้ยวเสี้ยวอ่า ก่อนหน้านี้เธอเคยมาที่นี่ไหม?” คุณย่าจิ๋นกุมมือของยินเสี้ยวเสี้ยวพลางยิ้มถาม ให้พูดตามความจริง ขอเพียงข่างลือพวกนั้นไม่ใช่เรื่องจริง คุณย่าจิ๋นก็ไม่ได้คัดค้านใดใดต่อยินเสี้ยวเสี้ยว อยู่ที่บ้านจิ๋นจัดงานแต่งงานได้อย่างอิสระ บ้านจิ๋นก็ไม่ต้องการให้ฝ่ายภรรย่าื่นมือเข้ามาช่วย แถมตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ถือเป็นคนพิเศษ เธอก็ไม่ได้รู้สึกอยากคัดค้าน “ลี่ยวนเด็กคนนั้นตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษเขาก็มาที่โรงพยาบาลหนันหยู ทุกครั้งที่บอกให้เขาเข้าบริษัทไปช่วยพี่ชายของเขา เขาก็จะไม่ชอบใจ ถ้าเธอมีโอกาสก็บอกเขาหน่อย……………”
ยินเสี้ยวเสี้ยวพยักหน้า แต่ไม่ได้คิดที่จะไปบอกเขาจริงๆ เธอเชื่อคนอย่างจิ๋นลี่ยวน ไม่ชอบให้ใครมาชี้นำชีวิตของเขา
คุณย่าจิ๋นอายุมากแล้ว ศีรษะก็มีผมขาว เพียงเข้าไปทุกคนก็คิดว่าเธอใช่มาหาหมอไหม แต่มองดูท่าทางที่ดูแข็งแรงของเธอ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ
เธอลากยินเสี้ยวเสี้ยวขึ้นไปชั้นสิบเจ็ดแผนกศัลยกรรม ตอนที่ลิฟต์เปิดออกนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกว่าแม้แต่ลมหายใจก็หยุดลงไปช่วงหนึ่ง
เดินไปตามทางเดิน จิ๋นลี่ยวนกำลังยืนอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วย ในมือถือเอกสารกำลังตั้งใจอธิบายบางอย่าง ด้านข้างมีพยาบาลยืนอยู่สามถึงห้าคน ตอนนี้ใบหน้าเล็กที่แดงกำลังมองเขา เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงชุดกาว์นธรรมดาบนตัวเขา แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับรู้สึกว่าจิ๋นลี่ยวนดูหล่อกว่าครั้งแล้วๆที่ “ช่วย” ตัวเธอไว้………
ปึง…………..
ใบหน้าที่แดงอย่างทนไม่ไหวของยินเสี้ยวเสี้ยว ลมหายใจที่ค่อยๆเร็วขึ้น………
คุณย่าจิ๋นมองดูท่าทางหลานตัวน้อยของตัวเองไม่ต้องให้พูดถึง ยิ้มจนตัวงอโค้งหัวเราะแบบนั้นทำให้คนรู้สึกแปลกเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่มีใครมาสนใจคนหญิงชราที่อายุเยอะแบบนี้
คุณย่าจิ๋นมองดูใบหน้าเล็กที่แดงขึ้นของยินเสี้ยวเสี้ยวก็ปรากฏสายตาเจ้าเลห์ขึ้นมา เธอเดินไปทางจิ๋นลี่ยวน ไม่ได้สนซักนิดว่ายินเสี้ยวเสี้ยวปรับอารมณ์ให้เป็นปกติได้หรือยัง
แต่ทางเดินสั้นๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวได้ยินคำพูดแบบนั้นไม่น้อย
พระเจ้าคุณหมอจิ๋นช่างหล่อจริงๆ เขาใช่ไปทำหน้ามาไหมนั้น? ทำไมถึงมีผู้ชายที่เกิดมาแบบเขาได้?
อย่าพูดเลย เขาไม่เพียงแค่หล่อ นิสัยยังดี สองมือนั้นถูกเรียกว่ามือศักดิ์สิทธิ์ร้อยปีในการผ่าตัด ผู้ชายแบบนั้น ฉันอยากรู้จริงๆ ใครกันที่จัดการเขาได้ พูดให้ดีต้องเป็นปีศาจ
ช่วงนี้ศัลยกรรมแผนกสองต่างมีคนไม่น้อยไปที่นั้น แม้แต่ผู้ช่วยผ่าตัดคนแรก คนสอง แม้แต่คุณหมอฉิงที่เป็นหมอใหม่ในแผนกศัลยกรรมก็พยามหาวิธีไปที่นั้น ไม่ใช่ว่าถูกใจคุณหมอจิ๋นหรือไง………..
เฮ้อ ฉันคิดว่านะ หากคุณหมอจิ๋นยังไม่รีบแต่งงาน ศัลยกรรมแผนกหนึ่งทั้งแผนกก็คงกลายเป็น “คนไข้หญิง” แล้ว
…………………….
จิ๋นลี่ยวนเป็นที่นิยมขนาดนั้นหรือ?
ฟังการพูดคุยกันรอบๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวเงยหน้าขึ้นไปมองจ้องผู้ชายที่ยิ่งเดินก็ยิ่งใกล้เข้าไปเรื่อยๆ แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยชอบโรงพยาบาล รู้สึกว่าที่นี่ดูหนาวเย็น แต่ตอนที่มองเห็นจิ๋นลี่ยวน กลับรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าที่แท้โรงพยาบาลนั้นก็อบอุ่นเหมือนกัน
“หลานชาย” คุณย่าจิ๋นตะโกนเรียก ไม่นานคนทั้งหมดตรงทางเดินก็รีบหันมามอง แน่นอนแม้แต่จิ๋นลี่ยวนก็ไม่มีข้อยกเว้น แถมคุณย่าจิ๋นก็ทำเป็นไม่สนใจ หัวเราะอย่างมีความสุขราวกับว่าได้รับเงินแบบนั้น “หลานชาย ย่ามาดูหลาน…….”
ใบหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวที่นานเข้าก็ยิ่งแดง รอบๆมีคนมองตั้งมากมาย ทำไมคุณย่าจิ๋นถึงไม่เคยเล่นตามกฎนะ? เห็นได้ชัดว่าเหลือระยะห่างเพียงห้าก้าว ทำไมเธอต้องตะโกนดังขนาดนั้น………..
ฮือๆ……
จิ๋นลี่ยวนจะรู้สึกว่าเธอเป็นคนโง่ไหมหรือไม่ก็เป็นคนที่ชอบแสดงออก……….
จิ๋นลี่ยวนกระตุกคิ้วหรี่ตาลงเล็กน้อย ปิดประวัติคนไข้และส่งให้แพทย์ฝึกหัดด้านหลังและเดินมาหา แต่ละก้าวมาพร้อมความรู้สึกกดดัน ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกว่าลมในปอดเหมือนถูกกดไว้จนไม่เหลือแบบนั้น
“ย่า ย่ามาได้ไง? ไม่สบายตรงไหนไหม?” จิ๋นลี่ยวนเดินมาพร่างพูดไป สายตาที่ดูเป็นห่วง
คุณย่าจิ๋นหัวเราะอย่างอดไม่ได้ โค้งตัวลงไปทักทายพยาบาลด้านหลังของจิ๋นลี่ยวน ยินเสี้ยวเสี้ยวที่ทะนงตนโกรธจนผมชี้ฟ้าแล้ว แถมคำพูดที่ดูดีใจเป็นพิเศษ “ไม่มี ไม่มี แค่เพียงผ่านมาหลานก็ใกล้จะเลิกงานแล้ว ดังนั้นเลยมาดูๆ”
รู้ว่าคุณย่าจิ๋นไม่เป็นอะไร จิ๋นลี่ยวนก็ไม่พูดอะไรมาก ตอนนั้นถึงเหมือนเพิ่งเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ข้างๆ หันกลับมาจ้องที่เธอ เพียงไม่นานบรรยากาศรอบๆก็เปลี่ยนเป็นอีกแบบ
ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เห็นได้ชัดเวลาอยู่กับคนอื่นเธอจะกลายเป็นแม่เสือแบบนั้นได้ แต่แค่เพียงตอนที่อยู่ต่อหน้าจิ๋นลี่ยวน เธอกลับกลายเป็นเพียงลูกแกะ ใจรู้สึกเศร้าจนอย่าจะตีตัวเองจนตาย………….
จิ๋นลี่ยวนจ้องกลับมา เธอกลับก้มหัวไม่กล้าพูดอะไร ใครจะไปรู้ จิ๋นลี่ยวนจะโค้งตัวลงมาเล็กน้อย เข้ามาใกล้ๆเธอ ขมวดคิ้วถาม “ยินเสี้ยวเสี้ยวเธอเป็นอะไร? ไม่สบายตัวตรงไหนไหม?”
ได้โปรดยกโทษให้เขาในความสามารถทางสายอาชีพ……………
แต่จิ๋นลี่ยวนก็ไม่ใช่คนโง่ ยินเสี้ยวเสี้ยวที่ใบหน้าแดงไปทั้งหน้ายืนอยู่ตรงหน้าเขา หากเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็คงเป็นคนโง่แล้ว เดิมทีเขาไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้ แต่ตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลายเป็นผู้หญิงแบบนั้น เขากลับรู้สึกว่าใจของตัวเอง……….กระโดดโลดเต้น?
“ไม่มี” ปฏิเสธอย่างไม่ลังเล ยินเสี้ยวเสี้ยวจนตอนนี้ก็ยังไม่มองเขา
คิ้วกระตุกเล็กน้อย จิ๋นลี่ยวนถามอย่างโหดเหี้ยม “งั้นทำไมหน้าถึงแดง”
เดิมทีก็ไม่ได้มีอะไร แต่ว่าจิ๋นลี่ยวน นายพูดอยู่ก็พูดสิ อย่ามาขยับไม่ขยับมือได้ไหม ยื่นมือมาจับหน้าเธอนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
ในพริบตา แม้แต่หูและคอของยินเสี้ยวเสี้ยวก็แดงไม่น้อย…………
มองดูผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตัวเองหน้าบานเหมือนดอกซากุระแบบนั้น เป็นครั้งแรกที่จิ๋นลี่ยวนรู้สึกว่าปากคอแห้ง สายตามองลงไปที่คอกำลังต่อสู้กับความคิดที่อยากมองลงไปอีก ภายในสมองกำลังคิด ร่างกายของเธอใช่กำลังแดงเหมือนกันหรือไม่?
ท่าทางของจิ๋นลี่ยวนทำให้คนรอบๆเหม่อ ทุกคนมองไปที่เขาอย่างไม่คิด
จนถึงตอนที่มีคนไข้กลับมาจากเดินเล่น มองเห็นจิ๋นลี่ยวน ก็ทักทายเขาอย่างมีมารยาท “คุณหมอจิ๋น ยังไม่เลิกงานหรือ?”
จิ๋นลี่ยวนดึงสติกลับมามองที่คนไข้อายุเกินห้าสิบ ไม่กี่วันอยู่บ้านไม่ทันระวังหกล้มลง ดังนั้นจึงได้มาโรงพยาบาล หลายวันมานี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว เขาพยักหน้า จิ๋นลี่ยวนถาม “หลายวันมานี้รู้สึกยังไงบ้าง?”
“ก็ดี เพียงแค่แผลรู้สึกคันๆ” พูดไปสายตาคนไข้ก็มองไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ด้านหน้าจิ๋นลี่ยวน
“อืม อย่างนั้นก็ดี คันก็แสดงว่าบาดแผลกำลังสมานแล้ว” จิ๋นลี่ยวนตอนที่ทำงานดูแล้วเหมือนใกล้ชิดแต่ก็เหมือนห่างเหิน ท่าทางที่จริงจังแบบนั้นทำให้ริมฝีปากของยินเสี้ยวเสี้ยวเผยขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“ฮาฮา ใช่แล้ว ใกล้จะหายแล้ว” คนไข้หัวเราะและพยักหน้า มองที่ยินเสี้ยวเสี้ยวและถาม “คุณหมอจิ๋น ท่านนี้คือ………”
คนบริเวณรอบๆต่างหูผึ่งขึ้นมาทันที สำหรับพวกเขาต่างอยากรู้เกี่ยวกับยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างมาก………
จิ๋นลี่ยวนเผยปาก มองดูคนไข้ พูดอย่างตรงไปตรงมา “ท่านนี้คือคู่หมั้นของฉัน อีกไม่นานจะแต่งงานแล้ว”
เพี้ยง!
ราวกับว่ามีสายฟ้าผ่ามาบนแผ่นดิน ผู้คนบริเวณรอบๆต่างเหมือนเห็นผีแบบนั้น…………….
ที่เขาลือกันว่าคุณหมอจิ๋นมีแฟนที่รู้จักกันมาสองปีที่แท้ก็เป็นเรื่องจริง ที่เขาลือกันว่าคุณหมอจิ๋นเตรียมแหวนไว้ขอแต่งงานที่แท้ก็เป็นเรื่องจริง ที่เขาลือกันว่าคุณหมอจิ๋นรักแฟนของเขามากถ้าไม่มีปัญหาไม่ยอมให้เธอมาโรงพยาบาลที่แท้ก็เป็นเรื่องจริง………………..
จิ๋นลี่ยวนครั้งนี้ที่แท้ก็จะแต่งงานแล้วจริงๆ! คู่หมั้นของเขาปรากฏตัวที่โรงพยาบาลแล้ว ยังมีคนไม่เข้าใจอีกหรือไง?
“ฮาฮา ใช่ไหม? อย่างนั้นก็ยินดีด้วย” คนไข้มองดูจิ๋นลี่ยวนและยินเสี้ยวเสี้ยว พูดอย่างจริงใจ
ในเวลานั้นทั้งทางเดินมีคนที่อวยพรไม่น้อย แน่นอนและก็ยังมีคนไม่ได้สติไม่ทันที่จะได้อวยพร แถมคนที่ถูกอวยพรอย่างยินเสี้ยวเสี้ยวได้แต่ก้มหน้ายิ้มอย่างเขินอาย
ไม่นาน ข่าวที่คู่หมั้นของจิ๋นลี่ยวนมาที่โรงพยาบาลก็แพร่ออกไป เห็นได้ชัดว่าถึงเวลาเลิกงาน แต่แผนกศัลยกรรมหนึ่งกลับมีหมอและพยาบาลมากันมากมาย แถมหนึ่งในนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวก็ประทับใจหมอคนหนึ่ง
ภายในห้องน้ำ คนที่ยืนอยู่ด้านข้างตอนนี้เลิกงานแล้ว ในเวลานี้กำลังแต่งหน้าและพูดเบาๆ “คุณหมอฉิง คุณหมอจิ๋นตอนนี้มีคู่หมั้นแล้ว เธอยังไม่ยอมแพ้อีกหรือ?”
ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูห้องน้ำที่เดิมปิดอยู่ก็เปิดออกคุณหมอฉิงที่อยู่ด้านในก็เดินออกมา…………….