ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 1831 งานวันเกิดตระกูลเผิง

ตอนที่ 1831 งานวันเกิดตระกูลเผิง

ตอนที่ 1831 งานวันเกิดตระกูลเผิง
คำพูดของศิษย์ผู้นี้พูดชัดเจนมากแล้ว แม้ว่าจะเป็นวันเกิดของจอมเทพท่าซิง แต่ว่าไม่ได้มีการเชิญบุคคลภายนอกมาร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิด และศิษย์ผู้นี้ก็กล่าวปฏิเสธแบบอ้อมๆ

“ข้ารู้” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเรียบเฉยว่า “ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ ทำไมรึ จวนเผิงของพวกเจ้าไม่ต้อนรับแขกรึ?”

“มิกล้า มิกล้า” เมื่อศิษย์ผู้นี้ได้ยินหลี่ชิเย่เอ่ยถามเช่นนี้ จึงรีบตอบว่า “จวนเผิงของพวกเรายินดีต้อนรับผู้คนทั่วหล้ามาเป็นแขก ไม่ทราบว่าท่านมีนามว่ากระใด มาจากที่ใด?”

“หลี่ชิเย่ แค่ผู้บำเพ็ญตนไร้สังกัดคนหนึ่งเท่านั้น นึกถึงผลงานที่จอมเทพได้สร้างเอาไว้ จึงมาอวยพรให้กับจอมเทพโดยเฉพาะ” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเรียบเฉย

คำพูดของหลี่ชิเย่ทำให้ศิษย์ทั้งสองที่เฝ้าหน้าประตูถึงกับมองหน้ากันและกัน ศิษย์ผู้นั้นจึงกล่าวว่า “ท่านรออยู่ที่นี้ครู่หนึ่ง ให้ข้าน้อยเข้าไปรายงานสักนิดหนึ่ง”

หลี่ชิเย่พยักหน้า แล้วก็ยืนอยู่หน้าจวน เงยหน้าขึ้นมองดูแผ่นป้ายเก่าแก่นั้น มองดูลายมือชื่อ “หมิงเหริน” สองคำ ในใจของเขาถึงกับต้องสะอื้นออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตเพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้ว เสมือนดั่งเพิ่งผ่านไปเมื่อวานอย่างนั้น

ในอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าราชันเซียนหมิงเหรินจะมีความคิดแตกต่างจากเขาเช่นใด แต่ยามที่อยู่บนหลักการความถูกต้อง ราชันเซียนหมิงเหรินตัดสินใจยืนอยู่ข้างเขาโดยไม่ลังเลเลย สนับสนุนเขาเหมือนกับที่ผ่านมา

เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ก่อนศึกล่าราชันจะระเบิดขึ้น เรียกได้ว่าศึกในครั้งนั้นเขายังคงบุกตะลุยโจมตีข้าศึกเหมือนเช่นที่ผ่านมา สามารถรับผิดชอบในส่วนของตน รบพุ่งอย่างดุเดือดกับจอมราชันที่อยู่ในจุดสูงสุดของเผ่าสวรรค์ เผ่ามาร และเผ่าเทพสามเผ่า!

เสียดาย ล่วงเลยมาถึงวันนี้แล้ว ทั้งคนและสิ่งของล้วนแล้วแต่แปรเปลี่ยนไป สหายเก่ามีเหลืออยู่ไม่มาก จอมเทพท่าซิงคือหนึ่งในจำนวนนั้น ศึกล่าราชันในครั้งนั้นจอมเทพท่าซิงคือหนึ่งในจอมเทพที่ติดตามอยู่ข้างกายของเขา

จอมเทพท่าซิงเทียบไม่ได้กับจอมราชันที่อยู่ในขั้นสูงสุด และเทพโบราณปราศจากผู้ต่อกรก็จริง แต่ว่า ในศึกล่าราชันนั้นเขากลับต่อสู้ด้วยความกล้าหาญยิ่งนัก ต่อสู้ด้วยความภักดี!

ระหว่างที่ภายในใจของหลี่ชิเย่กำลังรู้สึกหดหู่ยิ่งนัก ศิษย์ที่เข้าไปรายงานได้กลับออกมา และกล่าวว่า “คุณชายหลี่ เชิญด้านใน บ่าวได้จัดแจงเรื่องที่พักให้กับคุณชายแล้ว” กล่าวพลางเดินนำหน้าให้กับหลี่ชิเย่

หลี่ชิเย่พยักหน้า และติดตามศิษย์ผู้นั้นเข้าไปภายในจวนเผิง แม้ว่าหลี่ชิเย่จะมาโดยไม่ได้รับเชิญ แต่ว่า กล่าวสำหรับ ตระกูลเผิงแล้ว ผู้ที่มาอวยพรให้กับบรรพบุรุษล้วนแล้วแต่คือแขก

จวนเผิงได้จัดเรื่องห้องหับที่พักให้กับหลี่ชิเย่ที่เรือนเล็ก แม้ว่าไม่ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงแขกผู้มีเกียรติ แต่จวนเผิงก็ไม่ได้ทอดทิ้งหลี่ชิเย่ ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี

หลังจากที่หลี่ชิเย่เข้าพักในจวนเผิงแล้ว เมื่อเขาเปิดกระดาษสีเหลืองที่ผู้เฒ่ามอบให้และพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียด ยิ่งพินิจพิจารณาไปยิ่งรู้สึกประหลาดใจ

ในฐานะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาราชันเซียน ในฐานะมือมืดที่อยู่เบื้องหลังที่ลอยล่องมาพันล้านปี มีเคล็ดวิชาอะไรที่หลี่ชิเย่ไม่เคยเห็น? เคล็ดชะตาฟ้า เคล็ดลับปราบฟ้า เคล็ดประหลาดดึกดำบรรพ์…ที่เป็นเคล็ดวิชายากจะหาใดเทียมต่างๆ ในหล้าเขาล้วนแล้วแต่เคยเห็นมาแล้ว เรียกได้ว่าเคล็ดวิชาที่เข้าได้เห็นมีจำนวนนับไม่ถ้วน หากเขาหยิบยกเคล็ดวิชาใดวิชาหนึ่งออกมาตามอารมณ์ ล้วนแล้วแต่สามารถทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องตกใจจนหัวใจวายตายได้

ทว่า ยามที่เขามองเห็นประสบการณ์ที่มีการจดบันทึกเอาไว้บนกระดาษสีเหลืองนั้น หลี่ชิเย่เองรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา เขาถึงกับพึมพำออกมาว่า “ตาเฒ่านี้ยอดเยี่ยมมาก ถึงกับบรรลุได้ถึงเพียงนี้ ไม่สงสัยเลยว่าเป็นราชันเซียนที่สวรรค์ลงทัณฑ์ไม่ลงมา หากเปลี่ยนเป็นจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดน เกรงว่าคงไม่มีโอกาสมาอ่านให้ชัดเจน และไม่มีโอกาสได้มาพินิจพิเคราะห์มัน”

ผู้เฒ่าเป็นราชันเซียนที่ยอดเยี่ยมมากองค์หนึ่ง แม้ว่าเวลานี้เขาได้กลายร่างเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา แต่อย่างไรเสียเขาก็คือราชันเซียนองค์หนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเขาคือราชันเซียนที่จะไม่ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ ดังนั้น เขาจึงมีโอกาสมากกว่าราชันเซียนองค์อื่นๆ ที่มีโอกาสแอบดูสวรรค์!

ประสบการณ์ที่ผู้เฒ่าผู้แอบส่องมาได้นั้นลึกซื้งและยอดเยี่ยมมาก มีความหมายที่ลึกล้ำยากที่จะเข้าใจ ต่อให้เป็นผู้ดำรงอยู่ในระดับบรรพบุรุษก็ยากจะเข้าใจประสบการณ์ฉบับนี้ได้ มีเพียงระดับจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนจึงสามารถอ่านแล้วเข้าใจถึงประสบการณ์ฉบับนี้ได้

หลี่ชิเย่อ่านประสบการณ์นี้อย่างละเดียด และทำการบรรลุเข้าถึงมันอย่างละเอียด ที่บันทึกอยู่บนกระดาษสีเหลืองเป็นเพียงประสบการณ์ ไม่เกี่ยวกับเคล็ดวิชาหรือกระบวนท่า ดังนั้น ขณะที่หลี่ชิเย่ทำการบรรลุมันอย่างละเอียดนั้น ได้ทำการสำแดงครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งใจจะทำการสำแดงให้กลายเป็นเคล็ดวิชาแขนงหนึ่งในหล้าขึ้นมา

หลี่ชิเย่พักอาศัยอยู่ในจวนเผิงแค่วันรุ่งขึ้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาพบกับเขา ชายหนุ่มผู้นี้อายุไม่มาก เพียงแค่ยี่สิบต้นๆ เท่านั้นเอง การแต่งตัวดูสมฐานะยิ่งนัก รูปลักษณ์ดูมีความสง่างาม ท่วงท่าของเขาแลดูมีประสบการณ์สูง แม้ว่าเขาจะมีท่าทีที่เคร่งขรึมจริงจัง แต่อย่างไรเสียเขาก็มีอายุน้อยอยู่ดี ท่ามกลางท่าทีความเป็นผู้นำและเคร่งขรึมจริงจังยังคงเผยให้เห็นถึงความอ่อนหัดอยู่สามส่วน

พลันที่ชายหนุ่มผู้นี้เห็นหน้าหลี่ชิเย่ ได้แสดงคารวะแบบจีน และกล่าวว่า “การมาเยือนของพี่หลี่ ทำให้จวนเผิงเราดูดีไม่น้อยเลย น้องมีงานรัดตัวไม่ทันได้ต้อนรับแต่ไกล เสียมารยาท เสียมารยาทแล้ว”

คนหนุ่มผู้นี้เกรงใจต่อหลี่ชิเย่อย่างยิ่ง พลันที่ก้าวประตูเข้ามาก็เร่งรีบเดินเข้ามาหา ทั้งยังก้มโค้งนิดๆ ดูอบอุ่นยิ่งนัก

“มาโดยไม่ได้รับเชิญ ไม่จำเป็นต้องให้การต้อนรับแต่ไกล” หลี่ชิเย่ยิ้มจางๆ และพยักหน้าเบาๆ

ชายหนุ่มผู้นี้รีบกล่าวว่า “น้องชื่อเผิงยวี่ ดูแลกิจการงานต่างๆ ของจวนเผิงชั่วคราว หากมีสิ่งใดขาดตกบกพร่องล่ะก็ ขอพี่หลี่ได้โปรดอภัย”

ชายหนุ่มที่เห็นอยู่ตรงหน้ามีชื่อว่าเผิงยวี่ เป็นเจ้าบ้านคนปัจจุบันของจวนเผิงนั้นเอง เขาถึงกับสะดุ้งในใจนิดหนึ่ง พลันที่เขาได้ยินศิษย์ในสำนักรายงานว่ามีคนที่ชื่อหลี่ชิเย่มาอวยพร

การที่เผิงยวี่ดำรงตำแหน่งเจ้าบ้านตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้หลี่ชิเย่ถึงกับต้องจ้องมองเขามากกว่าปรกติ

ใช่ว่าหลี่ชิเย่จะดูถูกคนหนุ่ม และหาใช่หลี่ชิเย่มีอคติต่อคนหนุ่มมาดำรงตำแหน่งเจ้าบ้านของตระกูลขุนนางโบราณ แต่บอกได้เพียงมันหาใช่ลางสังหรณ์ที่ดี

ปรกติแล้ว ตระกูลขุนนางโบราณจะมีความหนักแน่และมีกฎเกณฑ์ กล่าวโดยทั่วไปแล้ว เจ้าบ้านของตระกูลขุนนางโบราณล้วนแล้วแต่ดำรงตำแหน่งโดยผู้ที่ผ่านอุปสรรคมามากมาย ผู้ที่สามารถเป็นเจ้าบ้านได้ล้วนแล้วแต่มีอายุในระดับหนึ่งทั้งสิ้น

ถ้าหากตระกูลขุนนางโบราณแห่งหนึ่งให้ผู้ที่มีอายุเพิ่งเลยยี่สิบนิดๆ มาเป็นเจ้าบ้านล่ะก็ เช่นนั้นแล้วคงมีอยู่เพียงสองกรณีเท่านั้น หนึ่งก็คือชายหนุ่มผู้นี้มีความโดดเด่นยิ่งนัก เปี่ยมด้วยความรู้ความสามารถ เคยผ่านประสบการณ์ใหญ่มาแล้ว กระทั่งเป็นสุดยอดดาวรุ่งคนหนึ่ง สองคือตระกูลได้เสื่อมโทรมลง รุ่นอาวุโสร่วงโรยก่อนกำหนด ทำให้รุ่นเยาว์จำเป็นต้องเข้ารับหน้าที่แต่วัน ต้องเผชิญต่ออุปสรรค์ทั้งปวงแต่วัน

ไม่เป็นที่สงสัยเลย เผิงยวี่ที่อยู่ตรงหน้าหาใช่ประเภทแรก แม้ว่าทักษะของเขาจะไม่ธรรมดา พรสวรรค์ก็ไม่เลวนัก แต่ยังห่างจากคำว่าสุดยอดในหล้าอีกไกล ในเมื่อเผิงยวี่ไม่ใช่สุดยอดดาวรุ่งในหล้า ย่อมเป็นการบ่งชี้ว่า ตระกูลเผิงเสื่อมโทรมลง รุ่นอาวุโสร่วงโรย

เผิงยวี่เองก็เข้าใจได้เมื่อถูกหลี่ชิเย่จ้องมอง เขายิ้มกล่าวว่า “น้องยังอ่อนเยาว์ไม่ประสา ผู้อาวุโสของตระกูลปลีกตัวออกจากโลกปัจจุบัน ดังนั้น น้องจึงต้องรับภาระหนักอึ้งเป็นการชั่วคราว น้องเยาว์วัยโง่เขลา วันหน้า หากจะมีสิ่งใดไม่เหมาะไม่ควร ขอพี่หลี่ได้โปรดชี้แนะให้บ้าง”

“เยาว์วัยก็เป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง ขอเพียงยินดีไปสั่งสม ในอนาคตเต็มไปด้วยความเป็นไปได้นับไม่ถ้วน” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นช้าๆ

เมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมาเช่นนี้ เผิวยวี่จึงรีบแสดงคารวะแบบจีน และกล่าวว่า “ได้รับการชื่นชมจากพี่หลี่ น้องรู้สึกละอายใจยิ่งนัก และน้องจะจดจำคำพูดจากใจของพี่หลี่เอาไว้”

หลี่ชิเย่เพียงพยักหน้าและยิ้มๆ

“ผู้ที่ทราบเรื่องวันเกิดบรรพบุรุษตระกูลข้ามีอยู่ไม่มาก การที่พี่หลี่มีน้ำใจมาอวยพร นับว่าเป็นเกียรติแก่ตระกูลเผิง” สุดท้าย หลังจากที่เผิงหยี่ได้กลั่นกรองคำพูดนิดหนึ่ง กล่าวด้วยถ้อยคำที่มีกาลเทศะออกมา

เรื่องนี้ใช่ว่าเผิงยวี่จะเคลือบแคลงสงสัย ได้แต่บอกว่าเขาไม่อาจไม่รอบคอบ เมืองสวรรค์นอกอาณาจักรห่างจากชิงโจวไกลมาก ห่างจากแคว้นฉีหลินยิ่งไกลมากขึ้นไปอีก แม้ว่าข่าวที่เขาจะได้ยินมีน้อย แต่ เผิงยวี่ยังคงได้ข่าวมาบ้าง เขาได้ข่าวมาว่า มีคนผู้หนึ่งที่ชื่อหลี่ชิเย่ได้สังหารรัชทายาทของแคว้นเทียนหวง

ย่อมไม่ต้องสงสัย หลี่ชิเย่ที่อยู่ตรงหน้ากลับคนที่มีการกล่าวขวัญถึงดูจะเข้ากันได้ดี

ในความคิดของเผิงยวี่มองว่า ผู้ที่หาญกล้าสังหารรัชทายาทเทียนหวงต้องเป็นคนโหดแน่นอน ควรจะทราบว่า รัชทายาทเทียนหวงเป็นผู้สืบทอดของสายสำนักราชันเซียน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีฐานะเป็นน้องภรรยาของจินเก๋อ บุคคลทั่วไปไหนเลยจะกล้าไปมีเรื่องกับเขา? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสังหารเขาต่อหน้าต่อตาผู้คนมากมาย

เวลานี้คนที่ชื่อหลี่ชิเย่คนนี้ได้จัดการสังหารรัชทายาทเทียนหวงเสีย หากไม่ใช่คนโหดจะเป็นอะไรไปได้?

เวลานี้ คนที่ชื่อหลี่ชิเย่ได้มาปรากฏตัวขึ้นที่จวนเผิงของพวกเขา เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับจอมเทพท่าซิงบรรพบุรุษของพวกเขา ย่อมสร้างความกังวลใจให้กับเผิงยวี่แล้ว

แม้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเกิดของบรรพบุรุษพวกเขา แต่เนื่องจากเหตุผลต่างๆ นานา อีกทั้งบรรพบุรุษของพวกเขาไม่ได้กลับมา ยังคงปลีกตัวออกจากโลกปัจจุบันอยู่ในแดนแห่งการสืบค้น บรรดาลูกหลานเช่นพวกเขาไม่สามารถอวยพรวันเกิดต่อหน้า ได้แต่จัดงานเลี้ยงเล็กๆ ขึ้นภายในจวน เพื่ออวยพรจากระยะห่างไกล

อีกทั้งจวนเผิงของพวกเขาก็ไม่เหมือนครั้งครานั้นอีก เสื่อมโทรมไปไม่น้อย ดังนั้นพวกของเผิงยวี่จึงไม่ได้มีการเชิญบุคคลภายนอกมาร่วมงาน เพียงแค่จัดให้ลูกหลานได้พร้อมหน้าพร้อมตาเงียบไ เพื่ออวยพรให้กับบรรพบุรุษจากระยะห่างไกล

เวลานี้ หลี่ชิเย่มาโดยไม่ได้รับเชิญ ทำให้ภายในใจของเผิงยวี่อดรู้สึกกังวลไม่ได้ว่า คนโหดผู้นี้มาอวยพรวันเกิดจริงๆ หรือว่ามาด้วยวัตถุประสงค์อื่นเล่า?

ความคิดของเผิงยวี่หลี่ชิเย่มองออกได้ในแวบเดียว เขาหัวเราะและกล่าวว่า “วางใจเถอะ ข้าหน่ะมาอวยพรวันเกิดด้วยความจริงใจ ทุกสิ่งที่จอมเทพท่าซิงได้ทำเพื่อร้อยชาติพันธุ์ ล้วนแล้วแต่ สมควรได้รับการเคารพ”

“ไม่ ไม่ ไม่ พี่หลี่เข้าใจผิดแล้ว น้องไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น น้องเพียงรู้สึกแปลกใจเท่านั้น” เมื่อหลี่ชิเย่เดาใจของเขาได้ทันที กลับทำให้เผิงยวี่รู้สึกผะอืดผะอม จะอย่างไรเสียเขายังอ่อนเยาว์นัก จึงหน้าบางไปนิดหนึ่’

หลี่ชิเย่หัวเราะนิดหนึ่ง หยิบเอากล่องวิเศษออกมาใบหนึ่ง กล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “จอมเทพท่าซิงปลีกตัวออกจากโลกปัจจุบัน ข้าก็จะไม่ไปรบกวนเขา นี่เป็นของขวัญอวยพรวันเกิดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อแสดงน้ำใจเล็กน้อยของข้า”

เผิงยวี่ตะลึงนิดหนึ่ง รีบรับเอากล่องวิเศษใบนั้นมาและเปิดออกดู เขาแทบกลายเป็นหินไปในทันที ภายในกล่องวิเศษปรากฏกลิ่นหอมที่โชยมาเป็นระยะๆ ไม่ว่าใครก็ตามหากได้สูดดมกลิ่นหอมนี้เข้าไปก็จะรู้สึกเหมือนตัวล่องลอย สบายไปทั้งตัว ทันใดนั้น เสมือนหนึ่งได้มีการผ่อนคลายจุดชีพจรทั้งร่างในชั่วพริบตาเดียวอย่างนั้น

อีกทั้งขณะที่เปิดกล่องวิเศษออกมานั้น ได้ยินเสียงมังกรแว่วเข้ามาเป็นระลอก ต่อให้ไม่สามารถมองเห็นของที่บรรจุอยู่ภายใน สูดดมกลิ่นหอมนี้ ได้ยินเสียงมังกรคำราม ก็สามารถทำให้รู้ว่าสิ่งของที่บรรจุอยู่ในกล่องนั้นไม่ธรรมดา

“นี่ นี่ นี่คือไขมังกรที่อยู่ในตำนานรึ?” หลังจากที่เผิงยวี่ได้สติกลับมา ถึงกับเสียวสันหลังวาบ กล่าวด้วยท่าทีไม่น่าเป็นไปได้

แม้ว่าจวนเผิงของพวกเขาไม่เหมือนดั่งครั้งครานั้นแล้ว แต่ว่า อย่างไรเสียก็คือตระกูลขุนนางโบราณ เผิงยวี่เองก็เป็นคนที่รู้ดี แม้ว่าเขาเองไม่เคยเห็นไขมังกรที่แท้จริงมาก่อน แต่มันเหมือนกับที่บรรยายเอาไว้ในตำราอย่างกับแกะ

ควรจะทราบว่า ไขมังกรนั้นเป็นของวิเศษที่ประเมินราคาไม่ได้ นี่คือไขมังกรแท้จริง ไม่ใช่พวกงูหลามหรือมังกรเจียวหลงที่เป็นมังกรปลอม

อาจกล่าวได้ว่า ไขมังกรแท้จริงเป็นสิ่งที่มีไว้สำหรับจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนไว้ใช้เป็นการเฉพาะ

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท