บทที่ 207 มู่เยียนหรานที่บ้าคลั่ง
คิ้วค่อยๆยกขึ้น รอยยิ้มมุมปากของ‘พญายม’แฝงด้วยความชั่วร้ายเล็กน้อย
คุณหนูใหญ่ตระกูลยิน ยินเสี้ยวเสี้ยว
ช่วงนี้ดูเหมือนเขาจะได้ยินชื่อนี้บ่อยมาก และชื่อของหล่อนก็จำได้ง่ายขนาดนั้น ไม่ทันระวังเขาก็จำได้แล้ว เสี้ยวเสี้ยว เสี้ยวเสี้ยว ชื่อที่มีความสุขมากชื่อหนึ่ง
“อืม คุณเตรียมพร้อมแล้วก็ติดต่อผมแล้วกัน” ‘พญายม’พูดด้วยเสียงแผ่วเบา จากนั้นก็วางสาย
ภายในห้องที่มืดมิด ใบหน้าของชายหนุ่มเลือนรางไม่ชัดเจน ถือโทรศัพท์เครื่องเล็กไว้ในฝ่ามือเรียวและอบอุ่นหมุนไปรอบ ๆ ตามความพอใจ
ยินเสี้ยวเสี้ยว ได้ยินว่าเธอหย่ากับคุณชายสามจิ๋นแล้ว ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่……
ตระกูลมู่
มู่เยียนหรานรออยู่เงียบในห้องตนเอง คอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์เปิดอยู่ตลอดเวลาบางครั้งแสดงให้เห็นว่ามีการส่งจดหมายเข้ามา แต่เธอกลับนั่งรออยู่บนเตียงโดยไม่ขยับเขยื้อน สมองของเธอคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่บ้านตระกูลจิ๋นในวันนี้
ตอนนี้คุณย่าจิ๋นมีความคิดยอมให้เธอแต่งเข้าตระกูลจิ๋นแล้ว แต่หยูเจียหุ้ยดูเหมือนจะไม่พอใจเธอนัก
มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ มู่เยียนหรานลุกขึ้นจากเตียง ชุดนอนหลวมๆที่สวมอยู่บนร่างอรชร เดินมาที่ข้างคอมพิวเตอร์ยังไม่ทันจะได้เปิดอ่านอีเมล์ โทรศัพท์เธอก็ส่งเสียงดังขึ้นมา คิ้วยกขึ้นเบาๆชำเลืองมองแวบหนึ่ง มู่เยียนหรานรับสายโดยข่มความโกรธของตนเองเอาไว้
“มีเรื่องอะไร” น้ำเสียงไม่ดีเอามากๆ แฝงความหงุดหงิดรำคาญที่ถูกรบกวนนิดหน่อย
“คุณหนู” เสียงผู้ชายปลายสายเรียกเบาๆ เห็นชัดว่ารู้ว่ามู่เยียนหรานไม่พอใจแต่ในน้ำเสียงก็ปิดความตื่นเต้นไว้ไม่มิด!“คุณหนูเห็นอีเมล์ที่ส่งให้คุณหนูหรือยังครับ เรื่องเกี่ยวกับยินเสี้ยวเสี้ยว!”
นั่งลงข้างคอมพิวเตอร์ พูดโดยที่อารมณ์ของมู่เยียนหรานยังไม่ดีขึ้น “กำลังเตรียมจะอ่าน ทำไมเหรอ”
ชายหนุ่มพูดต่อด้วยความตื่นเต้น “คุณหนู คุณหนูรีบอ่านเถอะครับ ผมรู้สึกว่านี่มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก!”
มู่เยียนหรานทำหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจนัก น่าเสียที่ผู้ชายปลายสายนั้นมองไม่เห็น มือกุมเม้าส์กดลงไปเบาๆ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยินเสี้ยวเสี้ยวก้ปรากฏตรงหน้ามู่เยียนหราน โลกทั้งใบดูเหมือนจะจมดิ่งเข้าไปในความเงียบงัน
ข้อมูลตรงหน้านั้นธรรมดามาก ก็แค่ประวัติส่วนตัวของยินเสี้ยวเสี้ยวเท่านั้น แต่ยิ่งอ่านในตามู่เยียนหรานก็ยิ่งมีความตื่นเต้นมากขึ้น แม้แต่ดวงตาก็สว่างวาบขึ้นมา !
ตึง
เสียงเก้าอี้ล้มไปด้านหลังเพราะการกระทำที่รุนแรงของเจ้าของ แต่มู่เยียนหรานกลับดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร ได้แต่มองตัวอกษรบนหน้าจออย่างรวดเร็ว แต่ละคำแต่ละประโยคล้วนไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ หลังจากนั้นพักใหญ่มู่เหยียนหรานก็วางโทรศัพท์ไว้ข้าง หมุนตัวอย่างรวดเร็ววิ่งเหยาะๆไปเอาเอกสารในลิ้นชักที่โต๊ะของตนเองออกมา เปรียบเทียบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ทีละคำ ยิ่งอ่านรอยยิ้มที่มุมปากก็ยิ่งปิดไว้ไม่มิดมากขึ้นเท่านั้น!
“ฮาๆๆ……ฮาๆๆ……” ทันใดนั้น ภายในห้องที่เงียบงันก็มีเสียงหัวเราะดังออกมา มีความน่ากลัวเล็กน้อยแต่กลับปกปิดความดีใจและความตื่นเต้นในน้ำเสียงเอาไว้ไม่มิด! “ฮาๆๆ……ยินเสี้ยวเสี้ยว ยินเสี้ยวเสี้ยว!”
ฟ้าย่อมมีทางออกให้คนเราเสมอ ก็คืออย่างนี้ใช่มั้ย
ฮาๆ วินาทีนี้มู่เยียนหรานรู้สึกว่าตนเองนั้นมีความสุขจนแทบจะล้นทะลักแล้วอย่างนั้น!
เธอเฝ้าตามหามายี่สิบกว่าปี แต่ตอนที่ตนเองใกล้จะหมดหวังนั้นเอง ตอนที่วางแผนว่าจะเอาความลับทั้งหมดหนีไปก็เกิดพลิกผันแบบนี้ เธอจะไม่ดีใจได้อย่างไร
วางเอกสารในมือลง มู่เยียนหรานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถามเบาๆอีกครั้ง “แกแน่ใจนะว่าไม่ผิด”
ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงหัวเราะของมู่เยียนหราน แต่ในน้ำเสียงกลับมีความยินดีเพราะเรื่องนี้ จึงยืนยันอีกครั้งว่า “คุณหนู ตอนที่ผมเห็นข้อมูลนี้ก็เคยสงสัย แต่ต่อมาผมลงมือไปสืบเอง ความจริงก็คือแบบนี้จริงๆครับ”
กุมโทรศัพท์เอาไว้ ร่างของมู่เยียนหรานสั่นเทา แต่ละก้าวๆห่างจากคอมพิวเตอร์ไป มู่เยียนหรานหัวเราะจนหายใจไม่ทัน แต่เสียงหัวเราะยังไม่หยุดดังสะท้อนไปทั่วทั้งห้อง!
“ฮาๆๆ……ยินเสี้ยวเสี้ยว! เธอช่างมีค่ามากจริงๆ” มู่เยียนหรานหัวเราะจนรู้สึกว่าหัวใจของตนเองรับภาระไว้ไม่ไหวแล้ว แต่รอยยิ้มที่มุมปากนั้นจะหุบอย่างไรก็ไม่อยู่ เดินเซมาข้างๆหยิบขวดยาของตนเองขึ้นมา มู่เยียนหรานจ้องยาเม็ดเล็กๆในมือเขม็ง ในชั่วพริบตาที่เปิดฝาออกก็เทยาทั้งหมดไว้บนเตียง มีแค่ตอนที่หัวใจทนไม่ไหวแล้วจึงกินสองสามเม็ด เซมานั่งข้างเตียงมองดูยาที่อยู่เต็มเตียง อารมณ์ของมู่เยียนหรานตอนนี้ดีกว่าใครๆทั้งนั้น“ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอนี่เป็นเสียงสวรรค์ของฉันจริงๆ!”
ข้างคอมพิวเตอร์ ข้อมูลบนหน้าจอและข้อมูลด้านข้างของมู่เยียนหราน นั้นเต็มไปด้วยรายการหลายอย่างที่ใกล้เคียงกันหรือเกือบทั้งหมดเหมือนกัน!
มู่เยียนจะอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า หัวใจของยินเสี้ยวเสี้ยวจะเข้าได้กับหัวใจของเธอได้สูงมากขนาดนั้น
แบบนี้ หัวใจของหล่อนไม่ให้เธอ แล้วจะให้ใครได้อีก
ฮาๆๆ……
“เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว แกจับตายินเสี้ยวเสี้ยวเอาไว้ให้ดี” หลังจากตั้งสติได้มั่นคงดีแล้ว มู่เยียนหรานสั่งแบบนี้แล้ว จากนั้นพูดว่า “การผ่าตัดครั้งนี้ฉันจะให้มันดำเนินการอย่างเร็วที่สุด!”
“ครับ คุณหนู” ผู้ชายที่อยู่ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงนอบน้อมและตื่นเต้น
หามานานยี่สิบห้าปีเต็ม ในที่สุดก็หาเจอแล้ว!
หลังจากวางสายโทรศัพท์ มู่เยียนหรานก็ติดต่อไปหา‘พญายม’อีกครั้ง แต่ติดต่อตัวของ‘พญายม’ไม่ได้ แต่ว่าติดต่อกับเจ้าชวดคนข้างกายเขาได้ ต่อมาจึงโทรติดต่อกับ‘พญายม’ได้
“‘พญายม’ก่อนหน้านี้ฉันเคยปรึกษาคุณเรื่องอยากจะซื้อหัวใจหนึ่งดวงกับทางพวกคุณนั้น ครั้งก่อนฉันกว่าฉันจะหาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่สุดท้ายกลับถูกยินเสี้ยวเสี้ยวขัดจังหวะการผ่าตัด……” คำพูดของมู่เยียนหรานพูดอย่างผ่อนคลาย เต็มไปด้วยความดีใจและความตื่นเต้น จากนั้นก็พูดว่า “ก่อนหน้านี้ฉันสัญญาเพราะความเสียหายครั้งก่อนจะชดเชยคนที่สุขภาพแข็งแรงสิบคนให้คุณ ฉันก็จะทำให้ได้ แต่ตอนนี้ฉันอยากจะขอคนๆหนึ่งกับคุณ‘พญายม’”
‘พญายม’ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ส่งเสียงเบาๆให้เธอพูดต่อไป
ดวงตาที่หนักแน่นมั่นคง หลังจากนั้นพักใหญ่มู่เยียนหรานจึงพูดว่า“‘พญายม’ คนที่จะให้คุณพรุ่งนี้คาดว่าจะเหลือแค่สองคน ยินเสี้ยวเสี้ยวฉันจะเก็บเอาไว้ ในเวลาเดียวกันฉันจะยืมคนของคุณ ในเมื่อคนของคุณค่อนข้างคุ้นเคยมากกว่า ให้พวกเขาทำการผ่าตัดให้ฉัน ฉันจะรู้สึกวางใจมาก‘พญายม’คิดว่าเป็นยังไง”
มือที่กุมโทรศัพท์ค่อยๆชะงักเล็กน้อย หลังจากนิ่งเงียบสองวินาที‘พญายม’จึงพูดอย่างไม่แยแสว่า“คุณหนูมู่นี่คิดจะทำลายกฎของผมเหรอ ก่อนหน้านี้คนที่รับปากก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กลับคำก็คือคุณ หรือคุณคิดว่าผมเป็นคนที่พูดง่ายมาก”
คำพูดไม่รุนแรงมาก แต่กลับทำให้มู่เยียนหรานเกิดความรู้สึกเย็นชาอย่างที่สุด นั่นเป็นเพราะความยินดีที่เธอรู้ว่าหัวใจของยินเสี้ยวเสี้ยวเหมาะกับตนเองถูกพัดปลิวไปในชั่วพริบตานี้ สีหน้าขาวซีดพูดว่า “‘พญายม’คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้หมายความอย่างนี้ แต่คุณก็รู้ว่า คุณติดต่อกับพวกคุณมาไม่ใช่แค่วันสองวัน ครั้งก่อนที่ฉันจะทำการผ่าตัดก็ไม่ใช่ว่ายืมตัวคนจากทางคุณนั้นไปหรือ ครั้งนี้ฉันก็ยังอยากจะยืมตัวคนจากทางคุณ‘พญายม’อีกฉันตามหามายี่สิบห้าปีเต็มจึงเจอหัวใจดวงที่เข้ากับฉันได้หนึ่งดวง ครั้งนี้ไม่ว่าจะพูดอย่างไรฉันก็จะไม่ยอมปล่อยหล่อนไป! ส่วนเรื่องที่ฉันยืมคนของคุณไป ฉันจะชดเชยให้ แน่นอน!”
“ฮึๆ……” เสียงพูดจบลง ผู้ชายที่ปลายสายก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมาเล็กน้อย หัวเราะจนมู่เยียนหรานรู้สึกเย็นเยือกแทบไม่ไหว “คุณหนูมู่ อย่าคิดว่าคุณเป็นลูกค้าก็วางท่าไม่คิดจะสนใจ ผม‘พญายม’ขาดคุณไปคนหนึ่งก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่ใช่เพราะคุณสามารถเอาคนมาให้ผมได้คุณคิดว่าผมจะสนใจคุณเหรอ อย่าสำคัญตัวเองผิดไป! คุณต้องการตัวยินเสี้ยวเสี้ยวก็ได้ แต่เมื่อถึงเวลาผมก็ต้องเห็นคนสามคนที่ผมต้องการ มิเช่นนั้นก็ไม่ต้องคุย! คุณมู่ คุณต้องจำเอาไว้ ที่คุณติดค้างผมไม่ใช่แค่เพียงสิบคนนั้น ยังมีเงินที่คุณทำการผ่าตัดครั้งก่อน แม้จะไม่ประสบความสำเร็จแต่นี่มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของผมนะ……”
มู่เยียนหรานจับโทรศัพท์แน่นกัดริมฝีปากพูดอะไรไม่ออก
หลังจาก‘พญายม’หยุดชะงักไปครู่หนึ่งก็พูดต่อว่า“มู่เยียนหราน อย่าดูถูกผม คุณรู้ดี ว่าผมสามารถทำให้คุณมีความหวังได้ และก็ทำให้คุณหมดหวังได้เช่นกัน อย่าสงสัยในการตัดสินใจของผม มิฉะนั้นผมก็ไม่ถือสาที่จะใช้คนเป็นหนึ่งในตัวทดลองของผม!”
พูดจบ ‘พญายม’ก็วางสายทันที ปล่อยให้มู่เยียนหรานปลายสายอีกด้านถูกทำให้ตกใจจนหน้าไม่มีสีเลือด
ใช่สิ เธอลืมไปได้อย่าง คนนั้นคือ‘พญายม’นี่!
ตามคำบอกเล่า ชื่อของเขาไม่ใช่เขาเป็นคนตั้งเอง นี่เป็นแค่ฉายาของเขาเท่านั้น แต่ฉายาของผู้ชายคนหนึ่งสามารถเรียกว่า ‘พญายม’ก็ยังต้องเป็นผู้ชายที่ลักลอบค้าอวัยวะของมนุษย์แบบนี้ จะเป็นคนดีได้อย่างไร จะมีบทบาทอะไรที่สามารถยั่วโมโหได้ เธอคิดว่าตนเองดูแลธุรกิจของเขา คิดว่าตนเองคือคุณหนูตระกูลมู่ก็เผลอดีใจ กลับลืมไปแล้ว หาก‘พญายม’ยินยอม ไม่แน่ว่าเธออาจจะกลายเป็นคนที่ถูกขาย ถูกขโมยอวัยวะไปได้ตลอดเวลา!
แม้ว่า หัวใจจะใช้การไม่ได้ แต่ก็ยังมีอวัยวะอื่น ไม่ใช่หรือ
กุมโทรศัพท์แน่น หลังจากมู่เยียนหรานหอบหายใจไม่หยุดพักใหญ่จึงโทรศัพท์ให้คนรีบไปเตรียมคนอื่นมาแทน! หวังว่าทั้งหมดจะทันเวลาเท่านั้น!
หัวใจดวงนั้นยินเสี้ยวเสี้ยว ครั้งนี้เธอจะต้องเอามาให้ได้!
ออกมาจากบ้านตระกูลจิ๋น ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้กลับไปบ้านตระกูลยิน แต่เดินทอดน่องเพียงลำพังบนถนนในเมืองT
ข้างบนถนนมีรถราวิ่งกันพลุกพล่าน เสียงคนจอแจ แต่ทันใดนั้นเธอกลับรู้สึกว่าตนเองอ้างว้างโดดเดี่ยวเหลือเกิน ไม่มีบ้าน ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีสามี มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำไมถึงมาตรงจุดนี้ได้
แต่ละก้าวๆที่เดินบนถนน ยินเสี้ยวเสี้ยวคิดทบทวนว่าตนเองสามารถไปที่ไหนได้บ้าง
ไม่มีทางไปเมืองไห่เมียว บ้านตระกูลยินก็ไม่มีทาง ทางถาวหยีนั้นยิ่งไม่มีทาง ตอนนี้เธออยู่ต๋งไขกับกำลังตั้งท้องลูกของต๋งไขเธอไม่โง่ถึงขั้นไม่รู้กาลเทศะไปที่นั่น ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างถาวหยีและต๋งไขตอนนี้ก็เหมือนจะมีปัญหากันเล็กน้อย ไม่เหมาะที่เธอจะไป……
หยุดฝีเท้าลงถอนหายใจเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวอ้าสองแขนกอดตัวเองแน่นๆ หลังจากที่ถูกลมพัดตั้งแต่เช้ามืดเธอก็รู้สึกว่าร่างตนเองหนาวเย็น อาจจะเป็นหวัดเล็กน้อยแล้ว หายใจเริ่มหนักหน่วงแต่ก็ไม่ถึงกับหนักหนาเกินไป
ซื้อโกโก้ร้อนมานั่งดื่มแก้วข้างถนน ยินเสี้ยวเสี้ยวพยายามทำให้ร่างกายอบอุ่น ดื่มโกโก้ร้อนไม่ถึงครึ่งแก้วโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น วินาทีที่หยิบโทรศัพท์ออกมาก็ชะงัก คือจิ๋นลี่ยวนโทรมา
นิ่งเงียบอยู่นาน มองชื่อที่คุ้นเคยสว่างวาบอยู่บนโทรศัพท์ ยินเสี้ยวเสี้ยวสุดท้ายก็ไม่ได้รับสาย รอจนตอนที่โทรศัพท์กลับมาเงียบเหมือนเดิมลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงยื่นมือไปลบเบอร์นี้ทิ้งไป
ในเมื่อหย่ากันแล้ว อย่างนั้นก็ควรจะตัดขาดไม่ให้เหลือ
ยังดี ระหว่างพวกเขาไม่ได้มีความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น แบบนี้ ก็ดีมากแล้ว……
ไม่นาน โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ยินเสี้ยวเสี้ยวขมวดคิ้วแน่นตอนที่มองเห็นชื่อก็กัดริมฝีปากรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย คนที่โทรมา คือยินจื่อเจิ้น