ตอนที่69 ยินเสี้ยวเสี้ยว อย่าทำตัวไร้สาระ
ห้องจัดงานในตอนนี้มันเงียบ ถึงตอนนี้จะมีคนพูดเบาแค่ไหนก็มีคนได้ยิน.
พอพูดคำนี้ออกมา คนในห้องจัดงานก็ตกอยู่ในความเงียบ แต่ก็จะมีบางคนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้.
คนส่วนใหญ่ที่นี่เคยมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดและงานหมั้นของยินรั่วอวิ๋น โดยเฉพาะงานเลี้ยงวันเกิด ที่ทุกคนให้ความสนใจ ใครจะรู้ว่าคุณหนูใหญ่บ้านยินจะก่อเรื่องใหญ่ขนาดนั้น เพื่อที่จะถามเซี่ยงเฉิงแค่ประโยคเดียว ว่าเขาเป็นเแฟนของยินรั่วอวิ๋นหรือยินเสี้ยวเสี้ยวกันแน่ แต่คำถามนี้ดูเหมือนว่าตอนนี้จะตอบง่ายมาก……
ทุกคนไม่ใช่คนโง่ ขอแค่ลูกที่บ้านมีคนเรียนที่มหาลัยT หรือจะเป็นแค่ญาติคนไหนที่เรียนที่นั่น ก็จะรู้ว่าตอนอยู่มหาลัยยินเสี้ยวเสี้ยวกับเซี่ยงเฉิงคบเป็นแฟนมาสี่ปี แต่บ้านยินก็หน้าด้านทำเป็นไม่รู้เรื่อง พวกเขาก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าบ่าวที่กำลังแต่งกับน้องสาวแต่กับจ้องที่พี่สาว?
นี่ไม่ใช่เรื่องตลก แล้วคืออะไร?
เซี่ยงโก่ซิวไอออกมาทีนึง แต่เซี่ยงเฉิงเหมือนถูกมนต์สะกดไว้ มองยินเสี้ยวเสี้ยวก็มองแต่ยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง จนถึงตอนที่ยินรั่วอวิ๋นแทบจะฝืนยิ้มไม่ไหว เซี่ยงโก่ซิงถึงได้เหยียบที่เท้าเขาแรงๆไปหนึ่งที.
“ขอโทษทุกคนด้วย นี่เป็นการแต่งงานครั้งแรกของเขาก็จะตื่นเต้นนิดหน่อย.” เซี่ยงโก่ซิวก็ยิ้มอธิบายให้คนอื่น แต่ที่สายตาของยินไป่ฝันเต็มไปด้วยความไม่พอใจ.
เซี่ยงเฉิงก็เจ็บจนได้สติกลับมา ตอนหันไปมองทางยินไป่ฝันกับยินรั่วอวิ๋น แต่เห็นหน้าของพวกเขาไม่ดีมากๆ ยื่นมือไปรับมือของยินรั่วอวิ๋นอย่างทำตัวไม่ถูก หันหน้าไปทางพิธีกร.
พิธีกรก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก ไม่ว่ายังไงก็เคยผ่านมาก่อน พูดไปสักสองสามประโยคก็สามารถทำให้บรรยากาศกลับมาครึกครื้น บนเวทีพิธีกรก็ให้ความร่วมมือกับคนอื่นๆ แต่คนข้างล่างก็ยังคนนินทาต่อไป.
——ฮึ เซี่ยงเฉิงก็ไม่ใช่คนดี แต่งกับคนน้องแล้วคิดถึงคนพี่ ใจใหญ่จริงๆ.
——ฉันว่าตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก ถ้าไม่ใช่คนพี่ไม่ได้ให้ท่าน้องเขยจะทำแบบนี้เหรอ?
——แต่วันนี้ฉันยังไม่เห็นคู่หมั้นของยินเสี้ยวเสี้ยวมาเลย หรือว่าจะรู้เรื่องนี้แล้ว?
——ใครจะรู้ล่ะ แต่ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของน้องสาวภรรยาเขายังไม่มา นี่ก็หมายความว่าเขาไม่ให้หน้ายินเสี้ยวเสี้ยว? ไม่แน่อาจจะใกล้วันที่จะหย่ากัน……
——อาจจะใช่ ไม่มางานแบบนี้ก็เกินไป……
……
ยินเสี้ยวเสี้ยวได้ยินคำพูดนี้แล้วหน้าก็ซีดลง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร วันนี้เธอตัดสินใจว่าจะปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เรื่องพวกนั้นเธอไม่อยากไปสนใจ แค่อยากให้ผ่านวันนี้ไปดีๆ.
แต่ว่าเธออยากแต่ไม่ใช่ว่าคนอื่นอยากให้เธอผ่านง่ายๆ……
พองานเริ่ม ยินรั่วอวิ๋นก็เปลี่ยนชุดแล้วเริ่มไปชนแก้วทีละโต๊ะทีละโต๊ะ คนรอบข้างก็เริ่มหันมาถามยินเสี้ยวเสี้ยว ทุกคำพูดมันเริ่มอึดอัดขึ้น.
——คุณยิน คู่หมั้นของคุณไม่มาเหรอ?
——ไม่มางานแต่งน้องสาวภรรยานี่มันเกินไปไหม วัยรุ่นควรจะทำตัวให้มันไม่เป็นจุดสนใจหน่อยจะดีกว่า.
——ฮะฮะ ถ้าคู่หมั้นของคุณรู้ว่าวันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ เธอกลับไปคงจะมีเรื่อง ไม่มาก็ดีแล้ว.
——นั่นสิ ถ้าคู่หมั้นของคุณรู้ว่าน้องเขยของคุณคิดเกินเลยกับคุณ เขาอาจจะไม่เอาคุณแล้ว……
……
พูดอยู่ คนในกลุ่มก็หัวเราะกันเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวนอกจากหน้าซีดแล้ว ไม่ค่อยสดชื่นแล้วก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร คิดๆดูแล้วทุกคนอาจจะพูดเกินไป หรือทำร้ายโดนยินเสี้ยวเสี้ยว? แต่เป็นคนล้วนแต่เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น พวกเขาก็แค่สงบลงก็เมื่ออยู่ต่อหน้ายินเสี้ยวเสี้ยวเท่านั้น พอลับหลังก็เอาไปใส่สีตีไข่เพิ่ม……
เมื่อยินรั่วอวิ๋นและเซี่ยงเฉิงมาถึง คนรอบข้างก็รู้สึกได้ว่าสีหน้าของยินรั่วอวิ๋นไม่ค่อยดี แถมหน้าของเซี่ยงเฉิงก็ค่อนข้างอึดอัด.
ที่มือของยินรั่วอวิ๋นมืแก้วเหล้าเหล้กๆถืออยู่ พยายามยิ้มแล้วพูดกับยินเสี้ยวเสี้ยว: “พี่ แก้วนี้หนูเคารพพี่ ขอบคุณฯที่ดีกับหนูมาตลอด คราวหน้าถ้ามีโอกาส หนูจะตอบแทนอย่างแน่นอน!”
คำว่า ‘อือ’ยินเสี้ยวเสี้ยวลงน้ำหนักมาก คนรอบข้างก็คิดว่าความสัมพันธ์ของสองพี่น้องนี้จะดีมาก ภาพภายนอกยินรั่วอวิ๋นมักจะปกป้องยินเสี้ยวเสี้ยวเสมอ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้จะไม่สามารถทำอะไรความสัมพันธ์ของพี่น้องได้ตลอดไป แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้ คำพูดของยินรั่วอวิ๋นมันกลับกัน.
เธอก็ไม่ได้พูดอะไร แค่ยกแก้วในมือหันไปทางยินรั่วอวิ๋นแล้วดื่มลงไป.
เซี่งเฉิงยืนอยู่ข้างๆก็มั่นใจว่าวันนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวอารมณ์ไม่ดี แถมยังเป็นแบบไม่ดีมากๆด้วย.
ในใจก็รู้สึกดีใจนิดหน่อย เสี้ยวเสี้ยวยังอาลัยอาวรณ์เขาอยู่……
จากนั้นเซี่ยงเฉิงก็ยกแก้วของตัวเองเตรียมเคารพยินเสี้ยวเสี้ยวหนึ่งแก้ว พูดออกมาเบาๆ: “หลังจากนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว หวังว่าพวกเราจะเข้ากันได้ ฉันขอให้ทุกคนสมดังใจปรารถนา.
สมดังใจปรารถนา ก็คือการที่มีภรรยาหลายคน……
คำนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ฟังออก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วยกแก้วขึ้นเตรียมจะดื่ม แต่พอแก้วใกล้จะถึงปากแล้ว ข้อมือของตัวเองก็ถูกใครจับเอาไว้ แถมยังมีอุณหภูมิที่คุ้นเคยด้วย.
ยินเสี้ยวเสี้ยวอึ้ง ไม่จำเป็นต้องหันไป เธอก็รู้ว่าใครมา.
“ขอโทษที ฉันมาสายไป.” ยื่นมือไปนำแก้วเหล้าในมือของยินเสี้ยวเสี้ยว จิ๋นลี่ยวนพูดยิ้มๆ.
เซี่ยงเฉินกับยินรั่วอวิ๋นอึ้งกับการปรากฏตัวของจิ๋นลี่ยวน ยังไม่ทันได้สติกลับมาจิ่นลี่ยวนก็ดื่มขอโทาไปสามช็อต ท่าทางสง่างาม แถมยังดูดีมีตระกูล อีกด้านหนึ่งยินจื่อเจิ้นมองมาแถมยังขมวดคิ้วแต่ไม่ได้พูดอะไรก็หันกลับไป.
ยินรั่วอวิ๋นยิ้มพูดออกมา: “พี่เขย ฉันนึกว่าวันนี้พี่จะไม่มาแล้ว วันนี้พี่สาวดูเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดี หนูถามเธอเธอบอกว่าพี่ไม่มาแล้ว……”
คำๆเดียวก็ทำให้ผู้คนคิดว่ายินเสี้ยวเสี้ยวกำลังงอน จะให้จิ๋นลี่ยวนทำอะไรถึงได้สร้างเรื่องตลกในวันนี้ ขณะเดียวกันก็ไม่ค่อยประทับใจยินเสี้ยวเสี้ยว.
จิ๋นลี่ยวนยิ้มให้ยินรั่วอวิ๋น สายตาก็มองไปที่เซี่ยงเฉิง ตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาได้ยินเรื่องซุบซิบมาไม่น้อย: “จริงๆแล้ววันนี้ฉันมีผ่าตัดใหญ่น่ะ ตอนแรกบอกเสี้ยวเสี้ยวไว้แล้ว แต่ฉันเองก็คิดไม่ถึงว่าวันนี้ร่างกายของคนไข้มีปัญหาอื่น เลยต้องเลื่อนผ่าตัดดังนั้นฉันเลยรีบมา.”
สีหน้าของคนรอบข้างก็เปลี่ยนไปอีกรอบ ดูเหมือนว่าคุณหนูใหญ่บ้านยินเองก็รู้กาลเทศะอยู่ อย่างน้อยก็ไม่ได้บังคับคนอื่นมาไม่ใช่? แล้วก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูกกับความคิดของตัวเอง เช่นเดียวกันก็รู้สึกว่าน้องสาวคนนี้ถูกเลี้ยงตามใจจนทะนงตน คนอื่นเขามีธุระก็ยังจะไปยึดติดอีก?
รอยยิ้มของยินรั่วอวิ๋นค้างแล้วพูด: “ขอโทษนะพี่เขย หนูไม่รู้.”
ในเมืองTที่เป็นเมืองใหญ่อย่างนี้ ทุกคนเป็นคนฉลาด โดยเฉพาะพวกเขาที่มีฐานะไม่สูงและไม่ต่ำ แค่คำพูดของคนอื่นหนึ่งประโยคพวกเขาก็สามารถฟังได้หลายแบบ และส่วนใหญ่เรื่องจริงก็มักจะเป็นแบบที่พวกเขาคิด……
หลังจากดื่มเคารพที่โต๊ะนี้เสร็จ ยินรั่วอวิ๋นก็พาเซี่ยงเฉิงไปที่โต๊ะต่อไป ในฐานะที่เป็นเด็กยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้อยู่ที่โต๊ะหลัก แต่ยินจื่อเจิ้นนั่งอยู่ที่โต๊ะหลักก็เพราะว่าเขาเป็นทายาทคนต่อไปของ ‘บริษัทจื่อยิน’ แต่ก็เพราะเหตุนี้ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวสามารถกลับได้ทันทีที่กินหรือดื่มเสร็จ.
หลังกินข้าวเสร็จยินเสี้ยวเสี้ยวก็เตรียมตัวออกไป จิ๋นลี่ยวนก็ไม่ได้พูดอะไรอยู่ข้างๆเธอ แต่ในใจเริ่มรู้สึกรำคาญ.
เธอกำลังงี่เง่า?
ประเด็นคือ เขายั่วเธอตรงไหน?เพียงเพราะเขาลืมเกี่ยวกับงานแต่งงานที่ขาดไม่ได้ในวันนี้?
ยินเสี้ยวเสี้ยวสนใจชื่อปลอมเหล่านี้หรอ?
หลังออกจากโรงแรม ยินเสี้ยวเสี้ยวเดินอยู่ที่ข้างทางอย่างช้าๆ เธอรู้ว่าจิ๋นลี่ยวนเดินตามมาอยู่ และเธอไม่ได้ตัดสินใจที่จะกลับเลยทันทีเพราะกำลังคิดว่าควรจะถามไหม? ยังไงยินจื่อเจิ้นก็ไม่ใช่คนบ้านจิ๋น เรื่องส่วนใหญ่ก็คงจะฟังคำบอกเล่ามาไม่ใช่?
จิ่นลี่ยวนที่อยู่ข้างหลังมองยินเสี้ยวเสี้ยวอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ ถ้าบอกว่ายินเสี้ยวเสี้ยวเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่องราว งั้นเขาคงต้องพูดว่าตัวเองคงจะมองผิดไป……
คนสองคน บนถนน คนนึงอยู่หน้าคนนึงอยู่หลัง แต่ราวกับถูกแยกออกจากมุมของทะเล……
ในที่สุด ยินเสี้ยวเสี้ยวก็หยุดฝีเท้าของเธอ เมื่อหันศีรษะไปมองจิ๋นลี่ยวนเขารู้สึกประหลาดใจที่พบว่าจิ๋นลี่ยวนดูเหมือนจะไม่อารมณ์ดี ถามโดยไม่รู้ตัว:”จิ๋นลี่ยวน หากนายไม่ต้องการเข้าร่วมงานแต่งงานนี้นายไม่ต้องมาก็ได้?”
จิ๋นลี่ยวนภูมิใจในการควบคุมอารมณ์ของตัวเองมาตลอด ไม่ว่าจะด้านไหน และยิ่งกว่านั้นหลังจากที่เขาเป็นหมอแล้วยิ่งทำให้ควบคุมอารมณ์ได้ดี แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้เขามองยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วอารมณ์เสีย คำพูดที่รุนแรงคิดก็ไม่คิดก็พูดออกไป.
คำพูดไม่มาก เสียงไม่ถึงกับดัง แต่มันก็กระทบใจของยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างหนักทีละคน เจ็บแปล๊บ……
ดูริมฝีปากบางเซ็กซี่ของเขาแนบชิดกัน ยินเสี้ยวเสี้ยวได้ยินที่เขาพูด:”ยินเสี้ยวเสี้ยว อย่าทำตัวไร้สาระ คุณคิดว่าพฤติกรรมของคุณในวันนี้เหมาะสมไหม?”
ใช่ มันเหมาะหรอ?
เพราะวันนี้เธออารมณ์ไม่ดี เพียงเพราะเธอไม่ต้องการจัดการกับมันเลยในวันนี้ ดังนั้นให้ตัวเอง ปล่อยให้เขาตกอยู่ในวังวนแห่งคำพูด ยินเสี้ยวเสี้ยวคนนี้ไร้เสาระและไร้เหตุผล แต่เธอควบคุมไม่ได้……
แค่คิดว่าจิ๋นลี่ยวนมีแฟนเก่าที่หมั้นกันแล้ว เธอก็รู้สึกไม่สบายใจ.
ทันใดนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ตระหนักว่าการแต่งงานของเธอไม่ราบรื่นอย่างที่เธอคิด.
จริงที่ จิ๋นลี่ยวนอายุมากกว่าเธอ เขาจะยอมเธอ เขาจะทนเธอ เขาจะตามใจเธอ แต่เขาจะไม่ทำตลอด ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนแปลกหน้าสองคนจะก่อตั้งครอบครัวได้ และการวิ่งเข้าของพวกเขาเพิ่งเริ่มต้นขึ้น……
แต่ถึงเธอจะรู้เรื่องนี้ ในขณะนี้เธอรู้สึกผิดอย่างมากในหัวใจของเธอ.
เปิดปาก ยินเสี้ยวเสี้ยวกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันได้ยินเขาพูดอีกครั้ง:ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอลองกลับไปคิดดู หลังจากเสร็จสิ้นสองวันนี้ฉันจะติดต่อหาเธอ……”
ในคำพูด คำพูดที่ทำให้คอของยินเสี้ยวเสี้ยวตกลงไปในท้องของเธอ.