Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา – บทที่249 การแต่งงานของบ้านจิ๋นกับตระกูลมู่หรอ

บทที่249 การแต่งงานของบ้านจิ๋นกับตระกูลมู่หรอ

บทที่249 การแต่งงานของบ้านจิ๋นกับตระกูลมู่หรอ

ค่ำคืนในฤดูหนาวช่างหนาวมาก เมืองTที่แบบนี้ก็เป็นแถบที่ฤดูหนาวก็หนาวขั้นสุดฤดูร้อนก็ร้อนขั้นสุด ฤดูหนาวมาแล้วก็หนาวจนไม่น่าเชื่อ แต่ในตอนนี้กลับมีผู้ชายสองคนยืนอยู่สวนดอกไม้โรงพยาบาล ประจันหน้ากันเหมือนไม่รู้สึกหนาวเลยด้วยซ้ำ

ดวงตาเฉียบคมนั้นมองดูเฉินหยูอย่างเย็นชา สำหรับชายหนุ่มคนนี้เขาก็ไม่ค่อยชอบเสียเท่าไหร่ เหมือนกัน จิ๋นลี่ยวนบุคคลอันตรายแบบนี้ เฉินหยูก็ไม่ชอบ

ดวงตาสีดำคลับจ้องจิ๋นลี่ยวนอยู่อย่างนั้น ไม่ปิดบังความเกลียดและความระวังตัวเลย เฉินหยูพูดไปว่า “จิ๋นลี่ยวน นายหย่ากับพี่สาวฉันแล้ว ไม่ควรรบกวนชีวิตของเธอแล้วไหม? อย่าบอกนะว่าคุณชายบ้านจิ๋นเป็นคนไม่มีสัจจะในคำพูดน่ะ!”

เฉินหยูตอนนี้เกลียดจิ๋นลี่ยวนมาก ตั้งแต่รู้ว่ายินเสี้ยวเสี้ยวเป็นพี่สาวของตัวเองแล้วก็ยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ เกลียดจนเขาอยากจะพาพี่สาวออกไปจากที่นี่ ให้เขาไม่ได้เจอกับเธออีก! ก่อนหน้านี้แม้เขาจะไม่รู้ตัวตนของยินเสี้ยวเสี้ยว แต่เมืองTบ้านจิ๋นเป็นตระกูลที่ใหญ่โตขนาดนั้น เรื่องที่ซานช่าวบ้านจิ๋นยืนอยู่ต่อหน้าผู้คน ดังระเบิดไปทั่ว ถึงเขาจะเป็นแค่นักเลงข้างถนนก็ต้องมีรู้บ้างล่ะ และยินเสี้ยวเสี้ยวก็เป็นตัวหลักในหลายๆเรื่องอีกด้วย!

ทุกย่างก้าว เฉินหยูเห็นแต่เลือดและน้ำตาของยินเสี้ยวเสี้ยว!

“แน่นอน ฉันซาบซึ้งมากที่นายช่วยพี่สาวฉันไว้ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าพี่สาวฉันออกห่างจากนายจะดีกว่า ห่างจากนายที่ทำให้เธอต้องเสียใจตลอดเวลา ขอแค่นายออกห่างจากพี่สาวฉัน ฉันเชื่อว่าเธอจะหายในไม่ช้านี้!” เฉินหยูพูดไปตรงๆ สายตาเด็ดเดี่ยว แม้จะอ่อนวัย แต่ก็ไม่ปิดบังที่ตัวเองปกป้องยินเสี้ยวเสี้ยว

แม้ยินเสี้ยวเสี้ยวจะเป็นพี่สาวที่เขาไม่เคยเจอมาก่อนก็ตาม

ขมวดคิ้วเล็กน้อย จิ๋นลี่ยวนเดินไปนั่งพักม้านั่งอย่างใจเย็น และไม่พูดแทรกเฉินหยู จนกระทั่งเขาถูกจบแล้วถึงเงยหน้ามองเขา

ชายหนุ่มในค่ำคืนยังเด็กมาก แต่ก็มีพลังบางอย่างเหมือนกัน

เฉินหยูกับยินจื่อเว่ยอายุเท่ากันยี่สิบเอ็ดปี แต่กลับไม่เหมือนยินจื่อเว่ยเลย ยินจื่อเว่ยแม้จิ๋นลี่ยวนจะไม่เคยเห็น แต่กลับได้ยินชื่อเสียง ‘มารผจญบ้านยิน’ มาไม่น้อย ได้ยินว่าเขาฟังแค่คำพูดของยินจื่อเจิ้นกับยินเสี้ยวเสี้ยว ในบ้านยินก็มีแต่ยินเสี้ยวเสี้ยวที่รักเอ็นดูน้องชายคนนี้ อาจเป็นเพราะเติบโตมาในครอบครัวที่ร่ำรวย ยินจื่อเว่ยทำตัวโอหังไปหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นยังหยิ่งยโสอีก แต่ก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร แต่เฉินหยูที่อยู่ตรงหน้านี้กลับแตกต่างจากยินจื่อเว่ยไปคนละคั่วเลย

ตั้งแต่รู้ความสัมพันธ์ของเฉินหยูกับซูเหนียงแล้ว จิ๋นลี่ยวนก็เคยสืบเขามาแล้ว

เฉินหยูใช้ชีวิตประหยัดมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องออกไปทำงานเลี้ยงดูตัวเองอีก เจอผู้คนมากมายและเรื่องราวมากมายอีกด้วย ทางจิตใจโตกว่ายินจื่อเว่ยมาก แต่ว่าเทียบกับคนที่อายุมากกว่าแล้วก็ยังอ่อนกว่ามาก

“เฉินหยู นายกับเสี้ยวเสี้ยวเป็นอะไรกัน?” มองดูเขา จิ๋นลี่ยวนถามกลับเสียงเบา “นายมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจแทนเธอ?”

คำถามง่ายๆ เฉินหยูก็ทนไม่ไหวก้าวออกมาพูดว่า “ฉันเป็นน้องชายของเธอ! ฉันต้องรับผิดชอบปกป้องพี่สาวฉันไม่ให้ถูกทำร้าย รวมทั้งนายด้วย!”

“เหอะ……” เสียงสบถเบาๆ จิ๋นลี่ยวนเอนหลังไปพิงพนักเก้าอี้ให้ตัวเองผ่อนคลาย และพูดต่อว่า “น้องชาย? น้องชายอะไรกัน? น้องชายแท้ๆเหรอ? ฉันจำได้ว่าคุณหนูบ้านยินมีน้องชายแค่คนเดียวชื่อว่ายินจื่อเว่ย ตอนนี้เรียนหนังสืออยู่นอก ส่วนนาย นายเป็นน้องชายใคร?”

คำถามติดต่อกันยาวเป็นพ่วงทำเอาเฉินหยูหน้าซีดเซียว ยังไม่ทันได้พูดจิ๋นลี่ยวนก็พูดต่อแล้ว

“เฉินหยู นายเก่งพอก็ไปบอกต่อหน้าเสี้ยวเสี้ยว นายเป็นน้องชายเธอ น้องชายแท้ๆ!” ทุกคำพูด จิ๋นลี่ยวนพูดโดยจ้องมองหน้าเขานิ่ง มีความโหดเล็กน้อย “ถ้านายกล้าพูด ฉันจะออกไปแน่!”

เฉินหยูที่กัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่นไม่ได้พูดอะไร สองมือกำหมัดแน่นพยายามควบคุมอารมณ์ความโกรธไว้

เขาจะกล้าได้ยังไง? จะทำได้ยังไงกันล่ะ?

ถ้าเขาพูดแบบนี้ต่อหน้ายินเสี้ยวเสี้ยวละก็ งั้นก็ไปบอกว่ายินเสี้ยวเสี้ยวไม่ใช่ลูกสาวบ้านยินน่ะสิ? ถึงตอนนั้นบ้านยินจะต้องจู่โจมยินเสี้ยวเสี้ยวทันที เขาไม่ก่อเรื่องให้เธอในตอนนี้หรอก ร่างกายเธอยังไม่ดีเลย เขาจะทำได้ยังไง?

อีกอย่าง ที่จริงในใจเขาแล้ว ยินเสี้ยวเสี้ยวยังไงก็ใช้ชีวิตลูกคุณหนูในบ้านยิน ออกไปที่ไหนคนอื่นก็ต้องเกรงใจกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมียินจื่อเจิ้นเป็นพี่ชายอีก แต่ถ้าเธอรู้จักกับตัวเองแล้วล่ะ? ยินเสี้ยวเสี้ยวก็จะไม่ใช่คุณหนูในบ้านยินอีก เธอจะเป็นแค่พี่สาวของนักเลงกระจอกๆธรรมดา!

ความแตกต่างแบบนี้อย่าว่าแต่ยินเสี้ยวเสี้ยวเลย ขนาดเขายังรับไม่ได้เลย!

มองค้อนจิ๋นลี่ยวนอย่างโมโห เฉินหยูรู้ดี เขาตั้งใจพูดแบบนี้!

เขารู้ ว่าเขาไม่กล้าทำแบบนี้แน่นอน!

จิ๋นลี่ยวนลุกขึ้นยืน ส่วนสูงร้อยแปดสิบแปดของเขายืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่มีความกดดันเลย ก้มหน้าลงมองใบหน้าที่อ่อนวัยของเขา และพูดเสียงเบาว่า “เฉินหยู จำไว้ว่าตัวเองเป็นใคร นายเป็นลูกชายของซูเหนียง เป็นศัตรูของฉัน ยินเสี้ยวเสี้ยวก็คือยินเสี้ยวเสี้ยว เธอเป็นคุณหนูบ้านยิน และจะเป็นตลอดไปด้วย! อย่าคิดจะดึงเธอเข้าไปในโลกสกปรกของพวกนาย! และอย่ามาตะโกนพูดกับฉันเพราะตัวตนของนาย ฉันไม่รับการข่มขู่ใดๆทั้งสิ้น”

ลูกกระเดือกขยับเล็กน้อย ร่างกายของเฉินหยูสั่นเทาเบาๆ

มาอีกแล้ว

ตอนนั้นภาพความโหดเหี้ยมของจิ๋นลี่ยวนกลับมาอีกครั้ง!

อยู่ตรงหน้าเขา เขาเปิดเผยความอำมหิตของเขาออกมาอย่างไม่ปิดบัง

เขาเคยเห็นคนโหดเหี้ยม แต่ปีศาจเหมือนจิ๋นลี่ยวนเขาพึ่งเคยเจอครั้งแรกจริงๆ

หันหน้าไปมองเขา จิ๋นลี่ยวนอดไม่ได้กระตุกยิ้มพูดว่า “จำไว้ ครอบครัวของนายเป็นใครก็คือคนนั้น และครอบครัวของเสี้ยวเสี้ยวเป็นใครก็ยังคงเป็นตามเดิม ฉันจะไม่ยอมให้มันเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก งั้นก็อย่าคิดที่จะเปลี่ยนแปลงมันเด็ดขาด!”

พูดจบ จิ๋นลี่ยวนก็ก้าวเดินต่อไปทิ้งเฉินหยูไว้ท้ายหลังตัวเอง!

ยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งแต่นี้ต่อไปก็จะเป็นยินเสี้ยวเสี้ยว เธอเป็นคุณหนูบ้านยิน เป็นน้องสาวของยินจื่อเจิ้น!

เธอจะไม่ใช่ลูกสาวของซูเหนียง และจะไม่ใช่พี่สาวของเฉินหยู!

สายตาเด็ดเดี่ยว จิ๋นลี่ยวนเดินต่อไปโดยไม่หยุด!

เฉินหยูที่อยู่ด้านหลังเข้าใจคำพูดของเขาทุกคำ ตั้งแต่นี้ต่อไปยินเสี้ยวเสี้ยวก็คือยินเสี้ยวเสี้ยว เฉินหยูก็คือเฉินหยู ระหว่างพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งสิ้น!

กัดริมฝีปากตัวเองแน่น เฉินหยูเกลียดตัวเองที่ไม่แข็งแกร่งมากพอ! ถ้าเขามีความสามารถมากพอ วันนี้จิ๋นลี่ยวนจะพูดแบบนี้ได้เหรอ? ยังกล้าจับพี่สาวตัวเองไว้ไม่ปล่อยแบบนี้เหรอ?

ไม่หรอก!

ยังเดินไม่ถึงห้องผู้ป่วย จิ๋นลี่ยวนก็เห็นพี่หลิงกับเถียนหรงยืนรออยู่ด้านนอก

“ทำไมเหรอ?” จิ๋นลี่ยวนรีบเดินไปดูสถานการณ์ในห้องทันที คิดว่ายินเสี้ยวเสี้ยวเป็นอะไรไป จนกระทั่งเห็นเธอนอนอยู่บนเตียงก็ถึงโล่งอก และหันไปมองพวกเขา “มีธุระเหรอ?”

ในตอนนี้ เที่ยงคืนแล้วทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?

เถียนหรงมองไปที่มือของจิ๋นลี่ยวนเม้มปากไม่ได้พูดอะไร แต่กลับเป็นพี่หลิงที่เอ่ยปากพูดก่อนว่า “หมอจิ๋น คุณแผนกโรคหัวใจใช้คนขึ้นมาเชิญคุณไปช่วยหน่อยน่ะค่ะ”

พอพูดจบ จิ๋นลี่ยวนก็หรี่ตาครุ่นคิดทันที

นั่นก็เป็นมู่เยียนหรานน่ะสิ?

เงียบอยู่สองวินาที ทั้งสามคนยืนอยู่ที่เดิมไม่พูดอะไร สุดท้ายจิ๋นลี่ยวนก็ถามว่า “สถานการณ์เป็นยังไง?”

“ตอนนี้รู้แค่ว่าอาการคุณมู่กำเริบ” พี่หลิงตอบเสียงเบา ในน้ำเสียงไม่มีอารมณ์ใดๆปนอยู่ “เดือนนี้อาการของเธอกำเริบแล้วหลายครั้ง อาจจะหนักกว่าเดิม”

หันกลับไปมองในห้องผู้ป่วย จิ๋นลี่ยวนยังไงก็เดินไปดูแผนกโรคหัวใจหน่อยแล้วกัน ไม่ว่ายังไงความสัมพันธ์ของบ้านจิ๋นกับตระกูลมู่ก็ยังอยู่ เขาจะทำเกินไปไม่ได้ อีกอย่างเขาเองก็เป็นหมอ จะไม่ไปดูไม่ได้

แต่ว่า จิ๋นลี่ยวนไม่คิดว่า ตอนที่เขาพึ่งเดินไปถึงแผนกโรคหัวใจ มู่เยียนหรานถูกคนเข็นออกจากห้องผ่าตัดพอดี จื่อผู่หยางเดินตามติดๆด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล มู่หลงก็ปกป้องเธออย่างระมัดระวัง

“มู่เยียนหราน มู่เยียนหราน……” แม้จะรู้ว่ามู่เยียนหรานที่ยังอยู่ในฤทธิ์ยาสลบไม่ได้ยินอะไรก็ตาม แต่ก็ยังเรียกไม่ขาดสาย

ถอนหายใจโล่งอกและยืนอยู่ด้านหลัง เห็นจิ๋นลี่ยวนมาก็รีบเข้าไปคุยอาการป่วยมู่เยียนหรานกับเขาทันที โรคหัวใจที่มาจากครรภ์มารดาแต่ทารก เป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขาพอตัว ตอนนี้กลับยังหาหัวใจที่เหมาะสมไม่ได้อีก ไม่งั้นผ่าตัดไปตั้งนานก็คงไม่เป็นแบบนี้แล้ว……

“หมอจิ๋น คุณว่า……” กำลังพูด จื่อผู่หยางที่อ่อนไหวก็หันไปมองเขา วินาทีต่อมาก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าจิ๋นลี่ยวน

“จิ๋นลี่ยวน นายมาทำไม? นายก็ไปดูแลอดีตภรรยาของนายสิ เก่งพอก็ไม่ต้องมา!” จื่อผู่หยางตะโกนเสียงดัง ไม่รู้สึกเลยว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาล “ฉันจะบอกนายให้นะ ถ้ามู่เยียนหรานเป็นอะไรไป ฉันจะไม่อภัยนายกับนังผู้หญิงสำส่อนยินเสี้ยวเสี้ยวนั่นแน่นอน!”

คำพูดติดปากมีแต่ ‘อดีตภรรยา’ กับ ‘ผู้หญิงสำส่อน’

จิ๋นลี่ยวนถูกสั่งสอนมาดียังไงก็คงหมดความอดทนเหมือนกัน เขามองจื่อผู่หยางอย่างเย็นชาและพูดว่า “คุณหญิงมู่ระวังคำพูดหน่อยครับ ที่นี่โรงพยาบาล ขอให้คุณรักษาความสงบด้วย!”

พอถูกจิ๋นลี่ยวนต่อว่าแบบนี้เข้า จื่อผู่หยางก็อารมณ์เสียมากขึ้นกว่าเดิม หน้าอกมีไฟปะทุขึ้นแทบจะระเบิดออกมา มู่หลงก็มองจิ๋นลี่ยวนด้วยสายตาไม่พอใจเช่นกัน รู้สึกเด็กคนนี้ไม่มีมารยาทเลย เขาจะมาต่อว่าผู้ใหญ่แบบนี้ได้ยังไงกัน? จึงอยากเข้าไปสั่งสอนจิ๋นลี่ยวนเสียหน่อย แต่เขากลับมีสนใจและหันหน้าไปหาพูดว่า “ ต่อเลย”

ทำเอาจื่อผู่หยางยิ่งโกรธมากกว่าเดิมเป็นหลายเท่าตัว ยิ่งตอนที่ในห้องVIPที่เธอไปเมื่อกี้ถูกเขาเมินไม่สนใจ แต่ตอนนี้เขากลับตามลงมา ความรู้สึกหยิ่งยโสครอบงำจื่อผู่หยาง แม้จิ๋นลี่ยวนจะพูดแบบนั้นแล้ว แต่เธอก็ก้าวไปข้างหน้ากระชากตัวเขามา ด่าทอว่า “จิ๋นลี่ยวน นายหยิ่งมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงลงมาล่ะ? ฉันจะบอกนายให้นะ ตอนนี้สายไปแล้วล่ะ! รอมู่เยียนหรานตื่นขึ้นมาฉันจะบอกเธอเรื่องที่นายทำก่อนหน้านั้น! ฉันจะดูซิว่านายจะง้อเธอยังไง!”

สีหน้าจิ๋นลี่ยวนบึ้งตึงกว่าเดิม! ไม่เข้าใจว่าพวกเขาคิดว่ามู่เยียนหรานกับเขาคู่กันเหรอ?

แต่ตอนนี้สีหน้าของจิ๋นลี่ยวนในสายตาคนนอกแล้ว กลับเหมือนเขารู้สึกผิดมาก รู้สึกเสียใจ ไม่มีใครเห็นเลยว่ามีแสงแฟลชกะพริบจากมุมทางเดิน

การแต่งงานของบ้านจิ๋นกับตระกูลมู่? หรือว่าจะไม่ใช่ข่าวใหญ่งั้นเหรอ……

พยาบาลเดินผ่านมาพอดี นักข่าวรีบเก็บของตัวเองและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Status: Ongoing

แม่เลี้ยงวางแผนอยากให้เธอแต่งงานกับชายแก่ที่มีอายุ 40ปี โดยเป็นการสมรสทางธุรกิจ เธอเลยไปจับผู้ชายบนถนนคนหนึ่งมาอย่างฉุกละหุกและถามว่า:“คุณกล้าแต่งงานกับฉันไหม?”จิ๋นลี่ยวที่เพิ่งถูกแฟนเบี้ยวนัดตอบว่า:“พอดีเลย วันนี้ผมเอาทะเบียนบ้านมาแล้ว ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีอายุ 23ปี ก็เลยแต่งงานกับผู้ชายที่พึ่งเจอกันสองครั้งแบบสายฟ้าแลบ หลังจากนั้น แม่สามีส่งเครื่องต้มไข่ให้กับยินเสี้ยวเสี้ยว บอกเธอว่าต้องทานไข่ทุกวันเพื่อเพิ่มโปรตีน พอดีจิ๋นลี่ยวนกำลังเดินผ่าน แล้วพูดอย่างจริงจังว่า:“ที่รัก คุณกินทุกวันไม่ใช่หรือ ยังไม่เพียงแต่อันเดียวเท่านั้น” ยินเสี้ยวเสี้ยวนิ่งไปสักพักแล้วใบหน้าก็แดงไปหมด:“คน…ลามก!”จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้ว:“ผมพูดอะไรไปหรอ?“

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน