บทที่239 ทำไมถาวหยียังไม่มาอีกหรอ
‘พญายม’เงยหน้าขึ้นมามองยินเสี้ยวเสี้ยว แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อารมณ์ดีว่า “ทำไม? เธอไม่ยินยอมเหรอ?”
จะไปยินยอมได้อย่างไร!
มือเล็กกุมท้องของตัวเองไว้ ท้องของเธอนั้นยังไม่ใหญ่มาก ทว่า นี่เป็นลูกของเธอ บนโลกใบนี้มีแม่คนไหนยอมเอาชีวิตของลูกมาแลกกับชีวิตของตัวเองบ้าง? ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่คนเป็นครั้งแรก แต่เธอรู้ว่า คำว่า‘หน้าที่’นั้นเขียนอย่างไร!
เธอจ้องไปยัง‘พญายม’ด้วยความโกรธ ในตอนนี้ ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่รู้สึกกลัวเขาแล้ว
เผชิญหน้ากับชายที่ต้องการฆ่าลูกของเธอให้ตาย เธอกลัวแล้วจะมีประโยชน์อะไร?
แม้ที่นี่จะเป็นถิ่นของพวกเขา แม้ว่าด้านนอกจะมีหมออยู่มากมาย หรือแม้ว่าจะมีกล่องเล็กๆมากมายเรียงรายอยู่ตรงหน้าเธอ ทว่า เธอนั้นไม่กลัวอีกแล้ว! เพราะเธอรู้ดี ถ้า‘พญายม’ต้องการลงมือทำอะไรจริงๆ เธอที่อยู่ถิ่นของเขาไม่มีสิทธิ์ต่อต้านเลยแม้แต่น้อย
ในขณะเดียวกัน สิ่งเดียวที่ยินเสี้ยวเสี้ยวคาดหวังคือให้ถาวหยีรีบบอกจิ๋นลี่ยวนหรือยินจื่อเจิ้นถึงที่อยู่ของเธอ! มีเพียงหนทางนี้ เธอและลูกถึงจะมีโอกาสรอด!
‘พญายม’นั่งลงไปที่เตียง แล้วเงยหน้าขึ้นไปมองยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างสบายๆ ปล่อยให้ขาข้างหนึ่งห้อยได้อย่างอิสระ ท่าทางแบบนั้นของเขา ผ่อนคลายราวกับพวกเขากำลังคุยเรื่องสภาพอากาศของวันนี้อยู่ ทว่า เนื้อหาของบทสนทนานั้นทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกกลัว
“เป็นยังไง? ยินเสี้ยวเสี้ยว”เพราะเขาสวมหน้ากากไว้ ยินเสี้ยวเสี้ยวจึงเดาอารมณ์และสีหน้าภายใต้หน้ากากนั้นไม่ออก แต่แค่ฟังเสียงก็รู้สึกได้ถึงความอารมณ์ดีของเขา ทว่า ยิ่งเขาอารมณ์ดียินเสี้ยวเสี้ยวก็ยิ่งรู้สึกโมโห “เธอต้องคิดให้ดีนะ หน้าตาของเธอนั้นถือว่าสวย ถ้าไม่มีแขนหรือขาทั้งสองข้าง ในวันข้างหน้าคงจะใช้ชีวิตลำบาก ไม่มีมือ เธอยังจะออกแบบโฆษณาได้ไหม? และถ้าไม่มีขา เธอก็ต้องนั่งวีลแชร์ตลอดชีวิต เหมือนกับคุณหนูสองตระกูลมู่ ฉันได้ข่าวว่าตอนนี้เขาใช้ชีวิตลำบากมากเลยใช่ไหม? เธออยากลองดูไหม?”
คำพูดแต่ละประโยคของเขานั้น กำลังข่มขู่และทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกกลัว!
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนที่มีอวัยวะครบสมบูรณ์จะยอมรับและเผชิญกับความพิการของตัวเองอย่างกะทันหันได้ นี่คือเหตุที่ทำไมหลายๆคนที่เสียอวัยวะในร่างกายไป รู้สึกกดดันจนเลือกที่จะฆ่าตัวตาย หรือ ไม่เห็นด้วยที่จะตัดอวัยวะออกตั้งแต่แรก
ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีอวัยวะในร่างกายครบสมบูรณ์มาตลอดยี่สิบสามปี จู่ๆจะให้ยอมรับกับชีวิตที่ไม่สามารถจับปากกาได้อีก หรือชีวิตที่ต้องนั่งวีลแชร์ตลอดไปได้อย่างไร ทว่า เธอก็ไม่สามารถแท้งลูกในท้องได้! เพราะฉะนั้นสองตัวเลือกที่‘พญายม’เสนอให้นั้น เธอจะไม่เลือกสักอย่าง!
ไม่เพียงแต่ไม่เลือก ทว่า เธอยังจะหาวิธีที่สามารถทำให้เธอและลูกออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย!
เมื่อ‘พญายม’เห็นว่ายินเสี้ยวเสี้ยวไม่พูดอะไร เขาจึงพูดต่อว่า “ฉันว่า เธอยอมเอาเด็กในท้องออกเถอะ ในเมื่อเธอก็หย่าร้างกับจิ่งซานช่าวแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงยังยอมท้องลูกของเขา แถมยังได้รับคำดูถูกเยาะเย้ยจากคนภายนอกอีก ให้ฉันช่วยจัดการเด็กในท้อง จากนั้นเธอก็ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกโดยยังมีอวัยวะครบสมบูรณ์ อนาคตเธออาจจะได้เจอกับผู้ชายที่ดีกว่านี้ แล้วค่อยแต่งงานและมีลูกกันใหม่ ทำแบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ? เหมือนกับที่เธอพูด มีคนมากมายไม่อยากให้เด็กคนนี้เกิด ตอนนี้เธอกำลังท้อง และไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอีกเมื่อไหร่ ให้ฉันช่วยจัดการตอนนี้ ก่อนที่จะไปเจออันตรายในวันข้างหน้า แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ?”
ในขณะที่พูด ‘พญายม’มองยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “ยินเสี้ยวเสี้ยว จะว่าไปเธอควรขอบคุณฉันไม่ใช่เหรอ?”
ยินเสี้ยวเสี้ยวที่ได้ยินคำพูดของ‘พญายม’ ร่างกายของเธอก็เกิดอาการสั่นอย่างห้ามไม่ได้ ทว่า เธอก็ยังพยายามที่จะข่มความกลัวของตัวเอง สุดท้ายก็ทำเพียงจ้องไปยังเขาอย่างเงียบๆ ภายในดวงตาของเธอนั้นมีความขยะแขยงแฝงอยู่
เธอขยะแขยงเขาจริงๆ และไม่ชอบเขาอย่างมาก เรื่องนี้เป็นตั้งแต่เธอรู้ว่าเขาเป็นใครแล้ว เธอคิดว่า บนโลกใบนี้ไม่มีใครชอบคนแบบ‘พญายม’หรอก มีคนแบบนี้อยู่ข้างๆก็เหมือนมีลูกระเบิดที่ไม่รู้ว่าจะระเบิดตัวเมื่อไหร่อยู่ข้างๆ ไม่แน่ วันดีคืนดีเขาอาจจะลงมือฆ่าคนรอบข้างก็เป็นได้!
เมื่อก่อน เธอกลัว กลัวว่าเขาจะทำร้ายเธอ กลัวเขาทำร้ายลูกของเธอ ดังนั้นแม้เธอจะไม่ชอบเขา เธอก็ไม่แสดงออกมา แต่ว่า พอผู้ชายคนนี้มาพูดเรื่องแบบนี้กับเธออย่างจริงจัง เมื่อเป็นเช่นนี้เธอจึงแสดงความเกลียดที่มีต่อเขาออกมา ความเกลียดและความขยะแขยงในแววตาของเธอนั้นแสดงออกมาชัดเจนมาก
ทันใดนั้น‘พญายม’ก็หยุดพูด แล้วทำเพียงมองเธอผ่านหน้ากากอย่างเงียบๆ
ความเกลียดและความขยะแขยงในแววตาของเธอนั้น เขาดูออก
เขายืนขึ้นมากะทันหัน ‘พญายม’ยื่นมือออกไปบีบคางของเธออย่างรวดเร็ว บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองตัวเอง เมื่อเห็นว่าเธอใช้มือกุมท้องเพื่อปกป้องลูกโดยสัญชาตญาณ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ ยินเสี้ยวเสี้ยว ตอนนี้เธออยู่ในกำมือของฉัน เธอคิดว่าถ้าฉันอยากทำอะไรเธอจริงๆ การที่เธอต่อต้านเอาเป็นเอาตายแบบนี้จะมีประโยชน์เหรอ? ถ้าฉันจะปล่อยตัวเธอ เธอก็สามารถออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัย! แต่ถ้าฉันอยากให้เธอตาย ก็ระวังจะไม่ได้เห็นท้องฟ้าในวินาทีต่อไปของชีวิตเธอ!”
ร่างกายของเธอสั่นอย่างเห็นได้ชัด ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดอะไรไม่ออก ทำเพียงมองไปที่เขา ใบหน้าเล็กนั้นเริ่มซีดลง
“รังเกียจฉัน? ขยะแขยงฉัน? เกลียดฉัน? หึ เธอคิดว่าตอนนี้เธอมีสิทธิ์ที่จะแสดงอารมณ์แบบนี้ออกมาเหรอ?”‘พญายม’เข้าใกล้ตัวเธอมากขึ้น ถ้าไม่มีหน้ากากกั้นไว้ ไม่แน่เขาอาจจะหอมโดนแก้มเธอแล้ว ระยะห่างใกล้มาก ดูแล้วเหมือนเป็นภาพที่มีอะไรพิเศษ ทว่า ความเป็นจริงแล้วมันเต็มไปด้วยอารมณ์ตึงเครียด “ยินเสี้ยวเสี้ยว ฉันทำงานด้านนี้มานานขนาดนี้ ฉันไม่เคยเห็นอารมณ์แบบไหนบ้าง และเคยมีคนเอาชื่อฉันไปหลอกเด็ก คนที่ไม่ได้อยู่ในมือของฉัน ฉันเลือกที่จะไม่แคร์ได้ แต่ว่า เธอนั้นอยู่ตรงหน้าฉัน ก็ควบคุมอารมณ์ของตัวเองหน่อย ถ้ามันทำให้ฉันรู้สึกรำคาญ ฉันจะบอกเธอให้ว่า เธอและเด็กในท้องจบไม่สวยแน่!”
พูดจบ ‘พญายม’ก็เหวี่ยงตัวยินเสี้ยวเสี้ยวออกไปโดยไม่ใยดี ยินเสี้ยวเสี้ยวตกใจจนเบิกตากว้าง ร่างกายของเธอที่ไร้การควบคุมก็ไปชนกับโต๊ะข้างๆที่วางกล่องเล็กๆไว้ สายตามองไปยังท้องของเธอที่กำลังจะชนมุมโต๊ะ ยินเสี้ยวเสี้ยวจึงพยายามใช้แรงพลิกตัวให้เอวชนกับมุมโต๊ะแทน จากนั้นเธอก็ล้มลงกับพื้น
หมอที่มองเข้ามาจากด้านนอกโดยตลอด ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเย้ยออกมา
ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกอับอายมาก เธอล้มลงกับพื้นโดยที่มือนั้นกุมท้องไว้ ชุดผู้ป่วยบางๆนั้นไม่สามารถทนต่อฤดูหนาวนี้ได้ เธอหนาวและเจ็บมาก เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เอว เธอนั้นก็กลัวมากว่าความเจ็บนี้มันจะส่งผลกระทบไปยังเด็กในท้องของเธอ นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
ยินเสี้ยวเสี้ยวกัดริมฝีปากของตัวเองแน่น เธอหลับตาลงไม่พูดอะไรออกมา
ถาวหยี ทำไมนายยังไม่มา?
จิ๋นลี่ยวน นายอยู่ไหน?
มีความคิดมากมายอยู่ในหัว ทว่า สุดท้ายแล้วก็มีความคิดที่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปเป็นความคิดหลักอยู่ดี
เธออยากจะออกไปจากที่นี่โดยสวัสดิภาพอยู่ดี!
แต่ตอนนี้มันเริ่มมืดแล้ว ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
มองดูยินเสี้ยวเสี้ยวที่กระอักกระอ่วน ทั้งตัวของ‘พญายม’นั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็น สองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หันหลังแล้วเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงคำว่า “ดูแลเธอดีๆ ถ้าไม่มีคำสั่งจากฉัน ก็ห้ามทำอะไรเธอ!”
เมื่อสิ้นเสียงพูด ก็มีคนมาพายินเสี้ยวเสี้ยวไปที่โกดังเล็กๆ และคอยเฝ้าเธอไว้
——ผู้หญิงคนนี้โชคดีจริงๆ ยังได้การดูแลที่‘พิเศษ’อีกด้วย
——ยอมรับว่าเธอโชคดีจริงๆ แต่แค่ไม่รู้ว่าคราวนี้‘พญายม’จะเอาวิธีไหนมาจัดการกับเธอ
——พูดถึงวิธีการของ‘พญายม’ อยากรู้จริงๆว่าเขาจะใช้วิธีไหน
——คนอย่าง‘พญายม’ ใช่ว่าใครก็จะมาเกลียดกันได้ง่ายๆ ผู้หญิงคนนี้ใจกล้าจริงๆ
……
คนที่มาพาตัวยินเสี้ยวเสี้ยวไปนั้นทุกคนล้วนใส่แมสไว้ มองไม่เห็นหน้าตาที่แท้จริงของพวกเขา พวกเขาเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับชะตากรรมของเธอต่อหน้าเธออย่างไม่สนใจอะไร และในน้ำเสียงนั้นก็เต็มไปด้วยความคาดหวังที่จะได้เห็นชะตากรรมของเธอ
ตอนที่โดนพวกเขาดึงขึ้นมา สีหน้าของยินเสี้ยวเสี้ยวก็ซีดลง
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่อยากให้คนอื่นโดนตัวเธอ เธอจึงพยายามไปโกดังเล็กนั้นด้วยตัวเอง เพียงแต่เดินโซเซเล็กน้อย ผู้ชายหลายคนที่คุมตัวเธออยู่ คุยกันอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ‘พญายม’ ตอนนี้พวกเขาไม่แคร์ความล่าช้าในการเดินของเธอเลย
ยินเสี้ยวเสี้ยวกัดริมฝีปากแน่น เธอพยายามทำให้ตัวเองสงบจิตสงบใจ ทว่า แม้เธอจะพยายามเพียงใดก็ยังแสดงท่าทีที่กลัวออกมาอยู่ดี
จะไม่กลัวได้ยังไง?
ที่นี่คือที่ไหน ‘พญายม’เป็นคนยังไง?
ยินเสี้ยวเสี้ยวพยายามอดกลั้นไว้ ไม่ให้น้ำตาของเธอไหลออกมา
ยินเสี้ยวเสี้ยวถูกพาไปขังในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง ในที่สุดเธอก็ได้อยู่คนเดียวแล้ว หลังจากที่ได้ยินเสียงปิดประตูอย่างดังจากด้านหลัง เธอก็กอดเข่าตัวเองแล้วร้องไห้ออกมา
จิ๋นลี่ยวนทำไมนายยังไม่มา นายรู้ไหมว่า ฉันรู้สึกกลัวมากเลย……..
ในเมื่อนายยอมรับแล้วว่ามีใจให้ฉัน แล้วทำไมนายยังไม่มาอีก……
ในเวลานี้ ภายในหัวของยินเสี้ยวเสี้ยวมีเพียงจิ๋นลี่ยวน
ตั้งแต่แต่งงานกันมา ทุกครั้งที่เธอเกิดเรื่องจิ๋นลี่ยวนก็เป็นคนช่วยเธอตลอด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดหรือปัญหาที่ซุกไว้ใต้พรม เขาก็สามารถปกป้องเธอได้ การพึ่งพาแบบนี้ค่อยๆก่อตัวขึ้น คนเราก็เป็นแบบนี้แหละ เมื่อคุ้นชินกับอะไรแล้วก็จะเคยตัว ราวกับยาเสพติดที่ยากจะเลิกเสพ
เธอนั่งอยู่ตรงมุมห้อง ยินเสี้ยวเสี้ยวกอดตัวเองแน่น มือเล็กพยายามลูบท้องวนไปมาเพื่อให้เกิดความอบอุ่น เธอไม่สามารถปล่อยให้เกิดเรื่องกับลูกได้
ช่องระบายอากาศนั้นค่อนข้างใหญ่ ทำให้ลมหนาวจากด้านนอกพัดเข้ามาได้ และทำให้ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกหนาวจนตัวสั่น
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองดูช่องระบายอากาศ และแล้วก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา
เธอพยุงตัวเองขึ้นแล้วค่อยๆเดินไปที่ประตู จากนั้นก็มองออกไปด้านนอกผ่านช่องโหว่ของประตู ด้านนอกนั้น มีผู้ชายสองคนกำลังสูบบุหรี่และพูดคุยกันอยู่ แต่พวกเขายังคงใส่แมสไว้ จึงมองไม่เห็นใบหน้าชัดๆ เมื่อมั่นใจว่าพวกเขายังจะพูดคุยกันอีกนาน ยินเสี้ยวเสี้ยวจึงหันหลังกลับแล้วมองไปยังช่องระบายอากาศ
ไม่รู้ว่าอีกด้านหนึ่งของช่องระบายอากาศเป็นที่ไหน?
สายตาของเธอกวาดมองไปรอบๆห้อง สิ่งของในนี้ล้วนเป็นของขนาดใหญ่ ถ้าจะใช้แรงของเธอในการขนย้ายคงเป็นไปไม่ได้ ยินเสี้ยวเสี้ยวรีบเดินเข้าไปดูว่าสิ่งของในนั้นมีอะไรที่พอจะเอามาใช้ได้บ้าง เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เอว เธอก็กัดริมฝีปากแน่น ทว่า ขาของเธอนั้นก็ไม่หยุดเดิน
ยินเสี้ยวเสี้ยวเดินตรงไปเปิดกล่องกระดาษใหญ่ โดยที่มือข้างหนึ่งจับไว้ที่เอว เธอคาดหวังให้ในกล่องมีอะไรแข็งๆที่สามารถช่วยให้เธอหนีรอดออกไปได้………