ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 1938 ปลิวไปตามฝ่ามือ

ตอนที่ 1938 ปลิวไปตามฝ่ามือ

ราชันสวรรค์ขวางเส้าในเวลานี้ไม่ได้มีความสุขุมที่จอมราชันพึ่งมี เขาให้ความรู้สึกเหมือนถลำเข้าไปกลายเป็นมารแก่ผู้คน แม้ว่าพลังชะตาฟ้าของราชันสวรรค์ขวางเส้ายังคงอยู่ กระทั่งดูจะแข็งแกร่งมากกว่าเดิมเสียอีก แต่ว่า กลับให้ความรู้สึกที่บอกไม่ถูกอย่างหนึ่ง ทุกคนจะเกิดมโนภาพเป็นอันดับแรกว่าราชันสวรรค์ขวางเส้าไม่ได้มีฐานะเป็นจอมราชันอีกแล้ว

ในขณะนี้ ความแค้นที่สุมอยู่ภายในอกของราชันสวรรค์ขวางเส้าเพิ่มสูงขึ้นจนถึงขีดสูงสุด ทำให้ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและความโกรธ ทำให้เขาเปี่ยมด้วยความโหดร้ายทารุณ!

ชีวิตในวัยเยาว์ของราชันสวรรค์ขวางเส้าไม่เคยพ่ายแพ้ต่อผู้ใดมาก่อน ภายหลังได้เป็นจอมราชันแล้วถูกเทพโบราณกุยฝานไล่ฆ่าจนหนีหัวซุกหัวซุน แต่ภายในใจของราชันสวรรค์ขวางเส้าไม่คิดว่าตัวเองนั้นสู้เทพโบราณกุยฝานไม่ได้

ภายในใจของราชันสวรรค์ขวางเส้าเข้าใจว่า ถ้าหากเขาไม่พลาดโอกาสไปล่ะก็ หากเขาได้ครอบครองชะตาฟ้าตั้งแต่สิบสายขึ้นไป เขาคิดว่าอาศัยพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมของเขา รับรองได้ว่าจะต้องสังหารเทพโบราณกุยฝานได้อย่างง่ายดายแน่นอน

ภายในใจของเขามองว่า การที่เข้าต้องพ่ายแพ้ให้กับเทพโบราณกุยฝานเป็นเพราะเวลาไม่คอยท่า หาใช่เป็นเพราะเขาไม่เท่าเทพโบราณกุยฝาน ถ้าหากเขาประสบความสำเร็จเช่นเทพโบราณกุยฝานล่ะก็ เขาต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าเทพโบราณกุยฝานเสียอีก

ด้วยเพราะเหตุนี้เอง แม้ว่าราชันสวรรค์ขวางเส้าจะเคยถูกเทพโบราณกุยฝานตามไล่ล่ากระทั่งจนตรอก แต่ภายในใจของเขายังคงรักษาความเป็นผู้หยิ่งผยองเหมือนเดิม การพ่ายแพ้ต่อเทพโบราณกุยฝานไม่ถือเป็นเรื่องอัปยศ กระทั่งเรียกได้ว่า การรอดชีวิตมาได้จากน้ำมือของเทพโบราณกุยฝานนั้นถือเป็นเกียรติยศอย่างหนึ่ง

แต่ทว่า มาวันนี้ราชันสวรรค์ขวางเส้ากลับถูกสยบโดยซึหุนหลิน คนอย่างซึหุนหลินเป็นบุคคลเช่นใดกันรึ? เขาไม่สามารถเทียบเคียงกับเทพโบราณกุยฝานได้อยู่แล้ว อีกทั้งพวกเขายังเกิดอยู่ในยุคสมัยเดียวกัน ในยุคสมัยนั้น ขณะที่เขายังอยู่ในเยาว์วัยเขาไม่เคยคิดจะมองดูซึหุนหลินเสียด้วยซ้ำ

เฉกเชนซึหุนหลินที่เป็นเพียงคนตัวน้อยๆ ที่ไร้ชื่อเสียง ต้องดิ้นรนด้วยความยากลำบากเพื่อการอยู่รอด ในสายตาของราชันสวรรค์ขวางเส้ามองว่าเทียบไม่ได้กระทั่งมดปลวก

แต่มาวันนี้ ราชันสวรรค์ขวางเส้ากลับถูกสยบโดยซึหุนหลิน คนที่ถูกเขาตราหน้าว่าเป็นผู้เยาว์ไร้ชื่อเสียงดั่งมดปลวกถึงกับสยบเขาได้ เท่ากับเป็นการใช้เท้าเหยียบเข้าไปที่หน้าของเขา ทำให้ความเป็นผู้หยิ่งในศักดิ์ศรีตนเองของราชันสวรรค์ขวางเส้าที่โอหังถูกทำลายจนแตกละเอียด

มันเป็นผลที่ราชันสวรรค์ขวางเส้าไม่สามารถยอมรับได้ พลันทำให้เขาโกรธแค้นอย่างยิ่ง ภายใต้ความโกรธแค้นเช่นนี้บวกกับผลกระทบจากเลือดหยดนั้น ทำให้ราชันสวรรค์ขวางเส้าคลุ้มคลั่งขึ้นมา เต็มไปด้วยความไร้เหตุผล กลายเป็นบ้าคลั่งกระหายเลือด สูญเสียความสุขุมและความสง่างามที่จอมราชันพึงมีไป

“แช้งค์…” เสียงคำรามของกระบี่ดังขึ้น ทันใดนั้นราชันสวรรค์ขวางเส้าที่ยืนอยู่บนท้องฟ้าสูงได้ขว้างกระบี่ราชันทั้งสามเล่มออกไป จากนั้น “ตึง ตึง ตึง” เสียงกระบี่คำรามไม่ขาดสายดังขึ้นเป็นระลอก

สุดท้าย “แช้งค์” เสียงคำรามดังก้องเก้าชั้นฟ้า กลับกลายเป็นค่ายกลกระบี่ขนาดยักษ์ปราศจากผู้เทียบเทียมขึ้นมา และสยบลงมาให้ซึหุนหลินตกอยู่ท่ามกลางค่ายกลกระบี่นั่น

“ตูม ตูม ตูม” นาทีนี้ เสียงดังตูมตามดังไม่ขาดสาย ฟ้าดินสั่นไหวโคลงเคลง ค่ายกลกระบี่มีขนาดให้ใหญ่โต้ไร้ขอบเขต ท่ามกลางค่ายกลกระบี่ปรากฏกระบี่ขนาดยักษ์ไม่มีสิ้นสุดที่ฟันฉับลงมา กระบี่ยักษ์ทุกเล่มเสมือนหนึ่งเป็นเทือกเขาที่ยาวเป็นล้านล้านลี้อย่างนั้น ด้วยกระบี่ยักษ์เช่นนี้ที่ฟันลงมา สามารถฟันโลกทั้งโลกให้แยกออกได้

นี่มันหาใช่เป็นเพียงค่ายกลกระบี่ธรรมดาเสียแล้ว ค่ายกลกระบี่ลักษณะเช่นนี้ได้มีการวิวัฒนาการความหมายที่ลึกซึ้งพิสดารจนกลายเป็นโลกของกระบี่ไปแล้ว โลกเช่นนี้สามารถรองรับฟ้าดินเป็นล้านล้านแห่ง

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางโลกเช่นนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่วิวัฒนาการจนกลายเป็นพลังกระบี่ที่สาดออกไป โดยพลังกระบี่แต่ละสายที่สาดออกไปได้กลายเป็นกระบี่ยักษ์ที่มีขนาดเท่าเทือกเขา พลังกระบี่ที่ไม่มีสิ้นสุดลักษณะเช่นนี้พุ่งเข้าสังหารซึหุนหลินระลอกแล้วระลอกเล่า หมายจัดการให้ร่างของซึหุนหลินกลายเป็นเนื้อบดไป

“ราชวงศ์ว่านซื่อ…” ในขณะนี้ ซึหุนหลินคำรามเสียงยาวไม่หยุด “ชุดตัวอ่อนราชวงศ์”ของเขาได้แผ่กลิ่นอายกษัตริย์ที่ทรงพลังมากที่สุดออกมา ตัวของเขาถูกปกคลุมอยู่ท่ามกลางกลิ่นอายกษัตริย์นั่น พลังการเข้าถึงตัวตนอย่างแท้จริงได้พวยพุ่งออกมาไม่ขาดสาย

นาทีนี้ ด้านหลังของซึหุนหลินปรากฏเป็นราชวงศ์เก่าแก่โบราณลอยขึ้นมา มีการสับเปลี่ยนยุคแล้วยุคเล่า ทุกๆ ยุคสมัยได้ให้การสนับสนุนพลังของราชวงศ์ที่ไม่ขาดสายต่อซึหุนหลิน

แต่ว่า ต่อให้ซึหุนหลินแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ตาม ก็ไม่สามารถต้านรับกับพลังสังหารที่เข้ามาเป็นระลอกของค่ายกลกระบี่นี้ได้ โดยเฉพาะประกายเลือดของค่ายกลกระบี่นี้ เมื่อกระบี่ยักษ์ฟันลงมาพร้อมกับประกายเลือดเช่นนี้ ก่อให้เกิดเป็นเลือดที่พุ่งกระฉูดสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที มันมีความแหลมคมยิ่งนัก ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านเอาไว้ได้ ฝากเป็นรอยแผลที่สยดสยองสะเทือนขวัญบนตัวของซึหุนหลิน

การที่ค่ายกลกระบี่ของราชันสวรรค์ขวางเส้าทรงพลังมากถึงเพียงนี้ ไม่เพียงเพราะตัวของราชันสวรรค์ขวางเส้าที่มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเมื่อมีหยดเลือดที่มีพลังมารอันน่ากลัว พลังทำลายล้างสูง ซึ่งอยู่เหนือจินตนาการของผู้คนไปมากมาย

“แหะ แหะ รอให้ข้าจัดการเชือดเนื้อเจ้าออกมาทีละชิ้นๆ เจ้าก็จะเข้าใจว่า เฉกเช่นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาอย่างเจ้ากับดาวรุ่งอย่างข้ามีช่วงห่างแค่ไหน” ในเวลานี้ ราชันสวรรค์ขวางเส้าที่มองเห็นร่างซึ่งชุ่มไปด้วยเลือดของซึหุนหลินแล้ว ยิ้มกล่าวน่าครั่นคร้ามออกมา

นาทีนี้ราชันสวรรค์ขวางเส้าไม่ใช่จอมราชันอีกต่อไปแล้ว เขาได้สูญเสียท่วงท่าอันพึงมีของจอมราชันผู้หนึ่งไปแล้ว!

พวกของธิดาราชันฉีหลินเองรู้สึกร้อนรนยิ่งนัก เมื่อเห็นซึหุนหลินที่พยายามยืนหยัดต้านรับกับค่ายกลกระบี่อย่างเต็มที่ แต่ว่าพวกเขาจนด้วยเกล้าไม่สามารถช่วยเหลือซึหุนหลินได้อยู่แล้ว หากลงมือโดยพละการยังจะเป็นการสร้างความยุ่งยากให้กับซึหุนหลินด้วยซ้ำ!

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่ยืนชมอยู่ระยะห่างไกลถึงกับขวัญหนีดีฝ่อ จอมเทพบางส่วนนิ่งเงียบกับภาพที่เห็น ไม่มีใครต้องการลงมือ เพราะจะอย่างไรเสียเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง

สำหรับตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังนั้น พวกเขาไม่แสดงจุดยืนใดๆ มีเพียงระดับจอมเทพที่มองดูแล้วส่ายหน้าเบาๆ เท่านั้นเอง พวกเขารู้สึกว่าการแสดงออกของราชันสวรรค์ขวางเส้าไม่คู่ควรกับบุคลิกที่งดงามของจอมราชัน

“ปุ ปุ ปุ…” ซึหุนหลินต้านรับด้วยความยากลำบากภายใต้คมกระบี่แต่ละเล่มที่ฟาดฟันเข้ามา แม้ว่าเขาสามารถต้านรับกับกระบี่ราชันของราชันสวรรค์ขวางเส้า แต่กลับไม่สามารถต้านรับกับประกายเลือดที่อยู่ท่ามกลางค่ายกลกระบี่นั่น ประกายกระบี่ลักษณะเช่นนี้ประหลาดและน่ากลัวเหลือเกิน มันปรากฏได้ทุกที่ อยู่ได้ทุกแห่ง และไม่มีสิ่งใดสามารถขวางมันเอาไว้ได้ เมื่อไรที่ถูกมันยิงเข้าให้จะบาดเจ็บสาหัสทันที

ภายในระยะเวลาอันสั้น ทั่วร่างของซึหุนหลินชุ่มไปด้วยเลือดที่ไหลเป็นทาง เลือดสดๆ ได้ย้อมชุดตัวอ่อนราชวงศ์ของเขาจนแดงฉาน

“รอให้ข้านี่แหละที่จัดการเชือดเจ้าเป็นๆ เรียบร้อยแล้วก็จะไปตามหาเจ้าคนแซ่หลี่ และจัดการเฉือนมันทีละกระบี่ๆ เป็นๆ” ราชันสวรรค์ขวางเส้ามีความรู้สึกสุขใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในใจ ทำให้เขาได้ระบายความอัดอั้นตันใจ กล่าวด้วยความรู้สึกสะใจยิ่งนัก

“อาศัยเจ้าน่ะหรือ? ไม่คู่ควรกระทั่งมารองเป็นพื้นรองเท้าให้ข้า” ขณะที่ราชันสวรรค์ขวางเส้ากำลังรู้สึกว่าบุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระอยู่นั้น เสียงที่เอ้อระเหยเสียงหนึ่งได้ดังขึ้น

ราชันสวรรค์ขวางเส้ารีบหันหลังกลับไป เห็นคนผู้หนึ่งได้ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว ท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และดูสบายๆ

“คุณชาย…” ธิดาราชันฉีหลินที่กำลังร้อนรนยิ่งพลันรู้สึกดีใจเมื่อเห็นผู้ที่ปรากฎตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ร้องเสียงดังออกมา

“หนูน้อยตระกูลหลี่!” ดวงตาทั้งสองของราชันสวรรค์ขวางเส้าเบิกกว้างด้วยความโกรธเมื่อได้เห็นหลี่ชิเย่ ครั้งก่อนหลี่ชิเย่เรียกวานรกระดูกขาวยักษ์ออกมาทำให้เข้าเสียเปรียบอย่างยิ่ง ถึงกับต้องกัดฟันกรอด สาบานว่าจะต้องจับเจ้าผู้เยาว์ผู้นี้มาสับเป็นหมื่นๆ ชิ้น!

“คนโหดอันดับหนึ่งมาแล้ว” มีคนที่ร้องเสียงดังออกมา เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่

“เขาสามารถท้าสู้กับจอมราชันได้รึ?” มีผู้บ่นพึมพำออกมา รู้สึกไม่อยากจะเชื่อนัก

“คงพูดยากนะ เจ้าหมอนี่ชั่วร้ายผิดปรกติสุดๆ ขณะอยู่ที่ฝอเหย่ได้ทำลายปณิธานของอัศวินมังกรหลวงโดยตรง” จอมเทพผู้หนึ่งได้กล่าวว่า “เขาจะแข็งแกร่งหรืออ่อนด้อยไม่สามารถประเมินได้ด้วยวิธีการปรกติแล้ว”

บรรดาระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังต่างรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน กับการปรากฏตัวขึ้นของหลี่ชิเย่ หลังจากพบกับจอมราชันทั้งสี่ของตระกูลขุนนางโบราณจ้านหวังแล้ว หลี่ชิเย่ยังคงกระโดดโลดเต้นอยู่ที่ตรงนี้ได้เหมือนเดิม มันบ่งบอกถึงสิ่งใดกันแน่?

“ผู้เยาว์ วันนี้ข้านี่แหละจะสับเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้น!” ดวงตาทั้งสองของราชันสวรรค์ขวางเส้ามองเห็นภาพในอดีตที่ผ่านมา เผยให้เห็นประกายเลือดที่น่ากลัวออกมา

หลี่ชิเย่เลิกหนังตาทีหนึ่ง ขี้คร้านจะมองดูเขาอีกสักครั้ง ยื่นมือกางนิ้วออก “ตูม” เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ศิลาจารึกขนาดยักษ์ยากจะหาสิ่งใดเทียมปรากฏขึ้น “ตูม” ฉับพลันนั้น ศิลาจารึกขนาดยักษ์ได้พวยพุ่งอักขระยันต์ไร้สิ้นสุดออกมา กลายเป็นโลกที่กว้างใหญ่ไพศาล โลกที่กว้างใหญ่ไพศาลบวกกับศิลาจารึกขนาดยักษ์พุ่งโจมตีลงมา พุ่งเข้าชนค่ายกลกระบี่ของราชันสวรรค์ขวางเส้า

“ปัง ปัง ปัง…” เสียงแตกละเอียดดังขึ้นเป็นระลอก ด้วยการทำลายล้างอย่างรุนแรง ค่ายกลกระบี่ของราชันสวรรค์ขวางเส้าไม่อาจต้านทานศิลาจารึกขนาดยักษ์ที่หอบเอาโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลพุ่งชนเข้ามา ทำให้ค่ายกลกระบี่ของราชันสวรรค์ขวางเส้าถูกทำลายแหลกละเอียดไป

สุดท้าย เสียงดัง “ปัง” ค่ายกลกระบี่ถูกพุ่งชนจนแหลกละเอียดไป ขณะที่ราชันสวรรค์ขวางเส้าถูกพลังกระแทกจนถอยหลังตึง ตึง ตึง ไปหลายก้าวติดต่อกัน!

ซึหุนหลินรอดตายอย่างหวุดหวิด ถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง แสดงคารวะต่อหลี่ชิเย่ด้วยความขอบคุณยิ่ง และกล่าวว่า “ขอบคุณคุญชายที่ยื่นมือเข้าช่วย”

หลี่ชิเย่ขี้คร้านจะพูดอะไรให้มากความ เพียงมองดูราชันสวรรค์ขวางเส้าที่ถูกพลังกระแทกถอยออกไป

“ยอดเยี่ยม นี่เป็นของวิเศษที่ยอดเยี่ยมมาก เพียงพอที่จะเรียกว่าเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดของยุคสมัย” ในเวลานี้ ดวงตาทั้งสองของราชันสวรรค์ขวางเส้าจับจ้องไปที่มือข้างขวาของหลี่ชิเย่ และกล่าวน่าครั่นคร้ามออกมาว่า “วันนี้ ข้านี่แหละไม่เพียงจะควักเอาเมล็ดพันธุ์พุทธในตัวของเจ้าออกมา แม้แต่มือข้างนี้ของเจ้าก็ต้องถูกตัดออกมาแล้วกลั่นเอาของวิเศษออกมา”

แม้ว่าราชันสวรรค์ขวางเส้าจะกำแหง แต่สายตาของเขาแหลมคมยิ่ง พลันสามารถแยกแยะของวิเศษว่าดีหรือไม่ดี

“ในอดีต เจ้าเป็นเพียงจอมราชันที่อ่อนด้อยคนหนึ่งเท่านั้น เวลานี้รึ ก็แค่สุนัขบ้าตัวหนึ่งเท่านั้น” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “เพื่อแสวงหาพลัง ไม่สนใจกับวิธีการ ทำให้ตัวเองต้องแปดเปื้อนยังไม่รู้ตัวอีก”

พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้ากันและกัน ในโลกนี้ เกรงว่าคงมีเพียงคนโหดอันดับหนึ่งเท่านั้นที่กล้าวิจารณ์จอมราชันสักคนกระมัง การพูดตรงๆ ว่าจอมราชันเป็นสุนัขบ้านับเป็นคำพูดที่อันธพานเพียงหนึ่งเดียวที่เคยมีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันแล้ว

“เจ้าเด็กน้อย ตายเสียเถอะ!” ราชันสวรรค์ขวางเส้าไหนเลยจะยอมรับได้กับการเยาะเย้ยเช่นนี้ ร้องคำรามเสียงดังออกมา “ตึง” เสียงกระบี่คำรามไม่ขาดสาย พลันกระบี่ทั้งสามเล่มได้รวมเป็นหนึ่ง ฟาดฟันเข้าหาหลี่ชิเย่ทันที

หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันมาได้ก้าวข้ามอดีตถึงปัจจุบัน สังหารสิ้นหมื่นแดน กวาดล้างทำลายสุริยันจันทราแลดวงดาว ทำให้ระดับจอมเทพจำนวนมากถึงกับขนลุกซู่ในใจ กระทั่งยอดฝีมืออื่นๆ ถูกสยบให้คุกเข่าลงกับพื้นไม่อาจต้านทานกับพลังกระบี่เช่นนี้ได้ หมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะขัดขืน

อย่างไรก็ตาม หลี่ชิเย่ไม่ได้มองดูสักครั้งเมื่อเผชิญกับกระบี่ที่ฟาดฟันเข้ามา กางนิ้วทั้งห้าออก ศิลาจารึกขนาดยักษ์ฟาดลงมาตรงๆ ด้วยศิลาจารึกขนาดยักษ์ที่ฟาดลงมาเช่นนี้ เสมือนหนึ่งเป็นโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลฟาดลงมาอย่างนั้น พลันฟาดจนโลกมนุษย์แหลกเป็นผุยผง

“ปัง” เสียงดังสนั่น ศิลาจารึกขนาดยักษ์ได้ฟาดเข้ากับกระบี่ของราชันสวรรค์ขวางเส้าอย่างแรง “ตึง” ราชันสวรรค์ขวางเส้ายึดกุมกระบี่ไว้ไม่อยู่ถูกพลังกระแทกจนหลุดจากมือ ตัวเขาเองก็ถูกฟาดจนกระเด็นออกไปด้วยเช่นกัน

“ตูม ตูม ตูม” ร่างของราชันสวรรค์ขวางเส้าที่ถูกกระแทกจนลอยออกไปได้ชนเข้ากับยอดเขาขนาดสูงใหญ่ลูกหนึ่ง สุดท้ายพุ่งชนเข้ากับพื้นดินเสียงดัง “ปัง” กลายเป็นหลุมลึกที่สุดจะหยั่งถึงขึ้นมา

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท