บทที่113 เข้าใจหรือยัง
ความเงียบเหมือนตายกระจายภายในห้อง และในตอนที่ทุกคนคิดว่ายินเสี้ยวเสี้ยวทนไม่ไหว เธอกลับทำตัวสบายเอนหลังพิงเก้าอี้ สองมือทาบหน้าอก ค่อยๆเงยหน้ามองคุณหมอฉิง ยิ้มที่มุมปากอ่อนโยนเป็นพิเศษ เหมือนกับว่าฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว
คุณหมอฉิงหน้างอ ถามโดยไม่รู้ตัว”แกยิ้มอะไร?”
จู่ๆยินเสี้ยวเสี้ยวก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า”ฉันยิ้มอะไรเธอไม่รู้เหรอ?ฉันก็คิดว่าเธอรู้ ตัวเธอเองเป็นเรื่องตลกจริงๆนะ เรื่องตลกที่สนุกกว่าฉันยินเสี้ยวเสี้ยวเสียอีก!”
จิ๋นลี่ยวนที่อยู่ข้างๆขมวดคิ้ว ตาคมจ้องยินเสี้ยวเสี้ยวไว้
“คุณหมอฉิง เธอชอบจิ๋นลี่ยวนมาหลายปีแล้วสินะ?ฉันได้ยินคนในโรงพยาบาลบอกว่า เธอจีบเขามาหนึ่งปีกว่าแล้ว ถึงจะรู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้วเธอก็ยังจะทำแบบนั้น ในสายตาเธอนี่ก็คือความรักเหรอ?ไม่สนว่าการกระทำของตัวเองจะทำให้เขาเดือดร้อนรึเปล่า เอาแต่ใจตัวเองจะเอาความรักที่ตัวเองว่านั้นให้เขา?เธอทำอะไรในโรงพยาบาล เธอรู้อยู่แก่ใจ ฉันไม่พูดไม่เท่ากับว่าฉันไม่รู้”ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเบาๆ ในคำพูดนั้นไม่ได้มีอารมณ์มากเท่าไหร่ ในสายตาเย็นชามีความห่างเล็กน้อย”ไม่ว่าก่อนหน้านั้นจิ๋นลี่ยวนมีแฟน ก่อนหน้านี้ฉันก็มีแฟน พวกเราเลิกกับแฟนแล้วมาอยู่ด้วยกัน ทำไมจะไม่ได้?หรือว่า เธอคิดว่าคนนั้นควรจะเป็นเธอ ถึงจะได้?”
ทุกคนหันหน้ามองยินเสี้ยวเสี้ยว ผู้หญิงที่เหมือนเด็กในสายตาพวกเขา ทำไมถึงได้โตขึ้นกะทันหันกันนะ?
ยื่นมือตักแกงหนึ่งถ้วยให้จิ๋นลี่ยวนแล้ววางตรงหน้าเขา ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดต่อ”คุณหมอฉิง เธอเชื่อรึเปล่า พวกเราสองคนตักอาหารให้เขาพร้อมกัน เขาก็จะกินที่ฉันตัก ไม่กินที่เธอตักหรอก รู้ว่านี่หมายความว่าอะไรไหม?แสดงว่าในใจของเขาคนที่ใกล้ชิดมากกว่า คือฉัน ไม่ใช่เธอ!”
พูดจบ พูดจนคุณหมอฉิงหน้าซีด ตัวสั่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“ฉันไม่สนเธอในใจเธอจะไม่ยอมขนาดไหน ไม่พอใจขนาดไหน แต่ว่าวันนี้เธอไม่ยอมรับไม่ได้ ช่องบนชื่อคู่สมรสในทะเบียนบ้านของจิ๋นลี่ยวน คือของฉันไม่ใช่ของเธอ ตอนนี้นอกจากพวกเราจะยินยอมเอง ไม่อย่างนั้นไม่มีใครสามารถแยกพวกเราออกจากกันได้ แค่มู่ซูวคนเดียว เธอคิดเหรอว่าจะมีความสามารถมากกว่ากฎหมายของประเทศได้?”ยินเสี้ยวเสี้ยวมองเธอตรงๆ น้ำเสียงหนักแน่น
แต่ว่ามีแต่เฉิงชื่อชิงที่นั่งข้างๆยินเสี้ยวเสี้ยวสังเกตเห็น ตอนนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวกำลังเสแสร้ง!
กำลังแสร้งว่าตัวเองเข็มเข้มมาก ยิ่งใหญ่มาก ไม่มีใครสามารถทำร้านเธอได้ มือที่อยู่ใต้โต๊ะจับเสื้อตัวเองแน่น เผยความกังวลออกมา
คิ้วขมวด เฉิงชื่อชิงมองจิ๋นลี่ยวนที่ไม่ได้พูดอะไรอยู่ข้างๆ
จิ๋นลี่ยวน ไม่ได้อบอุ่นและไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เห็นภายนอก
สายตายินเสี้ยวเสี้ยวมองตรงคุณหมอฉิง พูดอย่างหนักแน่นสุดๆ”ฉันบอกเธอนะ คุณหมอฉิง หลังจากที่ฉันแต่งงาน ฉันไม่เคยเห็นมู่ซูวอยู่ในสายตาเลย!”
ประโยคเดียว’ฉันไม่เคยเห็นมู่ซูวอยู่ในสายตาเลย”พูดได้เย่อหยิ่งเหลือเกิน เอาแต่ใจเหลือเกิน แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวก็พูดออกมาแล้ว ไม่ใช่แค่ต่อหน้าคนเยอะขนาดนั้น และพูดออกมาต่อหน้าจิ๋นลี่ยวนด้วย
จิ๋นลี่ยวนเงยหน้ามองเธอ ตาโตเต็มไปด้วยความหนักแน่น
บางที ตอนแรกๆที่ยังไม่รู้เธอยังมองการอยู่ของมู่ซูวคือการข่มขู่อย่างหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้กลับไม่มีเลย บางทีสัมผัสที่หกของผู้หญิงก็แม่นจนน่ากลัว จิ๋นลี่ยวนไม่ได้รู้สึกอะไรมากกับมู่ซูว แค่ในเรื่องทั้งสามครั้งก็สามารถรู้ได้ หนึ่งครั้งคือในงานแต่งจิ๋นลี่ยวนทำเย็นชา หนึ่งครั้งคือในโรงพยาบาลจิ๋นลี่ยวนทำเมินเฉย อีกครั้งคือในบ้านใหม่จิ๋นลี่ยวนมองอยู่ห่างๆ
ถึงยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ใช่ปรมาจารย์ด้านความรัก แต่ว่าก็เข้าใจว่า ถ้าผู้ชายคนหนึ่งสามารถมองเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างเรียบเฉย งั้นก็พูดได้ว่า จุดยืนของผู้หญิงคนนั้นในหัวใจของเขาก็แค่นั้นเอง
ไม่พูดไม่ได้ แค่จุดนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็แม่นใช้ได้!
อ้าปาก ทุกคนก็มองคุณหมอฉิง แต่หล่อนดันแค่มองยินเสี้ยวเสี้ยวพูดไม่ออกสักคำ
พอผู้หญิงคนหนึ่งมองคนนั้นเป็นศัตรูจากไม่ได้เป็นศัตรูแต่แรก คนรอบข้างพูดแค่ไหนก็แค่พูดเอาใจทั้งนั้นแหละ เวลานี้กลับตอบรับประโยคหนึ่งของยินเสี้ยวเสี้ยวคุณหมอฉิงกลายเป็นตัวตลก
ทันใดนั้น เถียนหรงก็ออกมาแก้สถานการณ์ แต่ไม่ว่ายังไงบรรยากาศก็เปลี่ยนไปแล้ว สุดท้ายทุกคนก็แค่กินอะไรนิดหน่อยพูดคุยเล็กน้อยก็แยกย้าย ตอนที่ออกมาจากร้านอาหารเทาถี้ ทุกคนก็มีความมึนเมาเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขั้นเสียสติ
ผู้จัดการหวงรับผิดชอบส่งคนขึ้นรถทีละคนแล้วกันหลังเดินกลับห้องโถง มองจิ๋นลี่ยวนยินเสี้ยวเสี้ยวกับเฉิงชื่อชิงสามคนที่นั่งข้างหน้าต่าง พนักงานที่อยู่ข้างๆตาดีมอบกาน้ำชาหนึ่งอัน หลังจากเดินไปก็เฝ้าคอยเงียบๆในระยะที่ปลอดภัย
ค่ำคืนในเมืองT มีความหรูหรา และมีความเหงาเล็กน้อย
ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งบนโซฟาเงยหน้ามองท้องฟ้านอกหน้าต่าง คืนต้นฤดูใบไม้ร่วงยังคงเต็มไปด้วยดวงดาว แต่ดูเหมือนว่าจะสามารถมองเห็นความเย็นในอากาศได้อย่างชัดเจน ทำให้คนหนาวตัวหดโดยไม่รู้ตัว
“ครั้งแรกที่เจอคดีนายก็อยู่ที่เมืองTสินะ”จิ๋นลี่ยวนพูดอย่างไม่ใส่ใจ เทน้ำชาให้ยินเสี้ยวเสี้ยวยื่นถึงมือเธอ แก้วอุ่นๆทำให้ใบหน้าเธออบอุ่นและทำให้เขายิ้มได้”ครั้งนี้ไม่เป็นสายลับแล้วเหรอ?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวฟังคำพูดของจิ๋นลี่ยวนแล้ว มองเขาอย่างประหลาดใจ
ดูเหมือนบ้านจิ๋นกับตระกูลเฉิงไม่ได้สนิทกันธรรมดาเลยนะ ปกติเรื่องสายลับอะไรแบบนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือว่าไม่สำเร็จก็จะเก็บเป็นความลับ ขนาดยินเสี้ยวเสี้ยวกับยินจื่อเจิ้นก็ได้ยินครั้งเดียวหลังจากที่เฉิงชื่อชิงคลี่คลายคดีสำคัญระดับนานาชาติได้สำเร็จ แต่ว่าจิ๋นลี่ยวนกลับพูดออกมาเฉยๆเหมือนกับว่ารู้มานานแล้ว
เฉิงชื่อชิงได้ยินคำพูดนี้ก็แค่ฉีกยิ้มมุมปาก หลังจากนั้นค่อยพูดว่า”ทีหลังก็ไม่เป็นสายลับอีกแล้ว หลังจากจบคดีนี้ฉันก็ย้ายมาแนวหน้าแล้ว”
“ครั้งนี้พี่ชื่อชิงทำเกี่ยวกับอะไร?อันตรายรึเปล่า?”จิตใต้สำนึก ยินเสี้ยวเสี้ยวมีความเป็นห่วงเล็กน้อย
เฉิงชื่อชิงยิ้มอย่างอ่อนโยน พูดเสียงเบา”ไม่ถือว่าอันตรายมาก ครั้งนี้ถือว่าอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง แต่ว่าก็แค่ตามหาข่าวเฉยๆ อย่างอื่นไม่เกี่ยวกับฉัน ดังนั้นไม่อันตราย”
ฟังคำตอบของเฉิงชื่อชิง ยินเสี้ยวเสี้ยวพยักหน้าสบายใจขึ้น ครุ่นคิด ยินเสี้ยวเสี้ยวยิ้มถามทันที”งั้นหลังจากครั้งนี้พี่ชื่อชิงคงจะต้องคิดเรื่องแต่งงานแล้วสินะ?ให้ฉันแนะนำให้ไหม รอบตัวฉันมีตัวเลือกที่ไม่เลวอยู่นะ”
ยักคิ้วเล็กน้อย เฉิงชื่อชิงยกยิ้มมุมปาก กลับเป็นจิ๋นลี่ยวนที่มองเธองงๆ แล้วได้ยินที่เธอพูด
“ฉันรู้จักพี่สาวคนหนึ่ง ปีนี้อายุ29 สวยมาก นิสัยดี พี่ลองคบหาดูไหม?”ยินเสี้ยวเสี้ยวถามอย่างกลัวๆ
ไม่ว่ายังไง เธอก็ยังอยากให้เฉิงชื่อชิงสามารถมองเห็นจิ๋นลี่หยาว
พูดจบ จิ๋นลี่ยวนฉีกยิ้มขึ้นมา เฉิงชื่อชิงยิ้มเจื่อนเล็กน้อย
ใครบอกว่ายินเสี้ยวเสี้ยวไม่ฉลาด เป็นทำการกระทำบ้าบิ่น?ในสถานการณ์นี้พูดเรื่องของเฉิงชื่อชิงกับจิ๋นลี่หยาวอย่างเป็นธรรมชาติมาก ใช้วิธีที่ตรงไปตรงมาและสละสลวยที่สุดบอกเรื่องที่อยู่ในใจบอกกับผู้ชายทั้งสองคน
เฉิงชื่อชิงชอบตนเอง เธอรู้อยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เธอที่รู้ แต่ว่าคนที่อยู่รอบตัวเธอต่างก็รู้หมด เฉิงชื่อชิงไม่เคยปิดบัง แค่ว่าทุกคนไม่ได้เปิดโปงเท่านั้นเอง และตอนนี้จิ๋นลี่ยวนคือสามีของเธอ เธอไม่ให้เขาสับสนแบบนี้อีกแล้วแน่นอน ต้องชี้แจงการกระทำของตัวเองตั้งแต่แรก มันดีกับทุกคน
“เสี้ยวเสี้ยว”เรียกแบบทำอะไรไม่ได้ เฉิงชื่อชิงยังคงยิ้มไส่ แต่ว่าบาดแผลในตากลับเห็นได้ชัด”เธออย่าคิดว่าตัวเองแต่งงานแล้วก็เห็นคนรอบข้างโสดไม่ได้สิ”
น้ำเสียงทำอะไรไม่ได้ น้ำเสียงขี้เล่น มีความเอ็นดูและความเสียใจ
“เรื่องนี้พี่เฉิงคิดเองได้แหละ เสี้ยวเสี้ยว ดึกมากแล้ว พวกเราต้องกลับไปแล้ว”ทันใดนั้น จิ๋นลี่ยวนก็พูดขึ้น ถอดเสื้อนอกของตนเองให้ยินเสี้ยวเสี้ยวใส่ จูงมือเธอเตรียมตัวออกไป
ยินเสี้ยวเสี้ยวนิ่งไปแล้วหันหลังมองเฉิงชื่อชิง ยิ้มอย่างรู้สึกผิดแล้วตามจิ๋นลี่ยวนออกไป มองแผ่นหลังจากไปของจิ๋นลี่ยวนกับยินเสี้ยวเสี้ยว เฉิงชื่อชิงทนไม่ไหวหัวเราะออกมา
สำหรับเขาแล้ว ความรักระหว่างยินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวนไม่น่าเชื่อถือเหลือเกิน ถ้าเขายอมรอต่อไปอาจจะรอวันที่พวกเขาต่างคนต่างไปได้ แต่ไม่รู้ว่า หลังจากนี้เขายังมีโอกาสนี้รึเปล่า?
พอเรนจ์โรเวอร์จอดอยู่ล่างเมืองไห่เมียว จิ๋นลี่ยวนหันหน้าก็มองเห็นยินเสี้ยวเสี้ยวที่เข้านอนแล้ว ยิ้มอ่อน ลงรถเบาๆแล้วอุ้มยินเสี้ยวเสี้ยวขึ้นหันหลังเดินขึ้นลิฟต์ไป
ในลิฟต์ ยินเสี้ยวเสี้ยวขยับตัวอย่างไม่สบายตัว จู่ๆก็ลืมตาขึ้น จิ๋นลี่ยวนเห็นความตื่นตระหนักข้างใน
หลังจากยินเสี้ยวเสี้ยวคุ้นชินก็ถอนหายใจแรงๆ หลังจากนั้นก็ดิ้นรนจะลงมาจากอ้อมแขนของจิ๋นลี่ยวน แต่จิ๋นลี่ยวนดันไม่ปล่อยมือสักที แต่มองเธอนิ่งๆ
หลังจากดิ้นไม่ไหว ยินเสี้ยวเสี้ยวได้แต่ยอมมองเขาแล้วพูด”วางฉันลง”
ดวงตาดั่งหงส์หรี่เล็กน้อย จิ๋นลี่ยวนพูดอย่างเฉียบขาด”ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอกำลังโกรธ”
หายใจเข้า ยินเสี้ยวเสี้ยวหลบตา หันหน้าไปไม่ได้พูดอะไร
หรือว่าขนาดโกรธเธอก็ไม่มีสิทธิ์เหรอ? ภายในลิฟต์ที่เงียบ จิ๋นลี่ยวนถอนหายใจเบาๆ”บอกผม เธอกำลังโกรธอะไร?”
เขาไม่ชอบชีวิตที่ต้องทายไปทายมา แต่เหมือนกับว่าภรรยาตัวน้อยของเขาจะชอบเก็บไว้ในใจ ตั้งแต่แรกที่รู้ตัวตนของมู่ซูวแฟนเก่าคนนี้จนถึงตอนนี้ มักจะเก็บเรื่องไว้ในใจแล้วไม่บอกเขา
อากาศเงียบไปนานมาก จนลิฟต์ถึง ประตูเปิดออก จิ๋นลี่ยวนยังคงอุ้มเธอยืนในลิฟต์ไม่ขยับเลย ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเตือนอย่างอดไม่ได้ แต่เขากลับยังคงไม่ขยับ เงยหน้าสบตากับเขา ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้ว่าวันนี้จิ๋นลี่ยวนต้องได้คำตอบให้ได้แน่ๆ
เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองจะไม่ร่วงลงไป ยินเสี้ยวเสี้ยวยื่นมือคล้องคอจิ๋นลี่ยวนอย่างอดไม่ได้ ใส่เสื้อนอกของเขาไว้ พิงในอ้อมแขนเขา ถามเสียงเบา”จิ๋นลี่ยวน ฉันโกรธไม่ได้ เพราะว่านายไม่เคยให้ความมั่นใจกับฉัน และไม่เคยให้สิทธิ์ที่จะโกรธกับฉัน ดังนั้นโกรธไม่ได้ แบบนี้ นายเข้าใจยัง?