“เหล่าจอมราชันเซียนหวังล้วนแล้วแต่มากันแล้ว บรรยากาศคึกครื้นขนาดนี้ใยต้องรีบลงมือกันเล่า” ในขณะที่ราชันเซียนเหรินเสียนและราชันเจี้ยนตี้สองฝ่ายกำลังอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยขึ้นมา
คำพูดของหลี่ชิเย่พลันเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอมราชันเซียนหวังระดับสูงที่ให้ความใส่ใจในทุกๆ ความเคลื่อนไหวของหลี่ชิเย่ นี่คือปรมาจารย์เลยนะ เป็นมือมืดที่อยู่เบื้องหลังการเข่นฆ่าจอมราชันมาก่อน ไม่ว่าจอมราชันเซียนหวังใดๆ ก็ไม่กล้าไม่ใส่ใจในท่าทีของเขา
“งานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ สมควรเป็นข้าที่แสดงเป็นพระเอก” หลี่ชิเย่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น หัวเราะและกล่าวว่า “ต่อให้เป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสาย ทางที่ดีก็ควรปฏิบัติตนให้เจียมเนื้อเจียมตัวกับข้าเสียดีๆ”
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ ทุกคนพลันจ้องมองไปที่ราชันเสวียนตี้ และราชันซื่อตี้ เนื่องจากพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสาย ส่วนเซียนหวังอิเย่เกรงว่าคงยืนอยู่ข้างฝ่ายของสถาบันศึกษาเทพเจ้า และจะต้องยืนอยู่ข้างฝ่ายของหลี่ชิเย่แน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนั้น ที่หลี่ชิเย่กล่าวท้าท้ายก็คงมีเพียงราชันเสวียนตี้กับราชันซื่อตี้เท่านั้น
แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นราชันเสวียนตี้ที่ปรากฏอยู่บนหน้ากระจก หรือว่าจะเป็นราชันซื่อตี้ที่อยู่ด้านหลังประตูมิติ พวกเขาทั้งสองต่างไม่ได้เผยท่าทีอะไรออกมา
หลี่ชิเย่มองดูราชันซื่อตี้ จากนั้นก็มองไปที่ราชันเสวียนตี้ ยิ้มพลางและกล่าวว่า “ตาเฒ่าเฉี่ยน พวกเจ้าสองคนจะยังคงขลุกอยู่ในรังเก่าต่อไป หรือว่าออกมาสู้กันสักครั้งหละ?”
ราชันซื่อตี้นั่งอยู่บนม้าหินอย่างมั่นคง ท่าทีไม่สะทกสะท้าน และกล่าวว่า “ถึงเวลาที่สมควรจะลงมือ ย่อมจะลงมือเอง เจ้ามีชีวิตอยู่มาจนถึงปูนนี้แล้วคงไม่รีบร้อนอะไรตอนนี้”
“ตาเฒ่าเฉี่ยนย่อมเป็นตาเฒ่าเฉี่ยน วางแผนลึกซึ้งละเอียดรอบคอบจริงๆ” หลี่ชิเย่ถูมือและหัวเราะเสียงดังออกมา สายตาไปตกอยู่ที่หน้ากระจก เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ราชันเสวียนตี้หละ? ถ้าหากจะสู้กันก็ลงมา หากไม่สู้ก็ไสหัวไป อย่าได้เอาแต่แอบมองอยู่ตรงนั้น ข้าไม่ใช่สาวงามที่กำลังอาบน้ำสักหน่อย”
ถ้อยวาจาที่บอกให้จอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายให้ไสหัวไปตรงๆ เช่นนี้ ท่าทีที่อันธพาลอย่างนี้ทำเอาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ผู้ที่ยังคงไม่เข้าใจถึงประวัติความเป็นมาของหลี่ชิเย่อย่างแท้จริงถึงกับอ้าปากตาค้าง! นี้มันออกจะพาลเกินไปแล้วกระมัง ถึงกับเรียกให้จอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายให้ไสหัวไปให้พ้น ในโลกนี้ยังจะมีใครกล้าทำเช่นนี้อีก?
“ท่านปรมาจารย์ล้อเล่นแล้ว” ราชันเสวียนตี้ก็ไม่ได้แสดงความโกรธ และหัวเราะขึ้นมา เสียงของเขาส่งผ่านกระจกเงามาถึงโลกดึกดำบรรพ์ เขายิ้มกล่าวว่า “ข้าไม่ได้ปรากฏตัวออกมานานมากแล้ว กระดูกตึงแข็งไปหมดแล้ว ฝีมือก็ไม่คล่องแคล่วอีกแล้ว ข้าเองก็แค่มาร่วมสนุกคึกครื้นเท่านั้นเอง อนาคตของสิบสามทวีปยังต้องอาศัยท่านปรมาจารย์กับราชันซื่อตี้ที่เป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลที่หาได้ยากยิ่งมาเป็นผู้นำ ข้าแค่รับหน้าที่คุยฟุ้งเรื่องสนุกๆ ก็พอแล้ว”
“ฉะนั้น งานเลี้ยงยิ่งใหญ่ครั้งนี้ข้าจะไม่ร่วมสนุกด้วยแล้ว” เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ราชันเสวียนตี้หัวเราะแฝงด้วยความหมายที่ลึกซึ้งออกมา และกล่าวว่า “พี่อิเย่ ยุคนี้มีท่านปรมาจารย์และราชันซื่อตี้เป็นผู้นำก็เหลือเฟือแล้ว ไหนๆ ก็ว่างท่านกับข้ามาร่วมเล่นสักกระดานดีหรือไม่? เร็วๆ นี้ข้าเพิ่งจะบรรลุหมากรุกได้กระดานหนึ่ง มีท่าทีว่าจะเป็นกระดานที่ยอดเยี่ยมตลอดกาล ไม่ทราบว่าพี่อิเย่กล้ามาเล่นด้วยสักกระดานหรือไม่”
ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้กับการเอ่ยปากของราชันเสวียนตี้ ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังระดับสูงก็ไม่กล้าประมาท เวลานี้ราชันเสวียนตี้ถึงกับถอนตัวออกจากงานเลี้ยงยิ่งใหญ่นี้อย่างกะทันหัน ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกเหนือความคาดคิด
แต่คำพูดต่อมาของราชันเสวียนตี้ได้ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่อยู่เหนือความคาดคิดอีก แม้ว่าราชันเสวียนตี้จะไม่เข้าร่วมในงานเลี้ยงยิ่งใหญ่ครั้งนี้ แต่เขาต้องการดึงตัวเซียนหวังอิเย่ไปด้วย
“เมื่อสหายชักชวนมาไหนเลยกล้าปฏิเสธ เคารพมิสู้ปฏิบัติตาม” เวลานี้เสียงของเซียนหวังอิเย่มาจากที่ทีไกลมาก กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าเล่นเป็นเพื่อนกับสหายสักกระดานหนึ่งก็แล้วกัน ดูสิว่าใครจะครองความเป็นเกมหมากรุกตลอดกาล!”
“ตกลง ข้าชงน้ำชารอ!” ราชันเสวียนตี้หัวเราะขึ้นมา จากนั้น ได้กล่าวต่อราชันซื่อตี้ว่า “พี่ท่าน โลกในอนาคตก็มอบให้กับท่านแล้วหละ ข้าก็แค่ชาวบ้านที่อยู่อย่างสมถะคนหนึ่งเท่านั้นเอง”
พลันที่ราชันเสวียนตี้พูดขาดคำ ได้ยินเสียงดังปัง กระจกเงาที่อยู่บนท้องฟ้าพลันแตกละเอียด ร่างเงาของราชันเสวียนตี้ก็หายตามไปด้วย!.ไอรีนโนเวล.
ตามติดด้วยเสียงตูมดังขึ้นมา สิบสามทวีปสั่นไหวโคลงเคลงไปมาทีหนึ่ง พลังการสั่นไหวนี้รู้สึกได้กระทั่งโลกดึกดำบรรพ์ ดังนั้น พริบตาเดียวนี้เองปรากฎอานุภาพเซียนหวังที่มหาศาลปราศจากผู้ต่อกรทะลุผ่านทั่วทั้งสิบสามทวีป
เซียนหวังอิเย่ปรากฏตัวแล้ว…ท่ามกลางสิบสามทวีป ผู้คนจำนวนมากต่างไม่รู้เรื่องราวที่ได้เกิดขึ้น ณ โลกดึกดำบรรพ์ แต่ทว่า เมื่อพลังอำนาจเซียนหวังที่ทะลุผ่านทั่วทั้งสิบสามทวีปจังหวะนั้น ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดของสิบสามทวีป ไม่รู้ว่ามีผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่ถูกอานุภาพเซียนหวังลักษณะเช่นนี้สยบจนต้องหมอบอยู่กับพื้น!
ทุกคนต่างรู้สึกสะเทือนหวั่นไหวกับสิ่งนี้ ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเซียนหวังอิเย่ถึงได้ปรากฎตัวอย่างกะทันหัน แน่นอน พวกเขาย่อมไม่รู้ว่าที่เซียนหวังอิเย่ปรากฏตัวเป็นเพราะไปต่อสู้กับราชันเสวียนตี้
แม้จะกล่าวว่า พวกเขาทั้งสองไม่ได้ลงมือประลองยุทธกัน เป็นเพียงการเล่นหมากรุกเท่านั้นเอง แต่ทว่ากล่าวสำหรับจอมราชันเซียนหวังระดับสูงสุดอย่างพวกเขาแล้ว ต่อให้เป็นเพียงเกมหมากรุกกระดานหนึ่ง ก็สามารถบงการสถานการณ์ของสิบสามทวีปได้แล้ว
ราชันเสวียนตี้จากไป เซียนหวังอิเย่ก็จากไปแล้ว พลันทำให้โลกดึกดำบรรพ์พลันกลับกลายเป็นเงียบสงบขึ้นในเวลานี้ แม้ว่าข้างฝ่ายของเผ่าเทพขาดราชันเสวียนตี้ไป ซึ่งดูเหมือนจะไม่เป็นผลดีต่อเผ่าเทพ แต่ว่า ข้างฝ่ายของสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็ขาดเซียนหวังอิเย่ไป ถือว่าเป็นการดึงเสมอ
กระทั่งกล่าวสำหรับผู้ที่ไม่รู้ถึงประวัติความเป็นมาที่แท้จริงของหลี่ชิเย่แล้ว ภายในใจของพวกเขาต้องเต้นกระตุกทีหนึ่ง ในใจของพวกเขาเข้าใจว่าเซียนหวังอิเย่คือผู้หนุนหลังผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งมากที่สุด เมื่อเซียนหวังอิเย่ถูกดึงตัวไปแล้ว สถาบันศึกษาเทพเจ้าขาดผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดไป สถานการณ์เช่นนี้ไม่เป็นผลดีต่อสถาบันศึกษาเทพเจ้า
“เอาหละ เสวียนตี้ไปแล้ว อิเย่ก็ไปแล้ว ความสนุกสนานลดลงครึ่งหนึ่ง” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “แต่ทว่า จะอย่างไรเสียก็ยังคงเป็นงานเลี้ยงยิ่งใหญ่อยู่ดี ตาเฒ่าเฉี่ยน เจ้าว่าอย่างนั้นหรือไม่?”
“นี่คืองานเลี้ยงยิ่งใหญ่โดยแท้จริง” ราชันซื่อตี้นั่งอยู่ตรงนั้นและกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ใครจะเป็นผู้ที่ได้กินงานเลี้ยงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือของแต่ละคนแล้ว”
“เก้าแดนและร้อยชาติพันธุ์พวกเราต้องเล่นงานเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าพวกเจ้าอย่างหนักแน่นอน!” เวลานี้ราชันเซียนทุนยื่อได้กล่าวด้วยความพาลออกมาว่า “วันนี้พวกเจ้าเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าบังอาจส่งกำลังมาตีสถาบันศึกษาเทพเจ้าของพวกเรา เมื่อเป็นเช่นนั้น วันหน้าร้อยชาติพันธุ์พวกเราต้องส่งกองทัพไปเหยียบสวรรค์พวกเจ้าให้ราบคาบแน่นอน!”
“วาจาสามหาวมาก! ราชันเซียนทุนยื่อ เจ้าคิดว่าสวรรค์พวกเราปั้นขึ้นมาจากดินอย่างนั้นรึ?” ราชันเจี้ยนตี้ส่งเสียงฮึเย็นชาออกมา
ราชันเซียนทุนยื่อหัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “ต่อให้สวรรค์พวกเจ้าไม่ได้ปั้นจากดิน แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งถึงไหนกัน ในศึกล่าราชันครั้งนั้น ราชันเซียนหญิงหงเทียนตามฆ่าราชันสวรรค์ฉีเทียนตี้เจ้าแห่งสวรรค์พวกเจ้า เจ้าแห่งสวรรค์พวกเจ้าหลบหนีไปทั่วทั้งสิบสามทวีป สุดท้ายยังคงถูกราชันเซียนหญิงสังหารอยู่หน้าประตูสวรรค์มิใช่รึ! วันหน้า ขอเพียงท่านปรมาจารย์ถ่ายทอดคำสั่งลงมา ราชันเซียนเก้าแดนจะต้องไถกลบสวรรค์ของพวกเจ้าให้ราบแน่นอน!”
คำพูดที่เปี่ยมด้วยความพาลเช่นนี้ของราชันเซียนทุนยื่อ พลันทำให้บรรดาจอมราชันที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับใจหายใจคว่ำ แต่ไม่อาจไม่ยอมรับในเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น กล่าวสำหรับสวรรค์แล้ว เป็นเรื่องที่น่าอัปยศอย่างยิ่งโดยแท้จริง
ราชันเซียนเก้าแดนในศึกล่าราชันครั้งนั้นดุดันมากเหลือเกิน แม้แต่หนึ่งในจอมราชันที่แข็งแกร่งที่สุดในครั้งนั้นเจ้าแห่งสวรรค์ราชันสวรรค์ฉีเทียนตี้ ยังคงต้องถูกราชันเซียนหญิงหงเทียนที่เข้าร่วมสงครามครั้งนั้นในภายหลังตามไล่ฆ่าจนหมดทางหนี สุดท้าย แม้ว่าจะหนีกลับไปยังสวรรค์แล้วยังคงถูกราชันเซียนหญิงหงเทียนตามไปสังหารได้บริเวณหน้าประตูของสวรรค์!
สมควรทราบว่า ราชันสวรรค์ฉีเทียนตี้คือผู้ที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายในครอบครอง อีกทั้งยังเป็นจอมราชันที่มีสายเลือดเทียนฉวน ซึ่งเป็นสายเลือดเซียนของเผ่าสวรรค์นะเนี่ย! แต่ว่า ท้ายที่สุดแล้วยังคงถูกราชันเซียนหญิงหงเทียนสังหาร
ราชันสวรรค์ฉีเทียนตี้ในครั้งนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ก่อตั้งสวรรค์ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้งสวรรค์ แต่สวรรค์ในยุคของเขานับว่าเจริญรุ่งเรืองขึ้น เขาเคยเป็นเจ้าแห่งสวรรค์ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในบรรดาเจ้าแห่งสวรรค์ที่ผ่านมา
แต่ว่า สุดท้ายกลับต้องถูกราชันเซียนหญิงหงเทียนสังหารอยู่หน้าประตูบ้านตนเอง กล่าวสำหรับสวรรค์แล้ว มันคือความอัปยศอย่างใหญ่หลวง
ครั้งนั้นหากไม่เป็นเพราะราชันซื่อตี้ที่พยายามพลิกฟื้นสถานการณ์กลับมา อีกทั้งยังมีจอมราชันของเผ่าเทพ เผ่ามารจำนวนมากเข้าร่วม เกรงว่าภายใต้การสังหารของพวกราชันเซียนหมิงเหริน ราชันเซียนหญิงหงเทียน บรรดาเก้าแดนที่ปราศจากผู้ต่อกรแล้ว ไม่รู้ว่าจะต้องมีจอมราชันของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าจำนวนเท่าไรที่ต้องถูกสังหาร
เนื่องเพราะราชันเซียนเก้าแดนภายใต้การนำของอีกาทมิฬที่เกรียงไกรยากจะต้านทานเอาไว้ได้ ส่งผลให้จอมราชันของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าจำต้องยอมลงนามในข้อตกลง ทำให้ร้อยชาติพันธุ์ที่อยู่ในสิบสามทวีปทั้งหมดไม่ต้องอยู่ภายใต้การปกครองของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าอีกต่อไป และได้รับอิสระภาพอย่างแท้จริงนับจากนั้นเป็นต้นมา!
เวลานี้ บรรดาจอมราชัน และจอมเทพของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างจ้องเขม็งไปที่ราชันเซียนทุนยื่อ เนื่องจากราชันเซียนทุนยื่อเปิดภูมิหลังที่อัปยศของพวกเขาในทันที ศึกล่าราชันในครั้งนั้นคือความอัปยศของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่า เดิมพวกเขาคือเจ้าของสิบสามทวีป แต่จากศึกในครั้งนั้น ทำให้พวกเขาสูญเสียการควบคุมที่สมบูรณ์แบบในสิบสามทวีปไป!
“ทำไม ไม่พอใจรึ?” ราชันเซียนทุนยื่อคือขุนพลที่ดุดันผู้เคยเข้าร่วมศึกล่าราชันมาก่อน ต่อให้ถูกจอมราชันจำนวนมากจ้องเขม็งเอาไว้ ยังคงเปี่ยมด้วยความพาล และกล่าวว่า “ถ้าหากไม่พอใจก็มาสู้กันอีกสักครั้ง ดูว่าพวกเจ้าเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าหลังจากมีการบำรุงและสั่งสมกำลังมาหลายปี จะมีธาตุแท้ภายในสักเท่าไรเชียว!”
สวรรค์ใช่จะมีเพียงจอมราชันของเผ่าสวรรค์เท่านั้น ความจริงแล้วก็มีจอมราชันของเผ่าเทพ และเผ่ามารเข้าร่วมด้วย เพียงแต่จอมราชันของเผ่าสวรรค์จะเป็นกำลังหลักเท่านั้นเอง
“ศึกครั้งนี้ใช่เพียงแค่ต้องการรบกับเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าเท่านั้น ถึงเวลาที่ร้อยชาติพันธุ์ของพวกเราก็ต้องมีการกวาดล้างกันบ้างแล้ว” ราชันเซียนมู่เทียนก็เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “สถาบันศึกษาเทพเจ้าก็คือแหล่งต้นกำเนิดสำคัญของร้อยชาติพันธุ์พวกเรา ในร้อยชาติพันธุ์ใครกล้าแตะต้องสถาบันศึกษาเทพเจ้าก็คือศัตรูของร้อยชาติพันธุ์ ฆ่าไม่มีละเว้น!”
“ข้าก็เห็นด้วยกับความเห็นนี้” ราชันเซียนเหรินเสียนพยักหน้า และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ผู้ที่คิดการกับสถาบันศึกษาเทพเจ้าสมควรสังหาร อีกทั้งต้องล้างสำนัก!” ครั้นกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว ดวงตาทั้งสองของเขาเผยให้เห็นถึงปณิธานการฆ่าออกมา
บรรดาพวกของเซียนหวังจุ้งเทียนก็ได้กลายเป็นเป้าในทันที เซียนหวังและจอมเทพของร้อยชาติพันธุ์จำนวนมากต่างจ้องเขม็งไปที่พวกของเซียนหวังจุ้งเทียนที่เป็นเซียนหวังทั้งสิบสี่องค์ ในบรรดาพวกเขายังมีเซียนหวังที่เป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาเทพเจ้ามาก่อน นี่มันศิษย์ทรยศต่อสำนักและอาจารย์ชัดๆ !
“เหรินเสียน ร้อยชาติพันธุ์ก็ใช่ว่าถูกกำหนดอาศัยแค่เพียงราชันเซียนเก้าแดนพวกเจ้าเท่านั้น ร้อยชาติพันธุ์รองรับทุกๆ ชาติพันธุ์ มีเซียนหวังอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าคิดว่าอาศัยพวกเจ้าที่เป็นราชันเซียนเก้าแดนไม่กี่คนก็ตั้งตนเป็นสายตรงดั้งเดิมได้ พวกเจ้าก็สามารถกลายเป็นสายตรงดั้งเดิมของร้อยชาติพันธุ์ได้อย่างนั้นรึ?” เซียนหวังจุ้งเทียนกล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “พูดกันตรงๆ แล้ว ในสิบสามทวีปราชันเซียนจากเก้าแดนอย่างพวกเจ้ายังคงเป็นแค่ผู้ที่มาจากที่อื่น พวกเราต่างหากที่เป็นเจ้าของร้อยชาติพันธุ์!”
ความจริงแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะนับตั้งแต่เซียนหวังจุ้งเทียนเป็นต้นมา หรือว่าพรรคทะยานฟ้าทั้งพรรค พวกเขาดูจะมองราชันเซียนจากเก้าแดนเป็นศัตรูอยู่ไม่มากก็น้อย ส่วนรายละเอียดเป็นเพราะสาเหตุอันใดนั้น บุคคลภายนอกไม่อาจรับรู้ได้
“ข้ารู้สึกว่า พวกท่านที่เป็นเซียนหวังร้อยชาติพันธุ์ก็สามารถเข้าร่วมกับสวรรค์ของพวกเราได้ ประตูของสวรรค์เปิดอ้าอยู่ ยินดีต้อนรับด้วยความอบอุ่น” เวลานี้ราชันเจี้ยนตี้พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง