ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 1826 ออกจากตระกูลราชันฉีหลิน

ตอนที่ 1826 ออกจากตระกูลราชันฉีหลิน

ตอนที่ 1826 ออกจากตระกูลราชันฉีหลิน
หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้พักอาศัยอยู่ที่ตระกูลราชันฉีหลินชั่วคราว ก็ได้เตรียมตัวออกเดินทาง ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปจากแล้ว

ในขณะที่เขามายังแดนสิบนั้น เดิมทีต้องการมาตระกูลราชันฉีหลินเพื่อพบกับสหายเก่า น่าเสียดายไม่ได้พบ กระทั่งโอกาสกล่าวคำอำลายังไม่มีเลย

“ไม่ทราบว่าใต้เท้าจะเดินทางไปที่ใด? หากใต้เท้าไม่รังเกียจ ข้าน้อยยินดีรั้งอยู่ข้างกายใต้เท้า ติดตามใต้เท้าไปทุกที่” ขณะหลี่ชิเย่กำลังจะจากไป จอมเทพหนานหยางได้เอ่ยขึ้นด้วยความเคารพยิ่ง

จอมเทพหนานหยางในเวลานี้มีฐานะเป็นจอมเทพที่ยอดเยี่ยมมาก แต่นาทีนี้ เขายังคงต้องอยู่ในฐานะผู้เยาว์เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ ด้วยท่าทีที่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง

ความจริงแล้ว กล่าวสำหรับจอมเทพหนานหยางแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรน่าอาย อย่าว่าแต่ตัวเขาที่เป็นแค่จอมเทพตัวเล็กๆ เท่านั้น ในสิบสามทวีปนี้ ไม่รู้ว่ามีจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนจำนวนเท่าไรที่เป็นผู้เยาว์ของเขา

นี่คือผู้ดำรงอยู่ในฐานะเป็นผู้อำนวยการศึกล่าราชัน เขาเคยบัญชาการร้อยราชัน ในโลกนี้มีเพียงผู้ดำรงอยู่ในฐานะราชันซื่อตี้ที่เสมอเขาได้ ส่วนจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนล้วนแล้วแต่ไม่สามารถต่อสู้กับเขาได้

ดังนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อยู่ในฐานะสูงสุดแล้ว จอมเทพตัวน้อยๆ เช่นเขาไม่ต่างอะไรจากมดปลวกสักเท่าไร

หลี่ชิเย่หัวเราะ ส่ายหน้าและกล่าวว่า “แม้ว่าโอกาสที่จอมเทพจะนำมาซึ่งสวรรค์ลงทัณฑ์มีน้อยมาก โดยเฉพาะจอมเทพที่ยังไม่ได้ควบคุมพลังการเข้าถึงตัวตนอันแท้จริง โอกาสนั้นชแทบจะละเลยไม่ต้องคำนึงถึง แต่ ยังคงมีความเป็นไปได้”

ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้ ได้มองดูจอมเทพหนานหยางและกล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “เจ้าเองก็รู้จักกาลเทศะ สามารถรั้งอยู่ข้างกายคอยรับใช้ข้านับว่าไม่ง่ายนัก เจ้ายังคงไม่คงยากที่จะควบคุมพลังการเข้าถึงตัวตนอันแท้จริง การประสานกันของดวงตราสัญลักษณ์ ซึ่งหามใช่เป็นเรื่องที่ง่ายดาย เส้นทางสายนี้ยังอีกต้องก้าวเดินไปอีกไกล”

“ใต้เท้าพูดได้ถูกต้อง หากจอมเทพสามารถประสานดวงตราสัญลักษณ์ได้ ควบคุมพลังการเข้าถึงตัวตนอันแท้จริงได้ ก็จะมีความหวังเทียบเคียงกับจอมราชันเซียนหวัง คิดจะก้าวให้ถึงขั้นนี้ใช่จะเป็นเรื่องง่ายดาย” จอมเทพหนานหยากล่าวทอดถอนใจออกมา

“เอาเถอะ เห็นแก่เจ้าที่ไม่ง่ายนัก สองวันมานี้ข้าได้เขียนเกี่ยวกับพลังการเข้าถึงตัวตนอันแท้จริงจากประสบการณ์มาบทหนึ่ง เจ้าเอาไปศึกษาและบรรลุให้ดีก็แล้วกัน ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อเจ้าเป็นอย่างยิ่ง” หลี่ชิเย่ล้วงหยิบที่เขียนด้วยลายมือ แล้วยื่นให้กับจอมเทพหนานหยาง

จอมเทพหนานหยางถึงกับตะลึงนิดหนึ่ง เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ พลังการเข้าถึงตัวตนอันแท้จริงเป็นอาณาจักรเกี่ยวพันถึงจอมราชันเซียนหวัง และจอมเทพที่มีความแข็งแกร่ง จอมราชันเซียนหวังทุกๆ คนต่างก็มีเคล็ดลับของตน อาณาจักรลักษณะนี้มีความสำคัญมากเหลือเกิน อีกทั้งด้านในนั้นเกี่ยวพันถึงความลับเป็นอันมาก ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังก็จะไม่ยอมถ่ายทอดเคล็ดลับเช่นนี้โดยง่ายดาย!

เวลานี้ หลี่ชิเย่กลับถ่ายทอดประสบการณ์อาณาจักรของพลังการเข้าถึงตัวตนอันแท้จริงของตนให้ตามอารมณ์ กล่าวสำหรับจอมเทพหนานหยางแล้ว ประสบการณ์ลักษณะเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขากระหายอยากได้มากที่สุด กล่าวสำหรับเขาแล้วมันคือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้

เวลานี้ มือทั้งสองข้างของจอมเทพหนานหยางถึงกับสั่นเทา เมื่อรับเอาแผ่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือมา กางเปิดอออกดูเบาๆ มันคือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรแห่งพลังการเข้าถึงตัวตนอันแท้จริงนั่นเอง ประสบการณ์ประเภทนี้ผู้บำเพ็ญตนทั่วไปได้สามารถเข้าใจได้ มีเพียงพวกเขาที่ฝึกมาจนถึงระดับนี้แล้วอ่านแล้วจึงจะเข้าใจได้

“ขอบคุณใต้เท้า” จอมเทพหนานหยางรู้สึกดีใจอย่างยิ่ง ก้มกราบกับพื้น และกล่าวว่า “บุญคุณใหญ่หลวงของใต้เท้า ตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางของข้าจะจดจำเอาไว้ทุกยุค หากใต้เท้ามีสิ่งใดที่ต้องการให้ตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางได้รับใช้ ขอเพียงมีบัญชา ตระกูลขุนนางโบราณหนานหยางทุกระดับยินดีบุกน้ำลุยไฟเพื่อใต้เท้า!”

กล่าวสำหรับจอมเทพหนานหยางแล้ว สิ่งนี้ล้ำค่ามากเหลือเกิน ถ้าหากเขาสามารถควบคุมพลังการเข้าถึงตัวตนอันแท้จริงได้ จะทำให้กำลังความสามารถของเขาก้าวขึ้นไปหนึ่งขั้นใหญ่ และทำให้ดวงตราสัญลักษณ์ของเขาประสานเข้ากันได้!

หลี่ชิเย่รับการคารวะเต็มรูปแบบจากจอมเทพหนานหยางโดยไม่สะทกสะท้าน หลังจากสั่งการสุดท้ายไปแล้ว จอมเทพหนานหยางคารวะอีกครั้ง จึงได้อำลาต่อหลี่ชิเย่แล้วล่าถอยออกไปเงียบๆ

ก่อนไปจาก หลี่ชิเย่เรียกพบธิดาราชันฉีหลิน กล่าวกับนางว่า “เขาหยิบเอาของของตระกูลราชันฉีหลินพวกเจ้าไป ข้าจะไม่เอาไปฟรีๆ และข้าจะไม่ติดค้างตระกูลราชันฉีหลินพวกเจ้า เอาเถอะ เจ้าเองก็เป็นแม่นางที่ความฉลาดและมีไหวพริบ ข้าจะประทานวาสนาให้เจ้า ไปรอข้าที่เมืองสวรรค์นอกอาณาจักร ถึงเวลานั้นข้าจะพาเจ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง”

“ขอบคุณคุณชาย” เมื่อธิดาราชันฉีหลินได้ยินดังนี้จึงคารวะด้วยการย่อตัว สิ่งนี้กล่าวสำหรับนางแล้วคือวาสนาที่ล้ำเลิศในหล้ายากจะหาใดเทียม สามารถได้รับความโปรดปรานจากผู้ยิ่งใหญ่ระดับสูงสุดเช่นนี้ ต้องเป็นการพบกันโดยโชคแท้ๆ ที่หาไม่ได้อีกแล้วอย่างแน่นอน

“จะไปยังสถานที่แห่งหนึ่งก่อน เมื่อถึงเวลาเจ้าไปสมทบกับข้าที่เมืองสวรรค์นอกอาณาจักรก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่สั่งการออกไป

ธิดาราชันฉีหลินตกปากรับคำ แต่ นางอดที่จะถามด้วยความสังสัยว่า “คุณชายจะไปยังที่ใด?”

“ไปที่ที่ค่อนข้างไกลสักหน่อย พบราชันเซียนองค์หนึ่ง” ในเวลานี้ สายตาของหลี่ชิเย่มองไปยังระยะที่ห่างไกลมาก และกล่าวขึ้นมาช้าๆ ในที่สุด

“พบกับราชันเซียนองค์หนึ่ง?” ภายในใจของธิดาราชันฉีหลินถึงกับสะเทือนหวั่นไหว เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้

ผู้บำเพ็ญตนของสิบสามทวีปต่างรู้ดีว่า จอมราชันเซียนหวังก็ดี ราชันเซียนเก้าแดนก็ช่าง ขอเพียงยุคสมัยของพวกเขาสิ้นสุดลงแล้ว พวกเขาก็จะปลีกตัวออกจากโลกปัจจุบัน ไม่พบบุคคลภายนอกอีกต่อไป ผู้ที่สามารถพบกับจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนได้ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่สุดยอดทั้งสิ้น

“คุณชายต้องการไปที่แดนแห่งการสืบค้นรึ?” เมื่อธิดาราชันฉีหลินได้สติกลับมาแล้วถึงกับเอ่ยถามขึ้นมา

แดนแห่งการสืบค้นเป็นมิติแห่งกาลเวลาที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา ที่ตรงนั้นไร้ขอบเขตไม่มีสิ้นสุด และเป็นสถานที่ที่ลึกลับที่สุด บรรดาจอมราชันเซียนหวัง และราชันเซียนเก้าแดน เมื่อปลีกตัวออกจากโลกปัจจุบันก็จะไปหลบอยู่ที่แดนแห่งการสืบค้น!

“ไม่ อยู่ในชิงโจวนี่แหละ” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย

ธิดาราชันฉีหลินสะดุ้งนิดหนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ นางยังเข้าใจว่าตัวเองฟังผิด ถ้าหากหลี่ชิเย่บอกว่าจะไปพบกับราชันเซียนนางไม่รู้สึกตกใจ จะอย่างไรเสียเฉกเช่นผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นเขาย่อมมีสิทธิ์ไปพบกับราชันเซียนได้ กระทั่งกล่าวได้ว่า เขาสามารถไปพบกับจอมราชันเซียนหวัง และราชันเซียนเก้าแดนที่ปลีกตัวออกจากโลกปัจจุบันได้ทุกที่ทุกเวลาได้อยู่แล้ว

แต่ว่า หากบอกว่าพบราชันเซียนเก้าแดนในชิงโจง เรียกว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวมากเหลือเกิน นางไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ดวงตาคู่นั้นของนางเบิกกว้าง ถึงกับกล่าวด้วยความตื่นตระหนกว่า “นี่ นี่ไม่น่าเป็นไปได้กระมัง ในโลกนี้ยังจะมีราชันเซียนเก้าแดนอาศัยอยู่ในชิงโจวด้วยรึ? จอมราชันเซียนหวัง และราชันเซียนเก้าแดนเมื่อปลีกตัวออกจากโลกภายนอกแล้ว ล้วนแล้วแต่อาศัยอยู่ในแดนแห่งการสืบค้นมิใช่รึ?”

ถ้าหากว่าข่าวเรื่องนี้แพร่ออกไปล่ะก็ เรียกว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวมากเหลือเกิน ราชันเซียนเก้าแดนองค์หนึ่งถึงกับอาศัยอยู่ในชิงโจวได้ เรื่องแบบนี้ไม่ว่าใครก็ยากจะเชื่อ

สรรพสิ่งล้วนแล้วแต่มีข้อยกเว้น ท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลาย่อมจะต้องมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง มีจอมราชันเซียนหวัง และราชันเซียนเก้าแดนที่อาศัยอยู่ท่ามกลางโลกของโลกีย์มนุษย์นี่แหละ” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ

“เรื่อง เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้กระมัง ยามที่ยุคของจอมราชันเซียนหวัง และราชันเซียนเก้าแดนสิ้นสุดลงแล้ว หากพวกเขาไม่หลบซ่อนตัวอยู่ในแดนแห่งการสืบค้น ต้องนำมาซึ่งสวรรค์ลงทัณฑ์แน่นอน” สิ่งนี้ใช่ว่าธิดาราชันฉีหลินจงใจสงสัยในอำนาจบารมีของหลี่ชิเย่ เนื่องจากมันเหลือเชื่อมากจริงๆ ทุกคนใต้หล้าต่างก็รู้ดีว่า เมื่อสิ้นสุดยุคสมัยของจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนแล้ว พวกเขาจะต้องปลีกตัวออกจากโลกภายนอก มิฉะนั้นล่ะก็จะต้องนำมาซึ่งสวรรค์ลงทัณฑ์แน่นอน กระทั่งวันนี้ ยังไม่มีใครสามารถต้านทานสวรรค์ลงทัณฑ์ได้เลย

บนโลกนี้ก็คงมีเพียงแดนแห่งการสืบค้นจึงสามารถหลีกเลี่ยงการลงทัณฑ์จากสวรรค์ได้ และด้วยเหตุนี้เอง จอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนแต่ละยุคต่างทยอยกันหลบเข้าไปอยู่ในแดนแห่งการสืบค้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสวรรค์ลงทัณฑ์

“เป็นความจริง กล่าวสำหรับจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนแล้ว ในโลกนี้ยังจะมีสถานที่ใดสามารถให้พวกเขาได้หลีกเลี่ยงจากสวรรค์ลงทัณฑ์ได้หละ? คงมีเพียงแดนแห่งการสืบค้นเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่ถึงกับพูดทอดถอนใจออกมาว่า “แต่ว่า ท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลาย่อมจะต้องปรากฏประหลาดบ้าง จะต้องปรากฏจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนที่ประหลาดยิ่งอยู่บ้าง พวกเขามักจะมีเหตุผลต่างๆ นานาได้รับการยกเว้น”

เมื่อธิดาราชันฉีหลินได้ฟังคำเช่นนี้แล้วถึงกับตะลึงอยู่ตรงนั้น เป็นความจริง ท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลาหากจะมีข้อยกเว้นอยู่บ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก การที่นางไม่เห็นหรือไม่เคยได้ยิน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่มี เป็นเพียงนางไม่รู้เท่านั้นเอง

“แต่ว่า ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีค่าตอบแทน” หลี่ชิเย่มองไปยังสถานที่ที่ห่างไกลออกไป และกล่าวว่า “จอมราชันเซียนหวังก็ดี ราชันเซียนเก้าแดนก็ช่าง เรื่องบางเรื่องสถานที่บางแห่ง เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถก้าวล่วงได้ พวเกเขาเองก็จนด้วยเกล้าอยู่บ้างเหมือนกัน”

ในเวลานี้ ธิดาราชันฉีหลินก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี ความจริงแล้วนางก็คิดอยากจะไปดูราชันเซียนเก้าแดนเช่นนี้สักหน่อย นางต้องการดูว่าราชันเทียนผู้นี้มหัศจรรย์ถึงขั้นไหนกันแน่

แน่นอน นางเองก็รู้ว่าหลี่ชิเย่จะไม่พานางไปพบกับราชันเซียนผู้นี้แน่ แม้ว่าชาติกำเนิดของนางจะสูงส่ง แต่เมื่อนับถึงอาวุโสแล้ว นางยังไม่มีสิทธิ์ไปพบกัยจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดน เฉกเช่นชบรรพบุรุษของพวกเขาเซียนหวังฉีหลินอย่างนั้น ต่อให้นางได้สืบทอดตำแหน่งของตระกูลราชันฉีหลิน ก็ไม่แน่ว่าจะต้องสามารถพบกับ มีเพียงนางแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว จึงสามารถได้พบกับบรรพบุรุษของนาง

มิฉะนั้นแล้ว ผู้สืบทอดที่จะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประมุขในอนาคตทุกรุ่นของตระกูลราชันฉีหลินล้วนแล้วแต่สามารถพบกับเซียนหวังฉีหลินล่ะก็บรรพบุรุษของพวกเขาคงไม่จำเป็นต้องปลีกตัวออกจากโลกปัจจุบันแล้วหละ

“ไปสมทบกันที่เมืองสวรรค์นอกอาณาจักรก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่สั่งการกับธิดาราชันฉีหลินแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ไปจากทันที

ขณะที่หลี่ชิเย่ไปจากตระกูลราชันฉีหลินนั้นไม่ได้แจ้งให้ผู้ใดทราบ มีเพียงธิดาราชันฉีหลินเท่านั้นที่รู้ และไม่มีใครออกมาส่ง เขาลอยล่องจากไป หายไปท่ามกลางท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

ชิงโจวมีพื้นที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตจำกัด ขณะที่ยืนอยู่ในตำแหน่งที่สูงเพียงพอ แล้วก้มมองดูโลกที่ตั้งอยู่ด้านล่าง จะพบว่าชิงโจวนั้นปราศจากขอบเขต ความกว้างใหญ่ของมันอยู่นอกเหนือความคาดคิดของผู้คน

ท่ามกลางผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้ เทือกเขาขนาดยักษ์แต่ละลูกเสมือนหนึ่งเป็นมังกรยักษ์ที่หมอบอยู่ท่ามกลางพื้นดิน ยอดเขาศักดิ์สิทธิ์แต่ละลูกสูงเสียดฟ้าทะลุเมฆาจนถึงจักรวาล มีสุริยันจันทราเข้าออกอยู่ตรงนั้น ล้อมรอบด้วยดวงดาวซ้ายขวา แม่น้ำแต่ละสายเสมือนดั่งมังกรคลั่งที่พลุ่งพล่าน……………..

ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาขนาดยักษ์ หรือยอดเขาที่ตั้งตระหง่านสูงขึ้นไป และหรือแม่น้ำที่พลุ่งพล่าน…….. ทั้งหมดนี้เมื่อเปรียบเทียบกับผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลสูดลูกหูลูกตาของชิงโจวแล้ว ดูช่างเล็กขจิ๋วอะไรปานนั้น ล้วนแล้วแต่ไม่มีค่าคู่ควรจะกล่าวถึง!

ท่ามกลางพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ สรรพชีวิตร้อยชาติพันธุ์ก็เป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น กระทั่งอาจกล่าวได้ว่ามีขนาดเล็กกว่ามดปลวกเสียอีก

ชิงโจวยิ่งใหญ่ และกว้างขวางใหญ่โตเหลือเกิน อย่าว่าแต่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาเลย ต่อให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนก็ไม่สามารถก้าวเดินไปทั่วทุกมุมของชิงโจวได้ ต่อให้เป็นยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนก็ไม่สามารถมองเห็นภาพทิวทัศน์ทั้งหมดของชิงโจว

มีเพียผู้ดำรงอยู่ในฐานะงจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนเท่านั้น จึงสามารถมองเห็นภาพรวมทั้งหมดของชิงโจว มีเพียงผู้ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนีจึงกล้าใจกว้างขนาดนี้

ท่ามกลางชิงโจว สรรพสิ่งมีชีวิตเปรียบประดุจเป็นเพียงหยดน้ำหยดหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางทะเลที่กว้างใหญ่ หยอดน้ำหยดแค่นี้เมื่อรวมเข้ากับน้ำทะเลแล้ว มันช่างเล็กจิ๋วอะไรขนาดนั้น ช่างค้นหาได้ยากยิ่งนัก

ถ้าหากคนๆ หนึ่งอาศัยอยู่ในชิงโจว ถ้าหารเข้าไม่ต้องการให้ใครหาตัวเขาพบ เช่นนั้นแล้ว เกรงว่าทุ่มเทเวลาทั้งหมดชั่วชีวิตก็ไม่แน่ว่าจะหาเขาได้พบ

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท