Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา – บทที่ 104 เธอโกรธ เธอหึง

บทที่ 104 เธอโกรธ เธอหึง

บทที่ 104 เธอโกรธเธอหึง

ตกดึก จิ๋นหยวนเฟิงและหยูเจียห้วยพึ่งกลับมาจากด้านนอก ใครจะรู้พอเดินเข้าประตูมา ก็เห็นยินเสี้ยวเสี้ยวที่นอนกองอยู่กับพื้นทำเอาตกใจ จิ๋นหยวนเฟิงรีบพุ่งเข้าไปประคองยินเสี้ยวเสี้ยวขึ้นมา หยูเจียห้วยรีบตะโกนเรียกคนใช้ในบ้าน คนรับใช้ที่ถูกคุณย่าจิ๋นสั่งไม่ให้ออกมาถึงได้รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้น มีคนใช้คนหนึ่งรีบวิ่งไปบ้านคุณย่าเสิ่นที่อยู้ข้างๆไปเรียกคุณย่าจิ๋น……

ตอนที่คุณย่าจิ๋นยืนอยู่หน้าประตู ยังไม่ทันได้เดินเข้าไป ก็เห็นจิ๋นหยวนเฟิงและหยูเจียห้วยพยุงยินเสี้ยวเสี้ยวกันอย่างเร่งรีบวิ่งออกไปข้างนอก พอเห็นแบบนั้นก็พอรู้ ว่าสถานการณ์ของยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ขมวดคิ้ว คุณย่าจิ๋นไม่ได้คิดอะไรเยอะ ตามขึ้นรถไปด้วย ทั้งหมดก็มาถึงโรงพยาบาลหนันหยู

ในตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวถูกส่งไปห้องฉุกเฉินโดยจิ๋นหยวนเฟิงพร้อมกับคนบางส่วน คุณหมอหยางที่เคยดูแผลภายนอกให้กับยินเสี้ยวเสี้ยวอดไม่ได้ชำเหลือบมองไปสองสามรอบ และเข้าสู้โหมดทำอย่างรวดเร็ว คิ้วที่ค่อยๆขมวดขึ้นพร้อมเห็นบาดแผลบนตัวของยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีเยอะขึ้นกว่าเดิม

หยูเจียห้วยรีบโทรหาจิ๋นลี่ยวน คนบางส่วนรออยู่ข้างนอกอย่างเงียบๆ

“แม่คะ ครั้งนี้ปล่อยเสี้ยวเสี้ยวไปเถอะนะคะ เธอพึ่งมา จะไปรู้กฎของบ้านจิ๋นได้ยังไงคะ?” ในที่สุดหยูเจียห้วยก็หาโอกาสพูดโน้มน้าวให้กับยินเสี้ยวเสี้ยวได้ จริงๆแล้วก็รู้สึกไม่ได้ชอบยินเสี้ยวเสี้ยว แต่ก็ไม่ถึงกับเกลียด พูดได้เพียงว่ายินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่ได้แย่อะไร และลูกชายตัวเองก็เป็นคนยืนยันเองว่าจะแต่งกับผู้หญิงคนนี้ให้ได้ ถึงแม้เธอไม่เห็นแก่หน้าพระภิกษุ ก็ต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธรูปสิ “จะให้พูดอีก ที่พวกเราเห็นแค่คลิปที่ไม่มีเสียงเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าในตอนนั้นเซี่ยงหลินและมู่ซูวกำลังพูดอะไร เรื่องนี้ยังไม่แน่ชัด รอจนพวกเรารู้แน่ชัดกันแล้วค่อยมาพูดกัน ดีไหมคะ?”

จิ๋วหยวนเฟิงที่นั่งอยู่ข้างๆไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่แรก

บ้านจิ๋น หลังจากที่จิ๋นลี่โป๋และจิ๋นลี่ยวนออกไปแล้ว สตรีแกร่งกว่าชายอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าเขาไม่สนใจอะไรอยู่แล้วในเมื่อเรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่องในบ้าน ยังไงผู้หญิงเขาก็จัดการกันเองอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?

ยินเสี้ยวเสี้ยวที่ยังไม่ออกมาจากห้องคนไข้ของคุณหมอหยาง จิ๋นลี่ยวนก็รีบมาถึงในที่สุด

ระหว่างทาง เขาก็โทรให้กับพี่หลิง พี่หลิงรีบบอกให้พยาบาลอยู่ในห้องผ่าตัดช่วยถอนชุดคลุมสีขาวออก พอเดินเข้ามาประตูใหญ่ของโรงพยาบาลดิ่งตรงไปยังฝั่งคุณหมอหยาง ชุดกาวน์สีขาวใส่มาอย่างเร่งรีบ พอเห็นคนบ้านของตัวเองก็เปิดปากถาม: “เสี้ยวเสี้ยวละครับ?”

คุณย่าจิ๋นที่กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องที่หยูเจียห้วยพูดมา ก็ได้ยินเสียงของจิ๋นลี่ยวนขึ้นมากะทันหัน

ไม่รอพวกเขาตอบ จิ๋นลี่ยวนเดินตรงไปยังห้องตรวจคนไข้ที่คุณหมอหยางกำลังตรวจยินเสี้ยวเสี้ยว หันตัวแล้วเดินเข้าไป

ในห้องคนไข้ คุณหมอหยางที่อยู่ข้างๆกำลังเขียนบัตรเวชระเบียง อีกด้านบนเตียงนอนยินเสี้ยวเสี้ยวที่หลับลึกสบาย สายน้ำเกลือที่เสียบกับแขนค่อยๆหยดลงทีละหยดๆ

จิ๋นลี่ยวนที่พยักหัวต่อคุณหมอหยางและมองมาทางยินเสี้ยวเสี้ยว พอเห็นคนที่อยู่บนเตียงใบหน้าขาวซีด เหมือนไม่มีเลือด ในใจที่เต้นก็เจ็บปวดไปด้วย พอรู้ตัวก็ตรวจดูมือของเธอเอาขึ้นมา คุณหมอหยางที่อยู่ข้างๆเห็นก็ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้จิ๋นลี่ยวนตรวจดูต่อไป

ถ้าไม่ตรวจก็ไม่รู้ พอตรวจจิ๋นลี่ยวนถึงรู้ว่า เรื่องคืนนั้นยินเสี้ยวเสี้ยวได้รับบาดเจ็บ

รอยแผลที่อยู่บนแขน และตรงเอว และยังมีตรงหัวเข่ารอยที่ม่วงช้ำล้วนอยู่ในสายตาของเขา

เซี่ยงหลิง! มู่ซูว!

ผู้หญิงสองคนนี้ทำร้ายภรรยาของเขาได้ถึงขนาดนี้!

มืออันอบอุ่นที่จับบริเวณเข่าของยินเสี้ยวเสี้ยว สายตาเต็มไปด้วยความอบอุ่น

ตอนที่หยูเจียห้วยและคุณย่าจิ๋นเข้ามา ก็เห็นภาพๆนี้ อดไม่ได้ที่จะถาม คุณย่าจิ๋นพูดเสียงเบาถาม: “เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?”

จิ๋นลี่ยวนไม่หันหัว เพียงแค่ยืนอยู่ข้างเตียงมองดูยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างเงียบๆพูด: “เมื่อคืนผมจัดการเวลาได้ไม่ดี ไม่อย่างนั้นเสี้ยวเสี้ยวคงไม่ต้องมาทุกข์ทรมานมากขนาดนี้”

คำพูดเดียว ทำเอายินเสี้ยวเสี้ยวเกือบเป็นเรื่องเพราะเรื่องนี้

คุณย่าจิ๋นค่อยๆขมวดคิ้วขึ้นมองจิ๋นลี่ยวน ผ่านไปนานก็หันมามองยินเสี้ยวเสี้ยว ถาม: “เป็นเพราะแก?”

สำหรับคุณย่าจิ๋น เธอไม่เชื่ออยู่แล้ว ถ้าจะให้พูดจิ๋นลี่ยวนมั่นคงที่สุดในสามพี่น้องนี้ของบ้านจิ๋น ไม่เหมือนจิ๋นลี่โป๋ที่เจ้าชู้ และไม่เหมือนจิ๋นลี่เหยาที่มีชื่อเสียงด้านอำนาจ เขาเป็นคนที่ดีที่สุด มาพูดตอนนี้ว่าเขาเป็นคนก่อเรื่องขึ้นมาเอง หยูเจียห้วยเองก็ไม่เชื่อเหมือนกัน

ไม่ได้พูดอะไรกับคุณย่าจิ๋น จิ๋นลี่ยวนเพียงแค่จัดการเรื่องนี้ต่อเอง พึ่งพูดจบไป คนที่อยู่บนเตียงในที่สุดก็ค่อยๆตื่นขึ้นมา ดวงตาขาวดำที่ลืมขึ้นมามาพร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวดจากก่อนหน้านี้ จิ๋นลี่ยวนที่มองดูและหัวใจที่เต้นรัวอย่างเจ็บปวด จับมือของเธอโดยไม่กล้าจับแน่

“เสี้ยวเสี้ยว รู้สึกไม่สบายตรงอีกไหนไหม?” ถามเบาๆ เมื่อคืนจนถึงตอนนี้จิ๋นลี่ยวนยังคงไม่ได้พูดถึงเรื่องเมื่อคืนกับยินเสี้ยวเสี้ยว อาจจะเป็นเวลาไม่ได้ และสถานการณ์ไม่เป็นใจ

คุณย่าจิ๋นที่ยืนอยู่ข้างเตียงมองดูยินเสี้ยวเสี้ยว ตัดสินใจตอนเธอฟื้นขึ้นมาค่อยถาม: “เสี้ยวเสี้ยว เธอควรรู้จักใช้ชื่อเสียงของบ้านจิ๋นให้เป็นประโยช์น และเรียนรู้การเป็นภรรยาที่ดีควรเป็นยังไงด้วย หลายวันนี้เธอก็ลองทบทวนดูเองล่ะกัน”

พูดจบ หยูเจียห้วยพูดถามด้วยความเป็นห่วงไม่กี่คำก็เดินตามคุณย่าจิ๋นออกไป

บนเตียง ยินเสี้ยวเสี้ยวที่เหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆ และไม่ได้มีความรู้สึกแปรปรวนอะไร เพียงแค่นอนอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ จิ๋นลี่ยวนแน่นอนว่าอยู่เฝ้าทั้งวันไม่ได้อยู่แล้ว ตรวจดูว่าเธอไม่เป็นอะไรให้แน่ใจถึงค่อยไปทำงานต่อ ไม่นานก็จะกลับมา ในห้องเหลือเพียงแค่ยินเสี้ยวเสี้ยวคนเดียว

ชื่อเสียงของบ้านจิ๋น?

คำพูดของคุณย่าจิ๋นทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวครุ่นคิด ใช่สิ ‘บ้านจิ๋น’ สองคำนี้เป็นทางเลือกที่ดีมาก และใช้ชื่อเสียงให้เป็นประโยชน์ ยกตัวอย่างในหลายๆสถานการณ์ บ้านจิ๋นก็มีอิทธิพลต่อเมืองTเลยก็ว่าได้!

ยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นคนที่ถนัดสรุป เวลาเพียงสั้นๆในหนึ่งคืน ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวเข้าใจเหตุผลบางอย่างทันที เธอเป็นเพียงแค่เป็นคนที่พึ่งแต่งเข้ามาในบ้านจิ๋นเป็นสะใภ้ ไม่ว่าจะเป็นสถานะ ความน่าเกรงขาม คำพูดและท่าทางก็เปรียบเหมือนคนบ้านจิ๋นแท้ๆไม่ได้ แม้แต่หยูเจียห้วยที่เธอเดาว่าหลังจากที่แต่งเข้ามาบ้านจิ๋นมานานค่อยๆเปลี่ยนจนได้เป็นแบบนี้

จริงๆเหตุผลง่ายมาก ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนที่แต่งงานเข้าบ้านคนอื่นแล้ว แม้ว่าดูเหมือนปรองดองกัน เป็นมิตรกัน มีบางครอบครัวที่มีเส้นขีดจำกัดที่ไม่อาจล้ำกันได้ คนที่รับผิดชอบบ้านจิ๋นก็คือคุณย่าจิ๋น เส้นที่ล้ำไม่ได้ของเธอก็เป็นชื่อเสียงของบ้านจิ๋น! ทั้งๆที่ยินเสี้ยวเสี้ยวโชคไม่ดีเอง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจสุดท้ายก็ส่งผลกระทบถึง เพราะอย่างนั้นพอกลับไปกลับโดนลงโทษให้คุกเข่าบนกระดานซักผ้า

บนโลกใบนี้ นอกจากคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดความชอบมักไม่มีเหตุผลมาอธิบายได้ อาจจะชอบเพราะนิสัย เพราะคำพูด หรือท่าทาง ต้องมีสักอย่างที่กลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนอื่นมาชอบ

ตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยว ยังไม่ถึงจุดที่คนทั้งบ้านจิ๋นชอบ

ไม่แน่ บ้านจิ๋นที่ดูท่าทีของเธออยู่ ไม่มีแววที่จะให้หย่าแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหย่าไม่ได้!

หลับตาลงอย่างทำอะไรไม่ได้ ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดพึมพำขยิบมุมปากของตัวเอง ที่ทำให้เจ็บสุดไม่ใช่ทัศนคติของคนบ้านจิ๋น แต่เป็นจิ๋นลี่ยวนที่จนถึงตอนนี้ยังคงไม่อธิบายอะไรให้เธอเลย……

———ลี่ยวน นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเราพักกันเถอะ

ประโยคนี้เหมือนคำสาปที่ยังคงวกวนอยู่ในหัวเธอ ทำเอาเธอหายใจไม่โล่งคอสักที

เรื่องที่เข้าโรงพยาบาล ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้บอกยินจื่อเจิ้น นอกจากคนบ้านจิ๋นแล้วก็มีเพียงแค่ถาวหยีที่รู้

ตอนที่ถาวหยีถึงโรงพยาบาล ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้จากคุณหมอหยาง วันนี้เพียงแค่ดูต่ออีกสักหน่อยพรุ่งนี้ก็ออกโรงพยาบาลได้แล้ว เพราะอย่างนั้นพอถาวหยีถึงก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร แต่เรื่องที่ยินเสี้ยวเสี้ยวและต๋งไขที่ต้องเข้าโรงพักยังรู้สึกติดอยู่ ถ้าตอนนั้นเธอไม่รั้งพวกเขาสองคนไว้ อาจจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ได้……

“เสี้ยวเสี้ยว จิ๋นลี่ยวนพูดอะไรบ้างหรือยัง?” ถาวหยีถามอย่างเป็นห่วง ในฐานะเพื่อนเธอเข้าใจยินเสี้ยวเสี้ยวดีที่กลายเป็นแบบนี้ เป็นเพราะอะไร

ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ปิดบังอะไรเธอ เลยเล่าเรื่องเกี่ยวกับสายนั้นให้เธอฟัง หลังจากเงียบไปสักพักเพียงแค่พยักหน้า

ถาวหยีจ้องมองยินเสี้ยวเสี้ยว ทนไม่ได้ไหวขยับมุมปากพยักหน้าไปมา ยื่นมือไปหยิบแอปเปิลมาปอกให้ยินเสี้ยวเสี้ยวจากนั้นพูดต่อ: “เสี้ยวเสี้ยว แกพึ่งบอกฉันว่าแกหมดหวังในตัวจิ๋นลี่ยวน แต่ว่าแกรู้ดี ถึงแม้ตอนนี้แกจะไม่สนใจจิ๋นลี่ยวน และปฏิเสธเขาทุกอย่าง ก็เป็นเพียงเพราะแกโกรธ และหึงเขาเท่านั้นเอง”

คำพูดเดียว ยินเสี้ยวเสี้ยวกระพริบตาเล็กน้อย

ใช่ เธอโกรธ! ใช่ เธอหึง!

เธอยอมรับทั้งหมดนี้ เธอเป็นภรรยาของเขานะ ก่อนแต่งงานเขาปกป้องตัวเองขนาดนั้น แต่ทำไมหลังจากแต่งงานแล้ว หลังจากที่มู่ซูวปรากฏตัวก็เปลี่ยนไป? เธอไม่ชอบการเปลี่ยนไปแบบนี้……

ไม่พูดไม่ได้ ถาวหยีเข้าใจยินเสี้ยวเสี้ยวมาก เอาแอปเปิลยื่นให้กับเธอพูด: “เสี้ยวเสี้ยว ในเมื่อโกรธ งั้นก็แสดงว่า ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วต้องมีสักวันที่หายโกรธ”

ฟันที่กัดริมฝีปากไว้แน่น ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้พูดอะไร

ผ่านไปนานพอสมควร ถาวหยียื่นมือไปทาบตรงอกของยินเสี้ยวเสี้ยวเบาๆ พูดชัดถ้อยชัดคำกับเธอว่า: “เสี้ยวเสี้ยว ในตอนที่แกได้ยินเสียงในสาย แกกำลังคิดอะไรอยู่? ได้คิดถึงบ้านจิ๋นไหม ทำให้จิ๋นลี่ยวนชื่อเสียงป่นปี้ไหม? เคยคิดว่าจะไม่ชอบเขาไหม? อีกอย่าง แกคิดที่จะหย่ากับเขาไหม?”

ยินเสี้ยวเสี้ยวมองดูถาวหยีอยู่อย่างนั้น สายตาเต็มไปด้วยปฏิเสธ

“เสี้ยวเสี้ยว แกยอมรับเถอะ แกชอบจิ๋นลี่ยวน และหลังจากนี้ในชีวิตแกก็ยังจะชอบเหมือนเดิม ไม่ว่าจิ๋นลี่ยวนจะชอบหรือไม่ชอบแก ถึงแม้จะรู้ว่าเขายังมีคนเก่าที่พร้อมจะแต่งกับเขา ในตอนที่เขายังตัดสินใจอะไรไม่แน่ชัดเพียงแค่หันหน้าหนีไม่สนใจเขา ปฏิเสธเขาทุกรูปแบบ พูดตามตรงแกที่รู้สึกทนทุกข์ทรมานเอง แค่เพียงต้องการคำปลอบโยนของเขา……“ เสียงของถาวหยีที่ใสสะอาด ให้ความรู้สึกเหมือนมีมนต์สะกดทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกเคลิ้มตามไปด้วย “เสี้ยวเสี้ยว ถ้ายังไม่ได้คำตอบจากจิ๋นลี่ยวน แกอย่ารีบตัดสินใจเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยงหลิงหรือมู่ซูว ก็ต้องไปสนใจ สิ่งที่แกต้องสนใจตอนนี้ก็คือแก้แค้นบ้านจิ๋น! โดยเฉพาะคุณย่าจิ๋นคนนั้น!”

คำพูดของถาวหยีเข้าไปในใจของยินเสี้ยวเสี้ยว อยู่ในใจไปเรื่อยๆ……

อย่างน้อยเธอก็เป็นภรรยาของจิ๋นลี่ยวน เป็นสะใภ้บ้านจิ๋น ไม่ใช่เหรอ?

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Status: Ongoing

แม่เลี้ยงวางแผนอยากให้เธอแต่งงานกับชายแก่ที่มีอายุ 40ปี โดยเป็นการสมรสทางธุรกิจ เธอเลยไปจับผู้ชายบนถนนคนหนึ่งมาอย่างฉุกละหุกและถามว่า:“คุณกล้าแต่งงานกับฉันไหม?”จิ๋นลี่ยวที่เพิ่งถูกแฟนเบี้ยวนัดตอบว่า:“พอดีเลย วันนี้ผมเอาทะเบียนบ้านมาแล้ว ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีอายุ 23ปี ก็เลยแต่งงานกับผู้ชายที่พึ่งเจอกันสองครั้งแบบสายฟ้าแลบ หลังจากนั้น แม่สามีส่งเครื่องต้มไข่ให้กับยินเสี้ยวเสี้ยว บอกเธอว่าต้องทานไข่ทุกวันเพื่อเพิ่มโปรตีน พอดีจิ๋นลี่ยวนกำลังเดินผ่าน แล้วพูดอย่างจริงจังว่า:“ที่รัก คุณกินทุกวันไม่ใช่หรือ ยังไม่เพียงแต่อันเดียวเท่านั้น” ยินเสี้ยวเสี้ยวนิ่งไปสักพักแล้วใบหน้าก็แดงไปหมด:“คน…ลามก!”จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้ว:“ผมพูดอะไรไปหรอ?“

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท