บทที่ 235 การเปิดเผยครั้งแรก
ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดจบก็ไม่ได้หันเหสายตาตัวเอง เพียงมองเขาอย่างแน่วแน่ และถามอย่างเน้นย้ำเป็นขั้นเป็นตอน “จิ๋นลี่ยวน บอกฉันสิว่ามันเพราะอะไร เพราะอะไรลูกของฉันกับคุณต้องถูกคำครหา เพราะอะไรลูกของฉันต้องคลอดออกมาโดยไม่มีพ่อ เพราะอะไรต่อจากนี้ในหัวใจของฉันยังต้องมีคุณได้เพียงคนเดียว”
พูดอย่างนั้นแล้ว สุดท้ายยินเสี้ยวเสี้ยวก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แต่ก็ยังคงมองเขาอย่างแน่วแน่
จิ๋นลี่ยวนถูกกดดันจนมึนทำอะไรไม่ถูก ยินเสี้ยวเสี้ยวที่ดื้อรั้นแบบนี้เขาเพิ่งเจอเป็นครั้งแรก
เธอต้องหวาดระแวงที่จะได้รับคำตอบ ต้องหวาดระแวงที่จะรู้ว่าเพราะอะไร แต่เขากลับไม่สามารถพูดอะไรได้ และไม่ยินดีจะพูด มีบางเรื่องที่พูดออกมาแล้วเหมือนมันจะกลายเป็นเรื่องจริงที่น่าอึดอัด
หลังจากเวลานาน จิ๋นลี่ยวนถึงได้เปิดปากพูดว่า “เสี้ยวเสี้ยว ผมให้เกียรติคุณหรือไม่ ใจคุณรู้ดี เรื่องของการหย่า ผมพูดได้แค่ว่า…เป็นผมเองที่มีความละอายต่อคุณ”
“เพราะอะไรถึงมีความละอาย จิ๋นลี่ยวน คุณทำอะไรลับหลังฉันหรือไง” ยินเสี้ยวเสี้ยวถามขัดจังหวะเขาทันที “จิ๋นลี่ยวน คุณคิดว่าฉันโง่จริงเหรอ ตอนที่เพิ่งรู้จักคุณฉันก็รู้ว่าคุณเป็นหมอ และก็รู้ว่าพวกหมอส่วนใหญ่อย่างพวกคุณล้วนแล้วแต่รักความสะอาด ซึ่งคุณยิ่งแล้วใหญ่จิ๋นลี่ยวน! สิ่งที่คุณรับไม่ได้มากที่สุดคือมลพิษทางอารมณ์ คุณเข้มงวดกับคู่ชีวิตของคุณ แล้วคุณจะทำตัวเองหรือไง คิดว่าฉันโง่จริงเหรอ”
พูดอย่างนั้นแล้วยินเสี้ยวเสี้ยวก็มองเขาอย่างเย้ยหยัน
จิ๋นลี่ยวนหลงใหลในความสะอาดมากทั้งตระกูลจิ๋นใครเลยจะไม่รู้ ถ้าบอกเธอว่าระหว่างใช้ชีวิตร่วมกัน จิ๋นลี่ยวนหักหลังเธอพูดอย่างไรยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่เชื่อ ผู้ชายคนนี้จุกจิกจู้จี้กว่าใคร ไม่สามารถทนมลพิษทางอารมณ์ได้หรอก!
“เสี้ยวเสี้ยว…” จิ๋นลี่ยวนค่อนข้างทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองยินเสี้ยวเสี้ยวโดยไม่พูดอะไร
ยินเสี้ยวเสี้ยวหันหนีไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไป เพียงแต่ในใจยังรู้สึกอึดอัด จึงพูดออกมาตรงๆ ว่า “จิ๋นลี่ยวน ฉันยอมรับ ว่าใจฉันยังมีคุณ ฉันลืมคุณไม่ได้”
แววตาจิ๋นลี่ยวนสว่างวาบขึ้น ร่างกายอดไม่ได้ที่จะก้าวเข้ามาใกล้เธอ
“แต่ว่า…” น้ำเสียงของยินเสี้ยวเสี้ยวเบาลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อไปว่า “แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่อยากเก็บคุณไว้ในใจของฉันอีกแล้ว ฉันไม่อยากไปห่วงพะวงเรื่องคุณ ไม่อยากไปคิดถึงคุณ และไม่อยากรักคุณแล้ว…”
ร่างสูงตัวแข็งทื่อ จิ๋นลี่ยวนมองเธอด้วยสีหน้าซีดเผือด
“จิ๋นลี่ยวน คุณรู้ไหม ชั่ววินาทีก่อนหน้านี้ฉันยังคิดอยากแต่งงานกับคุณใหม่ อยากใช้ชีวิตดีๆ ไปกับคุณ อยากเลี้ยงดูลูกของเราจนโตไปกับคุณ ถึงขนาดที่ว่าบางทีเราอาจจะไม่ได้มีลูกแค่คนเดียว ยังจะมีลูกคนที่สองด้วย…” บนใบหน้าเล็กเนียนสวยน้ำตาไหลริน นี่เป็นครั้งแรกที่ยินเสี้ยวเสี้ยวบอกสิ่งที่คิดอยู่ในใจจริงๆ กับจิ๋นลี่ยวน “ฉันดีใจมากจริงๆ ตอนที่รู้ว่าตัวเองท้อง ดีใจมากจนอยากพุ่งเข้าใส่อ้อมแขนของคุณแล้วบอกข่าวนี้กับคุณ แต่ไม่นานฉันก็กลับมาได้สติ จิ๋นลี่ยวน เราหย่ากันแล้วนะ ตอนนี้ลูกของฉันเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อ ถ้าพวกเราไม่มีการแต่งงานใหม่เช่นนั้นเขาก็เป็นได้แค่เด็กที่เติบโตขึ้นในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว ฉันไม่อยากทำผิดต่อเขามากนัก แต่จะให้ฉันพาลูกไปยอมรับผู้ชายคนอื่นก็เหมือนว่าฉันจะไม่สามารถทำได้…”
ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ มีคนเคยบอกว่า ประสบการณ์ครั้งแรกจะเป็นผู้หญิงที่จดจำไปชั่วชีวิต เช่นเดียวกับรักแรกพบในจิตใจของผู้ชาย
“หลังจากที่ฉันตกลงยอมหย่ากับคุณ ฉันยังคิดว่าอีกไม่นานเราจะแต่งงานกันใหม่ใช่ไหม แต่ต่อมากลับยิ่งยากจะยอมรับ คุณรู้ไหมว่าที่ตอนนั้นคุณย่าให้คุณแต่งงานกัยมู่เยียนหรานฉันรู้สึกยังไง คุณรู้ไหมว่าฉันรู้สึกยังไงที่คุณอาจจะต้องกลายไปเป็นสามีคนอื่น คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ที่ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวทุกวัน ตอนที่ฉันมีเพียงลูกอยู่เป็นเพื่อนฉันรู้สึกยังไง” พูดอย่างนั้นแล้วยินเสี้ยวเสี้ยวก็หันไปมองจิ๋นลี่ยวน น้ำตาหลั่งรินทั่วใบหน้า แต่ถึงดวงตาพร่ามัวมองไม่เห็นใบหน้าเขาได้ชัดแต่ก็ยังอยากมองหน้าเขา “จิ๋นลี่ยวน ฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันก็ต้องการให้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันต้องการคนที่คอยอยู่เคียงข้างฉันตั้งแต่เริ่มไปจนสุดทาง ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าคุณเป็นคนคนนั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนฉันต้องการมากเกินไป ตั้งแต่แรกเริ่มคุณไม่เคยเป็นคนรักของฉัน…”
กลืนน้ำลายลงคอหนักจนลูกกระเดือกเคลื่อนไหวรุนแรง จิ๋นลี่ยวนมองเธอด้วยความรู้สึกเจ็บปวดลึก สองหมัดกำแน่นไม่ให้ตัวเองพุ่งเข้าไปกอดเธอแน่นและกระซิบหลอกล่อ
“ตอนที่พ่อของฉันมาจะพาฉันไปทำแท้งฉันยอมรับว่าฉันอยู่ในห้องนอนแล้วมีความตั้งใจ ตั้งใจจะใช้เด็กเพื่อบังคับให้คุณแต่งงานใหม่กับฉัน แต่เวลานั้นคุณปฏิเสธ ฉันในตอนนั้นก็คิดว่าที่จริงแล้วคุณไม่เคยสนใจฉันเลยใช่ไหม” ถ้าเป็นยินเสี้ยวเสี้ยวก่อนหน้านี้ เธอจะไม่มีวันเชื่อว่าตัวเองจะใช้เด็กเพื่อรั้งผู้ชายคนหนึ่งไว้ “ต่อมาฉันมาอยู่ที่นี่เพื่อแบกรับความเจ็บปวด ทุกวันฉันสามารถเห็นคุณได้ แต่ละวันราวกับพวกเราอยู่ในเมืองไห่เมียวเช่นเดียวกัน แต่หลายสิ่งหลายอย่างกลับไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีกตั้งนานแล้ว…”
เมื่อจิ๋นลี่ยวนขอหย่า เธอตกใจ สับสน มึนงงคิดทบทวนกลับไปกลับมา แต่เธอก็คิดไม่ออก
“คิดดูแล้วนอกจากรู้เรื่องที่คุณไม่รัก ฉันก็ไม่รู้อะไรแล้ว” ยินเสี้ยวเสี้ยวมองเขาพลางพูดเสียงเบา “ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงในใจคุณคนนั้นคือใคร ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคุณถึงหย่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคุณถึงตัดสินใจแบบนั้น จิ๋นลี่ยวน ฉันคิดมานานมากๆ แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากไปคิดแล้ว และก็ไม่อยากพยายามไปแก้ไขอะไรอีก ฉันเหนื่อยมาก เหนื่อยมากจริงๆ เหนื่อยจนฉันไม่อยากชอบคุณอีกต่อไปแล้ว ฉันไม่อยากให้คุณเข้ามาในหัวใจของฉันอีก…”
ความรู้สึกของมนุษย์มีขีดจำกัด ไม่ว่าจะชอบอย่างหนักหน่วงอีกกี่ครั้งก็ล้วนถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำอีก
ความรู้สึกของยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีต่อจิ๋นลี่ยวนในตอนนี้อาจจะยังไม่ได้ผ่านพ้นไปโดยสมบูรณ์ แต่มันก็ยากที่จะบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมันจะไม่มีวันเป็นแบบนั้น แทนที่จะรอจนถึงวันนั้น ไม่สู้ให้ยังคงมีความทรงจำดีๆ อย่างในตอนนี้หลงเหลืออยู่บ้างจะดีกว่า
เมื่อพูดจบ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็หันตัวหนีไม่มองเขาอีก ทั้งทั้งที่แผ่นหลังอันคุ้นเคยอยู่ใกล้ตาแต่กลับทำให้จิ๋นลี่ยวนรู้สึกห่างไกลไม่สามารถเข้าถึงได้ ก้าวออกไปโดยไม่ลังเล จิ๋นลี่ยวนกอดยินเสี้ยวเสี้ยวจากด้านหลัง กระชับแน่นเกินจะปล่อย
“ผมไม่อนุญาต” วางศีรษะลงบนไหล่ของยินเสี้ยวเสี้ยว จิ๋นลี่ยวนพูดเน้นทีละคำ “ผมไม่อนุญาต ยินเสี้ยวเสี้ยว ผมไม่อนุญาตให้ในใจของคุณไม่มีผม ชั่วชีวิตนี้ของคุณเป็นได้แค่ผู้หญิงของผม เป็นภรรยาของผม ผมไม่อนุญาตให้คุณไม่รักผม และก็ไม่อนุญาตให้คุณไม่คิดถึงผม และยิ่งไม่อนุญาตให้คุณหยุดยั้งผมเข้าไปในหัวใจของคุณ เสี้ยวเสี้ยว ผมไม่อนุญาต!”
ยินเสี้ยวเสี้ยวเพียงแค่ร้องไห้เงียบๆ ไม่พูดอะไร แต่ในหัวใจเหมือนว่าจะยังคงไม่ยินดีที่จะเป็นแบบนี้ต่อไปจริงๆ
“เสี้ยวเสี้ยว…” มองใบหน้าด้านข้างของเธอ ในที่สุดจิ๋นลี่ยวนก็อดไม่ได้ที่จะพูดในสิ่งที่เขาตั้งใจมาตั้งแต่แรก “เสี้ยวเสี้ยว ถ้ารอจนถึงวันที่เรื่องของผมจบแล้ว คุณยังยินดีจะอยู่เคียงข้างผมเช่นนั้นเราก็มาแต่งงานกันใหม่ เพื่อให้ลูกรักมีครอบครัวที่สมบูรณ์ หลังจากนั้นเราก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เราสามารถมีลูกด้วยกันได้อีก และก็สามารถอยู่ด้วยกันเฉยๆ และเดินทางไปรอบโลก ตราบใดที่คุณยินดี ถึงตอนนั้นคุณอยากทำอะไรหรืออยากรู้อะไรผมจะบอกคุณทั้งหมด ได้ไหม”
เสียงของเขาต่ำและค่อนข้างแหบแห้ง จิ๋นลี่ยวนในเวลานี้ดูค่อนข้างอึดอัด ถ้ายินเสี้ยวเสี้ยวกำลังเผชิญหน้ากับเขาจะสามารถเห็นดวงตาที่เปียกชื้นเล็กน้อยของเขาได้
ผู้ชายคนนี้ ในช่วงเวลาเพียงครึ่งปีสั้นๆ ที่จมอยู่กับปัญหาแต่ดื้อรั้นไม่ยินดีจะเชื่อ
“เสี้ยวเสี้ยว อย่าปฏิเสธผม” จิ๋นลี่ยวนกระซิบข้างหูเธอ แขนทั้งสองข้างกอดเธอไว้แน่น “เสี้ยวเสี้ยว ตราบใดที่ตอนนั้นคุณยังต้องการผม ถ้าอย่างนั้นไม่ว่ายังไงก็ตามผมจะไม่ทิ้งคุณ ผมจะเป็นผู้ชายที่ในชีวิตนี้จะทำเพื่อคุณ คุณจะยอมโอเคไหม เสี้ยวเสี้ยว อย่าขับไล่ผมออกไปจากโลกของคุณเลยนะ…”
นี่เป็นครั้งแรก ที่จิ๋นลี่ยวนเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเอง และก็เป็นครั้งแรกที่ยอมรับความรู้สึกของตัวเองต่อหน้ายินเสี้ยวเสี้ยวจนหมดเปลือก ยินเสี้ยวเสี้ยวประหลาดใจมากจนตกตะลึงนิ่งค้าง
นี่หมายถึงอะไร
ระหว่างนั้น เธอค่อนข้างไม่มีสติ
จิ๋นลี่ยวนกำลังบอกเธอว่าในใจเขามีเธองั้นเหรอ
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่พูดอยู่นาน จิ๋นลี่ยวนยิ่งประหม่ามากขึ้น รีบพูดต่อไปว่า “เสี้ยวเสี้ยว ผมสัญญาว่าจะทำตัวดีๆ และเชื่อฟัง ไม่ทำให้คุณเสียใจ ไม่ทำให้คุณร้องไห้ ตราบใดที่คุณเต็มใจให้อภัยผมถึงตอนนั้น…”
คนที่เขาจะจัดการคือแม่ของยินเสี้ยวเสี้ยว ไม่ว่าเธอจะส่งยินเสี้ยวเสี้ยวไปหรือไม่ แต่สุดท้ายเธอก็เป็นเด็กที่เธอตั้งครรภ์สิบเดือนจนคลอด ถ้าเขาปล่อยซูเหนียงไปไม่จัดการ คนกลางอย่างยินเสี้ยวเสี้ยวก็จะลำบากที่สุด เขาไม่อยากให้เธอต้องทนรับความโกรธของตัวเอง และไม่อยากให้เธอลำบากใจ ยิ่งตอนที่เรื่องนี้ระเบิดออกมายิ่งอยากให้เธออยู่ห่างจากตระกูลจิ๋นให้พ้นจากความถูกผิด ดังนั้นจึงเลือกที่จะหย่า แต่กลับคิดไม่ถึงว่า การหย่าร้างอาจเป็นก้าวแรกที่จะผลักยินเสี้ยวเสี้ยวออกจากโลกของตัวเอง…
“เสี้ยวเสี้ยว เสี้ยวเสี้ยว…” จิ๋นลี่ยวนพึมพำเสียงเบา
ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไร เขาชอบเรียกชื่อเธอ เสี้ยวเสี้ยว เสี้ยวเสี้ยว เรียกราวกับว่าเธอยืนยิ้มสวยอยู่ตรงหน้าตัวเอง
แต่ตอนนี้ เสี้ยวเสี้ยวของเขากลับไม่อยากรักเขาไม่ต้องการเขาอีกต่อไปแล้ว…
หันตัวแข็งทื่อของตัวเองไปมองเขา ยินเสี้ยวเสี้ยวดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย
จิ๋นลี่ยวนกระชับกอดเธอแน่น พูดแผ่วเบาว่า “เสี้ยวเสี้ยวเชื่อผม ผมจะให้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกับคุณ ผมจะไม่ปล่อยให้เขาต้องเติบโตขึ้นในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว และจะไม่ปล่อยให้คุณเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วย…”
ยินเสี้ยวเสี้ยวอ้าปากอยากจะถามอะไรบางอย่าง แต่จิ๋นลี่ยวนกลับยกมือขึ้นปิดปากเธอเอาไว้เบาๆ แล้วพูดว่า “เสี้ยวเสี้ยว อย่าถาม คุณก็รู้ว่าไม่ว่าคุณจะถามอย่างไรก็ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถถามได้ ตราบใดที่คุณเชื่อผมก็พอ ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่เป็นการทำร้ายคุณ…”
มองจิ๋นลี่ยวนอยู่เป็นนานสองนาน ก่อนที่สุดท้ายยินเสี้ยวเสี้ยวจะพยักหน้าตกลง
การเชื่อใจคนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ใช่เรื่องยาก ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับการกระทำ
สุดท้ายแล้วจิ๋นลี่ยวนในเวลานี้อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจโล่งอก
เขารู้ว่าตราบใดที่ยินเสี้ยวเสี้ยวตกลงเช่นนั้นเธอก็จะทำมันอย่างแน่นอน! และการพยักหน้าของเธอบ่งบอกว่านับจากนี้ไปเธอจะไม่ถามคำถามหรือสงสัยเขามากอีก!
ยินเสี้ยวเสี้ยวบริสุทธิ์ไร้เดียงสามาก บริสุทธิ์ไร้เดียงสาจนทำให้รู้สึกเจ็บปวด…
คืนนี้ มันเป็นคืนที่สามัคคีกันที่สุดหลังจากการหย่าร้างระหว่างยินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวน เขาโอบประคองเธอมานั่งคุยกันบนโซฟา ทั้งคู่คุยกันเยอะมากแต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องการหย่าร้าง จนกระทั่งสุดท้ายยินเสี้ยวเสี้ยวหลับลงในอ้อมแขนของเขา เขาอุ้มเธอกลับไปในห้องนอนอย่างระมัดระวัง และเขาก็กลับไปห้องพักอย่างซื่อตรง…
ใจของเธอในตอนนี้ยังไม่ยอมรับโดยสมบูรณ์ เขารู้ดี.