บทที่172 พญายม
ท่ามกลางฝูงชนมีผู้หญิงกรีดร้องขึ้นมา ไม่กล้ามองไป
เว่ยโถ้หยีตกใจกลัวจนหมดสติไป ยินรั่วอวิ๋นรีบเข้าไปประคองเธอไว้ เซี่ยงกั๋วซิวและเซี่ยงเฉิงค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้เซี่ยงหลิน ตำรวจที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็กำลังเข้าไปอย่างช้า ๆ เช่นกัน
เสียงกรีดร้องนั้นเรียกสติเซี่ยงหลินขึ้นมา ปลายมีดที่เย็นเฉียบหยุดห่างจากบาดแผลเพียงหนึ่งเซนติเมตร
เซี่ยงหลินเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่กรีดร้องและถามอย่างว่างเปล่า “ของนี่มาอยู่ในมือฉันได้ยังไงน่ะ? มันควรจะอยู่ในมือของคนอื่นแล้วจากนั้นเขาก็เอามาแทงที่ท้องฉันไม่ใช่เหรอ?”
เพียงประโยคเดียว ผู้คนในที่นั้นล้วนหยุดส่งเสียง
คาดเดาว่าเซี่ยงหลินคงจะเข้าห้องผ่าตัดก่อนที่ฤทธิ์ของยาสลบจะทำงานเต็มที่ แล้วเห็นมือของหมอที่จับมีดผ่าตัดผ่าท้องของเธอ…..
เซี่ยงเฉิงและเซี่ยงกั๋วซิวตกใจจนแทบเสียสติ ในนั้นเซี่ยงเฉิงเป็นหนักมากที่สุด
ภาพตรงหน้านั้นเขาไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต!
ในตอนที่พุ่งเข้าไปในห้องผ่าหัด เขาก็เห็นน้องสาวของตัวเองนอนอยู่บนเตียง หมดคนหนึ่งถือมีดผ่าตัดเย็นเฉียบ เตรียมจะนำอวัยวะภายในของเธอออกมา เขาถึงกับมองเห็นภายในช่องท้องของเซี่ยงหลินได้อย่างชัดเจน หัวใจที่กำลังเต้น ปอดที่สูบขึ้นลงเบา ๆ ตับที่ไร้เสียง….
ภาพนั้นกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง จนเซี่ยงเฉิงวิ่งเข้าไปหาหมอโดยที่สมองก็ยังสั่งการไม่ทัน เขาไม่ได้คิดว่ามันจะไปกระแทกเตียงของเซี่ยงหลินเข้า เตียงคนไข้ไม่ได้ยึดติดกับพื้นเขยื้อนเซี่ยงหลินอยู่หลายครั้ง ร่างของเธอขยับเล็กน้อยทำให้ศีรษะของเธอไปกระแทกกับเครื่องมือแพทย์ขนาดใหญ่อีกด้านหนึ่ง…
โชคยังดีที่จิ๋นลี่ยวนนำคนเข้ามาอย่างรวดเร็ว มีคนที่ถือปืนพกในห้องผ่าตัดยิงใส่พวกเขาทันที หลังเกิดความวุ่นวายอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึง พวกคนร้ายจึงได้ล่าถอยไป…..
ในตอนนี้เซี่ยงหลินไร้ความละอายโดยสิ้นเชิง เสื้อผ้าที่ถกขึ้นสูงเผยร่างกายส่วนใหญ่ต่อหน้าผู้คน มือถือมีดผ่าตัดราวกับกำลังนึกถึงว่าหมอคนนั้นทำยังไง คิดอยากจะลอกหน้าท้องตัวเองออกมาทีละนิด
“ทำไมล่ะ? ทำไมถึงอยากจะผ่าท้องฉันกัน?”
“มีเอลฟ์อยู่ในท้องของฉันรึเปล่า? ฉันต้องช่วยเอลฟ์……”
“ฮิฮิ ฉันเป็นอัจฉริยะจริง ๆ ถึงกับช่วยเอลฟ์ได้ด้วย….”
……
เธอพึมพำอย่างโง่เขลา เซี่ยงหลินเสียสติกลายเป็นท่วงทำนองที่บ้าคลั่งอย่างสิ้นเชิง สภาพนั้นสามารถมองออกได้อย่าง่ายดายว่าตอนที่เธอออกมาจากห้องผ่าตัดก็ถูกส่งเข้าสู่การผ่าตัดเย็บแผลอีกครั้ง ในตอนนี้สีหน้าของเธอขาวซีดไร้สีแต่เธอก็ยังมีพลังที่จะส่งเสียงดัง….
เมื่อเห็นมีดผ่าตัดขยับเข้าไปใกล้ปากแผลที่มีเลือดไหลออกมาของเธอ เซี่ยงกั๋วซิวและเซี่ยงเฉิงก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“หลินหลิน!”
“หลินหลิน!”
เซี่ยงหลินมองกลับไปที่พวกเขาอย่างว่างเปล่า แต่มีดในมือเธอกลับไม่ได้ถอนออกเลยแม้แต่น้อย ทันใดนั้นเซี่ยงหลินก็ถอยหลังไปอย่างลนลาน มีดผ่าตัดในมือถูกทิ้งลงบนพื้น เซี่ยงหลินขดตัวแล้วเริ่มกรีดร้อง ปากพูดพึมพำไม่หยุด
“ไม่เอานะ อย่าเอาหัวใจของฉัน อย่าทำลายร่างกายของฉัน ฉันอยากมีชีวิตอยู่….ฉันไม่อยากตาย….”เซี่ยงหลินเพ้อขณะกำลังร้องไห้ คำพูดขาด ๆ หาย ๆ ไม่ต่อเนื่องกัน“อย่า ฉันไม่อยากช่วยเอลฟ์แล้ว ไม่เอาแล้ว….อย่าเอาหัวใจน้อย ๆ ของฉันไป ไม่เอา ไม่เอานะ….”
สุดท้ายเซี่ยงกั๋วซิวก็ไม่อาจทนได้ ชายชราหลั่งน้ำตา
เซี่ยงเฉิงเตะมีดผ่าตัดออกอย่างรวดเร็วแล้วยื่นแขนโอบกอดเซี่ยงหลินไว้ในอ้อมกอดของตัวเองแน่น แต่เซียงหลินที่บ้าคลั่งเริ่มดิ้นรนอย่างสุดกำลัง มือเท้าตบตีเซี่ยงเฉิงสะเปะสะปะ เสื้อผ้าที่แขนของเซี่ยงเฉิงที่เห็นอยู่เปื้อนเลือดอย่างรวดเร็ว ถึงกับเห็นได้ชัดว่าสีหน้าของเซี่ยงเฉิงซีดเซียวอิดโรย แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อย….
“หลินหลิน หลินหลิน ไม่ต้องกลัว พี่อยู่นี่ พี่อยู่นี่แล้ว ไม่มีใครกล้ารังแกเธออีก….”เซี่ยงเฉิงพูดขลุกขลักเล็กน้อย “หลินหลิน พี่จะไม่ยอมให้ใครเอาหัวใจของเธอไป ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว….”
เซี่ยงกั๋วซิวก็ยืนอยู่ไม่ไกล เขาเห็นเซี่ยงหลินกับเซี่ยงเฉิงอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ แต่ระยะห่างเพียงหนึ่งก้าวนั้นเขาไม่สามารถข้ามไปได้ จิตใต้สำนึกราวกับรู้สึกอยู่ตลอดว่าหากไม่ก้าวข้ามไปสิ่งเหล่านั้นก็จะไม่ใช่ความจริง…..
“หลินหลินเด็กดี พี่อยู่นี่ พี่อยู่นี่แล้ว….”เซี่ยงเฉิงค่อย ๆ ปลอบขณะน้ำตาไหลอาบแก้ม “เด็กดี ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว พี่จะปกป้องเธอเอง….”
ชั่วขณะที่เห็นเซี่ยงหลินอยู่ในห้องผ่าตัด เซี่ยงเฉิงแทบอยากจะฆ่าพวกคนที่อยู่ในที่นั้นซะให้หมด
คุณหนูผู้สูงส่งแห่งตระกูลเซี่ยงของเขา เจ้าหญิงน้อย่น่ารักที่ได้รับการประคบประหงมราวอัญมณีมาตั้งแต่เด็กต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
ถ้าไม่ใช่เพราะผลกระทบทางอารมณ์ของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาคิดว่าเซี่ยงหลินหยิ่งยโสจนควรได้รับบทเรียน เขาก็คงไม่ละเลยเธอเพราะความโมโห แค่พริบตาเดียว พริบตาเดียวเท่านั้น แค่ไม่กี่วินาที เซี่ยงหลินก็ต้องกลายเป็นแบบนี้….
เซี่ยงหลินที่เสียสติสุดท้ายก็ไม่ได้ยินคำพูดของเซี่ยงเฉิง เธอกรีดร้องและทุบตีเซี่ยงเฉิงอย่างบ้าคลั่ง
จิ๋นลี่ยวนถือยากล่อมประสาทไว้ในมือแล้วก้าวเข้าไปอย่างไม่ลังเล เขาฉีดมันเข้าที่ข้อมือของเซี่ยงหลิน ไม่นานเซี่ยงหลินที่เอะอะโวยวายก็สงบลง
เซี่ยงยังไม่ได้ปล่อยเซี่ยงหลินลง จิ๋นลี่ยวนเองก็ไม่ได้ใส่ใจ เพียงแค่เลิกเสื้อผ้าของเซี่ยงหลินขึ้นดูเล็กน้อยก่อนเอ่ย “รีบส่งเธอไปที่ห้องผ่าตัด ปากแผลเปิดแล้วต้องรีบเย็บทันที”
ห้องผ่าตัด…..
เพียงแค่ได้ยินคำคำนี้ เซี่ยงเฉิงและเซี่ยงกั๋วซิวก็อดร่างสั่นสะท้านไม่ได้
ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อย จิ๋นลี่ยวนพูดขึ้น “ฉันจะเย็บแผลให้เธอด้วยตัวเอง จากนั้นก็ย้ายเซี่ยงหลินไปที่โรงพยาบาลหนันหยู”
เช่นนั้นเซี่ยงเฉินและเซี่ยงกั๋วซิวจึงได้ยอมปล่อยเซี่ยงหลินไปอย่างไม่เต็มใจ ให้พยาบาลจากโรงพยาบาลหนันหยูวางเซี่ยงหลินลงบนเตียงแล้วย้ายเข้าห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็ว
กลุ่มคนดูในที่นั้นเหมือนถูกสะกิดให้รู้สึกตัว พากันเข้าไปถามหาเรื่องราว
——คุณชายเซี่ยง คุณหนูสองเสียสติไปแล้วเหรอ?
——คุณชายเซี่ยง คุณหนูสองไม่ใช่ว่าไม่ได้เป็นที่รักของตระกูลเซี่ยง ทำไมเมื่อคืนพวกคุณไม่ส่งเธอไปโรงพยาบาลหนันหยูแล้วมาที่นี่กันล่ะ?
——คุณชายเซี่ยง เรื่องนี้ตระกูลเซี่ยงรู้อยู่ก่อนแล้วรึเปล่า? ตระกูลเซี่ยงไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้ารึเปล่า?
——คุณชายเซี่ยง คุณหนูสองเป็นบ้าไปแล้ว คุณได้วางแผนจัดการอะไรไว้มั้ย?
……
คำพูดแต่ละคำทิ่มแทงความรู้สึก คนพวกนี้ไม่ได้สนจิตใจของคนอื่นอยู่แล้ว มีอะไรที่อยากรู้ก็จะถามออกมา แม้แต่สรรหาคำถามที่ทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรงก็ทำได้
จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นเซี่ยงเฉิงก็แค่นหัวเราะออกมา
เซี่ยงเฉิงเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาแดงก่ำเลือดคู่หนึ่งตกอยู่ในสายตาของทุกคนทำเอาผู้คนรู้สึกเย็นยะเยือกโดยไม่รู้ตัว
“ฉันเซี่ยงเฉิงขอสาบาน ฉันจะลากตัวไอ้คนที่มันทำร้ายน้องสาวฉันมาเอาคืนเป็นร้อยเท่าให้จงได้! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตระกูลเซี่ยงของฉันจะบอกกับพวกคุณ หากไม่แก้แค้นให้น้องสาวฉันก็ไม่ใช่คน! ส่วนเรื่องคุณหนูแห่งตระกูลเซี่ยง ใครกล้ามารังแกต้องข้ามฉันไปก่อน และจะเอาคืนเป็นพันเท่า!”
หลังคำพูดนั้น ช่องทางที่เหลืออยู่ไม่อาจหันกลับก็เข้าใจไปใจของทุกคน เซี่ยงเฉิงเอ่ยจบก็หมุนตัวตามจิ๋นลี่ยวนไป แผ่นหลังที่เหยียดตรงชั่วขณะนั้นทำให้ผู้คนต่างรู้สึกว่าประเมินคุณชายคนนี้ต่ำไปอย่างนั้นเหรอ?
แต่วันนี้ ความกระหายเลือดในตัวของเซี่ยงเฉิงถูกเรื่องของเซี่ยงหลินดึงออกมา
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองเซี่ยงเฉิงที่อยู่ในโทรทัศน์ก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอเคยเห็นเซี่ยงเฉิงเป็นแบบนี้แล้วครั้งหนึ่ง นั่นคือตอนที่เธอถูกคนเข้ามาพัวพันที่นอกวิทยาเขต และก็เพราะตอนนั้นเธอเพิ่งจะตกลงเป็นแฟนกับเขา แต่หลังจากนั้นมาเซี่ยงเฉิงที่เป็นแบบนั้นก็ไม่ปรากฏออกมาอีก จนวันนี้กลับปรากฏออกมาอีกครั้ง…
ครั้งนี้ เซี่ยงเฉิงไม่ใช่เซี่ยงเฉิงที่เคยทำอะไรโดยพลการคนนั้นแล้ว….
ถาวหยีดูการถ่ายทอดสดทางทีวี ในใจอดสั่นสะท้านไม่ได้
ถ้าเมื่อคืนพวกเธอวิ่งช้ากว่านี้อีกหน่อยตอนนี้คงจะตายไปแล้วสินะ หรือจะเหลือแค่ร่างกายเปล่า ๆ กันนะ?
เอื้อมมือลูบหน้าท้องเล็ก ๆ ของตัวเอง ถาวหยีรู้สึกกลัวขึ้นมา….
ตระกูลมู่
มู่เยียนหรานตื่นขึ้นจากการหลับใหล ในแววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง!
ยินเสี้ยวเสี้ยวที่ควรจะตายไปแล้ว กล้าดียังไงมาทำลายเรื่องของเธอ!
ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเธอได้ยาสลบหลังจากเซี่ยงหลิน เมื่อได้ยินเสียงเซี่ยงเฉิงบุกเข้ามาจึงทำให้ให้คนย้ายตัวเองไปที่อื่นได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้เธอคงถูกจับไปแล้ว!
ทุกอย่างกำลังเป็นไปอย่างราบรื่นแท้ ๆ แต่กลับพลาดด้วยยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มู่เยียนหรานเห็นหมายเลขที่คุ้นเคยก็หน้าซีดเล็กน้อย ก่อนที่จะเก็บกลับไปอย่างรวดเร็ว เธอขานรับอย่างฉลาด “พญายม….”
ถ้าหากเฉิงชื่อชิงอยู่ที่นี่ตอนนี้ก็จะขมวดคิ้วมุ่น
พญายม บุคคลที่อยู่ในรายชื่อที่เป็นที่ต้องการของนานาชาติ ผลลัพธ์อันดับต้น ๆ นี่มันน่าโมโหซะจริง! ตามข่าวลือ คนที่ไปยุ่งกับเขาล้วนถูกเอาอวัยวะไปทั้งเป็น เหยื่อจะมองเห็นอวัยวะตัวเองถูกเอาออกไปด้วยความตื่นตระหนก และไม่ใช่แค่นั้น ร่างว่างเปล่าที่เหลืออยู่นั้น มีข่าวลือว่าเขาเก็บมันเอาไว้ในบ้านของเขาหลายสิบร่าง…..
และที่เฉิงชื่อชิงเข้าไปในมหาวิทยาลัยTครั้งนี้ก็เพราะได้ยินข่าวว่าลูกค้าของพญายมอยู่ที่นี่!
พญายมหัวเราะเบา ๆ ในสาย แล้วเอ่ยอย่างเกียจคร้าน “มู่เยียนหรานเธอไม่ได้บอกว่าจัดการทุกอย่างไว้แล้วหรอกเหรอ? งั้นบอกฉันหน่อยว่าทำไมเรื่องถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้? เธอบอกว่าขอแค่ฉันขายหัวใจนั่นให้เธอ แล้วเธอจะจัดหาอวัยวะของคนสิบคนให้ฉันไง แต่ตอนนี้ฉันได้มาแค่สามเองนะ….”
พญายมเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ แฝงแรงดึงดูดจาง ๆ ถึงจะน่าฟังอยู่บ้าง แต่คำที่พูดออกมานั้นกลับทำให้แทบอยากจะโยนโทรศัพท์ทิ้งอย่างทนไม่ได้
มู่เยียนหรานลุกขึ้นนั่งบนเตียง แววตาฉายความหวาดกลัว น้ำเสียงสั่นเล็กน้อย “พญายม ฉันจัดการไว้ทั้งหมดแล้วจริง ๆ โรงพยาบาลแห่งนั้นน่ะฉันล้างไปหมดแล้ว สามคนก่อนหน้านี้ฉันก็คัดเลือกมาแล้ว แต่ฉันไม่รู้…ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ ๆ เรื่องถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ ฉันไม่รู้จริง ๆ ….”
พญายมส่งเสียงฮึออกมา เงียบไปสองสามวิก่อนจะพูดขึ้น “มู่เยียนหราน จำเอาไว้ เมื่อไหร่ที่เธอส่งที่เหลืออีกเจ็ดคนมาได้ ตอนนั้นฉันก็จะให้หัวใจของเซี่ยงหลินกับเธอ…..”
ประโยคที่เบ็ดเสร็จนั้นผลักมู่เยียนหรานตกลงนรก
พญายมวางสายอย่างไม่แยแส มู่เยียนหรานกลับแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก
เธอตามหามายี่สิบห้าปีเต็มถึงได้เจอหัวใจที่เหมาะสมของเซี่ยงหลิน แต่ตอนนี้กลับเป็นเพราะการขัดขวางของยินเสี้ยวเสี้ยวเธอถึงไม่ได้รับหัวใจของตัวเอง แล้วเธอก็ยังโมโหพญายมด้วย! มือเล็กกำแน่น แววตาของมู่เยียนหรานฉายความเคียดแค้นออกมาอย่างไม่เคยมี…..
ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย ยินเสี้ยวเสี้ยว! ฉันมู่เยียนหรานกับเธอคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้!