ตอนที่66 แฟนเก่าที่มีคู่หมั้นแล้ว
รุ่งเช้า ยินเสี้ยวเสี้ยวเตรียมเก็บของกลับบ้านยิน ในระยะเวลา3วันที่อาศัยอยู่ที่บ้านจิ๋น เธอกับจิ๋นลี่ยวนไม่นับว่าเจอหน้ากันบ่อย ถึงจะเจอกันก็จะมีคนในครอบครัวอยู่ด้วย ดังนั้นเลยไม่มีอะไรที่มันน่าอึดอัด แต่ก็จะถูกคุณย่าจิ๋นหาเวลาให้อยู่ด้วยกัน แล้วจะให้พร.
ตอนเดินลงจากชั้นบน ยินเสี้ยวเสี้ยวเห็นคนอื่นนอกจากจิ๋นลี่ยวนแล้วกำลังทักทายกัน และทำเหมือนกับว่าเรื่องเมื่อคืนที่เธอได้ยินมันไม่เคยเกิดขึ้น.
คุณย่าจิ๋นพอได้สติกลับมาก็กุมมือเธอไว้: “เสี้ยวเสี้ยว เรื่องงานแต่งหนูไม่ต้องกังวลนะ แม่ของหนูจะจัดการให้หนูเอง หนูก็กลับบ้านไปอย่างสบายใจแล้วรอแต่งเข้ามาก็พอ ส่วนภาพพรีเวดดิ้งของพวกหนูเดี๋ยวยายจัดการเอง รับรองว่าพอถึงเวลานั้นหนูต้องตะลึงอย่างแน่นอน!”
ยินเสี้ยวเสี้ยวฟังแล้วลดสายตาลงและเม้มริมฝีปากและยิ้ม มันดูราวกับว่าเธออาย.
หยูเจียห้วยและจิ๋นหยวนเฟิงก็พูดคุยกับยินเสี้ยวเสี้ยวอีกไม่กี่คำก็ให้คนขับรถคุณเฉิงส่งยินเสี้ยวเสี้ยวกลับไป ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรก็ขึ้นรถ อยู่ในรถไม่นานก็มีสายจากจิ๋นลี่ยวน.
“ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอกลับแล้วหรอ?”ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ยินเสียงนี้จากโทรศัพท์มานานแล้ว แต่ตอนนี้พอฟัง กล้ๆกลับรู้สึกไม่สบายใจ.
ยินเสี้ยยวเสี้ยวพยักหน้าตอบกลับเบาๆ “อือ ขึ้นรถมาแล้ว คุณเฉิงส่งฉันกลับบ้าน.”
เสียงทางโทรศัพท์ของจิ๋นลี่ยวนดูเมือนจะเหนื่อยมาก และในน้ำเสียงมีความไม่สบายใจแฝงอยู่ “อืม ช่วงนี้ฉันยุ่งนิดหน่อย รอฉันเสร็จงานแล้วเดี๋ยวฉันไปหา.”
ยินเสี้ยวเสี้ยวยิ้มพร้อมกับยกปากขึ้น ไม่ได้พูด ก็แค่ถือโทรศัพท์เงียบๆโดยไม่พูดอะไร.
พอผ่านไปสักพักจิ๋นลี่ยวนก็นึกว่าโทรศัพท์มีปัญหา เรียกออกมาเบาๆ: “เสี้ยวเสี้ยว?”
“อือ.” ตอบกลับเสียงต่ำๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวพึ่งพูด: “นายทำธุระของนายเถอะ ฉันรู้ว่าช่วงนี้นายมีผ่าตัดเคสใหญ่ๆเยอะ ดูแลตัวเองดีๆด้วย ฉันกลับบ้านก่อนนะ พอดีว่ารั่วอวิ่นจะแต่งงานแล้วที่บ้านก็น่าจะมีงานให้ช่วย.”
จิ๋นลี่ยวนรู้สึกมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร เลยเงียบไว้.
หลังจากวางสายไป ยินเสี้ยวเสี้ยวให้คุณเฉิงขับรถไปที่ตึกด้านล่างของ ‘บริษัทจื่อยิน’ ยิ้มบอกไปว่าอีกเดี๋ยวไปกินข้าวกับพี่ชาย คุณเฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรหลังจากเห็นยินจื่อเจิ้นก็ขับรถกลับบ้านจิ๋น.
ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนอยู่ข้างหน้าของยินจื่อเจิ้น ทำตัวเหมือนเด็ก.
ในเวลานี้ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกตื่นเต้นกว่าครั้งแรกที่หลี่หมึ้งพายินจื่อเจิ้นพามาที่บ้าน.
ในเวลานั้นเธอ ไม่เข้าใจอะไรคือหักหลัง เธอแค่รู้ว่าตั้งแต่เด็กๆเธอนั้นไม่มีแม่ ไม่มีพี่น้อง พ่อของเธอเย็นชาใส่เธอ ดังนั้นตอนที่เธอเห็นยินไป่ฝันพาหลี่หมึ้งและลูกของพวกเขามาที่บ้านยินนั้น เธอคิดอย่างไร้เดียงสาว่านี่คือแม่และพี่ชายที่พ่อของเธอพามาพบสำหรับเธอ ในบ้านของเธอ จากนั้นเธอกลายเป็นคนแปลกหน้า.
ยินจื่อเจิ้นเป็นพี่ชายที่เกิดคนละแม่กับเธอ ยินรั่วอวิ๋นกับยินจื่อเว่ยก็เป็นน้องสาวและน้องชายคนละแม่กัน แต่พวกเขาทั้งสามคนเกิดจากพ่อแม่เดียวกัน มีแค่เธอที่แปลกแยกออกมา…….
ตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งบ้านยินนั้นเอ็นดูเธอที่มียินจื่อเจิ้น.
ยินจื่อเจิ้นเป็นคนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวพึ่งพามากที่สุดในโลกนี้.
เงยหน้ามองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ยินเสี้ยวเสี้ยวเพิ่งสังเกตเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หลังพ่อกับแม่ในตอนนั้นตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แถมยังดึงดูดสายตาของผู้หญิงนับไม่ถ้วน.
นี่คือพี่ชายที่หยินเสี้ยวเสี้ยวภาคภูมิใจ.
“พี่ชาย.” กระซิบเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มองอยู่ด้านหน้าของยินจื่อเจิ้น.
ตอนที่ยินจื่อเจิ้นรับสายของยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วตกใจ รีบทิ้งงานแล้วรีบออกไป เขาเติบโตมาพร้อมกับ ยินเสี้ยวเสี้ยว เพียงแวบเดียวที่ยินจื่อเจิ้นจะรู้ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวมีบางอย่างในใจ.
เดินไปอย่างเงียบๆแล้วยื่นมือไปรับกระเป๋าที่อยู่ในยินเสี้ยวเสี้ยว ยินจื่อเจิ้นจับมือของยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพาเธอไปขึ้นรถของตัวเอง แล้วถามขึ้น: “หิวไหม? พวกเราไปกินข้าวกัน?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวพยักหน้า ทุกครั้งที่อยู่ข้างๆยินจื่อเจิ้น เธอไม่จำเป็นต้องสนใจอะไร แค่หลบอยู่ที่หลังของเขา ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับพ่อหรือว่าแม่ เขาก็จะปกป้องเธอ.
ในร้านอาหาร ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งอยู่ตำแหน่งของตัวเองกินข้าว ดื่มซุปในถ้วยทีละคำทีละคำ.
ยินจื่อเจิ้นมองน้องสาวของตัวเองที่ไม่พูดอะไร จนยินเสี้ยวเสี้ยวกินหมดแล้วถาม: “เธอเป็นอะไร?”
เป็นคำถามง่ายๆที่ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวอึ้งไปเลย มือทั้งสองข้างวางลงที่เข่าของตัวเอง.
ยินจื่อเจิ้นสีหน้าเปลี่ยนไป คิ้วเองก็เริ่มขมวดแน่น.
ท่านี้เป็นท่าที่เวลายินเสี้ยวเสี้ยวไม่สบายใจถึงจะเกิดขึ้น ขอแค่เธอไม่สบายใจ หลังจากนั้นท่าทีของเธอจะเปลี่ยนไป จะเปลี่ยนเป็นคนน่ารัก รู้เรื่อง ทำให้คนชอบแต่คนอื่นไม่รู้ว่าตอนนี้เธอต้องการคนปกป้อง.
ยินเสี้ยวเสี้ยวหายใจเข้าลึกๆจากนั้นพูด:”พี่ชาย พี่รู้……เรื่องอดีตของจิ๋นลี่ยวนไหมคะ?”
ประโยคเดียว สีหน้าของยินจื่อเจิ้นเริ่มไม่ดี.
ไม่พูดอะไรสักคำ ยินจื่อเจิ้นก็ลุกขึ้นแล้วถือกระเป๋าของยินเสี้ยวเสี้ยวไว้ แล้วดึงเธอเดินออกไป สีหน้าตึงมาก.
ยินเสี้ยวเสี้ยวเริ่มกลัว รีบพูดทันที: “พี่ชาย พี่ต้องฟังฉันก่อนนะ พี่รอก่อน……”
เสียดายตอนนั้นยินจื่อเจิ้นไม่สนใจเธอแล้ว.
เขาก็แค่รู้ว่า น้องของเธอถูกรังแก!
“พี่……” ยินเสี้ยวเสี้ยวเรียกอย่างรีบร้อน ฉันต้องเดินตามจังหวะของยินจื่อเจิ้นไปที่ด้านนอกของร้านอาหาร จนทั้งสองคนหยุดอยู่ที่ลานจอดรถ ในที่สุดยินเสี้ยวเสี้ยวก็หยุดลง “พี่……”
“ขึ้นรถ!” ยินจื่อเจิ้นก็เปิดประตูรถก่อน พูดด้วยน้ำเสียงเย็น.
ยินเสี้ยวเสี้ยวส่ายหน้า แล้วจับที่ประตูรถแน่นๆ ตัดสินใจไม่ขึ้นรถ เธอรู้ว่าถ้าเธอขึ้นรถแล้วมันจะไปสองที่ ที่แรกคือต่อหน้าจิ๋นลี่ยวน อีกที่คือสำนักงานกิจการพลเรือน.
ไม่ว่าจะสองที่ไหนเธอก็ไม่อยากไป.
ยินจื่อเจิ้นมองยินเสี้ยวเสี้ยว สีหน้าไม่ดีกว่าเดิม ยินเสี้ยวเสี้ยวตกใจ แต่ก็รวบรวมความกล้าไปจับที่แขนของเขาไว้: “พี่ พี่ฟังหนูก่อนได้ไหม? หนูแค่อยากรู้เรื่องในอดีตของเขาก็แค่นั้น หนูไม่อยากจู่ๆก็ถูกกระทำ……”
การกระทำของยินจื่อเจิ้นก็ชะงัก.
เมื่อไร่ที่น้องสาวสุดที่รักของเขายินจื่อเจิ้นถึงจุดที่โดนกระทำ?
ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้ว่าถ้าวันนี้ไม่สามารถพูดเหตุผลออกมาได้สักข้อหนึ่ง ยินจื่อเจิ้นคงจะพาเธอไปหาจิ๋นลี่ยวนหรือไม่ก็สำนักงานกิจการพลเรือนแน่ แต่เธอไม่สามารถพูดถึงบ้านจิ๋ว พูดออกมาประโยคหนึ่ง: “พี่ หนูได้ยินคนอื่นพูดมาว่า ก่อนหน้านี้จิ๋นลี่ยวนมีแฟน หนูแค่อยากรู้ว่าพวกเขาเลิกกันทำไม พี่อย่าโกรธขนาดนั้นเลยนะ?”
สีหน้าของยินจื่อเจิ้นอ่อนลงนิดนึง แต่แค่นิดเดียวเอง.
ยินจื่อเจิ้นปล่อยประตูรถ ถอยออกมาหนึ่งก้าว พูดออกมาเสียงต่ำ: “ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอคือน้องของฉันยินจื่อเจิ้น เมื่อไหร่ที่เธอเริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวอึ้ง ไม่ได้พูดอะไร.
เธอควรพูดอะไร?
บอกว่าเธอหวั่นไหวกับจิ๋นลี่ยวน ดังนั้นถึงได้แคร์?
คำตอบนี้ถ้ายินจื่อเจิ้นได้ยิน คงจะโกรธมากแน่ๆ.
ยินจื่อเจิ้นเห็นท่าทีของยินเสี้ยวเสี้ยวแบบนั้นแล้วก็ไม่อาจทนตำหนิเธอได้ ได้แต่ถามไปอย่างเสียงเบา: “ใครบอกเธอ?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวตกใจกับคำพูดของยินจื่อเจิ้น งั้นแบบนี้เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ และยินขื่อเจิ่นเองก็รู้แต่แรกแล้ว! นี่คงเป็นเหตุผลที่เขาคัดคนในตอนแรกเมื่อเขารู้ว่าเธอจะแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน คงจะไม่เฉพาะที่เขาเป็นคุณชายสามของบ้านจิ๋น.
เงยหน้าขึ้น ยินเสี้ยวเสี้ยวมองยินจื่อเจิ้นอย่างตรงๆและพูดเบาๆแต่หนักแน่น “พี่ ฉันอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น.”
ยินจื่อเจิ้นมองไปที่ยินเสี้ยวเสี้ยวและเงียบเป็นเวลานาน นานจนสองคนนั้นกลายเป็นคนนิ่งๆ ไม่พูดและไม่ขยับ หลังจากผ่านไปนานยินจื่อเจิ้นก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ก่อนที่จะพูด:”เสี้ยวเสี้ยว เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว.”
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองยินจื่อเจิ้นอย่างแน่วแน่ว่าต้องการคำตอบ.
ถอนหายใจเบาๆ ยินจื่อเจิ้นถึงเริ่มพูด เสียงต่ำๆนั้นดังขึ้นในที่จอดรถที่เงียบสงบ ราวกับว่าเหมือนมีอะไรหนักๆมาบีบที่หัวใจของยินเสี้ยวเสี้ยว.
“ก่อนหน้าที่จะคบเธอจิ๋นลี่ยวนคบกับแฟนมาสองปี ได้ยินมาว่าทั้งสองคนรักกันมาก แต่ตอนที่จิ๋นลี่ยวนคบกับเธอเขาไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขา หลังจากนั้นได้ยินว่าจิ๋นลี่ยวนขอเธอแต่งงาน แต่ผุ้หญิงคนนั้นปฏิเสธ……”ยินจื่อเจิ้นพูดๆอยู่ก็มองยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างห่วงใย.
ใจของยินเสี้ยวเสี้ยวเต้นตามจังหวะการพูดของยินจื่อเจิ้น เดี่ยวขึ้นเดี๋ยวลง เหมือนนั่งรถไฟเหาะเลย.
ที่แท้พวกเขาก็พูดคุยถึงเรื่องการแต่งงานกันแล้ว.
เห็นปฏิกิริยาของยินเสี้ยวเสี้ยวที่ไม่มาก ยินจื่อเจิ้นถึงได้พูดต่อ: “เหตุผลที่พวกเขาเลิกกันพี่ไม่รู้ แต่พี่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นนามสกุลมู่ เป็นคุณหนูของตระกูลมู่ และมีข่าวลือว่าก่อนหน้านี้ทั้งสองตระกูลมีการหมั้นกันด้วย แต่จนถึงตอนนี้คุณหนูตระกูลมู่ยังไม่รู้จักตัวตนของจิ๋นลี่ยวน……”
ร่างของยินเสี้ยวเสี้ยวสั่นไม่หยุด สีหน้าเริ่มไม่ดี.
มีการหมั่น……
ฮ่าฮ่า จู่ๆยินเสี้ยวเสี้ยวก็อยากหัวเราะ.
วัยรุ่นชายหญิงที่ไม่รู้จักตัวตนกันตกหลุมรักกันแล้ว เป็นเพราะฐานะถึงได้เลิกกันเหรอ? แล้วถ้าเธอกลับมาล่ะ แล้วรู้ว่าทั้งคู่จะมีการหมั้นกัน ก้จะกลับมาคืนดีกันใช่ไหม?
ยินเสี้ยวเสี้ยวในตอนนี้ รู้สึกว่าร่างของตัวเองหนาวมาก หนาวมาก……
ตกลงว่าเธอแต่งงานกับผู้ชายแบบไหน?
เธอกดดันตัวเองจนกลายเป็นผู้หญิงแบบไหน?
กัดปากของตัวเองแน่น ยินเสี้ยวเสี้ยวพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้ตัวเองสงบลง ถามแบบเบาๆ:จิ๋นลี่ยวนรู้เรื่องนี้มั้ย?รู้……แฟนเก่าของเขาคือคนที่มีสัญญาแต่งงานกับเขา?”
สายตาที่แบ่งอย่างชัดเจนมองตรงๆไปที่ยินจื่อเจิ้น เธออยากได้คำตอบที่มันแน่นอน แต่สุดท้าย……
ยินจื่อเจิ้นส่ายหน้าเบาๆ: “พี่ได้ยินจิ๋นลี่โป๋บอกว่า ตอนนี้จิ๋นลี่ยวนยังไม่รู้เรื่องที่มีการหมั้นนั้น……”
ทันใดนั้น โลกของยินเสี้ยวเสี้ยวเหมือนพังทลายลง……
คำพูดของยินจื่อเจิ้นยังไม่หยุด คำพูดสุดท้ายตกลงไปที่ใจของยินเสี้ยวเสี้ยว:”เสี้ยวเสี้ยว วันที่เธอกับจิ๋นลี่ยวนไปจดทะเบียนสมรส จิ๋นลี่ยวนเลิกกับเธอพอดี วันที่เธอจากไป…..”
ยินเสี้ยวเสี้ยวเหมือนเอ๋อไปเลย ไม่พูดและไม่ขยับ เพียงแค่ยืนพิงอยู่ที่ประตูรถ…