ตอนที่ 32 ความคิดละเอียดอ่อน แข็งแกร่งรู้จักบุญคุณ
เธอไม่เคยเข้าใจเลย เธอไปขวางหน้าขวางตาสองแม่ลูกนั่นตรงไหนกันแน่! จะต้องทำลายเธอให้ได้ใช่ไหม? แม้กระทั่งจะต้องลากจิ๋นลี่ยวนผู้บริสุทธิ์ลงมาเกี่ยวข้องด้วย! ถ้าเป็นเช่นนี้ ดังนั้นเธอ ยินเสี้ยวเสี้ยว ก็จะไม่เมตตาปราณีอีก!
ทันใดนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวเสมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดวงตาสีดำกลมโตเต็มไปด้วยน้ำตา ดูเหมือนว่าเพียงแค่พวกเขาพูดอีกประโยคเดียว ยินเสี้ยวเสี้ยว ก็จะร้องไห้ออกมาในทันที ยินเสี้ยวเสี้ยวแบบนี้ ทุกคนเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ต่างรู้สึกตะลึงงัน ไม่รู้จะตอบสนองเป็นเวลานาน
ยินเสี้ยวเสี้ยว เงยหน้าขึ้น มองคุณหญิงที่พูดอยู่ตรงหน้า ลดเสียงเบาลงเล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกน้อยใจ พูดอย่างสะอึกสะอื้น “คุณหญิงท่านนี้ ฉันไม่รู้จักคุณเลย และฉันไม่รู้ว่าข่าวลือเหล่านี้ของคุณมาจากไหน ฉันยินเสี้ยวเสี้ยว ต่อให้ด้อยแค่ไหน ก็เป็นคุณหนูใหญ่ของบ้านยิน ฉันรักนวลสงวนตัว ฝึกฝนตนเองเข้มงวด แต่ข่าวลือเหล่านั้นกลับถูกปล่อยออกมาอย่างไรเหตุผล ฉันขอร้องคุณหญิง ถ้าหากรู้ว่าใครเป็นคนที่ปล่อยข่าวลือเหล่านี้ออกมา ช่วยกรุณาบอกฉันหน่อยได้ไหม ฉันเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆที่อ่อนแอคนหนึ่ง ไปทำให้คนอื่นขุ่นเคืองใจตรงไหนกันแน่ ถึงได้มาทำลายฉันเช่นนี้……”
ในขณะที่พูด ดวงตาของยินเสี้ยวเสี้ยวเต็มไปด้วยน้ำตา ท่าทางที่เข้มแข็ง ทำให้คนอื่นดูแล้วเห็นใจยิ่งนัก
แต่เดิมรูปลักษณ์ยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ดูไม่เหมือนกับยินรั่วอวิ๋น ยินรั่วอวิ๋นมีหน้าตาเหมือนแม่ของเธอ เป็นหญิงสาวที่สวยงามและดูโดดเด่นเฉพาะบางส่วนเท่านั้น แต่ยินเสี้ยวเสี้ยว จะดูเหมือนแม่ของเธอมาก สืบทอดจุดเด่นของเธอทั้งหมด แต่งหน้าเย้ายวนมีเสน่ห์ หน้าสดก็บริสุทธิ์สดใส ใบหน้าเล็กๆนั่น ทำให้ผู้หญิงอิจฉาจริงๆ!
ยินเสี้ยวเสี้ยวในตอนนี้ สีหน้าน้อยอกน้อยใจ ท่าทางโศกเศร้าเสียใจแบบนั้น ทำให้ผู้คนรอบตัว ต่างรู้สึกเห็นใจเธอขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวแล้ว
“ฉันไม่ได้มีคุณแม่ตั้งแต่เด็ก ฉันถูกเลี้ยงดูมาโดยพี่ชายและแม่เลี้ยง บุญคุณของพวกท่านฉันจดจำไว้ตลอดชีวิต ดังนั้นแม้ว่าในครั้งนี้ แม่เลี้ยงเสนอให้ รั่วอวิ๋น จำเป็นต้องหมั้นก่อนหน้าฉัน หรือแม้กระทั่งแต่งงานด้วย ฉันก็ไม่มีข้อคิดเห็นใดๆ……” ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่มีทีท่าจะหยุด แค่ยืนอยู่ข้างกายจิ๋นลี่ยวนอย่างแข็งแกร่ง จ้องมองกลุ่มสตรีตรงข้ามอย่างไม่ละสายตา
เธอเข้าใจดี ถ้าเธอจะแต่งเข้าไปในบ้านจิ๋น ดังนั้นข่าวลือเกี่ยวกับเธอ จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไข คนในบ้านจิ๋นไม่สนใจ แต่เธอในตอนนี้กลับใส่ใจ! แสดงท่าทางที่น้อยใจ ยินเสี้ยวเสี้ยว พูดต่อไปว่า “ฉันเติบโตในบ้านยินอย่างดีตั้งแต่เด็ก ครั้งนี้ในที่สุดก็มีโอกาสตอบแทนบุญคุณแม่เลี้ยวและรั่วอวิ๋น ฉันจะไม่เห็นด้วยได้อย่างไรกัน? แต่ก็ไม่รู้ว่าโดนพวกที่มีจุดมุ่งหมายบางอย่าง จากที่ไหนกันแน่ ถึงกับพูดเรื่องแบบนี้ในงานหมั้นของรั่วอวิ๋น นี่เป็นการไม่เห็นบ้านยิน อยู่ในสายตาชัดๆ! และต้องการที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของฉันกับบ้านยินแตกแยก!”
ใช่สิ ยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นเด็กที่ไม่มีแม่ แม้ว่าหลี่หมึ้งจะแต่งงานเข้าไปในบ้านยินในเวลาโดนเร็ว แต่ยังไงก็ยังคงเป็นแม่เลี้ยง จะดีกับเธอแค่ไหนกัน คำโบราณมีพูดว่า มีแม่เลี้ยงก็ต้องมีพ่อเลี้ยง ข่าวลือเรื่องที่ยินเสี้ยวเสี้ยวชื่อเสียงเสื่อมเสีย เป็นจริงหรือเท็จกันแน่? ทุกคนต่างเริ่มมีความสงสัยในใจ
เมื่อเห็นสีหน้าอารมณ์ของทุกคนเปลี่ยนแปลงไป ยินเสี้ยวเสี้ยวแอบเย้ยหยันในใจ ยินรั่วอวิ๋นแกล้งทำเป็นน่าสงสารได้ เธอ ยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ใช่ว่าจะรังแกได้ง่ายๆ
จิ๋นลี่ยวน ลดศีรษะลงเล็กน้อย มอง ยินเสี้ยวเสี้ยวที่ตาแดงก่ำ แม้ว่าทั้งสองจะรู้จักกันแค่ไม่กี่วัน แต่เขาไม่เคยมองผิด ยินเสี้ยวเสี้ยว ในตอนนี้ กำลังแสดงละครชัดๆ แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ในหัวใจของเขา ก็ยังคงมีอาการปวดเล็กน้อย
มือที่โอบรอบเอวของเธอแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดต่อไปว่า “แม้ว่าฉันจะไม่ใช่คนที่ชิงดีชิงเด่นอะไร เข้ามหาวิทยาลัยด้วยความยากลำบาก ฉันก็คิดว่า ในที่สุดฉันก็สามารถใช้ความสามารถของตัวเอง ในการตอบแทนบ้านยินแล้ว แต่ไม่รู้ว่าในตอนนี้ ใครเป็นคนปล่อยข่าวลือว่าฉัน ‘คุณธรรมเสื่อมเสีย พฤติกรรมไม่ดี’ ! เพราะสุดท้ายแล้วฉันก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง จะไม่ใส่ใจกับข่าวลือเช่นนี้ได้อย่างไร? ฉัน ยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่รู้จริงๆว่า คนคนนั้นเกลียดฉันมากแค่ไหน……”
คำพูดของเธอ เจ็ดส่วนเป็นจริงส่วนเป็นเท็จ ในขณะนี้ต่อให้ หลี่หมึ้งหรือ ยินรั่วอวิ๋น อยู่ที่นี่ก็หาข้อผิดพลาดไม่เจอ หรือพวกเธอจะยืนออกมาพูดว่า ยินเสี้ยวเสี้ยวเธอพูดเหลวไหล ฉัน หลี่หมึ้งหรือ ยินรั่วอวิ๋น ทำไม่ดีกับเธอมาโดยตลอด?
ยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่ใช่เด็กที่ประมาทวู่วาม แม้ว่าอายุเธอจะยังน้อย มีบางสิ่งที่ยังจัดการได้ไม่ดีมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นเป็นกระต่ายน้อยบริสุทธิ์ ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย อยากจะ ดำรงชีวิตต่อไปในบ้านยินแบบนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอมาโดยตลอด!
พวกคุณหญิงคุณนายที่ยืนอยู่ตรงหน้ายินเสี้ยวเสี้ยว ดูท่าทางของยินเสี้ยวเสี้ยวแบบนั้นแล้ว อดไม่ได้ที่จะต้องขมวดคิ้ว อ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ พวกเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่อยู่ในบ้านเท่านั้น งานอดิเรกในแต่ละวัน ก็คือการใช้จ่ายเงินและการนินทาคนอื่น ยินเสี้ยวเสี้ยว เป็นข่าวสร้างความบันเทิงให้กับพวกเธอมานาน ในเวลานี้เจ้าตัวออกมาอธิบาย พวกเธอจะทำต่อได้ที่ไหนกัน?
นอกจากนี้ ท่าทางของยินเสี้ยวเสี้ยวแบบนี้ ช่างน่าสงสารจริงๆ ในแต่ละประโยคแต่ละคำ ไม่มีการร้องเรียนใดๆกับบ้านยิน แล้วยังช่วยคิดแทนบ้านยินด้วยซ้ำ กับท่าทางของยินรั่วอวิ๋นที่ชอบพูดหลุดเรื่องเสียหายของ บ้านยินออกมาอย่าง ‘โง่เง่า’ แบบนั้น ช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง……
ข่าวลือของคุณหนูใหญ่แห่งบ้านยิน ที่แท้แล้วในเบื้องลึกก็ต้องมีอะไรซ่อนไว้อย่างแน่นอน!
ครู่เดียว จากความประทับใจเกี่ยวกับข่าวลือที่ผ่านมาของ ยินเสี้ยวเสี้ยว เพียงเพราะคำพูดของ ยินเสี้ยวเสี้ยว ก็ได้กลายเป็น เธอคือผู้หญิงที่จิตใจละเอียดอ่อน แข็งแกร่งรู้จักบุญคุณ……
“เสี้ยวเสี้ยว เธออย่าเก็บเอาไปใส่ใจเลยนะ เมื่อกี้สิ่งที่พวกน้าพูด แค่เรื่องไร้สาระ” มีคุณนายที่รู้สึกผิดก้าวออกมาลูบหลังของยินเสี้ยวเสี้ยวเบาๆ แล้วพูดด้วยเสียงเบา “พวกเราก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อย เป็นผู้หญิง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาผู้ชายที่รู้ร้อนรู้หนาว พวกวัตถุภายนอกไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ฉันว่าคู่หมั้นของเธอก็ดีอยู่แล้วนะ!”
“นั่นสิ หมอในโรงพยาบาลหนันหยู จะด้อยไปถึงไหนได้ และหมอก็ดีมากด้วย เธออย่าใส่ใจเลยนะ……”
“โชคดีที่เธอยังเป็นเด็กผู้หญิงที่รู้จักทดแทนบุญคุณ ถ้าหากคุณหนูไฮโซของบ้านอื่น ได้เจอเรื่องอย่างเธอเข้า คาดว่าจะต้องสู้ตายกับ ยินรั่วอวิ๋น แล้ว คุณหนูใหญ่ของบ้านยินช่างใจกว้างเสียจริงๆ”
……
ทันใดนั้น ทิศทางของข่าวลือก็เปลี่ยนไป จิ๋นลี่ยวนยืนอยู่ข้างๆยินเสี้ยวเสี้ยว มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดไว้จริงๆว่า ปากเล็กๆของยินเสี้ยวเสี้ยวนั้น ได้เก่งกาจทรงพลังมากขนาดนี้แล้ว?
แต่ที่จริงเขาก็เข้าใจชัดเจน คำพูดเหล่านั้นของ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่ใช่จะเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด……
ในบ้านยิน เธอได้รับความเจ็บช้ำเสียใจมากจริงๆ เสียดายที่ไร้ผู้รับฟัง
เสี้ยวนาทีหนึ่ง จิ๋นลี่ยวน ได้พบว่าตัวเองดูเหมือนจะสงสารยินเสี้ยวเสี้ยวเล็กน้อย มือที่โอบเอวของเธอไว้ ก็ออกแรงรัดเล็กน้อย
ยินเสี้ยวเสี้ยว เงยหน้าขึ้นมามองเหล่าคุณนายทั้งหลายตรงหน้า ที่เมื่อกี้ยังเพิ่งพูดเสียดสีตัวเธอ ด้วยความรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย ดวงตาแดงก่ำ น้ำตานั้นดื้อรั้น ไม่ยอมที่จะไหลรินออกมาเด็ดขาด ในเวลานี้ เธอจะไม่ยอมหยุดลงง่ายๆ เรื่องบางอย่างยังคงต้องพยายามต่อไปอย่างต่อเนื่อง
“ขอบคุณทุกคน ขอบคุณมากจริงๆ ที่ทุกคนเชื่อใจฉัน” ยินเสี้ยวเสี้ยวแสดงท่าทางเหมือนดีใจจนทำอะไรไม่ถูกมองดูพวกเธอ ในนั้นเสียงประกอบด้วย ความขอบคุณสามส่วน ควรน้อยใจสามส่วน ที่เหลือสี่ส่วนก็พูดต่ออย่างไม่รู้จะทำอย่างไร “ชื่อเสียงของเสี้ยวเสี้ยวถูกคนทำให้เสื่อมเสียมากขนาดนี้ ฉันไม่ได้คาดหวังจริงๆ ว่ายังจะมีใครเชื่อฉันอีก! ฉันเป็นแค่นักศึกษาที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา แต่ละวันใช้ชีวิตแค่สองที่ แม้แต่ แผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลอยู่ชั้นไหน ยังไม่เคยรู้เลย……”
ในประโยคแฝงด้วยความน้อยใจของตัวเอง เหล่าคุณหญิงตรงหน้า เสมือนได้เห็นเด็กกำพร้าที่น่าสงสารคนหนึ่ง ความเป็นแม่ในใจถูกกระตุ้นออกมาในทันที ก็กำลังคิดถึงข่าวลือที่ทำลายคนแบบนั้น ถูกปล่อยออกมาจากที่ไหนกันแน่? ทำไมถึงทำร้ายเด็กผู้หญิงที่จิตใจละเอียดอ่อนแบบนี้ได้ลงคอนะ?
น้ำตาที่ยินเสี้ยวเสี้ยวอดกลั้นมาเป็นเวลานาน ในเวลานี้ไหลลงมาอย่างไม่สามารถกลั้นไว้ได้ ในเมื่อครู่ตอนที่ถูกคนอื่นดูถูกเหยียดหยาม ตอนที่พูดถึงแม่ตัวเอง แม้แต่ตอนที่ตัวเองโดนรังแกเพราะไม่มีงานหมั้น ในตอนที่ดูเหมือนจะต่ำกว่าน้องสาวของตัวเองมาก เธอก็ไม่ได้ร้องไห้เลย แต่เป็นเพียงเพราะ ‘ความเข้าใจ’ จากคุณหญิงคุณนายเหล่านี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา ทับถมฟางเส้นสุดท้ายซึ่งเป็นความสงสัยในใจของผู้หญิงเหล่านี้ลงไปในที่สุด……
“บ้านยินไม่ใช่เป็นตระกูลเล็กๆ แต่อย่างไรก็ตาม พวกคนเหล่านั้นที่เป็นข่าวลือออกมา อยู่สูงเช่นนั้น เด็กนักศึกษาอย่างฉัน จะสามารถเข้าถึงได้อย่างไรกัน……” ยินเสี้ยวเสี้ยว แค่ร้องไห้เพียงคู่เดียว ก็กลั้นน้ำตาตัวเองไว้ได้ ท่าทางที่แข็งแกร่งนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกสงสารอีกครั้ง
ยิ้มขึ้นเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวหัวเราะตัวเองแล้วถามขึ้นว่า “ถ้าฉันสามารถเข้าถึงผู้ชายที่มีบารมีอำนาจเช่นนั้น แล้วฉันจะทำให้ตัวเองกลายเป็นสภาพยุ่งเหยิงน่าสมเพชแบบนี้ทำไมกัน ถ้าคนหนึ่งรีบแต่งงานกันตั้งนานแล้ว ไม่ดีกว่าหรือ?”
คำถามสุดท้าย ทำให้ความเยาะเย้ยที่ทุกคนมีต่อยินเสี้ยวเสี้ยวในตอนแรก หายสาบสูญไปหมด!
ใช่สิ ในตอนแรกที่ได้ยินข่าวลือของยินเสี้ยวเสี้ยวท่าทีของคนส่วนใหญ่ ก็แค่เหมือนรอดูเรื่องสนุก เรื่องตลก ในการไปมองเธอ แต่ไม่เคยที่จะมองลึกลงไป คุณหนูที่ไม่ถูกบ้านยินเห็นคุณค่าให้ความสำคัญ จะมีความสามารถมากมาจากไหน ที่จะไปรู้จักบุคคลสำคัญมากมาย? แล้วทุกครั้งยังเปิดเผยพฤติกรรมของตัวเองต่อสาธารณะ โดยไม่ปิดบังอะไรเลย……
……
จิ๋นลี่ยวนหรี่ตามองไปที่ ยินเสี้ยวเสี้ยว ในแววตาแฝงด้วยความหมายที่ลึกซึ้งบางอย่าง แต่ความหมายที่ลึกซึ้งนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยว กลับมองไม่เห็นเลย
ศึกในวันนี้ เห็นได้ชัดว่ายินเสี้ยวเสี้ยว ได้ชนะโดยสิ้นเชิง เขาเชื่อว่าหลังจากงานหมั้นนี้ วงการไฮโซแห่งเมืองT ทั้งหมด ก็จะได้ยินข่าวลือของยินเสี้ยวเสี้ยว ‘จิตใจละเอียดอ่อน แข็งแกร่งรู้จักบุญคุณ’ กระจายออกมา และข่าวลือเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวกับเธอในแต่ก่อน ดูเหมือนจะจางหายไปไม่น้อย ในที่ส่วนตัว ทุกคนกำลังพูดถึงว่า บ้านยิน รังแกลูกสาวคนโตที่ภรรยาเก่าเหลือไว้ยังไงบ้าง……
ไร้ข้อสงสัย นี่จะทำให้แรงกดดันในการจัดงานแต่งงานในภายหลัง ของบ้านจิ๋น น้อยลงมากจริงๆ……
ยินเสี้ยวเสี้ยว ตกลงเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่?
ทีแรกคิดว่าเธอเป็นคนซื่อตรง กล้าหาญ สามารถยอมรับข่าวลือภายนอกต่อหน้าคุณย่าจิ๋นได้แม้กระทั่งยังได้ถามกลับคุณย่าจิ๋นด้วย แต่ตอนนี้เธอกลับไม่สนใจ ที่จะแสดง ‘เจ้าเล่ห์เพทุบาย’ ของตัวเองต่อหน้าจิ๋นลี่ยวน จิ๋นลี่ยวน ยอมรับว่าเขาได้สนใจเธอแล้ว……
เมื่อทุกคนต่างทยอยจากไป เนื่องจากงานหมั้นได้เริ่มต้นขึ้น ยินเสี้ยวเสี้ยว ถึงได้เก็บท่าทางน้อยอกน้อยใจของตัวเองลง รู้สึกรับไม่ได้กับท่าทางเสแสร้งเช่นนั้น เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่กลับไม่คาดคิดว่า ยินรั่วอวิ๋น จะเสแสร้งแกล้งทำเป็นเวลานานหลายปีขนาดนี้ ในใจอดไม่ได้ที่จะมีความนับถือเธอเล็กน้อย
จิ๋นลี่ยวนหรี่ตาลง เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะตามไปมุงดูด้วย มือที่โอบรอบเอวของเธอออกแรงเพิ่งเล็กน้อย รัดตัวเธอไว้ในอ้อมกอดตัวเองอีกครั้ง
เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาของยินเสี้ยวเสี้ยว คือความงุนงง แต่ในไม่ช้าก็กลายเป็นประหม่า เขาไม่ชอบผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์เพทุบายใช่ไหม? ในเวลานี้ เป็นเพราะเกลียดเธอใช่ไหม?
การไม่มีทางเลือกของเธอ เธอไม่รู้ว่าจิ๋นลี่ยวนสามารถเข้าใจมันได้หรือไม่ แต่นี่ก็เหมือนกับตอนนี้ ที่พวกเขาประกาศต่อสาธารณะ ว่าเป็นคู่หมั้นกัน แต่ตราบใดที่ยังไม่ได้จัดพิธีแต่งงาน ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้อง……
ความสำคัญของชื่อเสียง ในตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวสนใจจริงๆ นั่นก็เป็นอุปสรรคแรก ในการที่เธอจะแต่งงานเข้าบ้านจิ๋น!
