เสียงปัง…ดังสนั่น ทันใดนั้นตำหนักสวรรค์พุ่งเข้าชนสวรรค์ ได้ยินเสียงแตกละเอียดดังขึ้น สวรรค์ไม่สามารถรองรับกับแรงปะทะที่น่ากลัวเช่นนี้ได้ สวรรค์จึงแตกละเอียดไปในทันที
ตูม…เสียงดังสนั่นเกิดขึ้น จากพลังที่ที่ปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้พุ่งโจมตีเข้ามา ทำให้พวกราชันสวรรค์ยิวถูกกระแทกจนตัวลอยออกไป ผู้ที่มีทักษะอ่อนกว่าอ้าปากกระอักเลือดออกมาอย่างแรง
“ฆ่า…” หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาวก้าวเท้าเพียงก้าวเดียว หอบเอาพลังของตำหนักสวรรค์ไล่ตามทันเซียนหวังจุ้งเทียนในเสี้ยววินาที ลงมือสังหารอย่างเด็ดขาดในทันที
เสียงดังปังร่างของเซียนหวังจุ้งเทียนถูกซัดจนยับเยินมาก ได้ยินเสียงฉีกขาดดังแค่วกก เซียนหวังจุ้งเทียนถูกฉีกร่างเป็นสองซึกทันที
“อย่าได้ทำกำแหงนัก…” ราชันสวรรค์ยิวตามมาถึง ธงทิวปลิวสะบัดอย่างรุนแรง โลกธาตุทั้งโลกถูกซัดเข้าหา ผืนแผ่นดินทั้งผืนพุ่งเข้ากระแทกใส่ตัวของหลี่ชิเย่ พลังนั้นมากพอที่จะทำให้โลกทั้งโลกจมลง
“ทำลาย…” หลี่ชิเย่อาศัยร่างกายเป็นอาวุธ พุ่งเข้าปะทะโดยตรง เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว อาศัยท่าทีที่แข็งกร้าวปราศจากผู้เทียบเทียมกระแทกจนโลกธาตุดังกล่าวแตกละเอียด ด้วยท่าพนมมือ หนึ่งกระบวนท่าที่ไร้รูปแบบ ประหัตประหารฟ้าดิน เสมือนดาบโค้งจำนวนนับไม่ถ้วนผ่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกในฉับพลัน
จี๊ด…เลือดสดๆ สาดกระจาย ราวกับบนท้องฟ้าปรากฏฝนเลือดตกลงมา ภายใต้การโจมตีฟาดฟันลงไป ต่อให้กายที่แข็งแกร่งเฉกเช่นราชันสวรรค์ยิวก็ถูกผ่าจนแยกออกไปกว่าครึ่งตัว ฝนเลือดกระจายโปรยไปทั่วท้องฟ้า
ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น หนึ่งกระบี่สะบั้นทางช้างเผือกของราชันเจี้ยนตี้ที่โจมตีเข้ามา สองมือของหลี่ชิเย่ที่ประสานเข้าด้วยกัน เสียงปังดังขึ้น ต่อให้ประกายกระบี่ได้ฟาดฟันเข้าใส่ร่างกายของหลี่ชิเย่จนเลือดสาดกระเซ็นไปแล้ว แต่ทว่า หลี่ชิเย่ก็สามารถหนีบกระบี่ยาวของเขาเอาไว้
แช้งค์…มือของหลี่ชิเย่รูดขึ้นไปตามจังหวะ จากฝ่ามือกลับกลายเป็นหมัด มังกรเดินเสือกระโจน ฉับพลันหลุดจากช่องว่าง และก้าวข้ามกาลเวลาโดยพลัน หนึ่งหมัดซัดเข้าใส่หน้าอกของราชันเจี้ยนตี้เต็มๆ แม้ราชันเจี้ยนตี้คิดจะหลบหลีกแต่ก็ไม่ทันกาล
เสียงปุดังขึ้น หน้าอกของราชันเจี้ยนตี้ถูกหมัดซัดจนทะลุ เลือดไหลหยดเป็นทาง ท้องฟ้าโปรยปรายเป็นฝนเลือดลงมา
เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เริ่มจากการจับร่างของเซียนหวังจุ้งเทียนฉีกเป็นสองซีก จากนั้นทำการสะบั้นร่างของราชันสวรรค์ยิว ตามด้วยการซัดทะลุหน้าอกของราชันเจี้ยนตี้ พวกเขาทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายทั้งสิ้น ต่างได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยน้ำมือของหลี่ชิเย่ในเสี้ยววินาทีนี้เอง
ภาพลักษณะเช่นนี้นับว่าสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนเหลือเกิน ทำให้ต้องหวาดกลัวจนขนลุกซู่ แม้แต่ระดับจอมเทพยังถูกทำให้หวาดกลัวจนปัสสาวะรดกางเกง เข่าอ่อนทั้งสองข้างจนยืนไม่ติดพื้น!
แม้แต่จอมราชันเซียนหวังที่ดูชมอยู่ด้านข้างถึงกับร่างสั่นเทิ้มขึ้นมา ยิ่งผู้ที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับอีกาทมิฬด้วยแล้วถึงกับหวาดกลัวจนขนลุกซู่ มีตำนานเล่าลือกันถึงความน่ากลัวของอีกาทมิฬมาช้านาน แต่ไม่เคยได้เห็นฝีมือของเขามาก่อน ไม่รู้ว่ามันน่าสยดสยองเพียงใดกันแน่ วันนี้ได้เห็นแล้วพวกเขาจึงเข้าใจได้ว่า อีกาทมิฬนั้นน่าสยดสยองยิ่งกว่าคำเล่าลือในตำนานเสียอีก
หลี่ชิเย่ในเวลานี้ทั่วร่างมีเลือดท่วมทั้งตัว มีทั้งเลือดที่เป็นส่วนของตนเอง และมีเลือดของศัตรู นาทีนี้ ท่วงท่าที่ทารุณโหดร้ายสุดๆ เข่นฆ่าสังหารไปทุกทิศทุกทางของหลี่ชิเย่ ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้เห็นแล้วก็ต้องหวาดกลัวจนขนลุกซู่ ผู้ที่ใจเสาะถึงกับตกใจจนต้องลงไปกองอยู่กับพื้น!
อ๊ากก…เพียงชั่วพริบตาเดียวนั้นเอง เสียงร้องน่าเวทนายิ่งดังก้องไปทั่วโลกดึกดำบรรพ์ กลุ่มแปดเสาที่นำโดยลั่วเหวินชาง อิ่งเฉิงอวี่ซึ่งเป็นระดับจอมเทพทั้งแปดพลันถูกสังหารสิ้นทั้งกลุ่ม! ทั้งยังถูกหลี่ชิเย่สังหารบดขยี้จนกลายเป็นจุณ ยามที่ดวงตราสัญลักษณ์ของพวกเขาถูกทำลาย พวกเขาก็สิ้นชื่อจากโลกนี้ไปทันที
นาทีนี้ข้อได้เปรียบของชะตาฟ้าได้สะท้อนออกมาให้เห็นแล้ว แม้จะกล่าวว่า ระหว่างจอมราชันเซียนหวังที่ห้ำหั่นกันและกัน เป็นความจริงที่คู่ต่อสู้สามารถสังหารอีกฝ่ายหนึ่งได้ โดยอาศัยชะตาฟ้าของตนทำลายล้างชะตาฟ้าของอีกฝ่ายโดยตรง แม้ว่าขั้นตอนนี้ต้องอาศัยเวลา แต่ทว่า จอมราชันเซียนหวังยังคงสามารถสังหารจอมราชันเซียนหวังที่เป็นคู่ต่อสู้ได้ แต่หากจอมเทพคิดจะสังหารจอมราชันเซียนหวังหละก็ คงไม่ง่ายดายนัก
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ดวงตราสัญลักษณ์ห่างชั้นกับชะตาฟ้ามากทีเดียว ชะตาฟ้าทนต่อการถูกโจมตีทำลายได้สูงกว่าดวงตราสัญลักษณ์ ซึ่งดวงตราสัญลักษณ์นั้นถูกทำลายได้ง่ายกว่า สามารถดูได้จากกรณีของเซียนหวังจุ้งเทียน เขาถูกหลี่ชิเย่บดขยี้ทำลายถึงสามสี่ครั้ง แต่ยังคงมีชีวิตอยู่มาได้
แต่ว่า จอมเทพทั้งแปดของกลุ่มแปดเสาเมื่อถูกหลี่ชิเย่บดขยี้สังหารก็ไม่สามารถรับได้ ทำให้พวกเขาต้องเสียชีวิตไปพร้อมๆ กับดวงตราสัญลักษณ์ที่ถูกทำลาย!
ด้านต่อสู้กันตัวต่อตัว ความห้าวหาญของหลี่ชิเย่ไม่มีผู้ใดสามารถต้านได้ ไม่ว่าจะเป็นราชันเจี้ยนตี้ หรือราชันสวรรค์ยิวก็ต้านหลี่ชิเย่ไม่ได้ หลี่ชิเย่ในเวลานี้ดุดันไม่มีผู้ใดเทียบได้ ใครขวางสังหารสิ้น เข่นฆ่าจนคลั่ง ปรากฏจอมราชันเซียนหวังองค์แล้วองค์เล่าที่ถูกโจมตีจนเลือดสาด
เวลานี้ บนท้องฟ้าปรากฏเป็นฝนเลือดที่ตกลงมา ขณะที่เลือดสดๆ ของบรรดาจอมราชันเซียนหวังที่แตกกระจายออกมา ฝนเลือดบนท้องฟ้าเสมือดั่งห่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องไม่หยุด
หลี่ชิเย่ในเวลานี้พุ่งชนอุตลุด ยากที่ผู้ใดสามารถรับมือกับเขาได้หนึ่งกระบวนท่า โยกซ้ายป่ายขวา ต่อให้ถูกล้อมปราบด้วยจอมราชันเซียนหวังมากกว่านี้ก็ขวางหลี่ชิเย่เอาไว้ไม่อยู่ พวกเขาทุ่มเทสุดกำลังก็ปิดล้อมหลี่ชิเย่ไม่ได้
เวลานี้ หลี่ชิเย่สู้รบกับเหล่าราชันจนฟ้าถล่ม เข่นฆ่าจนเสียงร้องน่าเวทนาระงม ผืนแผ่นดินแตกสลาย วัฏสงสารสูญสลาย สังหารจนสรรพสัตว์ต้องสั่นเทา!
ในเวลานี้ ได้ทำให้บรรดาจอมเทพที่เป็นผู้ชมถึงกับเข่าอ่อนทั้งสองข้าง เวลานี้พวกเขาจึงได้เข้าใจคำพูดที่หลี่ชิเย่ได้พูดเอาไว้ก่อนหน้า มิน่าเล่าหลี่ชิเย่ถึงได้บอกว่ายามที่เขาทำการเข่นฆ่าครั้งใหญ่นั้น แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังหวาดกลัว
เวลานี้หลี่ชิเย่เองจะหวาดกลัวหรือไม่ ไม่มีใครทราบ แต่ว่า การเข่นฆ่าครั้งใหญ่ของหลี่ชิเย่ในเวลานี้ เรียกได้ว่าฆ่าจนกระทั่งจอมราชันเซียนหวังก็ยังหวาดกลัว.ไอรีนโนเวล.
พริบตาเดียวนี่เอง ทุกคนจึงบรรลุถึงความน่ากลัวของอีกาทมิฬได้อย่างแท้จริง เป็นความจริงที่เหล่าจอมราชันเซียนหวังต้องเกรงกลัวต่ออีกาทมิฬจึงจะถูกต้อง การที่เขาสามารถบงการสถานการณ์จนถึงบัดนี้ได้ ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
เสียงปัง…ดังสนั่นขึ้น เป็นอีกครั้งที่กายเนื้อของเซียนหวังจุ้งเทียนถูกทำลาย ภายใต้การบดขยี้สังหารของหลี่ชิเย่ ร่างของเขากลายเป็นหมูบด อาจกล่าวได้ว่า ในบรรดาจอมราชันเซียนหวังจำนวนมากมาย เซียนหวังจุ้งเทียนเป็นผู้ที่ถูกสังหารมากครั้งที่สุด เขาถูกทำลายกายเนื้อไปหลายครั้งหลายครา กระทั่งกล่าวได้ว่าหลี่ชิเย่จับตัวเขามาเข่นฆ่าสังหารอย่างโหดเหี้ยมครั้งแล้วครั้งเล่า
อ๊ากก…เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น นาทีนี้ราชันเจี้ยนตี้ถูกหลี่ชิเย่ซัดจนกลายเป็นหมอกเลือด ต่อให้วิชากระบี่ของเขายิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม ก็ต้องถูกทำลายเป็นชิ้นๆ
“อย่าได้ทำร้ายผู้คน!” นาทีนี้ ราชันซื่อตี้ที่มองดูเหตุการณ์ด้วยความเย็นชาคำรามเสียงยาว ก้าวพ้นประตูมิติออกมา
ราชันซื่อตี้ลงมือแล้ว บุรุษที่สามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับสวรรค์ได้ลงมือแล้ว พลันที่เข้าก้าวออกมาก้าวหนึ่ง ดวงตะวันจันทราแลดวงดาวร่วงหล่น ฟ้าดินสรรพสิ่งหมอบคลาน บรรดาราชันและเหล่าเทพกราบไหว้ บริเวณที่ที่เขายืนอยู่เรียกได้ว่าก้มศีรษะกันทั้งโลก เซียนหวังให้การต้อนรับ ทุกๆ การเคลื่อนไหวสามารถพลิกตลบกลับหมื่นยุค ผ่อนลมปราณเข้าออกสามสิบล้านปี ในโลกหล้านี้มีเพียงข้านี่แหละที่ปราศจากผู้ต่อกร!
การปรากฏตัวด้วยร่างจริงของราชันซื่อตี้ไม่ได้ปะทุอำนาจจอมราชันขึ้นมา ไม่ได้ทำการปราบปรามเหล่าชั้นฟ้า แต่ทว่า ยามที่เขากวาดตามองนั้น ทำให้จอมราชันเซียนหวังจำนวนมากมายเท่าไรต้องเย็นวาบในใจ ยามที่เขาก้าวเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ได้ทำให้จอมเทพจำนวนเท่าไรต้องสั่นเทา ในโลกนี้ยังมีผู้คนสักกี่คนสามารถต่อกรกับราชันซื่อตี้ได้อีกเล่า
เสียงตึง…ดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเองราชันซื่อตึ้ได้ลงมือ เข่นฆ่าสังหารเด็ดขาด ในมือถือระฆังสำนึกตนตรงเข้าสังหารหลี่ชิเย่
หนึ่งระฆังที่ตรงเข้าสังหาร ไม่มีท่วงท่าที่สวยงาม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งพิสดาร ด้วยพลังที่เด็ดขาดและท่วงท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรที่สุดเข้าเข่นฆ่าสังหาร สามารถสังหารสรรพสิ่งมีชีวิตนับล้านล้านชีวิต สามารถทำลายสิ้นทุกๆ สิ่ง
ยามที่เสียงระฆังสำนึกตนดังตึงออกมา เหมือนว่าโลกที่ผ่านวัฏสงสารมาสามพันรอบเกิดการตื่นและระมัดระวังตัว สิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตมาเป็นล้านปีต้องกราบไหว้ เสียงระฆังเสียงเดียวทำให้ตื่นตัวเป็นหมื่นยุค หนึ่งการโจมตีสามารถทำลายสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่จอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย ภายใต้การโจมตีนี้ก็ต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป!
การลงมือของราชันซื่อตี้ได้ทำให้ผู้คนจำนวนมากมายเท่าไรที่ต้องกราบไหว้ สิ่งมีชีวิตของเผ่าสวรรค์ต้องน้ำตานองหน้าด้วยความซาบซึ้ง พลันที่ราชันซื่อตี้ลงมือต้องสามารถทำให้ทุกสิ่งจบสิ้นลง!
“ไป…” หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาวออกมาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของราชันซื่อตี้ เสียงตูมดังสนั่นขึ้น ตำหนักสวรรค์พลันโจมตีออกไป วิถีแห่งฟ้ายิ่งใหญ่ ฟ้าดินและทุกสรรพสิ่งล้วนแล้วแต่ต้องศิโรราบ!
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ฟ้าดินถล่มทลาย นาทีนี้โลกทั้งโลกล้วนแล้วแต่ตกอยู่ในความมืด เหมือนว่าโลกดึกดำบรรพ์ทั้งโลกถูกทำลายลงแล้วอย่างนั้น และความจริงก็เป็นเช่นนี้ ถ้าหากการโจมตีที่มีอานุภาพทำลายฟ้าดินเช่นนี้กระทำต่อโลกดึกดำบรรพ์หละก็ สามารถทำลายโลกดึกดำบรรพ์จนแหลกละเอียดได้
แม้ว่าการโจมตีครั้งนี้ถูกรับเอาไว้โดยตำหนักสวรรค์ แต่ทำให้โลกดึกดำบรรพ์ต้องสั่นเทากับสิ่งนี้ สัตว์ดุวิหคร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนที่อาศัยอยู่ในโลกดึกดำบรรพ์ถูกทำให้ตื่นตระหนกจนต้องหมอบสั่นเทาอยู่กับพื้น
ไม่ง่ายนัก โลกดึกดำบรรพ์ทั้งใบที่ถูกโจมตีจนดำมืดจึงค่อยๆ กลับคืนสู่ความสว่างอีกครั้ง ทอดสายตามองออกไปในขณะนี้ มองเห็นภาพของหลี่ชิเย่ที่ยืนเผชิญหน้ากับราชันซื่อตี้อยู่
ตำหนักสวรรค์ของไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่ระฆังสำนึกตนของราชันซื่อตี้กลับถูกกระแทกเข้าให้อย่างแรงจนขาดแหว่งไปส่วนหนึ่ง สิ่งนี้ใช่เป็นเพราะราชันซื่อตี้ไม่แข็งแกร่งพอ แต่เป็นเพราะตำหนักสวรรค์แข็งแกร่งมากเกินไป จึงส่งผลให้ระฆังสำนึกตนของราชันซื่อตี้ที่เป็นระดับจอมราชัน ชั้นคุณภาพสวรรค์ตราตั้งต้องเสียหายจากการถูกโจมตีในครั้งนี้
ในเวลานี้ สภาพการณ์เงียบสงัดจนถึงขีดสุด สรรพชีวิตทั้งหมดบนฟ้าดินแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ไม่กล้าหายใจ ด้วยเกรงว่าจะเป็นการรบกวนต่อพวกเขา
‘ตำราและอาวุธสวรรค์อันดับหนึ่งนิรันดร์กาล!’ มีระดับเซียนหวังถึงกับสั่นเทิ้มขึ้นมา เมื่อเห็นระฆังสำนึกตนของราชันซื่อตี้ถูกกระแทกจนเป็นปากแหว่ง พึมพำแผ่วเบาว่า “บางที อาจได้เวลาที่ราชันซื่อตี้สมควรสวมใส่ชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงแล้ว”
ในเวลานี้มีจอมราชันเซียนหวังจำนวนไม่น้อยที่ได้สติกลับมา ต่างจ้องเขม็งไปที่ตำหนักสวรรค์ ทุกคนต่างรับรู้ได้ว่านี่จะต้องเป็นตำราและอาวุธสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมไม่มีผู้ใดเทียมชิ้นหนึ่งแน่นอน เกรงว่าสามารถเทียบเคียงกับชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงได้
ตำหนักสวรรค์ได้รับยกย่องว่าคือตำราและอาวุธสวรรค์อันดับหนึ่งตลอดกาล ต่อให้ไม่ใช่อันดับหนึ่งตลอดกาลก็คงไม่หนีกว่ากันสักเท่าไร
ดังนั้น เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว จึงทำให้จอมราชันเซียนหวังจำนวนไม่น้อยที่ต้องกลืนน้ำลายลงคอ กับตำราและอาวุธสวรรค์ที่สามารถเทียบเคียงกับชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงได้ แล้วบอกว่าไม่อยากได้ จิตใจไม่รู้สึกหวั่นไหว มันคือคำโกหกแน่นอน
ชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงมีปรากฏบนโลกนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเพียงแค่ห้าชุดเท่านั้นเอง ยกเว้นสองชุดของลิ่วเต้าเหรินหวัง กับราชันเซียนหมิงเหรินที่หายไปไม่ทราบแน่ชัดแล้ว ขณะที่ราชันเทพชิงมู่ยิ่งหายไปอย่างไร้ร่องรอย เวลานี้ชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงที่ยังคงปรากฏตัวขึ้นในโลกได้ก็มีเพียงชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงในมือของราชันซื่อตี้ และชุดตัวอ่อนเซียนแท้จริงที่อยู่ในมือของราชันเชอะตี้ซึ่งได้มาจากราชันเหยียนตี้เท่านั้น
เวลานี้หากได้ครอบครองตำหนักสวรรค์ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าในด้านของอาวุธแล้วสามารถอยู่ในระดับเดียวกันกับราชันซื่อตี้ได้แล้ว
“จะสวมใส่ชุดเซียนแท้จริงแล้วรึ?” มีผู้ที่กลืนน้ำลายลงคอและพึมพำออกมา เมื่อเห็นการต่อสู้ชี้ขาดระหว่างหลี่ชิเย่กับราชันซื่อตี้
ความจริง นอกเหนือจากที่ทุกคนคาดหวังอย่างยิ่งให้ราชันซื่อตี้ลงมือด้วยตนเองแล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องการได้เห็นท่วงทำนองของชุดเซียนแท้จริงอีกด้วย
ราชันซื่อตี้ไม่เคยลงมือด้วยตนเองมานานมากแล้ว ทุกคนรู้แต่เพียงราชันซื่อตี้ปราศจากผู้ต่อกร แต่ว่าไม่มีใครรู้ว่าราชันซื่อตี้ปราศจากผู้ต่อกรถึงระดับไหนกันแน่
ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนเรื่องของชุดเซียนแท้จริงนั้นมีผู้ที่เคยเห็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้น จะอย่างไรเสีย ราชันซื่อตี้ในวันนี้ไม่จำเป็นต้องสวมใส่ชุดเซียนแท้จริงก็สามารถกวาดล้างสิ้นเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน