ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2033 เข้าทะเลชั่วร้าย

ตอนที่ 2033 เข้าทะเลชั่วร้าย

หลิวจินเซิ่นเพียงจ้องมองยุวกษัตริย์หกกระบี่ด้วยสายตาเย็นชา เวลานี้แววตาของหลิวจินเซิ่นที่มองดูยุวกษัตริย์หกกระบี่ดูเมินเฉย เหมือนหนึ่งมองดูคนที่ตายไปแล้วเท่านั้น เขาพูดน้ำเสียงสงบว่า “ในเมื่อมีคนไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ อาจารย์ก็สั่งสอนเขาสักหน่อยก็แล้วกัน”

เดิมทีหลิวจินเซิ่นยามที่มีอายุน้อยก็ประมาทเลินเล่อยิ่งนัก กระทำเรื่องที่อวดดีมามากมาย มาวันนี้เมื่อได้เห็นบรรดาอัจฉริยะบุคคลที่มากความสามารถมีความโดดเด่นเหล่านี้ เปี่ยมด้วยความโอหังอวดดี ทำให้เขามองเห็นเงาที่คล้ายคลึงกับตัวเขาในอดีตขณะอายุยังน้อย ดังนั้น เขาจึงได้พูดคำๆ นั้นออกมาเมื่อครู่

เสียดาย ยุวกษัตริย์หกกระบี่กลับไม่รู้ว่านี่คือความหวังดีของหลิวจินเซิ่น ดังนั้น หลิวจินเซิ่นจึงขี้คร้านจะไปสนใจอีกต่อไปแล้ว

“ก็ดี” หลี่ชิเย่ที่มีรอยยิ้มเต็มใบหน้ากล่าวว่า “ในเมื่อมีผู้ที่ไม่รู้จักคำว่าตาย เช่นนั้นแล้วข้าก็จะสั่งสอนเขาสักหน่อย มาเลย เจ้าอยากจะพนันด้วยข้าก็จะสงเคราะห์เจ้า สมควรแก่เวลาที่ข้าจะได้เชือดไก่ให้ลิงดูแล้ว จะได้ไม่ต้องมีใครเข้าใจผิดว่าข้าคือคนดีอยู่เสมอ”

“ฮึ แพ้ชนะยังไม่ปรากฏ คำพูดนี้ออกจะเร็วเกินไป!” ยุวกษัตริย์หกกระบี่ส่งเสียงฮึเย็นชา

“กล่าวสำหรับข้าแล้ว ผลแพ้ชนะได้ออกมาแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่งโดยไม่ได้แสดงความโกรธออกมา และกล่าวว่า “ข้าจะให้เจ้าได้ไปก่อน จะได้ไม่มาหาว่าข้าผู้ใหญ่รังแกเด็ก ไม่ให้โอกาสแก่เจ้า”

“ตกลง ข้าจะรออาจารย์อยู่ที่ชั้นที่เจ็ดของทะเลชั่วร้าย!” เวลานี้ยุวกษัตริย์หกกระบี่ยิ้มเยาะทีหนึ่ง เสียงดังตูม ทันใดนั้นร่างทั้งร่างของเขาปรากฏพลังลมปราณรุนแรง เปล่งอำนาจของจอมเทพออกมาทั่วร่าง เสมือนหนึ่งตัวเขาได้กลับกลายเป็นจอมเทพไปแล้วอย่างนั้น

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ตกใจอย่างยิ่ง เมื่อมองเห็นกลิ่นอายจอมเทพที่แผ่กระจายออกมาจากยุวกษัตริย์หกกระบี่ เนื่องจากยุวกษัตริย์หกกระบี่ยังไม่ได้เป็นระดับจอมเทพ แต่ทุกคนสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากบิดาของยุวกษัตริย์หกกระบี่คือระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง ดูท่าบิดาของเขาคงได้ทำการปลุกเสกให้กับยุวกษัตริย์หกกระบี่มาแล้ว

ตึง ตึง ตึงทันใดนั้นเอง กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกเล่มที่อยู่บนหลังของยุวกษัตริย์หกกระบี่ได้ออกจากฝักและพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า พริบตาเดียวกันนั้นเองประกายกระบี่สาดส่องตรงไปบนร่างของยุวกษัตริย์หกกระบี่ ติดตามด้วยเสียงตึง ตึง ตึงที่ดังขึ้นมา กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกเล่มหมุนตัวและกลับกลายเป็นเจดีย์กระบี่ แล้วจัดการครอบร่างของยุวกษัตริย์หกกระบี่อยู่ภายใน กลายเป็นเจดีย์กระบี่ที่แข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้ทำการปกป้องยุวกษัตริย์หกกระบี่เอาไว้ภายใน

ในขณะนี้ ท่าทียุวกษัตริย์หกกระบี่เหนือผู้คน ปณิธานกระบี่รุนแรง ทันใดนั้นเขาเสมือนหนึ่งเป็นเทพกระบี่องค์หนึ่งมาจุติอย่างนั้น พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น

“ยอดเยี่ยมมาก กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกปราศจากผู้ต่อกร” ไม่รู้ว่าในใจของนักศึกษามากมายเท่าใดต้องหวั่นไหวเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว อดที่จะกล่าวชื่นชมออกมาและรู้สึกอิจฉากับสิ่งนี้

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกเล่มนี่ของยุวกษัตริย์หกกระบี่มีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา เป็นสิ่งที่บิดาของเขาออกแบบสร้างขึ้นมาเพื่อตัวเขาโดยเฉพาะ สามารถสำแดงศักยภาพสูงสุดของยุวกษัตริย์หกกระบี่ออกมา เมื่อไรที่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกเล่มลงมือพร้อมกัน สามารถทำให้พลังของยุวกษัตริย์หกกระบี่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ศักยภาพของยุวกษัตริย์หกกระบี่เพิ่มสูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่งดื้อๆ

“รุ่นพี่ บรรลุผลสำเร็จทันทีที่ลงมือ” นักศึกษาบางคนของศตาคารอดที่จะพูดเสียงแผ่วเบาออกมา เมื่อมองเห็นอำนาจบารมีที่ข่มขวัญผู้คนของยุวกษัตริย์หกกระบี่ และเป็นการพูดประจบต่อยุวกษัตริย์หกกระบี่

“ข้าจะล่วงหน้าไปก้าวหนึ่ง รอการมาถึงของอาจารย์ที่ชั้นเจ็ดของทะเลความชั่ว!” ยุวกษัตริย์หกกระบี่ที่เปี่ยมด้วยความยโสอวดดีหัวเราะเยาะทีหนึ่ง ขาดคำได้ก้าวเท้าออกไป

ตูม…เสียงดังสนั่น ทันทีที่ยุวกษัตริย์หกกระบี่ก้าวเท้าเข้าไปในทะเลชั่วร้าย ทันใดนั้นพลังความชั่วร้ายที่รุนแรงเสมือนดั่งคลื่นยักษ์ที่พุ่งขึ้นท้องฟ้า จากนั้นฟาดใส่ยุวกษัตริย์หกกระบี่อย่างแรง

พลังความชั่วร้ายนี้ทรงพลังยิ่งนัก ยามที่มันซัดเขามาดั่งคลื่นยักษ์นั้น ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น ฉับพลันนั้นได้ละลายช่องว่างไปสิ้น ด้วยความพาลเช่นนี้ของพลังความชั่วร้ายสามารถรีดทุกสิ่งทุกอย่างจนแห้ง มันสามารถหลอมละลายพลังทุกอย่าง จนกลายเป็นพลังความชั่วร้ายในที่สุด และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรหลังจากที่เจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นสยบอยู่ที่ตรงนี้แล้วจึงมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ว่า ขณะที่พลังความชั่วร้ายที่ทรงพลังยิ่งซัดเข้ามาดั่งคลื่นยักษ์นั้น ทันใดนั้นร่างของยุวกษัตริย์หกกระบี่บังเกิดเป็นร่างเงาที่ลากยาว ท่วงท่าการย่างก้าวเสมือนดั่งการร่ายรำของนกกระเรียนอย่างนั้น กระโดดขึ้นไปทีละก้าวๆ เรื่องที่แปลกประหลาดได้เกิดขึ้นมาแล้ว พริบตาเดียวนั้นเอง ยุวกษัตริย์หกกระบี่ถึงกับหลบหลีกพลังความชั่วร้ายที่ซัดเข้ามาหา ฉับพลันไปยืนอยู่ ณ อีกจุดหนึ่งของทะเลชั่วร้าย

ตูม…เสียงดังสนั่น ขณะที่เท้าของยุวกษัตริย์หกกระบี่เพิ่งจะแตะถึงพื้น ปรากฎพลังความชั่วร้ายที่เหมือนดั่งคลื่นยักษ์ก็ได้ซัดเข้ามาอีกสายหนึ่ง แต่ว่าท่วงท่าการย่างก้าวของยุวกษัตริย์หกกระบี่รวดเร็วมาก ฉับพลันก็ได้กระโดดขึ้นเสมือนดั่งนกกระเรียนร่ายรำอีกครั้ง อาศัยความรวดเร็วที่ปราศจากผู้เทียบเทียมหลบหลีกพลังความชั่วร้ายไปได้ และไปปรากฏยังอีกจุดหนึ่ง

ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย ท่ามกลางทะเลชั่วร้ายเจ็ดชั้นที่มีคลื่นยักษ์รุนแรง ทุกย่างก้าวที่ยุวกษัตริย์หกกระบี่ลงแตะพื้นก็จะปรากฎคลื่นพลังความชั่วร้ายขนาดยักษ์ที่ซัดเข้าหาอย่างรุนแรง แต่ทว่า ท่วงท่าการย่างก้าวของเขายอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียม สามารถหลบหลีกคลื่นยักษ์ที่ซัดเข้ามาอย่างง่ายดาย บวกกับการได้รับการปกป้องคุ้มครองของเจดีย์กระบี่ ในเวลานี้คลื่นพลังความชั่วร้ายยักษ์นี้ถึงกับไม่สามารถถูกตัวของเขาแม้เพียงน้อยนิด

ด้วยเหตุนี้ หนึ่งก้าวหนึ่งคลื่นยักษ์ ส่งผลให้ทะเลชั่วร้ายบังเกิดเป็นคลื่นที่น่ากลัวยิ่งนัก ทั้งยังมีขนาดความสูงของคลื่นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เสมือนหนึ่งการมาถึงของวันสิ้นโลกอย่างนั้น ยุวกษัตริย์หกกระบี่ที่อยู่ท่ามกลางพลังความชั่วร้ายที่เป็นคลื่นยักษ์นี้คล้ายเป็นเรือน้อยลำหนึ่ง แต่ทว่า เขากลับเป็นเรือน้อยประเภทที่แล่นฝ่าเกลียวคลื่นและไม่มีวันพลิกคว่ำแบบนั้น

ย่อมไม่ต้องสงสัย ลักษณะการย่างก้าวของยุวกษัตริย์หกกระบี่ต้องสรรสร้างขึ้นโดยบิดาของเขา เพราะมีลักษณะการย่างก้าวที่ได้กุมความลึกซึ้งพิสดารของเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นเอาไว้เช่นนี้นี่เอง จึงทำให้ยุวกษัตริย์หกกระบี่กล้าที่จะเปิดเกมพนันเช่นนี้กับหลี่ชิเย่

ภายในระยะเวลาอันสั้น ยุวกษัตริย์หกกระบี่ได้ก้าวข้ามทะเลชั่วร้ายไปทีละชั้นๆ ทำให้บรรดานักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างอ้าปากตาค้าง พวกเขาก็นึกไม่ถึงว่ายุวกษัตริย์หกกระบี่ถึงกับสามารถอาศัยท่วงท่าการย่างก้าวที่มหัศจรรย์เช่นนี้ ย่างก้าวเข้าไปยังทะเลชั่วร้ายได้

มหัศจรรย์เหลือเกิน…นักศึกษาจำนวนไม่น้อยต่างมองดูจนเหม่อลอยเมื่อเห็นท่วงท่าการก้าวย่างที่พริ้วไหวดุจดั่งนกกระเรียนร่ายรำของยุวกษัตริย์หกกระบี่

“ยุวกษัตริย์นับว่าเสือซ่อนเล็บโดยแท้ ก่อนหน้านั้นอาจารย์โจวที่ต่อต้านกับพลังความชั่วร้ายที่อยู่ในทะเลชั่วร้ายซึ่งหน้าอย่างสุดกำลัง ขณะที่ยุวกษัตริย์หนึ่งก้าวหนึ่งร่ายรำ ถึงกับสามารถหลบเลี่ยงคลื่นความชั่วร้ายได้อย่างง่ายดาย ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน” มีนักศึกษาที่กล่าวชมเปาะขึ้นมา

“นั่นสิ ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่ารุ่นพี่จะกำชัยอยู่ในมือแล้ว” มีนักศึกษาจากศตาคารพูดด้วยเสียงแผ่วเบาไม่กล้าพูดเสียงดัง เนื่องจากหลี่ชิเย่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อพูดจบแล้วยังแอบมองดูหลี่ชิเย่แวบหนึ่ง

หลี่ชิเย่เพียงยิ้มเฉยเมย ไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดคิดอะไรมากนัก เมื่อมองเห็นท่วงท่าพลิ้วไหวดั่งนกกระเรียนร่ายรำของยุวกษัตริย์หกกระบี่

“ถ้าหากจอมทระนงอเวจีรู้ว่าเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นของตนถูกทำลาย ไม่รู้ว่าจะมีความรู้สึกเช่นใดนะ” หลี่ชิเย่หัวเราะและเอ่ยถามกับหลิวจินเซิ่นที่อยู่ข้างกาย

หลิวจินเซิ่นกล่าวสงบขึ้นว่า “ไม่มีวิชาใดในหล้าที่ทำลายไม่ได้ เจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นก็หาใช่อาวุธที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้ต่อกร การถูกทำลายก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว”

ครั้นหลิวจินเซิ่นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วได้หยุดนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “จอมเทพเก้ากระบี่ไม่เสียทีที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงในครอบครอง เขาได้วิวัฒนาการความลึกซึ้งพิสดารของเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นได้แล้ว จึงคิดค้นและสรรสร้างท่าการย่างก้าวเช่นนี้เพื่อทำลายเจดีย์นี้ เกรงว่าครั้งนั้นเขาคงคิดจะนำเอาเจดีย์นี้ลงมา แต่ติดที่เห็นแก่หน้าของสถาบันศึกษาเทพเจ้า จึงไม่ได้นำมันไปเท่านั้น”

จอมเทพเก้ากระบี่และจอมทระนงอเวจีต่างก็เป็นจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงของทวีปเจียวเหิงโจว เป็นความจริงที่จอมเทพเก้ากระบี่มีจิตคิดจะชิงความเป็นหนึ่ง และด้วยเหตุนี้เอง จอมเทพเก้ากระบี่จึงได้ศึกษาค้นคว้าเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นของจอมทระนงอเวจี

จะอย่างไรเสียจอมเทพเก้ากระบี่ก็คือระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง หลังจากที่เขาศึกษาค้นคว้าเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นไปแล้ว ในที่สุดการสามารถเคลื่อนย้ายและวิวัฒนาการถึงความลึกซึ้งพิสดารของเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้น และอาศัยท่าร่างชุดนี้ อีกทั้งยังได้ถ่ายทอดท่าร่างนี้ให้กับยุวกษัตริย์หกกระบี่บุตรชายของเขา

เฉกเช่นที่หลิวจินเซิ่นได้พูดเอาไว้ว่า แม้ว่าเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นจะทรงพลังยิ่งนัก นับเป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยมมากชิ้นหนึ่ง แต่ก็ไม่นับว่าเป็นอาวุธที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้าแต่อย่างใด การถูกจอมเทพเก้ากระบี่ทำลายก็นับเป็นเรื่องปรกติสมเหตุสมผล

ความจริงแล้ว ผู้เฒ่าของสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำลายเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นนี้ได้เช่นกัน เพียงแต่ผู้เฒ่าของสถาบันศึกษาเทพเจ้าจงใจเก็บมันเอาไว้เท่านั้นเอง

ชั้นที่เจ็ดแล้ว…ในขณะนี้มีนักศึกษาร้องเสียงดังขึ้นมา และกล่าวว่า “ยุวกษัตริย์ได้เข้าสู่ชั้นที่เจ็ดแล้ว ร้ายกาจจริงๆ ฝืนลิขิตสวรรค์เหลือเกิน เข้าสู่ชั้นที่เจ็ดของทะเลชั่วร้ายได้โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็ดแม้แต่น้อย นี่เท่ากับกล้าหาญองอาจยิ่งกว่าอาจารย์โจวอีกนะเนี่ย”

เป็นจริงตามว่า ในเวลานี้ท่วงท่ายุวกษัตริย์หกกระบี่พลิ้วไหว จากชั้นที่หกของทะเลชั่วร้ายก้าวขึ้นสู่ชั้นที่เจ็ดของทะเลชั่วร้าย

แน่นอน สิ่งนี้ใช่ว่ายุวกษัตริย์หกกระบี่แข็งแกร่งยิ่งกว่าอาจารย์ท่านนั้นที่มาขัดเกลา ณ ที่ตรงนี้ เพียงแต่ท่วงท่าการย่างก้าวของเขาถูกคิดค้นและสร้างขึ้นเพื่อเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นโดยเฉพาะจากบิดาของเขาเท่านั้นเอง ซึ่งทำให้เขาสามารถใช้มันเป็นเล่ห์เหลี่ยมครองความได้เปรียบเท่านั้นเอง

“อาจารย์ กล้าหรือเปล่า?” ในเวลานี้ขณะที่ยุวกษัตริย์หกกระบี่ก้าวขึ้นสู่ชั้นที่เจ็ดของทะเลชั่วร้ายนั้น ยิ่งทำให้เขารู้สึกมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม บิดาของเขาไม่ได้โกหกจริงๆ ในครั้งนั้น บิดาของเขาสามารถทำลายเจดีย์ชั่วร้ายเจ็ดชั้นได้แล้วจริงๆ

ดังนั้น เมื่อยุวกษัตริย์หกกระบี่สามารถก้าวเท้าเข้าสู่ชั้นที่เจ็ดของทะเลชั่วร้ายโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ได้แล้ว พลันทำให้ความมั่นใจในตนเองของเขาเปี่ยมล้น ทำให้เขาเข้าใจว่าจะไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้ท่ามกลางทะเลชั่วร้ายแห่งนี้

ในเวลานี้ ยุวกษัตริย์หกกระบี่มองดูหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีหยามเหยียด ความยโสโอหังเต็มเปี่ยม นี่หาใช่เป็นการท้าสู้กับหลี่ชิเย่เสียแล้ว แต่เป็นการมองด้วยสายตาที่หยามเหยียดชัดๆ

ครั้งนั้นจอมทระนงอเวจีได้เอาชนะอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า ณ ที่ตรงนี้ เวลานี้ ตัวเขายุวกษัตริย์หกกระบี่ก็ต้องการสร้างเทพนิยายในครั้งนั้นขึ้นมาอีกครั้ง เอาชนะอาจารย์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งจะทำให้เขาได้จารึกชื่อเอาไว้ในประวัติศาสตร์ของสถาบันศึกษาเทพเจ้า

“ดูท่าเจ้านับว่ามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมนะเนี่ย” สำหรับความยโสโอหังของยุวกษัตริย์หกกระบี่นั้น หลี่ชิเย่เพียงยิ้มกล่าวขึ้นมาเท่านั้น

“มิกล้า ขอเชิญอาจารย์ขึ้นมา” ในขณะนี้ ยุวกษัตริย์หกกระบี่หัวเราะเยาะทีหนึ่ง ท่าทีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เป็นท่าทีที่อยู่สูงเด่นอย่างนั้น

“เอาเถอะ ไหนๆ ก็อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะ ก้าวเท้าเข้าไปยังทะเลชั่วร้าย

ชั้นที่หนึ่ง ชั้นที่สอง ชั้นที่สาม ชั้นที่สี่…ความไวของหลี่ชิเย่รวดเร็วเหลือเกิน เขาก้าวหนึ่งก้าวข้ามมิติกาลเวลา หนึ่งก้าวก็คือทะเลชั่วร้ายหนึ่งชั้น คลื่นยักษ์ของทะเลชั่วร้ายยังไม่ทันก่อตัวขึ้นมา หลี่ชิเย่ก็ได้ข้ามไปอีกชั้นแล้ว

ดังนั้น หลังจากที่หลี่ชิเย่ก้าวเดินผ่านไปแล้ว ตูม ตูม ตูมเสียงตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก มองเห็นคลื่นยักษ์ของทะเลชั่วร้ายที่ซัดเข้ามาเป็นทิวแถว

แค่เจ็ดก้าวเท่านั้น หลี่ชิเย่ก็เข้าสู่ชั้นที่เจ็ดของทะเลชั่วร้าย ไล่ตามทันยุวกษัตริย์หกกระบี่เพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น

ภาพเช่นนี้ได้ทำให้ทุกคนมองดูจนอ้าปากตาค้าง ยุวกษัตริย์หกกระบี่ต้องก้าวในท่าร่ายรำทีละก้าว ไม่ง่ายนักกว่าจะเข้าสู่ชั้นที่เจ็ดของทะเลชั่วร้ายได้ ซึ่งนับว่าเป็นความมหัศจรรย์ยิ่งแล้ว

เอาหละสิ เวลานี้หลี่ชิเย่หนึ่งก้าวหนึ่งชั้น เพียงแค่เจ็ดก้าวเท่านั้นก็ได้เข้าสู่ชั้นที่เจ็ดของทะเลชั่วร้ายได้แล้ว ไล่ทันยุวกษัตริย์หกกระบี่อย่างง่ายดาย เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท