บทที่238 ต้องเลือกหนึ่งในสอง
‘พญายม’มองยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วหัวเราะเสียงต่ำ ทำให้คนที่อยู่ข้างนอกอดไม่ได้ที่จะหันเข้ามามอง เมื่อเห็นมือของ‘พญายม’วางอยู่บนท้องนูนๆของหญิงตั้งครรภ์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
‘พญายม’นั้นไม่เกรงกลัวใครเลยแม้แต่คนเดียว
การทำงานด้านนี้แบบพวกเขานั้น มักจะทำให้คนอื่นไม่พอใจอยู่เรื่อย เรื่องนี้ใครๆก็รู้ บางครั้งก็ต้องทำอะไรอย่างระหวาดระแวง ทว่า ตั้งแต่ ‘พญายม’มาเป็นผู้นำของพวกเขาก็ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้อีกเลย
แม้ว่า คนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นจะเป็นอดีตภรรยาของคุณชายสามบ้านจิ๋น
ภายในดวงตาขาวดำนั้นเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวได้อย่างชัดเจน ริมฝีปากของยินเสี้ยวเสี้ยวแห้งจนแตก ทั้งๆที่เธอใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นมาก และยังเป็นในฤดูกาลนี้อีก จึงทำให้เธอหนาวจนตัวสั่น ทว่า ในตอนที่เธอเห็น‘พญายม’นั้นกลับทำให้ตัวเธอเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว ไม่รู้สึกถึงบรรยากาศรอบข้างเลยแม้แต่น้อย ในดวงตาของเธอมีเพียง‘พญายม’อยู่
“ทำไมไม่เล่นละครต่อล่ะ?”‘พญายม’ถามยินเสี้ยวเสี้ยวเสียงเบา ใบหน้าที่เยือกเย็นมองผ่านตัวเธอ ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที สายตาของเธอจ้องไปยังมือของเขาที่วางอยู่บนท้องน้อยของตัวเอง ไม่ต้องพูดก็เห็นได้ชัดถึงความกังวล จากนั้นเขาก็มองไปที่ตาของยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วถามขึ้นว่า “แคร์มาก?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวพยายามกลืนน้ำลายตัวเอง จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยริมฝีปากที่สั่นว่า “แคร์…….แคร์มาก”
‘พญายม’มองเธอด้วยความสงสัย คราวนี้เขานั่งลงที่ขอบเตียงของเธอ มือหนาลูบท้องของเธอไปมา ความรู้สึกอุ่นๆนั้นทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกขอบคุณ ลูกของเธอเพิ่งพ้นขีดอันตราย ถ้าวันนี้เธอเพิ่งท้องและไม่ได้ผ่านการปรับสภาพมาก่อน เธออาจจะตกใจจนไม่สามารถรักษาลูกไว้ได้ ทว่า ตอนนี้เป็นเวลาสามเดือนแล้ว ยังคงไม่ถือว่าเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุง่าย และอุณหภูมิของ‘พญายม’ก็ผ่อนคลายขึ้นพอดี
ทั้งหมดนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่กล้าพูดออกมา เพราะเธอดูออกว่า ‘พญายม’แค่รู้สึกสนใจกับหญิงตั้งครรภ์ และก็เพราะ‘ความสนใจ’ของเขาจึงทำให้เธอมีชีวิตยาวนานขึ้น……..
ถาวหยี ถาวหยี ทำไมนายยังไม่มาสักที?
นี่เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ภายในใจของเธอนึกถึงถาวหยี ตั้งแต่เธอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ได้บอกถาวหยีว่าวันนี้เธอมีนัดรับยา! แต่เธอไม่รู้ว่าพวกเขาจะสามารถเข้ามาได้ไหม และเธอจะรอถึงตอนนั้นได้หรือเปล่า
“เด็กนี่คือลูกของคุณชายสามบ้านจิ๋น?”จู่ๆ‘พญายม’ก็ถามขึ้นมาโดยที่ตานั้นยังมองท้องของยินเสี้ยวเสี้ยวอยู่
“ใช่”ยินเสี้ยวเสี้ยวต้องระแวงการกระทำของเขา และยังต้องระวังการขยับตัวของตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับท้องของตัวเอง และยิ่งไปกว่านั้นคือเธอยังคงรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่ “เป็นลูกของเขา”
มือของ‘พญายม’ที่กำลังลูบท้องของยินเสี้ยวเสี้ยวอยู่นั้นหยุดชะงัก ทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวตกใจจนรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา
‘พญายม’มองดูยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพูดขึ้นมาว่า “ทั้งๆที่เขาเลิกกับเธอแล้ว แต่เธอก็ยังท้องลูกของเขา? แบบนี้มันก็เท่ากับท้องก่อนแต่ง เธอไม่รู้เหรอ?”
“ฉันรู้ แต่ฉันจำเป็นต้องทำแบบนี้”ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดตอบ เธอพยายามที่จะถ่วงเวลา และพูดความคิดของตัวเองออกมาโดยไม่สนใจอะไรเลย “ฉันอยากเก็บเด็กคนนี้ไว้ อีกอย่างฉันก็เป็นแม่แท้ๆของเขา และนี่ก็เป็นลูกคนแรกของฉัน ฉันทำใจไม่ได้”
“ทำใจไม่ได้?”‘พญายม’มองไปยังท้องของเธอ จากนั้นก็ลูบวนไปมาอีกครั้ง ราวกับว่าทำแบบนี้มันสนุก เขาทำแบบนั้นอยู่เป็นเวลานาน
“ใช่ ทำใจไม่ได้”ยินเสี้ยวเสี้ยวพยักหน้า แล้วพูดตอบว่า “ฉันอยากให้เขาได้ออกมาดูโลกใบนี้ ออกมาดูสีสันต่างๆ มาดูวิถีชีวิตของคน ฉันไม่อยากตัดโอกาสที่จะได้ออกมาดูโลกภายนอกของเขา……….”
พูดถึงตรงนี้ ‘พญายม’ก็เงยหน้าขึ้นมามองยินเสี้ยวเสี้ยว มือของเขาหยุดลูบท้องของเธอ จากนั้นเขาก็ใช้แรงกดไปที่ท้องของยินเสี้ยวเสี้ยว
เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บยินเสี้ยวเสี้ยวจึงได้สติกลับมา เธอรู้สึกเจ็บจนหยาดเหงื่อไหลออกมา
“ฉันหมายถึง ในชีวิตของฉัน……..”เธอหายใจแรงแล้วพูดขึ้น ยินเสี้ยวเสี้ยวพยายามที่จะปกป้องเด็กในท้องของตัวเอง จึงรีบพูดอธิบายว่า “ในชีวิตของฉัน เหลือเพียงเด็กคนนี้คนเดียวแล้ว…..”
ทำไมเธอถึงโง่ขนาดนั้น? มาพูดถึงสิทธิ์การได้เกิดออกมาดูโลกของเด็กต่อหน้าคนที่สามารถฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น? เธอนั้นโง่จริงๆเลย?
หลังจากนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวจึงระวังทุกคำพูดของตัวเอง ไม่กล้าทำอะไรเลยเถิดอีก เพราะกลัวว่าจะทำให้‘พญายม’โกรธจนลงมือจัดการเธอทิ้ง!
“สิ่งที่บ้านจิ๋นต้องการไม่ใช่ฉัน แต่เป็นตัวเด็ก บ้านยินทนไม่ไหว…….”ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดต่อ สายตาของเธอมองผ่านพัดลมระบายอากาศ มองไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่าง ท้องฟ้าค่อยๆมืดลง ใกล้จะเป็นเวลาค่ำแล้ว “มีคนมากมายไม่อยากให้เขาเกิดมา ทว่า ไม่ว่ายังไงฉันก็ยังอยากเห็นเขาเกิดมาและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ให้เขาอยู่เป็นเคียงข้างฉัน ตอนนี้ฉันไม่มีสามีแล้ว ฉันไม่อยากเสียลูกไปอีกคน……”
ไม่ชัดเจน ยินเสี้ยวเสี้ยวกำลังอ้อนวอน‘พญายม’ หวังว่าเขาจะเห็นแก่เด็กแล้วปล่อยพวกเขาไป ครั้งที่แล้วเขาก็เคยปล่อยเธอกับหลินยีเย่าไม่ใช่เหรอ?
เพราะเหตุผลนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวจึงกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้า‘พญายม’
“ฉัน……….”หลังจากนึกคิดไปครู่หนึ่ง ยินเสี้ยวเสี้ยวจึงเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “ฉันขอให้นายช่วยอะไรฉันอย่างหนึ่งได้ไหม?”
มือหนาที่กำลังลูบท้องของยินเสี้ยวเสี้ยวหยุดลง ‘พญายม’มองไปยังเธอด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนี้กำลังขอความช่วยเหลือจากเขา? ตกใจจนเป็นประสาทแล้วเหรอ?
“ลูกของฉัน……..”ยินเสี้ยวเสี้ยวอดทนต่อความหนาวเหน็บแล้วพูดต่อ ในน้ำเสียงนั้นปนคำขอร้องไปด้วย “ฉันอยากให้ลูกอยู่กับฉัน ไม่อยากส่งลูกไปให้บ้านจิ๋น ตอนที่ฉันคลอด ฉันอยากขโมยเด็กออกมา นายช่วยฉันได้ไหม? ฉันรู้ว่านายทำได้”
คนที่สามารถทำให้โรงพยาบาลวุ่นวายได้อย่างเขา แม้แต่หมอและพยาบาลในโรงพยาบาลก็มองข้อบกพร่องไม่ออก ยินเสี้ยวเสี้ยวเชื่อว่าเรื่องแบบนี้เขาต้องทำได้แน่
ในโกดังเงียบเป็นพิเศษ‘พญายม’มองดูยินเสี้ยวเสี้ยวไม่พูดอะไรออกมา
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ยินเสี้ยวเสี้ยวถึงจะได้ยิน‘พญายม’เอ่ยปากพูดขึ้น ยังดีที่เขาไม่ได้ทำให้เธอตกใจจนหัวใจวายตาย
มองดูยินเสี้ยวเสี้ยว ‘พญายม’หรี่ตาลงเล็กน้อย “ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอเป็นคนฉลาดจริงๆ การพูดถึงเด็กครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นสิ่งที่แน่นอนว่าต้องการให้ฉันปกป้องลูกของเธอ และถ้าเพื่อปกป้องลูก เธอก็จะไม่มีอันตรายด้วย แต่ฉันแค่คิดไม่ถึงว่า เธอจะเอ่ยปากขอร้องให้ฉันช่วยเพื่อที่จะถ่วงเวลา……..”
ทันใดนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวหน้าซีดทันที
ต้องยอมรับว่า เธอวางแผนแบบนี้ไว้จริงๆ แค่‘พญายม’สนใจในตัวเด็กที่อยู่ในครรภ์ เธอก็สามารถใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการให้‘พญายม’ไว้ชีวิตของพวกเขาทั้งสอง! การที่บอกว่าตัวเอง‘อยากจะขโมยเด็ก’ก็เป็นกลยุทธ์หนึ่ง ขณะเดียวกัน เธอก็อยากจะให้‘พญายม’ช่วยเธอจริงๆ ถ้ามีเขาคอยช่วย เธอก็จะสามารถขโมยเด็กออกมาได้อย่างแน่นอน
เมื่อถูก‘พญายม’อ่านเกมออก ยินเสี้ยวเสี้ยวก็กระวนกระวายใจ เธอจะทำให้เขาโกรธไหม?
หรือว่า เธอนั้นเป็นกังวลมากเกินไป?
“ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอนี่กล้าหาญดีนะ ถ้าเทียบกับครั้งที่แล้ว เธอกล้าหาญขึ้นเยอะเลย”‘พญายม’มองดูยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพูดขึ้น ในน้ำเสียงนั้นมีความสุขปนอยู่เล็กน้อย “ครั้งที่แล้วให้ฉันปล่อยพวกเธอไป มาครั้งนี้ให้ฉันช่วยพวกเธออีก”
ต่างกันแค่ เด็กในรอบที่แล้วเป็นหลินยีเย่า แต่เด็กในรอบนี้เป็นเด็กที่อยู่ในท้องเธอ
ยินเสี้ยวเสี้ยวเม้มริมฝีปาก เธอไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง ทำได้เพียงจ้องไปยังเขาด้วยความกระวนกระวายใจ
“ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอเข้าใจสถานะในวันนี้ของตัวเองไหม?”จู่ๆ‘พญายม’ก็ถามขึ้น เขาไม่ปล่อยโอกาสให้ยินเสี้ยวเสี้ยวตอบแล้วพูดต่อว่า “ตอนนี้เธอเป็นคนที่ถูกขายมาให้ฉัน พูดง่ายๆก็คือตอนนี้เธอเป็นคนของฉัน ฉันสามารถผ่าตัวเธอได้ตลอดเพื่อที่จะเอาอวัยวะข้างในของเธอออกมา รวมทั้งเด็กในท้องของเธอด้วย”
ยินเสี้ยวเสี้ยวกำมือแน่น แล้วดวงตาคู่โตก็จ้องไปยังผู้ชายตรงหน้า
ทว่า เธอไม่สามารถขยับตัวได้อยู่แล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชายปากร้ายอย่าง‘พญายม’จะปล่อยให้เธอหนีออกไปได้ เธอถูกมัดมือมัดเท้าไว้ ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกกังวลจนจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว
‘พญายม’ยืนขึ้น แล้วยืนมองท้องของยินเสี้ยวเสี้ยวอยู่ข้างๆเตียง จากนั้นก็พูดต่อว่า “ยินเสี้ยวเสี้ยว มีคนเสนอราคาที่สูงเพื่อซื้อหัวใจของเธอ เธอคิดว่าฉันควรร่วมมือกับเขา หรือร่วมมือกับเธอ?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวพยายามปรับอารมณ์ของตัวเองแล้วถามขึ้นว่า “เขาเสนอราคาเท่าไหร่?”
‘พญายม’ชูสองนิ้วขึ้น แล้วตอบออกมาอย่างอารมณ์ดีว่า “สองร้อยล้าน เป็นไง เธอจะยอมจ่ายสองเท่าเพื่อซื้อชีวิตของตัวเองกับลูกไหม?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวส่ายหน้าแล้วตอบอย่างเด็ดขาดว่า “ไม่ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกนายเป็นแบบนี้หรือเปล่า แต่ว่าใน‘บริษัทจื่อยิน’ล้วนเป็นแบบนี้ เมื่อพูดเจรจากับฝ่ายตรงข้ามแล้ว ไม่ว่าบุคคลที่สามจะมีข้อเสนอที่ดีแค่ไหนก็จะไม่เปลี่ยนใจ นี่มันเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ของการเป็นนักธุรกิจ”
ธุรกิจของ‘พญายม’ก็ถือว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับ‘ความซื่อสัตย์’ชนิดหนึ่ง ถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ ใครจะกล้ามาซื้อของกับตลาดมืดของเขาอีก? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเกี่ยวกับการค้าอวัยวะ!
“ฉันไม่สามารถจ่ายให้นายด้วยราคาที่สูงได้ ทว่า ฉันหวังว่านายจะคิดทบทวนดีๆ ฉันไม่สามารถจ่ายได้ แต่บ้านจิ๋นจ่ายได้”ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเสียงเบา เธอเชื่อว่าบ้านจิ๋นจะยอมจ่ายเพื่อปกป้องเด็กแน่ “เด็กคนนี้เป็นทายาทของบ้านจิ๋น เป็นลูกคนแรกของจิ๋นลี่ยวน พวกเขาไม่ละทิ้งแน่ แค่นายยื่นข้อเสนอไป บ้านจิ๋นต้องพยายามทำตามข้อเสนอแน่”
‘พญายม’พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยว อย่างที่ยินเสี้ยวเสี้ยวพูด ‘นักธุรกิจ’อย่างพวกเขาให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์มาก ถ้าข้อตกลงมีจริงก็ไม่ควรไปหาบ้านจิ๋นอย่างเด็ดขาด!
‘พญายม’ ไม่ได้พูดอะไรกับยินเสี้ยวเสี้ยว เขาหันไปโบกมือเรียกเจ้าชวดที่อยู่ไม่ไกลนัก เมื่อเจ้าชวดเห็นก็รีบวิ่งมาหา ในมือของเขานั้นยังถือกุญแจพวงใหญ่ไว้ เขาไขกุญแจปล่อยตัวยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างรวดเร็ว จากนั้น‘พญายม’ก็พูดขึ้นว่า “ยินเสี้ยวเสี้ยว ถือว่าเธอยังโชคดี เพราะฉันกับคนๆนั้นยังไม่ได้ทำข้อตกลงกัน ฉันแค่ตอบตกลงว่าจะแนะนำ‘หมอ’ของฉันให้เขา และเธอ ถูกฉันลบออกจากรายชื่อ…….”
ยินเสี้ยวเสี้ยวที่กลับมาเป็นอิสระนั้นมองไปยัง‘พญายม’อย่างอึ้งๆ เธอรู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่าเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ปัญหาได้ง่ายๆ และเธอก็ได้ยินเขาพูดขึ้นว่า “ยินเสี้ยวเสี้ยว มีตัวเลือกให้เลือกสองตัวเลือก เธอต้องถูกตัดแขนหรือขาทั้งสองข้างออก หรือไม่ก็เอาเด็กออกซะ เพียงแค่เลือกมาหนึ่งตัวเลือก เธอก็จะสามารถออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย และฉันจะกีดกันพวกที่ต้องการหัวใจของเธอให้ด้วย”
เมื่อสิ้นเสียงพูด ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ประหลาดและตกใจจนลุกขึ้นมายืนเผชิญหน้ากับ‘พญายม’แล้ว
เอาเด็กออก?
ด้วยสัญชาตญาณยินเสี้ยวเสี้ยวนั้นไม่สนใจตัวเลือกก่อนหน้านี้ เธอคิดว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้!