Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา – บทที่140 ฉันจะให้คุณ ชดใช้ด้วยชีวิต!

บทที่140 ฉันจะให้คุณ ชดใช้ด้วยชีวิต!

บทที่140 ฉันจะให้คุณชดใช้ด้วยชีวิต!

หลังจากกินข้าว ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เห็นว่าคนใช้ในบ้านกำลังจะเอาอาหารให้เอ้อฮัน และบอกว่าตัวเองอาสาจะออกไปเอง มู่เยียนหรานก็บอกว่าจะออกไปเดินเล่นเลยเดินออกไปด้วย

ในสวนดอกไม้ ยินเสี้ยวเสี้ยวย่อลงพูดกับเอ้อฮันในบ้านเล็กๆ ข้างหลังมีมู่เยียนหรานที่เดินตามมาอยู่

“เสี้ยวเสี้ยว” เรียกเบาๆ เสียงเรียกนี้มันมีความเหน็บแนมแทรกอยู่

เมื่อหันไป ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เห็นมู่เยียนหรานยืนอยู่พลางยิ้มให้ตัวเอง ผมนั้นปลิวไสวพริ้วตามสามลม

“มีอะไรไหม?” เธอถามเบาๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอมีข่าวกับจิ๋นลี่ยวน เธอไม่ชอบหล่อน อย่างไม่มีเหตุผล ยิ่งตอนที่เจอเธอครั้งแรก ยินเสี้ยวเสี้ยวก็รู้ว่าเธออันตรายมาก

หลายครั้ง ที่เซนส์ของผู้หญิงนั้นมันน่ากลัวมาก แล้วเซนส์ของยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่เคยผิดเลย

“ไม่มีอะไร ฉันแค่จะมาช่วยคุณน่ะ” พูดจบ มู่เยียนหรานก็นั่งยองลงตรงหน้าเอ้อฮัน ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวของเอ้อฮัน

เอ้อฮันไม่ใช่หมาน้อย มันตัวโตมากแล้ว ปกติจะร่าเริงขี้เล่น แต่ก็ต้องเป็นคนที่คุ้นเคยด้วยเท่านั้น ถึงแม้ว่าช่วงนี้มู่เยียนหรานจะมาที่บ้านจิ๋นบ่อยๆ แต่เอ้อฮันก็รู้ว่าเจ้าของของตัวเองคือใคร เมื่อโดนรบกวนตอนกินข้าวก็ไม่มีใครชอบหรอก เลยเผยให้เห็นความโหดร้ายออกมาเล็กน้อย

“เอ้อฮัน!” ยินเสี้ยวเสี้ยวเรียกเบาๆ ก่อนจะหันไปหามู่เยียนหรานแล้วพูดว่า: “คุณมู่ ตอนเอ้อฮันกินข้าวมันไม่ชอบให้ใครมาจับ ตอนนี้คุณอย่างเพิ่งไปจับมันจะดีกว่า”

เธอชักมือกลับมา มู่เยียนหรานไม่ได้ขยับ เพียงแต่มองเอ้อฮันแล้วพูดกับยินเสี้ยวเสี้ยว: “เสี้ยวเสี้ยวไม่ชอบฉันมากเลยใช่ไหม บอกฉันได้ไหมว่าเพราะอะไร?”

ตกตะลึงไปเล็กน้อย ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

เธอจะเอาอะไรมาให้หล่อนชอบเธอ ผู้หญิงที่แย่งสามีเธอไป ทำไมเธอต้องชอบด้วย?

“คุณมู่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ฉันไม่ได้เกลียดคุณ” เพียงแค่ไม่ชอบคุณ

สำหรับมู่เยียนหราน ยินเสี้ยวเสี้ยวมักจะถือความเป็นศัตรูอยู่ด้วยตลอดเวลา

“ให้ฉันทายว่าเพราะอะไรไหม?” มู่เยียนหรานกลับทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ยินเสี้ยวเสี้ยวตอบ ก่อนจะพูดออกมาตรงๆ แต่มือเล็กๆ กลับยื่นออกไปแกล้งหยอกล้อกับเอ้อฮันตลอด และมีท่าทีจะเข้าใกล้อาหารของเอ้อฮันด้วย “เป็นเพราะว่าฉันมีข่าวกับลี่ยวน หรือว่าเพราะว่าฉันหมั้นกับลี่ยวนเหรอ?”

ประโยคนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวสีหน้าเย็นชาขึ้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“ยินเสี้ยวเสี้ยว คุณคิดว่าคุณจะชนะฉันไหม?” จู่ๆ คำพูดของมู่เยียนหรานคำเดียว ก็หันมามอง ยินเสี้ยวเสี้ยวขำจนแปลกไป “คุณเดา ว่าถ้าฉันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ คนของบ้านจิ๋นจะมีปฏิกิริยาอย่างไร คนรับใช้บ้านจิ๋นจะมีท่าทีอย่างไร แล้วจิ๋นลี่ยวนจะปกป้องคุณก่อน หรือปกป้องฉันก่อนใช่ไหมล่ะ?”

“มู่เยียนหราน!” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเสียงดัง ครึ่งหนึ่งก็เพราะว่าคำพูดของมู่เยียนหราน แต่มากกว่านั้นคือการกระทำของมู่เยียนหราน เธอแย่งของกินจากปากของเอ้อฮันตอนพูดเลยงั้นเหรอ!

ท่าทีที่ดูอ่อนโยนของสัตว์แต่ก็ยังมีคสามดุร้ายอยู่ดี ท่าทีของมู่เยียนหรานนั้นอันตรายเหมือนกับจะถอนเขี้ยวเสือเลย เอ้อฮันโกรธขึ้นมา หลังจากส่งเสียงขู่ออกมาก็กระโจนเข้ามาหา ยินเสี้ยวเสี้ยวอดที่จะร้องออกมาไม่ได้ เลยร้องออกมาด้วยความไม่สบายใจ……

“โอ๊ย!”

เสียงเล็กแหลมนั้นทำให้คนในคฤหาสน์จิ๋นสนใจ มีคนไม่น้อยที่ออกมาดูก็ตกใจกันหมด แถมยังหยุดชะงักก่อนจะดึงสติกลับมาได้อีกด้วย

เอ้อฮันที่อ่อนโยนนั้นกำลังกระโจนจนคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ที่อ่อนโยนมาตลอดล้มลงกับพื้น และกรีดร้อง แยกเขี้ยว ด้วยแววตาโกรธแค้นเหมือนกับจะกัดเธออย่างนั้นเลย……

“เอ้อฮัน!” ยินเสี้ยวเสี้ยวตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า เธอยังไม่ทันจะดึงสติกลับมาจากคำพูดของมู่เยียนหรานก็ต้องตกใจอีกครั้ง จากนั้นก็พยายามจะเข้าไปคุมเอ้อฮัน แต่เพราะว่าเสียงร้องของเธอ มันทำให้คนดูแลเอ้อฮันโดยเฉพาะต้องเข้ามา

เอ้อฮันถูกจูงไปอย่างรวดเร็ว แต่ว่ามู่เยียนหรานยังคงนอนหน้าซีดอยู่ที่พื้น มือทั้งสองกุมเสื้อแถวๆ หน้าอกของตัวเอง ท่าทีเหมือนกับจะทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวแอบคิดว่าผู้ป่วยอาการกำเริบ……

ในตอนนั้นเอง ยินเสี้ยวเสี้ยวตกตะลึงไปแล้ว

มู่เยียนหราน ป่วยเหรอ?

เมื่อย่าจิ๋นออกมาก็เห็นว่าเอ้อฮันกระโจนใส่มู่เยียนหรานก็ตกใจจนชะงักไป ก่อนจะรีบเข้ามาด้วยความรวดเร็ว พลางพูดว่า: “เยียนหราน เยียนหราน ไม่ต้องกลัว คุณย่าอยู่นี่ คุณย่าอยู่นี่นะ……”

จนกระทั่งเอ้อฮันถูกพาออกไป ยินเสี้ยวเสี้ยวก็มองมู่เยียนหรานที่เอามือกุมหน้าอกด้วยความไม่เข้าใจ และค่อนข้างไม่ร้อะไรเลย

ไม่เคยมีใครบอกเธอมาก่อน ว่ามู่เยียนหรานป่วย!

ยินเสี้ยวเสี้ยวมองคุณย่าจิ๋นกับจิ๋นลี่ยวนที่เข้ามาด้วยความรวดเร็ว ข้างหลังยังมีคนใช้อีกมากมาย ทุกคนเคร่งเครียด เหมือนกับว่ามู่เยียนหรานตายไปแล้วอย่างนั้น

“เยียนหราน เยียนหราน……” คุณย่าจิ๋นคุกเข่าอยู่ที่พื้น แต่ไม่กล้าแตะมู่เยียนหรานด้วยมือสั่นๆ จิ๋นลี่ยวนนั้นเริ่มเข้าช่วยเหลือตั้งแต่แรก ท่าทีจริงจังเหมือนกับทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้สติสักที

แต่ก็แค่หมาทำให้ตกใจเท่านั้นเอง ต้องขนาดนั้นเลยเหรอ?

คุณแม่เสิ่นรีบเรียกรถพยาบาลด้วยความรวดเร็ว และโทรหาตระกูลมู่ด้วย คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่มาเกิดเรื่องอาการป่วยแบบนี้ที่บ้านจิ๋นใครก็ไม่พอใจ แต่ก็ปิดเอาไว้ไม่ได้เช่นกัน

มู่เยียนหรานจับเสื้อของตัวเองตรงหน้าอกเอาไว้แน่น หน้าผากมีเหงื่อไหลเต็มไปหมด เสื้อผ้าถักของเธอมันเหมือนถูกย้อมไปด้วยเหงื่อหมดแล้วในตอนนี้ ทั้งเนื้อทั้งตัวคุดคู้อย่างควบคุมไม่ได้ ขนาดการหายใจยังยากเลยมากกว่าเดิมเป็นพิเศษ จิ๋นลี่ยวนกับคุณย่าจิ๋นพยายามจะพูดคุยกับเธอตลอดเวลา แต่เธอกลับพูดอะไรไม่ออกเลย จิ๋นลี่ยวนพยายามให้เธอปรับการหายใจ แต่มู่เยียนหรานไม่มีแรงแล้ว……

ไม่นาน คุณแม่เสิ่นก็กลับมาที่ห้องพร้อมกับยาที่มู่เยียนหรานพกติดตัวมาด้วยก่อนจะเอายาใส่ปากให้ ในตอนนั้น คนขับรถของตระกูลคุณเฉิงเองก็รีบเตรียมรถมาถึงก่อนจะพามู่เยียนหรานไปส่งที่โณงพยาบาล เพราะรอรถพยาบาลมันเสียเวลามากแล้ว……

“ลี่ยวน เร็ว รีบพาเยียนหรานขึ้นรถ……” คุณย่าจิ๋นสั่งเสียงดัง คนใช้ของบ้านจิ๋นก็ยุ่งวุ่นวายกัน มีเพียงยินเสี้ยวเสี้ยวคนเดียวที่ยืนอยู่ข้างๆ โดยไม่ได้พูดอะไร

มู่เยียนหรานป่วยเหรอ?

เธอเพิ่งจะมีสติกลับมา พลางมองผู้หญิงที่นอนอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวดด้วยสายตาเย็นชา ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ

ผู้หญิงที่กล้าเอาชีวิตของตัวเองมาเป็นเดิมพัน มันน่ากลัวเหลือเกิน!

จิ๋นลี่ยวนปรายตามองยินเสี้ยวเสี้ยวก่อนจะอุ้มมู่เยียนหรานขึ้นมาจากพื้น และรีบเดินไปทางที่รถจอดอยู่ สักพักยินเสี้ยวเสี้ยวถึงจะมีสติและเดินตามไป แต่คุณย่าจิ๋นกลับขวางเอาไว้ ด้วยสีหน้าที่เย็นยะเยือก จากนั้นจึงเงื้อมือขึ้น

เพี๊ยะ!

เสียงดังสนั่น คนรับใช้ทุกคนในบ้านจิ๋นต่างอดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย แต่สีหน้านั้นกลับเป็นความสมน้ำหน้าที่ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่อาจลืมได้ในชีวิตนี้!

“ยินเสี้ยวเสี้ยว ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเยียนหราน ฉันจะให้คุณชดใช้ด้วยชีวิต!”

เสียงของความโกรธ มันทำให้ใจของยินเสี้ยวเสี้ยวสลาย

จิ๋นลี่ยวนอุ้มมู่เยียนหรานเดินออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ พลางดูอาการคนไข้ด้วยว่ายังมีอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือเปล่า มองดูท่าทีที่ดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากกินยาของมู่เยียนหราน จิ๋นลี่ยวนเลยจะลงจากรถ แต่คุณย่าจิ๋นกลับเดินตามมาในตอนนั้นเอง ข้างหลังไม่มียินเสี้ยวเสี้ยว จิ๋นลี่ยวนเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วเป็นปมพลางอยากจะลงจากรถ แต่กลับถูกมู่เยียนหรานดึงแขนเสื้อเอาไว้

“เยียนหราน เยียนหราน ตอนนี้อย่าพูดไป รีบไปพักเถอะ เดี๋ยวพวกเราจะไปโรงพยาบาล ย่าจะไม่ให้คุณเกิดเรื่อง” คุณย่าจิ๋นปลอบเบาๆ ด้วยท่าทีที่เหมือนกับเป็นปกติของคุณย่า

มู่เยียนหรานกลับส่ายหัวอย่างลำบากใจ เธอในตอนนี้ที่ไม่ได้พูดอะไรสุดท้ายก็พูดออกมา แต่ที่พูดออกมากลับเป็น: “คุณย่า ไม่เกี่ยวกับเสี้ยวเสี้ยว เป็นฉันเอง……”

“พอแล้ว!คุณไม่ต้องพูดแล้ว คุณย่าเองรู้” ตอนนี้คุณย่าได้ยินคำว่า ‘ยินเสี้ยวเสี้ยว’ สามคำนี้ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอไม่ใช่เด็กจากครอบครัวใหญ่โต ทำอะไรเกินไปจนทำให้น่าโมโห “ตอนนี้คุณไปพักผ่อนเถอะ ฉันจะให้ลี่ยวนปกป้องคุณอยู่ข้างๆ เอง”

เมื่อจิ๋นลี่ยวนได้ฟัง ก็ต้องขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม

มู่เยียนหรานมองจิ๋นลี่ยวนพลางเม้มปาก ในตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จากนั้นจึงพูดว่า: “คุณย่า ให้ลี่ยวนไปดูเสี้ยวเสี้ยวเถอะ เธอเองก็ตกใจแทบแย่……”

เสียงนั้นเบามาก แม้แต่การพูดยังตะกุกตะกักเลย ท่าทีนั้นเหมือนกับจะขาดอากาศหายใจไปเมื่อไหร่ก็ได้ น่าสงสารจนคุณย่าจิ๋นรีบกุมมือของเธอพลางพูดว่า: “เยียนหราน ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ลี่ยวนเป็นหมอ เขาจะไปโรงพยาบาลกับพวกเรา ไม่ต้องกังวลฝั่งยินเสี้ยวเสี้ยว หลังจากที่หายดีแล้ว ย่าจะหาความยุติธรรมให้คุณเอง”

คุณเฉิงรอให้คนที่นั่งข้างหลังบอกทางเขา ในตอนนั้นเองสุดท้ายก็ได้รับคำสั่งจากคุณย่าจิ๋นเลยเหยียบคันเร่งออกไป จิ๋นลี่ยวนมองแขนเสื้อของตัวเองที่ถูกมู่เยียนหรานดึงเอาไว้เหมือนกับเป็นฟางเส้นสุดท้ายก็ทำได้แค่ถอนหายใจเงียบๆ เพียงแค่หวังว่าเมื่อกลับมาแล้ว เสี้ยวเสี้ยวจะไม่เป็นไร……

……

สิ่งที่มู่เยียนหรานพูดนั้น มีคนรับใช้อยู่รอบๆ ไม่น้อยเลย คนเราก็เป็นแบบนี้ เมื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นขอแค่มีคนเห็นเรื่องทั้งหมดก็จะสะพัดขึ้นอย่างรวดเร็ว มู่เยียนหรานกลุ่มนั้นเพิ่งจะออกไปจากคฤหาสน์จิ๋นได้เพียงห้านาที เรื่องที่มู่เยียนหรานขอให้กับยินเสี้ยวเสี้ยวก็เริ่มเกิดขึ้นทั่วทุกมุมของบ้านจิ๋น……

ยินเสี้ยวเสี้ยวนั่งอยู่เงียบๆ ตรงห้องรับแขก เมื่อคนรับใช้เห็นเธอก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเบาๆ

คุณนายน้อยสามตระกูลจิ่น ดูใสๆ และมีเมตตา ที่แท้ก็เป็นคนที่จิตใจยากจะหยั่งถึงนี่เอง

ในห้องนั้นมีความตึงเครียดมากเสียจนทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวหายใจไม่สะดวก จิ๋นลี่ยวนไม่ได้กลับมาเพราะต้องตามไปโรงพยาบาล เมื่อรู้แบบนี้แล้วยิ่งทำให้ใจของเธอเริม่สนใจคำพูดที่มู่เยียนหรานเคยถามเอาไว้ เลยเดินอยู่ที่สวนดอกไม้ของบ้านจิ๋นเพียงลำพัง ยินเสี้ยวเสี้ยวผลุบตาลงไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

——คุณนายน้อยสามเนี่ย รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ

——หึ ฉันว่าเธอต้องเป็นพวกชอบแกล้งทำเป็นอ่อนแอแน่นอน

——เอ้อฮันนี่ก็จริงๆ เลย ปกติเชื่องจะตายวันนี้จู่ๆ ก็เป็นบ้าขึ้นมา ฉันว่าต้องเป็นฝีมือคุณนายน้อยสามคอยสั่งแน่เลย

——จะไม่ใช่ได้อย่างไร คุณว่าคุณย่าคิดแบบนั้น ในบ้านนี้นอกจากคุณย่า เอ้อฮันก็ชอบคุณนายน้อยสามมากที่สุดแล้ว ถ้าเกิดบอกว่าไม่ใช่เธอชี้แนะ ฉันก็ไม่เชื่อ……

……

ยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ตรงมุมเบะปากแต่ไม่ได้พูดอะไร สุดท้ายก็ยังเลือกที่จะนั่งรถตัวเองไปที่โรงพยาบาลหนันหยู

ถึงแม้ว่าเธอจะแบกรับคำก่นด่าเอาไว้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เธอรู้ว่าเพราะอะไร?

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Status: Ongoing

แม่เลี้ยงวางแผนอยากให้เธอแต่งงานกับชายแก่ที่มีอายุ 40ปี โดยเป็นการสมรสทางธุรกิจ เธอเลยไปจับผู้ชายบนถนนคนหนึ่งมาอย่างฉุกละหุกและถามว่า:“คุณกล้าแต่งงานกับฉันไหม?”จิ๋นลี่ยวที่เพิ่งถูกแฟนเบี้ยวนัดตอบว่า:“พอดีเลย วันนี้ผมเอาทะเบียนบ้านมาแล้ว ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีอายุ 23ปี ก็เลยแต่งงานกับผู้ชายที่พึ่งเจอกันสองครั้งแบบสายฟ้าแลบ หลังจากนั้น แม่สามีส่งเครื่องต้มไข่ให้กับยินเสี้ยวเสี้ยว บอกเธอว่าต้องทานไข่ทุกวันเพื่อเพิ่มโปรตีน พอดีจิ๋นลี่ยวนกำลังเดินผ่าน แล้วพูดอย่างจริงจังว่า:“ที่รัก คุณกินทุกวันไม่ใช่หรือ ยังไม่เพียงแต่อันเดียวเท่านั้น” ยินเสี้ยวเสี้ยวนิ่งไปสักพักแล้วใบหน้าก็แดงไปหมด:“คน…ลามก!”จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้ว:“ผมพูดอะไรไปหรอ?“

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท