ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกตระหนก เมื่อเห็นวังวนสัจธรรมถูกลากลงมาอย่างช้าๆ ทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าใจว่า จินเก๋อนั้นมีความทะเยอทะยานที่สูงมาก เขาต้องการสืบทอดชะตาฟ้าถึงสี่สายในคราวเดียวกัน
การที่คิดจะสืบทอดชะตาฟ้าสี่สายในคราวเดียวนั้น ต่อให้เป็นสุดยอดดาวรุ่งแห่งยุคก็ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายดาย สิ่งนี้ไม่เพียงต้องอาศัยความแข็งแกร่งที่เพียงพอแล้ว ยังจำเป็นต้องอาศัยวิธีการยอดเยี่ยมที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสองในหล้าอีกด้วย
“ตูม ตูม ตูม…” นาทีนี้ฟ้าดินเกิดสั่นไหวโคลงเคลงไปมา จากการที่วังวนสัจธรรมถูกลากลงมาทีละนิดๆ ชะตาฟ้าแต่ละสายที่อยู่ภายในวังวนสัจธรรมได้เคลื่อนไหวแหวกว่ายไปมา จะอย่างไรเสียชะตาฟ้าแต่ละสายเหล่านี้เป็นของฟ้าดิน ยากที่ผู้ใดสามารถอาศัยกำลังฉุดเอามาดื้อๆ ได้อย่างง่ายดาย
ต่อให้จินเก๋อมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสืบทอดชะตาฟ้าได้แล้ว แต่ว่า การที่เขาคิดจะสืบทอดชะตาฟ้าแต่ละสายเหล่านี้เอาไว้ ก็เป็นเรื่องที่มีขั้นตอนที่ยากลำบากยิ่งนัก
เสียง “ปุ ปุ ปุ” ดังขึ้นเป็นระยะ นาทีนี้ชะตาฟ้าแต่ละสายที่อยู่ภายในวังวนสัจธรรมได้ดิ้นหลุดออกมา แล้วทยอยกันกระโดดขึ้นและมุดลงท่ามกลางฟ้าดินหายไปในพริบตา ขณะที่มุดหายไปท่ามกลางฟ้าดินยังได้ส่งเสียงหวีดร้องออกมา
ชะตาฟ้าแต่ละสายที่กระโดดออกมาจากวังวนสัจธรรมคล้ายดั่งมังกรแท้จริงแต่ละตัวที่กระโดดออกมาจากสระน้ำ สุดท้ายแล้วได้กระโดดลงไปในเหวลึกกลางทะเล ภาพที่มองเห็นนี้ดูอลังการมาก คล้ายมังกรที่กระโดดลงทะเล
ภายในระยะเวลาอันสั้น ชะตาฟ้าแต่ละสายได้กระโดดออกจากวังวนสัจธรรมไป ท้ายสุดเหลือชะตาฟ้าไว้เพียงสี่สายที่ยังคงอยู่ในวังวนสัจธรรมนั่น
สภาพที่เห็นไม่ถือเป็นเรื่องแปลกอะไร จะอย่างไรเสียไม่เคยมีใครสามารถสืบทอดชะตาฟ้าเกินกว่าสี่สายได้ในคราวเดียวอยู่แล้ว เวลานี้ การที่จินเก๋อสามารถอาศัยวังวนสัจธรรมของตนทำการสยบชะตาฟ้าได้สี่สายถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
“ใกล้สำเร็จแล้วรึ?” ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ และตื่นเต้นแทนจินเก๋อ เมื่อมองเห็นวังวนสัจธรรมทั้งสองใกล้เข้ามาทุกทีๆ
แม้แต่กองทัพนับล้าน และบรรดาบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังก็รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก ในขณะเดียวกัน พวกเขายังคงไม่กล้าลืมหน้าที่ของตน ในเวลานี้พวกเขายิ่งต้องระแวดระวังตื่นตัวมากขึ้น ต้องระวังมากกว่าเวลาอื่นเสียอีก ถ้าหากนาทีนี้ถูกผู้อื่นลอบโจมตีสำเร็จล่ะก็ สิ่งที่ได้ทำมาทั้งหมดก่อนหน้าก็เท่ากับสูญเปล่า
กล่าวสำหรับองค์หญิงเทียนหวงแล้ว นางกระหายอย่างยิ่งที่จะได้เห็นสามีของนางก้าวสู่ความเป็นจอมราชันทีละก้าวๆ ด้วยสายตาของนางเอง แน่นอน นางย่อมกระหายได้เห็นสามีของตนได้สืบทอดชะตาฟ้า ไม่ต้องการพลาดสิ่งใดๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยฉับพลัน
แต่ว่า องค์หญิงเทียนหวงยิ่งเข้าใจถึงหน้าที่ที่อยู่บนบ่า นางไม่กล้าเสียสมาธิ นัยน์ตาคู่นั้นของนางล็อกเป้าหมายแต่ละแห่งที่อยู่บนท้องฟ้าอย่างมั่นคง ในฐานะที่นางอยู่ในระดับจอมเทพ นางได้ทำการตรวจตราทุกพื้นที่ของฟ้าดินแห่งนี้ เพื่อป้องกันการลอบโจมตีต่อสามีของนางจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ในขณะนี้ แม้ว่าองค์หญิงเทียนหวงต้องการจะมองดูสามีของตนสักแวบหนึ่ง ต้องการพักสายตาไว้บนตัวของสามีสักนิดหนึ่ง จะอย่างไรเสียนี่คือห้วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของสามีนาง แต่ว่านางไม่กล้าเสียสมาธิ ไม่กล้าเสียเวลากระทั่งเลิกหนังตาสักครั้งหนึ่ง
“ตูม…” นาทีนี้วังวนสัจธรรมที่รองรับชะตาฟ้าสี่สายได้สั่นเทาทีหนึ่ง พร้อมกับโคลงเคลงไปมา ในเวลานี้ชะตาฟ้าทั้งสี่ต่างเปล่งกระกายที่เจิดจ้าออกมา อีกทั้งยังมีความรุนแรงและร้อนแรงยิ่งนัก
ย่อมไม่เป็นที่สงสัย ชะตาฟ้าทั้งสี่สายก็ไม่ยินยอมให้จินเก๋อได้สืบทอดไปได้โดยง่ายเช่นนี้ ชะตาฟ้าทั้งสี่สายก็คล้ายดั่งชะตาฟ้าอื่นๆ กระโดดออกจากวังวนของสัจธรรม กระโดดเข้าไปท่ามกลางฟ้าดิน
“พันธนาการ…” ในเสี้ยววินาทีนี้เอง จินเก๋อได้ทำการวิวัฒนาการสัจธรรม สำแดงสรรพวิชา บังคับควบคุมสุดยอดสัจธรรมสูงสุดของตนทำการพันธนาการชะตาฟ้าทั้งสี่สายเอาไว้
เสียง “ตึง ตึง ตึง” ดังขึ้นมาเป็นระลอก มองเห็นได้ว่า ท่ามกลางวังวนของสัจธรรมปรากฎหลักกฎเกณฑ์สัจธรรมขนาดเขื่องยากจะหาใดเทียมแต่ละสาย และมันคล้ายดั่งเป็นโซ่ศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้น จากเสียงที่ดังขึ้นเป็นระลอกนั้น หลักกฎเกณฑ์ของสัจธรรมได้ทำการพันธนาการแบบขันชะเนาะบนชะตาฟ้าชั้นแล้วชั้นเล่า
“ปัง ปัง ปัง” เสียงสั่นสะเทือนดังขึ้น ชะตาฟ้าทั้งสี่สายใช่ว่าจะยอมศิโรราบง่ายๆ พวกมันต่างดิ้นรนอย่างเต็มที่ อีกทั้งชะตาฟ้าทั้งสี่สายยังได้ขยายตัวให้ใหญ่ขึ้นๆ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ได้กลายเป็นขนาดใหญ่เท่าเทือกเขาที่พาดผ่านหมื่นแดนอย่างนั้น
“พันธนาการ…” จินเก๋อร้องคำรามออกมาอีกครั้ง พลังลมปราณพวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง หลักกฎเกณฑ์เข้าพันธนาการชะตาฟ้าทั้งสี่สายอย่างมั่นคง ขณะเดียวกันก็พันธนาการตัวของจินเก๋อเข้าไปทั้งตัวเช่นกัน
ในเวลานี้ จินเก๋อได้เอาตัวเองมัดติดอยู่กับชะตาฟ้าอย่างแน่นหนา เขาได้ทุ่มสุดตัวหากไม่สำเร็จก็ตาย หากไม่สามารถพันธนาการชะตาฟ้าทั้งสี่สายเอาไว้จะไม่เลิกราอย่างเด็ดขาด
“คร๊ากก คร๊ากก คร๊ากก” ในเวลานี้เอง เสียงแตกละเอียดดังขึ้นเป็นระลอก เวลานี้ จินเก๋อได้นำเอาร่างของตัวเองมัดติดอยู่กับชะตาฟ้าอย่างแน่นหนา ขณะที่ชะตาฟ้าทั้งสี่พยายามขยายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ดิ้นรนกระโดดอย่างเต็มที่เพื่อให้หลุดจากวังวนสัจธรรมของจินเก๋อให้ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลักกฎเกณฑ์สัจธรรมแต่ละสายไม่เพียงพันธนาการร่างกายของจินเก๋อเอาไว้แน่น ขณะเดียวกันก็รัดสุดยอดสัจธรรมสูงสุดของจินเก๋อเอาไว้มั่นคงเช่นกัน
ดังนั้น ภายใต้การบีบรัดอย่างรุนแรง ไม่เพียงร่างกายของจินเก๋อเท่านั้น แม้แต่วังวนสัจธรรมก็ปรากฎรอยแยกเป็นริ้วๆ เลือดสดๆ ไหลซึมออกมาจากรอยปริแยกย้อมชุดที่สวมใส่จนแดงฉาน เวลานี้เนื้อตัวของจินเก๋อเต็มไปด้วยเลือด
ทุกคนล้วนแล้วแต่กลั้นลมหายใจเอาไว้เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว หลายคนรู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก
ในขณะนี้ องค์หญิงเทียนหวงรู้สึกเป็นห่วงสามีของนางมากกว่าใครๆ เป็นห่วงในสภาพของสามีนางมากกว่าทุกๆ คน แต่ว่า นางไม่กล้าจ้องมองมากมายนัก สายตาของนางจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ล็อกเป้าหมายแต่ละเป้าหมายบนท้องฟ้าเอาไว้!
“ควรจะสละสักสายนะ ชะตาฟ้าสามสายไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาอยู่แล้ว แต่ว่ากับชะตาฟ้าสี่สายมันคือบททดสอบที่หนักหนามาก” เหล่าจอมเทพบางส่วนถึงกับกังวลขึ้นมา เมื่อมองเห็นจินเก๋อใช้ร่างกายของตัวเองมัดรวมกับชะตาฟ้าทั้งสี่สาย ยื้อยุดฉุดกระชากกับชะตาฟ้าทั้งสี่สายไม่ยอมปล่อย
“ตูม ตูม ตูม” ในเวลานี้ จินเก๋อเองการทำการขับเคลื่อนพลังลมปราณทั้งหมดของตน ให้ลมปราณของตนไปอุดอยู่เต็มรอยแยกนั่น ภายใต้การอุดของลมปราณจนเต็ม บาดแผลบนตัวของจินเก๋อและวังวนสัจธรรมค่อยๆ สมานกลับเป็นปรกติ
แม้ว่ารอยปริแยกจะได้รับการสมานกลับไปเหมือนเดิมจากพลังลมปราณ แต่จากการที่ต้องอาศัยพลังลมปราณเป็นจำนวนมากมาถมและอุดรอยปริแยกให้เต็ม ทำให้จินเก๋อสูญเสียพลังลมปราณไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการสูญเสียในปริมาณที่น่ากลัวมาก
เวลานี้ แม้แต่จอมราชันทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังที่ซ่อนตัวอยู่บนท้องฟ้าก็ให้ความสนใจกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า แต่ว่าพวกเขาทำได้แค่ให้ความสนใจเท่านั้น สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือคอยระวังผู้ที่จะมาลอบโจมตีจินเก๋อเท่านั้น
สำหรับเรื่องของการสืบทอดชะตาฟ้า ต่อให้พวกเขาที่เป็นถึงจอมราชันก็ช่วยอะไรจินเก๋อไม่ได้แม้แต่น้อย จะอย่างไรเสียการจะบรรลุเป็นจอมราชันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ต้องอาศัยตนเองไปทำให้สำเร็จบุคคลภายนอกไม่สามารถช่วยได้อยู่แล้ว มิฉะนั้นล่ะก็ การบรรลุเป็นจอมราชันเซียนหวังก็คงไม่ยากเย็นถึงเพียงนี้แล้ว
ท่ามกลางเสียงดังตูมตามดังขึ้นมาเป็นระลอก จินเก๋อและชะตาฟ้าเปิดศึกยืดเยื้อมาครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากหลายครั้งผ่านไป พลังลมปราณของจินเก๋อสูญเสียอย่างหนัก สีหน้าของเขาซีดเผือด หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เกรงว่าจินเก๋อคงจะยืนหยัดต่อไปได้อีกไม่นาน
นาทีนี้ แม้แต่จอมราชันทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังถึงกับรู้สึกกังวลขึ้นมา หากจำเป็นจริงๆ พวกเขาจะเกลี้ยกล่อมให้จินเก๋อสละชะตาฟ้าสักสายหนึ่ง ไม่จำเป็นจะต้องแข็งขืนสืบทอดชะตาฟ้าทั้งสี่สายให้ได้
สำหรับบรรดาบรรพบุรุษ และกองทัพนับล้านของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังยิ่งไม่ต้องพูดถึง หัวใจของพวกเขาถึงกับขึ้นมาจุกอยู่ที่คอหอย พวกเขาต่างอธิฐานให้กับจินเก๋ออย่างเงียบๆ
เสียง “ตูม…” ดังสนั่น สุดท้ายแล้ว ชะตาฟ้าทั้งสี่สายภายใต้การยืนหยัดไม่ปล่อย ทั้งดึงทั้งลากซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดพวกมันก็ยอมศิโรราบไม่ดิ้นรนอีกต่อไป
นาทีนี้ วังวนสัจธรรมทั้งสองถูกจินเก๋อลากเอามาวางซ้อนกัน
“ตูม…” เสียงดังสนั่น นาทีนี้ฟ้าดินสั่นไหวโคลงเคลงไปมา ทุกแว่นแคว้นสั่นเทา ในที่สุดจินเก๋อสามารถนำเอาวังวนสัจธรรมของตนเข้าไปไว้ภายในร่างการของตน และชะตาฟ้าทั้งสี่สายถูกเก็บเข้าไปไว้ภายในลัคนา
ในเวลานี้ จากการที่ได้เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมา อานุภาพราชันที่ไม่มีสิ้นสุดพุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรง นาทีนี้เพลิงจอมราชันที่ไม่มีสิ้นสุดได้พวยพุ่งออกมาจากตัวของจินเก๋อ เสมือนหนึ่งเป็นภูเขาไฟนับล้านล้านลูกปะทุขึ้นมาพร้อมกันอย่างนั้น เพลิงจอมราชันที่บ้าคลั่งและไม่มีสิ้นสุดกวาดไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน สรรพสิ่งมีชีวิตล้วนแล้วแต่รับรู้ได้ถึงอานุภาพราชันสูงสุดนั่น
นาทีนี้เป็นการประกาศว่าจอมราชันองค์ใหม่ถอดด้ามองค์หนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว และจอมราชันองค์ที่สองแห่งยุคได้ถือกำเนิดขึ้นนับแต่นี้เป็นต้นไป!
ในเวลานี้ มองดูทั่วทั้งร่างของจินเก๋อที่มีเปลวเพลิงราชันรุนแรง ท่ามกลางเสียงดัง “ตึง ตึง ตึง” หลักกฎเกณฑ์สัจธรรมของเขาได้ลอกคราบแปรเปลี่ยนกลายเป็นหลักกฎเกณฑ์จอมราชัน ทั่วทั้งร่างตลบอบอวลไปด้วยอานุภาพสูงสุดของจอมราชัน ทำให้ผู้พบเห็นเกิดอารมณ์พลุ่งพล่านต้องการกราบไหว้ขึ้นมา
“สำเร็จแล้ว…” กองทัพนับล้านของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังถึงกับร้องคำรามเสียงดังออกมาเมื่อได้เห็นภาพนี้ กระทั่งมีผู้ที่ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ในเวลานี้ยอดฝีมือจำนวนมากของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังถึงกับสวมกอดกันด้วยความดีใจ และวิ่งแสดงความยินดีกันและกันวุ่นวาย
“จอมราชัน…” ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยต่างทยอยกันก้มลงกราบภายใต้อานุภาพราชัน เพื่อเฝ้าจอมราชันที่เพิ่งจะถือกำเนิดขึ้นใหม่องค์นี้
ในขณะนี้ เปลวเพลิงที่อยู่บนตัวของจินเก๋อค่อยๆ เก็บงำ สุดท้ายเพลิงจอมราชันทั้งหมดก็ถูกเก็บงำเข้าไปอยู่ในตัวของเขา “แว้งค์” นัยน์ตาทั้งสองของเขาปรากฏประกายที่เบ่งบานออกมา เหมือนหนึ่งโลกใบใหม่เอี่ยมได้ถือกำเนิดขึ้นภายในนัยน์ตาทั้งสองของเขาอย่างนั้น
นาทีนี้ นัยน์ตาทั้งสองของนจินเก๋อกลับกลายเป็นลึกล้ำยิ่งนัก เสมือนว่าสามารถวิวัฒนการจักรวาลและหมื่นอาณาจักรอย่างนั้น ตัวเขาที่บรรลุเป็นจอมราชันได้มีการเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง หลุดพ้นจากการพันธนาการของสัจธรรม!
“สำเร็จแล้ว!” นาทีนี้ องค์หญิงเทียนหวงไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไปแล้ว วิ่งเข้าไปหาและสวมกอดจินเก๋อเอาไว้แน่น นางร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ กล่าวว่า “ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว!”
จินเก๋อเองก็สวมกอดภรรยาของตนเอาไว้แน่น และกล่าวว่า “ในนี้มีครึ่งหนึ่งเป็นผลงานของเจ้า”
ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกอิจฉา และมีอยู่ไม่น้อยที่ซาบซึ้งจนหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อมองเห็นจอมราชันและราชินีคู่นี้ที่สวมกอดด้วยความลึกซึ้งเช่นนี้
“ในที่สุดเขาก็ทำได้สำเร็จ” พวกของธิดาราชันฉีหลิน ที่ยืนมองจากระยะไกลบนเรือนิรันดรแล้วถึงกับกล่าวด้วยความสะเทือนหวั่นไหว เมื่อมองเห็นอานุภาพของเพลิงจอมราชันที่กวาดไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน
“สืบทอดชะตาฟ้ารวดเดียวถึงสี่สายนะเนี่ย ไม่เสียทีที่จินเก๋อได้รับการยกย่องว่าเป็นดาวรุ่ง” แม้แต่อู่ฟ่งหยิ่งที่โอหังอวดดีเต็มเปี่ยมก็ต้องยอมรับในความแข็งแกร่งของจินเก๋อ
“จินเก๋อนับเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่งโดยแท้ ไม่เพียงเป็นอัจฉริยะบุคคล จิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ของเขาก็แข็งแกร่งมากพอ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเมื่อครั้งแรกถูกลอบโจมตี เกรงว่าคงต้องบังเกิดเป็นเงามืดขึ้นในใจ แต่กลับส่งผลกระทบต่อเขาได้ยาก” ซึหุนหลินก็กล่าวทอดถอนใจออกมาว่า “ถ้าหากครั้งนั้นไม่ถูกเหรินเซิ่นลอบโจมตีสำเร็จล่ะก็ เกรงว่าเขาอาจมีโอกาสได้กลายเป็นจอมราชันที่มีสิบสองชะตาฟ้าจริงๆ”
พวกของธิดาราชันฉีหลินต่างเห็นด้วยกับคำพูดเช่นนี้ว่ามีเหตุผล แม้ว่าจะพลาดโอกาสในการสืบทอดชะตาฟ้าไปแล้วครั้งหนึ่ง จินเก๋อยังคงสามารถสืบทอดชะตาฟ้าได้สี่สายอีกครั้งกับการสืบทอดชะตาฟ้าครั้งใหม่ เป็นการบ่งบอกว่าคงมีความแข็งแกร่งและฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งนัก