ตอนที่ 1836 หาเรื่อง
ในเวลานี้ แขกทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ และมีผู้คนจำนวนไม่น้อยแอบวิพากวิจารณ์เบาๆ ขึ้นมา
“เขาก็คือคนโหดอันดับหนึ่งนะเนี่ย ฟังว่าเขาคือคนที่สังหารรัชทายาทเทียนหวง มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่แอบกระซิบขึ้นมา
“ชูวว” เพื่อนของผู้บำเพ็ญตนผู้นี้ส่งเสียงร้องห้าม ให้สัญญาณเพื่อนของตนอย่าได้พูดอะไรออกมา พูดเสียงแผ่วเบาว่า “เบาๆ หน่อย อย่าให้ใครได้ยินเชียว เรื่องนี้จะบานปลายเป็นเรื่องใหญ่มาก”
คำพูดนี้ไม่เพียงทำให้พรรคพวกต้องสะท้านภายในใจ แขกจำนวนไม่น้อยที่อยู่ข้างๆ ก็สะท้านภายในใจเช่นกัน ผู้คนจำนวนไม่น้อยแอบเหล่ตามองดูกษัตริย์เทียนหวงที่มีดวงตาทั้งสองพลุ่งพล่านด้วยปณิธานการฆ่าทีหนึ่ง
คนโหดอันดับหนึ่งสังหารลูกชายของกษัตริย์เทียนหวง เกรงว่ากษัตริย์เทียนหวงคงไม่ตายไม่เลิก สิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องตกใจก็คือ องค์หญิงเทียนหวงบุตรีของกษัตริย์เทียนหวงคือคู่หมั้นของจินเก๋อ เกรงว่าคงจะนำมาซึ่งตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวงทำการแก้แค้นอย่างจริงจังต่อคนโหดอันดับหนึ่งได้
หลี่ชิเย่ที่นั่งตัวตรงอยู่ที่มุม เหมือนไม่ได้ยินคำพูดของกษัตริย์เทียนหวงอย่างนั้น จิบสุราเลิศรสเบาๆ เคี้ยวตับมังกรปอดหงส์ ท่าทีเอ้อระเหย ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้มองดูตงกงเจิ้งและกษัตริย์เทียนหวงเลยสักครั้ง
การที่หลี่ชิเย่ไม่หาเรื่องคนอื่น ก็ต้องขอบคุณฟ้าดินอยู่แล้ว ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นจอมราชันเซียนหวัง หรือราชันเซียนเก้าแดน ขอเพียงหลี่ชิเย่สามารถทำตัวเป็นพลเมืองดี รักษากฎหมายไม่ก่อเรื่องก่อราวขึ้นมา ก็คือความโชคดีอย่างหนึ่ง ถือว่าเป็นพระกรุณาอย่างหนึ่งแล้ว
เสียดาย กษัตริย์เทียนหวงพวกเขาไม่เข้าใจถึงเหตุผลข้อนี้ และบนโลกนี้ก็มีคนจำนวนมากที่ไม่เข้าใจเหตุผลข้อนี้เช่นกัน
การนิ่งเงียบของหลี่ชิเย่กลับถูกมองว่าอ่อนแอ เมื่อผู้คนบางส่วนมองเห็นหลี่ชิเย่ที่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา จึงทำให้แขกบางส่วนต่างเข้าใจว่าหลี่ชิเย่เกรงกลัวต่อกษัตริย์เทียนหวงแล้ว
“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้าคิดว่าไม่ส่งเสียงก็หลบไปได้อย่างนั้นรึ?” เวลานี้ ปณิธานการฆ่าของกษัตริย์เทียนหวงรุนแรงมาก ก้าวเดินเข้าไปหาหลี่ชิเย่ ตั้งใจล้างแค้นให้กับบุตรชายของเขาให้จงได้ หากทำไม่ได้จะไม่ขอเป็นคน!
คำพูดของกษัตริย์เทียนหวงทำให้หลี่ชิเย่ต้องขมวดคิ้วทีหนึ่ง แต่ ยังคงไม่พูดอะไรออกมา นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความสงบ เป็นบุรุษรูปงามที่สงบเสงี่ยม
“อย่าว่าแต่นั่งอยู่ในมุมอับโดยไม่ส่งเสียงใดๆ เลย ต่อให้เจ้ามุดหัวเข้าไปในรูหนู ข้านี่แหละจะเป็นคนลากตัวเจ้าออกมา” ในเวลานี้ กษัตริย์เทียนหวงไม่สามารถอดกลั้นความโกรธของตนเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว วิ่งเข้าไปยังจุดที่หลี่ชิเย่นั่งอยู่
“ฝ่าบาท” ในเวลานี้เผิงยวี่รีบเร่งขวางทางของกษัตริย์เทียนหวงเอาไว้ และกล่าวว่า “ขอฝ่าบาทระงับโทสะ หากฝ่าบาทจะมีบุญคุณความแค้นอะไร ขอให้รอเสร็จสิ้นงานเลี้ยงแล้วค่อยไปสะสางกันก็ยังไม่สาย ข้าเชื่อว่าพี่หลี่หาใช่เป็นผู้ที่จะหลบหนีไปไหน บุญคุณความแค้นจะช้าหรือเร็วก็ต้องมีการสะสาง ฝ่าบาทใยต้องรีบร้อนเพียงนี้กันเล่า พี่หลี่ ท่านว่ามั้ย?”
เผิงยวี่ในเวลานี้ย่อมไม่ต้องการให้งานเลี้ยงวันเกิดของบรรพบุรุษพวกเขาต้องเกิดเรื่องฆ่าฟันกันขึ้น การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงทำลายบรรยากาศชื่นมื่นของงานเลี้ยงวันเกิดแล้ว ยังทำให้หน้าตาเกียรติภูมิของตระกูลเผิงไม่เหลืออะไรอีกเลย
การปล่อยให้ผู้คนมาตีรันฟันแทงกันในงานสำคัญของบรรพบุรุษพวกเขา มันคือการทำให้ตระกูลเผิงต้องเสียหน้า ถ้าหากตระกูลเผิงของพวกเขาไม่สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ แล้วจะให้ตระกูลเผิงของพวกเขามีที่ยืนในเมืองสวรรค์นอกอาณาจักรได้อย่างไร!
ขณะที่เผิงยวี่เข้าขัดขวางกษัตริย์เทียนหวงไว้นั้น ตงกงเจิ้งหัวเราะทีหนึ่งแล้วกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “พี่เผิง เรื่องนี้หาใช่ฝ่าบาทไม่ให้เกียรติตระกูลเผิง พี่เผิงเองควรจะรู้ว่า คนแซ่หลี่คือศัตรูที่สังหารบุตรชาย ความแค้นนี้ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกันได้…”
“…แต่พี่เผิงกลับให้คนแซ่หลี่มานั่งอยู่ในงานด้วย ดุจดั่งเป็นแขกผู้มีเกียรติ หรือว่าพี่เผิงและตระกูลเผิงจงใจเป็นศัตรูกับฝ่าบาท และหรือตัวพี่เผิงเองก็คือพวกเดียวกันกับคนแซ่หลี่”
ในเวลานี้ ตงกงเจิ้งกำลังสุมไฟให้โหมลุกไหม้ขึ้นมาด้วยการเติมเชื้อเข้ากองเพลิง เขาจงใจที่จะทำลายงานเลี้ยงวันเกิดของตระกูลเผิง ใครใช้ให้จอมเทพท่าซิงของตระกูลเผิงสังหารจอมเทพกงเฉิงซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพวกเขา ความแค้นนี้ก็อยู่ร่วมโลกไม่ได้เช่นกัน
คำพูดของตงกงเจิ้งทำให้เผิงยวี่ต้องขมวดคิ้วทีหนึ่ง เขารู้แต่แรกอยู่แล้วว่า การมาอวยพรวันเกิดของทั้งตงกงเจิ้งและกษัตริย์เทียนหวงต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ แต่ผู้มาเยือนเป็นแขก เขาก็ไม่สามารถขับพวกเขาออกไปได้
“พี่ตงกง เรื่องนี้จะคาดเดาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้” เผิงยวี่กล่าวว่า “วันนี้คืองานวันเกิดของบรรพบุรุษ ไม่ว่าใครมาตระกูลเผิงของพวกเราย่อมให้การต้อนรับ ไหนเลยตระกูลเผิงพวกเราจะปฏิเสธผู้คนทั่วหล้าที่จะมาอวยพรวันเกิดให้กับบรรพบุรุษพวกเราได้!”
“หลานเผิง ข้าเองไม่ได้ตั้งใจจะเป็นศัตรูกับตระกูลเผิงพวกเจ้า แต่ เจ้าอัปลักษณ์ผู้นี้ฆ่าลูกชายของข้า แค้นนี้จะต้องชำระ ไม่ทำให้เขาต้องเลือดสาดข้าไม่ขอเป็นคน!” ท่าทีของกษัตริย์เทียนหวงเวลานี้เย็นชา น้ำเสียงที่ยกตนข่มท่าน ดวงตาทั้งสองเผยให้เห็นถึงปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวออกมา
การมาอวยพรวันเกิดของกษัตริย์เทียนหวงกับตงกงเจิ้งไม่ได้หวังดีแต่แรกอยู่แล้ว ลองคิดดู การที่จอมเทพท่าซิงเข้าร่วมศึกลอบสังหารจินเก๋อในครั้งนั้น ได้สังหารจอมเทพกงเฉิงในศึกครั้งนั้นอีกด้วย!
ขณะที่กษัตริย์เทียนหวงคือพ่อตาของจินเก๋อ ตงกงเจิ้งคือลูกหลานของจอมเทพกงเฉิง ถ้าหากพวกเขาสามารถมาอวยพรวันเกิดให้กับจอมเทพท่าซิงด้วยความจริงใจล่ะก็ นั่นแหละคือเรื่องที่อัศจรรย์ที่สุดในโลก
เผิงยวี่ดูจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว เมื่อต้องเผชิญกับท่าทีที่ข่มว่าตัวเองนั้นเหนือกว่า เฉกเช่นตงกงเจิ้งที่เป็นระดับเดียวกัน เผิงยวี่ยังพอจะควบคุมได้ แต่เช่นกษัตริย์เทียนหวงระดับนี้ย่อมไม่ให้เกียรติแก่เจ้าบ้านที่อ่อนเยาว์อยู่แล้ว
“แอ่ม” ในเวลานี้เอง เผิงเย่ที่นั่งอยู่เบื้องบนได้ส่งเสียงไอกระแอมขึ้นมา เสียงที่แก่หง่อมของเขาดังขึ้นช้าๆ ว่า “จอมกษัตรา ความเจ็บปวดจากการสูญเสียบุตรนั้น ข้าสามารถเข้าใจได้ แต่วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของบรรพบุรุษพวกเรา ผู้ที่มาจวนเผิงล้วนเป็นแขกของเรา หวังว่าจอมกษัตราสามารถปล่อยผ่านวันนี้ รอให้งานเลี้ยงจบสิ้นลงแล้วค่อยชำระบุญคุณความแค้นก็ยังไม่สาย”
เมื่อเผิงเย่ปริปากพูดออกมา พลันทำให้บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่กษัตริย์เทียนหวง โดยเฉพาะบรรดาศิษย์ที่มาจากสายสำนักราชันเซียนของร้อยชาติพันธุ์ ทุกคนต่างรู้สึกว่าการมาในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดจอมเทพท่าซิงของกษัตริย์เทียนหวงและตงกงเจิ้ง คงไม่ประสงค์ดีแน่
คำพูดของยอดฝีมือระดับสวรรค์สัจธรรมที่มีพลังขมุกขมัวแปดร้อยล้านลิตรอยู่ในครอบครอง คำพูดของเขาย่อมมีน้ำหนักมากพออยู่แล้ว
“บรรพบุรุษเผิง ข้าก็อยากจะให้เกียรติกับท่าน ข้าเองไม่ได้ต้องการทำลายงานเลี้ยงวันเกิดของจอมเทพ แต่ แค้นนี้ยากจะอดกลั้นเอาไว้ได้!” ในเวลานี้ กษัตริย์เทียนหวงใช้วาจาที่ข่มผู้คนว่าตนเองนั้นเหนือกว่า
“พูดแบบนี้ แสดงว่าจอมกษัตราต้องการทำลายงานเลี้ยงตระกูลเผิงของพวกเราสิ?” เผิงเย่ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจัง
ในขณะนี้ ทุกคนต่างมองหน้ากันและกัน จากนั้นทุกคนต่างจ้องมองไปที่เผิงเย่และกษัตริย์เทียนหวง
กษัตริย์เทียนหวงก็เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับสวรรค์สัจธรรม ความจริงแล้ว พรสวรรค์ของกษัตริย์เทียนหวงจัดอยู่ในระดับกลางเท่านั้น ด้วยอายุปูนนี้คิดจะก้าวไปให้ถึงระดับสวรรค์สัจธรรมนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก กระทั่งเรียกได้ว่า ในบรรดาราชวงศ์ของแคว้นหงส์ฟ้านั้น อาศัยกำลังความสามารถของกษัตริย์เทียนหวงยากจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งกษัตริย์ได้
แต่ว่า เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เขามีบุตรีที่เอาการเอางาน บุตรีที่เอาการเอางานคนนี้ของเขาไม่เพียงมีพรสวรรค์ที่สูงมาก ยังมีโชคชะตาที่น่าตกใจ ช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับตระกูลในสายของเขา ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ บุตรีของเขาได้แต่งงานกับจินเก๋อ ซึ่งการเกี่ยวดองสมรสเช่นนี้สามารถนำพาความได้เปรียบให้กับแคว้นหงส์ฟ้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งจะยกฐานะของแคว้นหงส์ฟ้าในชิงโจวให้สูงขึ้นได้มากทีเดียว
เมื่อเป็นเช่นนี้ การที่กษัตริย์เทียนหวงขึ้นรับตำแหน่งของแคว้นหงส์ฟ้าจึงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี กลายเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลไป
แน่นอนที่สุด หลังจากที่ขึ้นรับตำแหน่งกษัตริย์แล้ว กษัตริย์เทียนหวงได้รับการช่วยเหลือจากบรรพบุรุษในราชสำนัก ทั้งได้รับประทานโอสถไปเป็นจำนวนมาก ในที่สุดก็ก้าวทะลุคอขวด ทำให้เขามีพลังขมุกขมัวห้าร้อยล้านลิตร ก้าวสู่ระดับสวรรค์สัจธรรมอย่างเต็มกลืน กลายเป็นยอดฝีมือระดับสวรรค์สัจธรรม!
“เรื่องนี้จะโทษข้าก็ไม่ถูก” เวลานี้ กษัตริย์เทียนหวงได้กล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “บอกได้แต่เพียงตระกูลเผิงพวกเจ้าไม่ควรเรียกคนเช่นนี้มา เพราะมันจะนำมาซึ่งภัยอย่างใหญ่หลวงให้กับตระกูลเผิงพวกเจ้า!”
“นั้นหน่ะสิ” ตงกงเจิ้งก็พูดขึ้นต่อจากกษัตริย์เทียนหวง หัวเราะด้วยเสียงประหลาด และกล่าวว่า “พี่เผิง ท่านในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน ทุกอย่างต้องคิดให้รอบคอบนะ เดินผิดเพียงก้าวเดียวเท่ากับแพ้ทั้งกระดาน ซึ่งจะนำมาซึ่งตระกูลเผิงของเจ้าถูกทำลายล้างสำนักได้!”
“พี่ตงกง ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร?” สีหน้าของเผิงยวี่พลันไม่สู้ดีนัก มองดูเหตุการณ์แล้วเขาก็รู้ว่าวันนี้คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปได้ ต่อให้ไม่มีเรื่องของหลี่ชิเย่ เกรงว่าตงกงเจิ้งและกษัตริย์เทียนหวงก็ต้องหาเรื่องจนได้ พวกเขาไม่ได้มาอวยพรวันเกิดด้วยความจริงใจ
“ไม่ได้มีความหมายอะไร” ตงกงเจิ้งหัวเราะเสียงประหลาดออกมา และกล่าวว่า “ข้าเพียงเตือนด้วยความหวังดีเท่านั้นเอง จะอย่างไรเสียวันนี้ไม่เหมือนดั่งวันวาน ยุคสมัยต่างกันแล้ว แคว้นเจ้าลัทธิจำนวนมากเหมือนดั่งพระอาทิตย์กลางหาว ที่เจริญรุ่งเรื่องขึ้นทุกวัน และมีสำนักและตระกูลขุนนางโบราณจำนวนไม่น้อยที่ดั่งพระอาทิตย์อัสดง! หากไม่ทันระวัง จะส่งผลให้แผ่นดินผลัดเปลี่ยนเจ้าของได้!”
สีหน้าของเผิงยวี่เปลี่ยนไปมากพลันที่ตงกงเจิ้งพูดคำๆ นี้ออกมา คำพูดของตงกงเจิ้งชัดเจนยิ่งนัก เป็นการบอกกลายๆ ว่าตระกูลเผิงของพวกเขาได้เสื่อมโทรมลงแล้ว
พลันที่ตงกงเจิ้งพูดคำๆ นี้ออกมา ได้ทำให้บรรดาแขกที่มางานนี้ต้องมองหน้ากันและกัน ทุกคนต่างเข้าใจอยู่แล้วว่า ตงกงเจิ้งและกษัตริย์เทียนหวงไม่ได้ตั้งใจมาอวยพรวันเกิดจริงๆ
“อย่างนั้นรึ?” ในเวลานี้ เสียงของเผิงเย่ที่แก่หง่อมได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง พูดขึ้นมาช้าๆ ว่า “ตระกูลเผิงของพวกเรากลับอยากจะรู้ว่าเป็นใครกันที่สามารถทำให้ตระกูลเผิงของพวกเราต้องผลัดแผ่นดินเปลี่ยนมือไปได้!”
ในขณะนี้ เสียงของเผิงเย่หนักแน่นมาก! ในฐานะที่เป็นระดับบรรพบุรุษ เขาก็เป็นผู้ที่ผ่านอุปสรรคมามากมาย เวลานี้ศัตรูรังแกถึงในบ้าน พวกเขาก็ไม่สามารถปล่อยให้ศัตรูกำเริบเสินสานบนบ้านของตนเอง แม้จะต้องเสี่ยงสู้สักครั้งก็ต้องทำเพื่อธำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีตระกูลเผิงของพวกเขา!
พลันที่เผิงเย่พูดคำพูดนี้ออกมา ทำให้บรรดาแขกที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างใจหายใจคว่ำ คำพูดของเผิงเย่นับว่าเป็นคำพูดที่รุนแรงแล้ว การที่เขาพูดคำๆ นี้ออกมา ใครคิดจะก่อเรื่องอีกก็คือเป็นศัตรูกับตระกูลเผิงของพวกเขา
“บรรพบุรุษเผิง แผ่นดินของตระกูลเผิงข้าไม่สน” ในเวลานี้ กษัตริย์เทียนหวงได้กล่าวคำน่าเกรงขามออกมาว่า “แต่ วันนี้ใครกล้าขวางการแก้แค้นของข้า ก็คือเป็นศัตรูกับแคว้นหงส์ฟ้าของข้า! ไม่ว่าใครก็ตาม กล้าเป็นศัตรูกับแคว้นหงส์ฟ้า แคว้นหงส์ฟ้าพวกเราหากไม่ตายจะไม่เลิกรา!”
เมื่อผิงเย่พูดคำพูดรุนแรงออกมา กษัตริย์เทียนหวงก็ใช้คำพูดรุนแรงเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมถอยแม้เพียงก้าวเดียว
“เช่นนี้แล้วกษัตริย์เทียนหวงดึงดันจะต้องทำลายเกียรติของตระกูลเผิงเราให้ได้หน่ะสิ” เผิงเย่เองก็มีดวงตาทั้งสองที่น่ากลัว ไม่แสดงอาการโกรธแต่เปี่ยมด้วยอำนาจ ท่าทีที่สยบผู้คน
“บรรพบุรุษเผิง พวกเราไม่ต้องมาเล่นไม้นี้กัน” กษัตริย์เทียนหวงก็ไม่ได้เกรงกลัวต่อท่าทีที่ข่มขวัญผู้คนของเผิงเย่ กล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “แม้ว่าท่านจะเป็นยอดฝีมือที่ได้ครอบครองพลังขมุกขมัวแปดร้อยล้านลิตร แต่ ข้าก็ไม่กลัวท่านหรอกนะ ถ้าหากตระกูลเผิงรู้จักกาลเทศะล่ะก็ อย่าได้ขวางการแก้แค้นของข้า ใครกล้าขวางฆ่าไม่มีละเว้น!”
…………………………………………………………………………………