เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นยิ่งนัก เสมือนหนึ่งเป็นเสียงมารที่มาจากนรกขุมที่สิบแปดอย่างนั้น ทำให้ผู้ที่ได้ยินคำพูดนี้ถึงกับสั่นเทิ้ม และหวาดกลัวจนขนลุกซู่!
“ปุ…” พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ จัดการเด็ดเอาเขาข้างนั้นที่อยู่บนศีรษะของราชันสวรรค์ขวางเส้าออกมา
“อ๊ากก…” เสียงร้องที่น่าเวทนาดังขึ้น หลังจากที่ราชันสวรรค์ขวางเส้าถูกเด็ดเอาเขาออกไป เลือดสดๆ ไหลเป็นทาง ศีรษะครึ่งซีกแทบจะถูกฉีกออกไปด้วย
“การใช้อาวุธชั่วร้าย ครอบครองอาวุธดึกดำบรรพ์ไม่มีอะไรต้องไปตำหนิ” หลี่ชิเย่โยนเขาที่ชุ่มเลือดหยดเป็นทางลงบนพื้น กล่าวเรียบๆ ว่า “แต่ทว่า ในฐานะเป็นจอมราชัน เจ้าไม่สมควรชักนำมารเข้าร่าง ให้ตัวเองตกต่ำสู่เส้นทางของมาร ให้เลือดแห่งความมืดมิดมาเปรอะเปื้อนเลือดราชันของเจ้า ยามที่เลือดราชันของเจ้าไม่ได้บริสุทธิ์อีกต่อไป เจ้าไม่มีสิทธิ์ถูกยกย่องว่าเป็นจอมราชันได้อีก”
พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ ลงมือเด็ดเอาเกล็ดที่ขึ้นอยู่บนตัวของราชันสวรรค์ขวางเส้าออกมา
“อ๊ากก” เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น เลือดสดๆ พุ่งกระจาย ราชันสวรรค์ขวางเส้าเจ็บปวดจนทนไม่ไหวและต้องร้องออกมา จากการที่ถูกดึงเอาเกล็ดบนตัวออกมาดื้อๆ
มองดูจอมราชันผู้หนึ่งถูกคนเขาเหยียบอยู่กับพื้น ทั้งยังถูกขอดเกล็ดหักเขา มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวยิ่งนัก เป็นเรื่องที่สะเทือนจิตใจผู้คนเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือหรือระดับจอมเทพที่ได้มองเห็นภาพนี้แล้ว อดที่จะสั่นเทาไม่ได้
“เลือดแห่งความมืดไม่สมควรปรากฏอยู่บนโลกนี้ สมควรให้มันกลายเป็นเถ้าธุลีได้แล้ว” หลี่ชิเย่ไม่ได้หวั่นไหวกับภาพนี้ พูดน่าเกรงขามออกมา
“ปุ…” มือข้างหนึ่งของหลี่ชิเย่ได้แทงเข้าไปภายในร่างกายของราชันสวรรค์ขวางเส้า ทันใดนั้นได้ควักเอาเส้นเลือดออกมา มันคือเส้นเลือดของจอมราชัน ปรากฎว่าขณะที่มันถูกดึงออกมาจากร่างกายได้เปล่งประกายพร่างพราวออกมา เสมือนหนึ่งเป็นหยกเส้นอย่างนั้น
แต่ทว่า เส้นเลือดของราชันสวรรค์ขวางเส้าไม่ได้เป็นเส้นเลือดจอมราชันที่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว เดิมมันควรจะเป็นเส้นเลือดจอมราชันที่ดูพราวพร่าง กลับกลายเป็นว่าครึ่งหนึ่งของมันได้เปลี่ยนไป มันมีเลือดสีดำไหลรินอยู่ และเลือดสีดำดังกล่าวกำลังเคลื่อนไหวดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในเส้นเลือดจอมราชัน เสมือนหนึ่งเป็นพันธุ์ของมารร้ายที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ภายในเส้นเลือดของจอมราชันอย่างนั้น
นี่แหละคือชะตาโลหิต หลังจากที่ราชันสวรรค์ขวางเส้าได้ชะตาโลหิตมาแล้วก็ทำการหลอมรวมมันเข้าไปอยู่ในเลือดราชัน
“ปุ ปุ ปุ…” ในขณะนี้ หลี่ชิเย่ได้จัดการแยกเอาชะตาโลหิตออกมาจากภายในร่างกายของราชันสวรรค์ขวางเส้า ขณะที่ชะตาโลหิตเสมือนหนึ่งเป็นแหแต่ละปากที่ถูกดึงให้แยกออกมาจากร่างกายของราชันสวรรค์ขวางเส้าอย่างนั้น จากการที่ราชันสวรรค์ขวางเส้าได้หลอมรวมเอาชะตาโลหิตเข้าไปในเลือดราชันของตน ทำให้เลือดแห่งความมืดมิดของชะตาโลหิตได้เจริญเติบโตอยู่ภายในทุกส่วนในร่างกายของราชันสวรรค์ขวางเส้า เลือดแห่งความมืดมิดได้ซึมซาบอยู่ในทุกๆ อณูของเนื้อหนังภายในร่างกายของเขา
ดังนั้น เมื่อหลี่ชิเย่จัดการแยกเอาเลือดแห่งความมืดมิดทั้งหมดออกมา ทำให้ร่างกายของราชันสวรรค์ขวางเส้าถูกฉีกขาด ถูกเลือดแห่งความมืดมิดเฉือนจนแหลกละเอียดไปหมดทั้งร่าง แม้ว่าร่างกายของเขายังคงติดกันอยู่ แต่ถูกเลือดแห่งความมืดมิดเฉือนจนกลายเป็นรอยแยกแต่ละแผล เส้นเอ็นแต่ละเส้นและกระดูกแต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่ถูกเลือดแห่งความมืดมิดตัดขาด
“อ๊ากก…” ขั้นตอนในการแยกเอาเลือดแห่งความมืดมิดออกมาทั้งหมดนั้นสร้างความเจ็บปวดเป็นอันมาก เสียงร้องน่าเวทนาของราชันสวรรค์ขวางเส้าดังไม่ขาดสาย ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน
ภาพเช่นนี้ทำให้ทุกคนต่างขนลุกขนพอง ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้ตระหนกจนสั่นเทา ยิ่งผู้ที่ขวัญอ่อนด้วยแล้ว ถึงกับทรุดตัวนั่งอยู่กับพื้น
นี่คือระดับจอมราชันนะเนี่ย ใครจะไปคาดคิดว่าจอมราชันคนหนึ่งจะมีจุดจบเช่นนี้ ถึงกับถูกคนอื่นเขาเถือหนังเลาะกระดูกได้ จุดจบเช่นนี้สำหรับจอมราชันแล้ว นับว่าน่าเศร้าและเวทนาเหลือเกิน
สุดท้าย หลี่ชิเย่ได่จัดการแยกเอาเลือดแห่งความมืดมิดที่มีอยู่ออกจากร่างกายของราชันสวรรค์ขวางเส้า เลือดแห่งความมืดมิดที่ถูกแยกออกมาถึงกับคล้ายดั่งมีชีวิตอย่างนั้น มันคิดจะบินหนีไปทันทีที่ถูกแยกออกมาจากร่างกายของราชันสวรรค์ขวางเส้า
แต่ว่า หลี่ชิเย่พลันพลิกฝ่ามือขนาดใหญ่ก็สยบมันเอาไว้ได้ทันที “ตูม” เสียงหนึ่งดังขึ้น เพลิงราชันของหลี่ชิเย่ปิดกั้นฟ้าดิน และทำการเผาผลาญเลือดแห่งความมืดมิดในทันที
“จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ภายใต้การเผาผลาญของเพลิงราชัน เลือดแห่งความมืดมิดถึงกับส่งเสียงร้องที่น่าเวทนาออกมา ทำให้ผู้คนถึงกับขนลุกขนพองกับภาพที่เห็น
“ต่อให้เจ้าเลาะกระดูกของข้า เลาะเส้นเอ็นของข้า เจ้าก็ฆ่าข้าให้ตายไม่ได้ ขอเพียงชะตาฟ้าข้ายังอยู่ ข้าก็จะไม่ตาย!” แม้ราชันสวรรค์ขวางเส้ามีสีหน้าที่ขาวซีดและได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก แต่ขณะที่เขาพูดประโยคนี้ออกมานั้น พลังของจงชวี่ยังคงเปี่ยมล้นอยู่
“เรื่องนี่ข้ารู้” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบๆ ว่า “นี่แหละคือข้อได้เปรียบของจอมราชันเซียนหวัง ชะตาฟ้าคงอยู่ ทุกสิ่งคงอยู่ คิดจะตายก็ไม่ง่าย แต่ว่า เมื่อข้าจัดการฉีกชะตาฟ้าของเจ้าจนขาด ดูสิว่าถึงตอนนั้นจะยังคงปากกล้าพูดอย่างนี้ออกมาได้อีกหรือไม่”
“แหะ พูดไม่มีความละอาย คิดจะฉีกชะตาฟ้าของข้ารึ อย่าฝันไปเลย เจ้าสามารถฉีกขาดยุคสมัยหนึ่งอย่างนั้นรึ?” ราชันสวรรค์ขวางเส้าร้องกล่าวเสียงดัง
การฉีกชะตาฟ้าให้ขาดเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก จำเป็นต้องอาศัยพลังทำลายฟ้าดิน คิดจะสังหารจอมราชันสักองค์ วิธีการที่ตรงมากที่สุดก็คือทำลายชะตาฟ้าของฝ่ายตรงข้ามเสีย
กล่าวสำหรับผู้ที่อยู่ในระดับจอมราชันด้วยกัน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างก็มีชะตาฟ้าในครอบครอง ถ้าหากจอมราชันอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งมีความแข็งแกร่งมากกว่าและต้องการทำลายชะตาฟ้าของฝ่ายตรงข้ามสามารถทำได้ง่ายมาก แต่ทว่า หากไม่มีชะตาฟ้าในครอบครอง คิดจะทำลายชะตาฟ้าของอีกฝ่ายก็คงไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายดายแล้ว
“ไหนเลยต้องไปฉีกชะตาฟ้าของเจ้าให้ขาด ของดีเฉกเช่นชะตาฟ้าหากฉีกขาดแล้วช่างเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองเหลือเกิน” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย
“ตึง” นาทีนี้เอง บนศีรษะของหลี่ชิเย่ปรากฏหลักกฎเกณฑ์ทิ้งตัวลงมาสายหนึ่ง มันเป็นหลักกฎเกณฑ์ที่ดึกดำบรรพ์ เสียงดัง “ปุ” มันได้แทงเข้าไปที่ชะตาฟ้าของราชันสวรรค์ขวางเส้าในทันที
“จี๊ด จี๊ด จี๊ด” นาทีนี้ หลักกฎเกณฑ์สายนี้ถึงกับทำการดูดซับเอาชะตาฟ้าของราชันสวรรค์ขวางเส้าขึ้นมา
“เป็นไปไม่ได้…” ครั้นราชันสวรรค์ขวางเส้ารับรู้ได้ว่าชะตาฟ้าของตนกำลังไหลออกถึงกับตื่นตระหนกขึ้นมา เนื่องจากไม่เคยมีสิ่งใดสามารถดูดเอาชะตาฟ้าของจอมราชันไปได้ แต่ว่า เรื่องที่น่าสยดสยองเช่นนี้กลับเกิดขึ้นจริงบนตัวของเขาแล้ว
หลักกฎเกณฑ์ที่ใช้ดูดซับเอาชะตาฟ้าของราชันสวรรค์ขวางเส้าไป ย่อมคือหนึ่งในสิบสองหลักกฎเกณฑ์ของหลี่ชิเย่นั่น
“ผู้อาวุโสจ้านหวัง ข้ารู้ว่าท่านอยู่ที่นี่ โปรดช่วยชีวิตข้าด้วย” จากการที่ชะตาฟ้าไหลออกจนเหลือน้อยลงทุกทีๆ จนเกือบจะแห้งอยู่แล้ว ราชันสวรรค์ขวางเส้าที่อวดดีและยโสมาชั่วชีวิตถึงกับหวาดกลัวจนสุดขีด อดที่จะร้องเสียงแหลมไปขอความช่วยเหลือจากท้องฟ้าเบื้องบน วอนขอความช่วยเหลือจากตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ราชันสวรรค์ขวางเส้าหยิ่งยโสไม่มีผู้ใดเทียม ไม่ยอมก้มหัวให้กับใคร แต่ทว่า นาทีนี้ราชันสวรรค์ขวางเส้าที่อวดดีและหยิ่งยโสเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาโดยแท้จริงเสียแล้ว เนื่องจากหากเขาจะต้องสูญเสียชะตาฟ้าไปล่ะก็ หมายถึงเขาจะต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
กล่าวสำหรับจอมราชันเซียนหวังคนหนึ่งแล้ว หากมีสักวันที่พวกเขาจะต้องสูญเสียชะตาฟ้าไปจริงๆ ต่อให้พวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ก็ตาม แต่ทุกอย่างก็จะกลับกลายเป็นไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว กล่าวสำหรับจอมราชันเซียนหวังแล้ว การสูญเสียชะตาฟ้าไปมันคือตายเสียดีกว่าอยู่!
ราชันสวรรค์ขวางเส้าในเวลานี้ไม่ห่วงเรื่องยโสโอหังอีกแล้ว และไม่คำนึงเรื่องการหยิ่งในศักดิ์ศรีตนเองอีกต่อไป ร้องขอความช่วยเหลือจากตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง
แต่ว่า บนท้องฟ้าเงียบสงัด ทุกคนต่างมองไปบนท้องฟ้า มองไปที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนต่างต้องการรู้ว่าราชันสวรรค์จ้านหวังอยู่ที่นี่จริงหรือไม่ จอมราชันที่เป็นตำนานผู้นี้คือผู้ปกป้องเผ่าสวรรค์ที่มั่นคงและทรงพลังที่สุด
“ราชันสวรรค์จ้านหวัง โปรดเห็นแก่ความเป็นเผ่าเดียวกัน เห็นแก่บรรพบุรุษทั้งสามท่านของข้า ช่วยชีวิตข้าสักครั้งเถอะ” เวลานี้ ราชันสวรรค์ขวางเส้าได้ร้องเสียงแหลมดังอีกครั้ง
ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ และมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเมื่อได้ยินราชันสวรรค์ขวางเส้าส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือเช่นนี้ ราชันสวรรค์ขวางเส้าคือจอมราชันของเผ่าสวรรค์ อีกทั้งยังมีข่าวลือกันว่า ราชันสวรรค์ทั้งสามที่เป็นบรรพบุรุษของราชันสวรรค์ขวางเส้าเคยมีความสัมพันธ์กับตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวัง ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งก่อนนั้นราชันสวรรค์ขวางเส้าถูกเทพโบราณกุยฝานตามล่าสังหารนั้น ราชันสวรรค์จ้านหวังก็เคยออกหน้าพูดแทนให้เขามาก่อน
ดังนั้น นาทีนี้ทุกคนจึงอยากจะรู้ว่าราชันสวรรค์จ้านหวังจะลงมือด้วยการช่วยชีวิตของราชันสวรรค์ขวางเส้าที่ใกล้ตายเอาไว้อีกครั้งหรือไม่
ความจริงแล้ว ขณะที่ราชันสวรรค์ขวางเส้าร้องขอความช่วยเหลืออยู่นั้น กองทัพนับล้านของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังต่างถึงกับกลั้นลมหายใจเอาไว้ และระดับจอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ความจริงแล้ว กล่าวสำหรับตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังนาทีนี้รู้สึกขัดแย้งอยู่ไม่น้อย เวลานี้พวกเขาต้องปกป้องจินเก๋อ พวกเขาไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แทรกแซงขึ้นมา โดยเฉพาะสำหรับจอมเทพของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังแล้ว พวกเขาไม่ต้องการเห็นตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังเข้าไปแปดเปื้อนน้ำโคลนในครั้งนี้
แต่ว่า จะอย่างไรเสียราชันสวรรค์ขวางเส้าก็คือจอมราชันของเผ่าสวรรค์ ในฐานะที่เป็นเผ่าสวรรค์ มองเห็นจอมราชันของเผ่าสวรรค์ถูกเจ้าหนูเผ่ามนุษย์คนหนึ่งทรมานจนตาย สิ่งนี้กล่าวสำหรับตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังแล้ว พวกเขารู้สึกไม่สบายใจ
แต่ว่า ทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง แม้ว่าราชันสวรรค์ขวางเส้าจะร้องขอความช่วยเหลือไป แต่เบื้องบนท้องฟ้ายังคงเงียบสงัดไม่มีผู้ใดตอบกลับต่อราชันสวรรค์ขวางเส้า
“จี๊ด…” ในที่สุด หลักกฎเกณฑ์สายนี้ได้จัดการดูดเอาชะตาฟ้าของราชันสวรรค์ขวางเส้าจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ ขณะที่ชะตาฟ้าที่มีเพียงหนึ่งสายของราชันสวรรค์ขวางเส้ายังห่างไกลที่จะจุดติดหลักกฎเกณฑ์สายนี้ให้สว่างไสวขึ้นได้
ต่อให้หลี่ชิเย่ไม่ใช้เท้าเหยียบราชันสวรรค์ขวางเส้าเอาไว้ แต่ราชันสวรรค์ขวางเส้าที่สูญเสียชะตาฟ้าไปคิดจะขยับตัวยังลำบาก นาทีนี้เขาอ่อนแอจนนอนอยู่กับพื้น อ่อนแอกระทั่งขยับนิ้วมือก็ยากเสียแล้ว
“เจ้า เจ้าฆ่าข้าเสียสิ” ในขณะนี้ ราชันสวรรค์ขวางเส้ากระทั่งไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพูดออกมา กล่าวว่า “ช่วยให้ข้าหลุดพ้น ถือเป็นความเมตตาของเจ้าแล้ว”
ในเวลานี้ ราชันสวรรค์ขวางเส้าสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิงแล้ว การสูญเสียชะตาฟ้ากล่าวสำหรับเขาคือสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เวลานี้ต่อให้เขาสามารถมีชีวิตต่อไปได้ กล่าวสำหรับเขาแล้วมันไร้ซึ่งความหมายใดๆ ดังนั้น ภายในใจของราชันสวรรค์ขวางเส้าจึงต้องการอยากจะตายสถานเดียว
“ถ้าเช่นนั้นให้ข้าส่งเจ้าในระยะสุดท้ายก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่มองดูราชันสวรรค์ขวางเส้าทีหนึ่งและพูดเฉยเมยขึ้นมา
“ปุ” หลี่ชิเย่ใช้นิ้วจี้ลงไปบริเวณหน้าผากทำลายชะตาแท้ของเขาโดยพลัน ทำให้เสียชีวิตทันที
นาทีนี้ราชันสวรรค์ขวางเส้าค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ ก่อนตายถึงกับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ ไม่มีการดิ้นรน ไม่มีความอาฆาตแค้น จากไปอย่างสงบยิ่งนัก นาทีนี้กล่าวสำหรับเขาแล้วกลับกลายเป็นว่าไม่น่ากลัวเลย ตรงกันข้ามเป็นการหลุดพ้นอย่างหนึ่ง
“ตูม” เวลานี้มือของหลี่ชิเย่กางออกอย่างชำนาญ เพลิงราชันเทราดลงมาจัดการเผาร่างของราชันสวรรค์ขวางเส้าให้กลายเป็นเถ้าธุลีไปโดยพลัน ท้ายที่สุดแล้ว จอมราชันผู้หนึ่งก็เหลือไว้เพียงแค่เถ้าธุลีกองหนึ่งเท่านั้นเอง
จอมราชันผู้หนึ่งต้องมาตายไปในลักษณะเช่นนี้ ชั่วชีวิตของราชันสวรรค์ขวางเส้ามีความยอดเยี่ยมยิ่งนัก มีพรสวรรค์ที่สูงที่สุด แต่กลับเป็นผู้ที่สืบทอดชะตาฟ้าได้น้อยที่สุด ถูกเทพโบราณกุยฝานตามล่าจนหมดทางหนี แต่ ท้ายที่สุดยังคงไม่รู้สำนึก
ชั่วชีวิตของเขาโอหังอวดดี ยโสและชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ไม่ว่าจะสรรหาคำพูดใดๆ มาวิจารณ์ราชันสวรรค์ขวางเส้าก็ไม่นับว่าเกินเลย
แต่ว่า จะอย่างไรเสียเขาก็คือจอมราชันองค์หนึ่ง มาวันนี้กลับปิดฉากชีวิตด้วยลักษณะที่น่าเวทนาที่สุด เกรงว่าขณะราชันสวรรค์ขวางเส้ามีชีวิตอยู่ก็นึกไม่ถึงกระมัง