หลี่ชิเย่เพียงมองหน้าด้วยสายตาที่เย็นชากับคำพูดของทารกมังกรหลวง
ทารกมังกรหลวงเองไม่ได้ใส่ใจกับท่าทีที่เย็นชาของหลี่ชิเย่ ยังคงมีท่าทีที่อบอุ่นยิ่งนัก ทำท่าถูมือไปมา ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และกล่าวว่า “ของวิเศษที่พี่หลี่ได้มาเมื่อครู่นั้นเป็นของดี นับว่าเป็นของชั้นเลิศ ข้ามีลูกค้าที่กำลังตามหาของวิเศษดึกดำบรรพ์เช่นนี้อยู่พอดี ดังนั้น ไม่ทราบว่าพี่หลี่สนใจที่จะเปลี่ยนมือหรือไม่?”
ไม่สนใจ” หลี่ชิเย่กล่าวปฏิเสธทันควัน
“อย่า อย่า อย่า…” ขณะที่หลี่ชิเย่กล่าวปฏิเสธนั้น ทารกมังกรหลวงรีบกล่าวว่า “พี่หลี่ไม่จำเป็นต้องรีบปฏิเสธข้า พี่หลี่สามารถค่อยๆ พิจารณาให้รอบคอบ ขอเพียงหลี่ชิเย่ยินดีเปลี่ยนมือ ราคาคุยกันได้ ขอเพียงพี่หลี่เสนอมาก็แล้วกัน ไม่ว่าพี่หลี่จะต้องการของวิเศษแลกของวิเศษ หรือว่าขายเป็นศิลาขมุกขมัว และหรือแลกเปลี่ยนด้วยสุดยอดเคล็ดวิชาก็ได้ทั้งนั้น ควรจะรู้ว่า ในบรรดาลูกค้าของข้ามีจอมราชันเซียนหวังอยู่ พวกเขาลงมือต้องไม่ธรรมดาแน่”
“ไม่มีอารมณ์” หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะไปสนใจต่อทารกมังกรหลวง โบกมือและกล่าวว่า “หมดเรื่องแล้ว เจ้าไปได้”
“พี่หลี่ใยต้องรีบร้อนกันเล่า เรื่องนี้พี่หลี่สามารถไตร่ตรองให้รอบคอบ” ทารกมังกรหลวงที่มีรอยยิ้มเต็มใบหน้ากล่าวว่า “อีกอย่าง เรื่องนี้หากอยู่ในมือของพี่หลี่ไม่แน่ว่าจะเหมาะสักเท่าไร อย่างไรเสียมีคนมากมายที่รู้ว่าในมือพี่หลี่มีของวิเศษที่ดึกดำบรรพ์ถึงเพียงนี้ เกรงว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่จะมาหาถึงที่ หากพี่หลี่ให้ของวิเศษชิ้นนี้เปลี่ยนมือเสีย ก็จะลดความยุ่งยากลงไปได้มากทีเดียว”
หลี่ชิเย่เป็นคนเช่นใด ไหนเลยจะฟังไม่รู้ว่าคำพูดของทารกมังกรหลวงหมายถึงอะไร? ดังนั้น หลี่ชิเย่จึงมองหน้าทารกมังกรหลวงอย่างเย็นชาและกล่าวเฉยเมยว่า “เจ้ากำลังข่มขู่ข้าอย่างนั้นรึ?”
“มิกล้า มิกล้า” ทารกมังกรหลวงรีบเร่งยิ้มกล่าวว่า “พี่หลี่คิดมากไปแล้ว แม้ว่าข้าน้อยจะไม่ใช่พ่อค้าที่สมบูรณ์แบบ แต่ภาษิตว่าไว้ดีมากว่า “แม้ซื้อขายกันไม่สำเร็จ แต่คุณธรรมยังคงอยู่ ข้าน้อยนับว่าเป็นพ่อค้าอยู่ครึ่งตัว ต่อให้พี่หลี่ไม่ยินยอมเปลี่ยนมือ ข้าก็จะไม่ประสงค์ร้ายต่อพี่หลี่”
เมื่อทารกมังกรหลวงกล่าวมาถึงตรงนี้แล้วหยุดนิดหนึ่ง เปลี่ยนคำพูดว่า “แม้ว่าข้าน้อยจะไม่ประสงค์ร้ายต่อพี่หลี่ แต่คนอื่นๆ ก็ไม่แน่หรอกนะ เท่าที่ข้ารู้มา มีลูกค้าบางคนรู้สึกสนใจในของวิเศษยุคดึกดำบรรพ์ที่อยู่ในมือของพี่หลี่เป็นอันมาก หากพวกเขาต้องการของวิเศษสักชิ้นหนึ่งจริงๆ ล่ะก็ เกรงว่าคงไม่มีสิ่งใดสามารถขวางพวกเขาได้”
“อย่างนั้นหรือ?” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยอริมฝีปากนิดหนึ่ง กล่าวขึ้นช้าๆว่า “ถ้าหากพวกเขาต้องการก็เข้ามาได้เลย คนอย่างข้าชื่นชอบความคึกครื้นที่สุดเลย”
“จุ๊ จุ๊ จุ๊…” เมื่อหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทารกมังกรหลวงกระโดดตัวลอยขึ้นมา ท่าทางเหมือนตกใจมากอย่างนั้น รีบส่งเสียงออกมาและกล่าวต่อหลี่ชิเย่ว่า “พี่หลี่พูดเบาๆ หน่อย ระวังประตูมีช่อง ลูกค้าของข้าเป็นพวกอยู่ในระดับสุดยอด ระดับจอมเทพแค่รระดับที่เพิ่งจะก้าวข้ามธรณีประตูเท่านั้น ขณะที่จอมราชันเซียนหวังมีจำนวนนับไม่ถ้วน”
“งั้นหรือ” หลี่ชิเย่ยิ้มจางๆ ออกมา
“ถูกต้อง” ทารกมังกรหลวงพูดเสียงแผ่วเบาว่า “การที่พี่หลี่ได้รับของวิเศษชิ้นนี้มา ได้ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวไม่น้อยแล้ว เป็นที่สนใจของเหล่าจอมเทพและจอมราชัน หากเป็นแค่จอมราชันเซียนหวัง หรือจอมเทพทั่วไป อาศัยหน้าของอาจารย์ของข้ายังสามารถช่วยพูดให้กับพี่หลี่ได้บ้าง…”
“…แต่ว่า จอมราชันเซียนหวังบางคนที่ต้องการของวิเศษชิ้นนี้ของพี่หลี่ขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ เกรงว่าน้องจะจนด้วยเกล้าแล้วหละ บรรดาเหล่าจอมราชันเซียนหวังเหล่านี้ ในโลกนี้ยังไม่มีใครสามารถยุ่งกับพวกเขาได้ พวกเขาเป็นพวกขบวนการเทียนฉวน” ครั้นทารกมังกรหลวงกล่าวมาถึงตรงนี้แล้วได้หยุดนิดหนึ่ง จากนั้น ทำลึกลับและเสียงเข้มว่า “พี่หลี่เคยได้ยินขบวนการเทียนฉวนหรือไม่?”
“อ๋อ ขบวนการเทียนฉวนรึ เคยได้ยิน เป็นกลุ่มคนที่จัดตั้งขึ้นประกอบด้วยจอมราชันเซียนหวังน่ะสิ” หลี่ชิเย่ยิ้มออกมาตามอารมณ์
ทารกมังกรหลวงรีบปรับโทนเสียงให้ต่ำลง และกล่าวว่า “บนโลกใบนี้ไม่มีใครไปมีเรื่องกับขบวนการเทียนฉวนได้อยู่แล้ว หากพวกเขาจับจ้องของวิเศษชิ้นไหนล่ะก็ ไม่ว่าคนนั้นเป็นใครเกรงว่าต้องยกให้แต่โดยดี อีกทั้งไม่กลัวจะแจ้งข่าวเรื่องหนึ่งให้พี่หลี่ทราบ ข้าได้รับข่าวลับสุดยอดว่า แม้แต่กลุ่มพันธมิตรชิงมู่ก็ส่งคนมาด้วยแล้ว ข่าวว่ามีจอมราชันเซียนหวังในกลุ่มพันธมิตรชิงมู่ต้องการของวิเศษชิ้นนี้”
“กลุ่มพันธมิตรชิงมู่?” เมื่อหลี่ชิเย่ได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วถึงกับเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมา
“ถูกต้อง คือกลุ่มพันธมิตรชิงมู่ หรือที่ถูกคนเขายกย่องว่าเป็นพันธมิตรเทพ เป็นกลุ่มคนที่ลึกลับกลุ่มหนึ่ง ยากจะหาใดเทียมในหล้า ปราศจากผู้ต่อกรนิรันดร์” ทารกมังกรหลวงรีบเร่งกล่าวด้วยเสียงโทนต่ำว่า “หากกลุ่มพันธมิตรชิงมู่ลงมือ รับรองว่าจะต้องสะเทือนฟ้าดิน แม้แต่เทพและผียังต้องร่ำไห้ อย่าว่าแต่มดปลวกอย่างพวกเราเลย เกรงว่าแม้แต่จอมราชันเซียนหวังก็ต้องสั่นเทา”
กลุ่มพันธมิตรชิงมู่นั้นตามตำนานเล่าว่า เป็นกลุ่มคนที่ก่อตั้งขึ้นโดยราชันเทพชิงมู่ และได้รับการขนานนามจนคนบางส่วนว่าเป็นกลุ่มพันธมิตรเทพ เรื่องราวเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรชิงมู่ไม่ได้มีการบันทึกเอาไว้ กระทั่งไม่มีใครรู้ว่ามีจอมราชันเซียนหวังใดที่เข้าร่วมกลุ่มกันบ้าง กระทั่งราชันเซียนชิงมู่ดำรงอยู่จริงหรือไม่ก็ยังคงเป็นปริศนา
“ดูท่าเจ้ารู้อะไรไม่น้อยเลยทีเดียวนี่” เมื่อมีการเอ่ยถึง “กลุ่มพันธมิตรชิงมู่” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้า และกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมยออกมา
“มิกล้า มิกล้า เพียงแต่อาจารย์ และอาจารย์อาพวกเขาคบหาสหายทั่วหล้า” ในเวลานี้ ทารกมังกรหลวงถึงกับเผยรอยยิ้มออกมา และกล่าวว่า “อัศวินมังกรหลวงของอาจารย์ และอาจารย์อามีการติดต่อกับผู้กล้าทั่วหล้า และมีความสัมพันธ์ไม่น้อยกับบรรดาจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดน ดังนั้น อาศัยบารมีของอาจารย์ข้า ทำให้ข่าวของข้าไวเป็นพิเศษ”
ทารกมังกรหลวงถึงกับแสดงท่าทีลำพองใจอยู่ไม่น้อยเมื่อเอ่ยถึงอาจารย์ของตนแล้ว
จะโทษทารกมังกรหลวงลำพองใจก็ไม่ถูก จอมเทพยี่หลงซึ่งเป็นอาจารย์ของเขานั้น เป็นจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงอยู่ในครอบครอง อัศวินมังกรหลวงที่ก่อตั้งขึ้นโดยจอมเทพยี่หลง ยิ่งเป็นที่ผู้คนในชิงโจวต้องหวาดผวาจนหน้าถอดสีเมื่อมีการเอ่ยถึงชื่อนี้
อัศวินมังกรหลวงก่อตั้งขึ้นโดยจอมเทพยี่หลง สมาชิกในอัศวินมังกรหลวงมีอยู่เพียงเก้าคนเท่านั้น แต่ว่า สมาชิกทั้งเก้าคนล้วนแล้วแต่เป็นระดับจอมเทพทั้งสิ้น และสิ่งนี้คือความน่ากลัวของอัศวินมังกรหลวง
แต่ว่า อัศวินมังกรหลวงยังมีจุดที่น่ากลัวยิ่งกว่า นั่นก็คือความจริงแล้วอัศวินมังกรหลวงคือกลุ่มโจรดีๆ นี่เอง หรือจะเรียกว่าเป็นกลุ่มโจรจอมเทพก็ได้
เนื่องจากตัวของจอมเทพยี่หลงมีชาติกำเนิดเป็นโจรมาแต่เดิมอยู่แล้ว เคยก่อเรื่องปล้นฆ่ามาอย่างโชกโชน อีกทั้งกลุ่มอัศวินมังกรหลวงที่จอมเทพยี่หลงก่อตั้งขึ้นมานั้น ประกอบด้วยจอมเพทที่มาจากชนชั้นรากหญ้าทั้งเก้าคน จอมเทพทั้งเก้าคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ที่ที่พวกเขาผ่านไปนั้นแม้แต่หญ้าสักต้นก็ไม่เหลือ เข่นฆ่าล้างตระกูลทำลายสำนัก ปล้นชิงบ้านเรือนทำความชั่วมาแล้วทุกอย่าง
ดังนั้น ลับหลังจึงมีผู้คนจำนวนมากเรียกพวกเขาอย่างลับๆ ว่า “อัศวินโจร”!
อัศวินมังกรหลวงมีความแข็งแกร่งยิ่งนัก แม้ว่าจะก่อเรื่องปล้นชิงบ้านเรือนเข่นฆ่าล้างตระกูลทำลายสำนักมามากมาย แต่ว่า สำนักต่างๆ จำนวนมากในชิงโจวกลับไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ กระทั่งหวั่นเกรงพวกเขายิ่งนัก
นี่ก็คือสาเหตุหนึ่งที่ทารกมังกรหลวงกล้าท้าทายต่อเฟิงยี่ เนื่องจากเบื้องหลังของเขาก็มีความแข็งแกร่งยิ่ง
ในขณะนี้ ทารกมังกรหลวงได้เอ่ยชื่อเอาอาจารย์ของตนขึ้นมา ยกเอาอัศวินมังกรหลวงออกมา ความหมายนั้นชัดเจนเสียยิ่งกว่า หากคนผู้นั้นเคยผ่านโลกมาบ้างเมื่อได้ยินคำพูดของทารกมังกรหลวงแล้ว ก็ต้องตกใจจนหน้าถอดสี กระทั่งคนที่ใจเสาะหน่อยอาจจะตกใจจนลนลาน
แต่ทว่า ปฏิกิริยาของหลี่ชิเย่นั้นเรียบเฉย ยิ้มๆ และกล่าวว่า “จะเป็นขบวนการเทียนฉวนก็ดี กลุ่มพันธมิตรชิงมู่ก็ช่าง ให้พวกเขามาก็แล้วกัน เวลานี้ข้าอยากจะลิ้มลองเลือดสดๆ ของจอมราชันเซียนหวังแล้ว! เลือดราชันนับว่ามีรสชาติอีกแบบ!”
ครั้นหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้ ได้มองหน้าทารกมังกรหลวงทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้ามีข่าวที่ไวขนาดนั้น เจ้าสามารถบอกกล่าวพวกที่สนใจในของวิเศษของข้า ถ้าหากจะมาล่ะก็ พากันมาให้มากสักหน่อย ลำพังแค่จอมเทพหนึ่งหรือสององค์ จอมราชันเซียนหวังหนึ่งหรือสององค์ไม่พอให้ข้ายัดขี้ฟัน ให้จอมราชันเซียนหวังพากันมาสักแปดคนสิบคน ยังมีกลุ่มอัศวินอะไร และกลุ่มอะไรต่อมิอะไรนั่นมากันให้หมดเลย จะได้คึกครื้นหน่อย ถ้าหากจะให้ข้าต้องมาจัดการทีละคนๆ มันช่างยุ่งยากเหลือเกิน”
หลังจากกล่าวจบ ไม่สนใจต่อทารกมังกรหลวงอีก หันหลังเดินจากไปทันที
ทารกมังกรหลวงถึงกับตะลึงงันอยู่ตรงนั้นกับคำพูดของหลี่ชิเย่ ไม่สามารถเรียกสติกลับมาได้ในเวลานั้น เขามีท่าทีรู้สึกไม่เข้าใจ
ทารกมังกรหลวงเป็นพยัคฆ์หน้ายิ้ม อย่ามองว่าเขาเรียกพี่เรียกน้องกับใครต่อใครอยู่เสมอ แต่เบื้องหลังนั้น เขาเป็นผู้ที่โหดเหี้ยมทารุณยิ่งคนหนึ่ง
เมื่อครู่นี้ทารกมังกรหลวงเพียงแค่ใช้ลูกไม้เก่าๆ เท่านั้นเอง เมื่อเขารู้ว่าหลี่ชิเย่ได้ของวิเศษจากแหลมฮ่าวว่างแล้ว ก็ได้วางแผนในใจแล้วว่าจะต้องเอาของวิเศษชิ้นนี้มาให้ได้
ที่บอกว่ามีผู้ต้องการซื้อของวิเศษที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่นั้นเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เป็นการยกเอาจอมราชันเซียนหวัง ราชันเซียนเก้าแดนขขึ้นมาขู่หลี่ชิเย่ให้กลัวเท่านั้น
ความจริงแล้ว ทารกมังกรหลวงได้อาศัยวิธีการเช่นนี้มาใช่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น นี่เป็นการนำมาใช้อีกครั้งของเขา อย่าดูถูกวิธีการข่มขู่เช่นนี้ของทารกมังกรหลวง วิธีการข่มขู่เช่นนี้ของเขาทรงพลังยิ่งนัก ทำให้เขาประสบผลสำเร็จมาแล้วบ่อยครั้ง
ขอเพียงเป็นของวิเศษที่ทารกมังกรหลวงหมายตา เขาก็จะอาศัยทั้งขู่ทั้งปลอบจนได้ครอบครองสิ่งของของฝ่ายตรงข้ามมาแล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่า จอมเทพยี่หลงคืออาจารย์ของทารกมังกรหลวง ยิ่งอัศวินมังกรหลวงที่จัดตั้งขึ้นโดยพวกของอาจารย์และอาจารย์อาด้วยแล้ว ชื่อเสียงด้านความโหดเป็นที่ประจักษ์ มีคนเพียงไม่กี่คนในชิงโจวที่ไม่เคยได้ยินชื่ออัศวินมังกรหลวงมาก่อน
ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต่างมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินชื่ออัศวินมังกรหลวงที่โหดร้ายทารุณ ดังนั้น บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน กระทั่งแคว้นเจ้าลัทธิส่วนหนึ่งเมื่อถูกทารกมังกรหลวงข่มขู่ด้วยคำพูดลักษณะเช่นนี้แล้ว หากไม่มอบของวิเศษนั้นให้แต่โดยดี ก็จะขายให้กับทารกมังกรหลวงในราคาถูก
ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการมีเรื่องกับกลุ่มโจรเฉกเช่นอัศวินมังกรหลวง เนื่องจากพลันที่กลุ่มโจรอัศวินมังกรหลวงปรากฎ หากไม่ถูกทำลายแคว้นก็ถูกล้างตระกูล เป็นจุดจบที่อนาถมาก
เนื่องเพราะเกิดความหวาดหวั่นเช่นนี้กันนั่นเอง ทำให้การข่มขู่ของทารกมังกรหลวงได้ผลเป็นประจำ ดังนั้น เมื่อทารกมังกรหลวงได้ยินว่าหลี่ชิเย่ไปได้ของวิเศษมาแล้ว จึงได้อาศัยลูกไม้เก่าๆ หวังข่มขู่หลี่ชิเย่ให้กลัว
แต่แล้วหลี่ชิเย่กลับไม่สนใจ ทำให้ทารกมังกรหลวงถึงกับงุนงงในตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เขาพลาด
“แหะ แหะ แหะ เหล้าคารวะไม่ดื่ม แต่ดื่มเหล้าปรับแทน ถึงเวลานั้นอย่าโทษข้าจิตใจโหดเหี้ยมก็แล้วกัน ขอเพียงอัศวินมังกรหลวงปรากฏ อย่าว่าจะรักษาของวิเศษเลย เกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว เจ้าจะตายเสียดีกว่าอยู่!” เมื่อทารกมังกรหลวงได้สติกลับมา ดวงตาทั้งสองเผยเห็นถึงประกายที่น่าครั่นคร้ามออกมา
นี่แหละคือสิ่งที่หวาดหวั่นที่สุดของอัศวินมังกรหลวง เนื่องจากพวกเขาคือโจร โจรไม่เคยมีคำว่าคุณธรรม
แม้ว่าสายสำนักราชันเซียนจำนวนมากจะถืออำนาจบาตรใหญ่ แต่อย่างน้อยที่สุดสายสำนักราชันเซียนจะถือว่าเป็นฝ่ายคุณธรรม จะไม่เป็นเพราะศิษย์ของตนไปแย่งชิงของวิเศษผู้อื่นแล้วไม่ได้มา ก็จะยกกำลังไปทำลายฝ่ายตรงข้ามเสีย กระทั่งเข่นฆ่าล้างตระกูลทำลายสำนัก ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สายสำนักราชันเซียนก็ยังต้องการรักษาหน้าตาอยู่บ้าง อย่างน้อยยังมีเหตุผลอยู่บ้าง
กลุ่มโจรเฉกเช่นอัศวินมังกรหลวงเหล่านี้ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นระดับจอมเทพ แต่ไม่เคยมีคำว่าเหตุผล นี่แหละคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของพวกเขา
