หลังจากที่ราชันซื่อตี้ได้ถอยกลับเข้าไปยังประตูมิติแล้ว ทำให้จอมเทพและจอมราชันจำนวนมากที่ยืนดูอยู่ข้างๆ ต้องมองตากันและกัน
“จอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายปราศจากผู้ต่อกรอย่างแท้จริง” ระดับจอมเทพผู้หนึ่งกล่าวว่า “เสียดายที่สวรรค์ลงทัณฑ์ลอยอยู่เหนือศีรษะ พร้อมที่จะลงมาได้ทุกเมื่อ”
ความปราศจากผู้ต่อกรของราชันซื่อตี้นั้นทุกคนต่างประจักษ์ด้วยสายตาของตนเอง แต่ทว่าสวรรค์ลงทัณฑ์ของราชันซื่อตี้ที่ลอยอยู่เหนือศีรษะก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคนเช่นกัน
ที่ตรงนี้คือโลกดึกดำบรรพ์ แม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับแดนแห่งการสืบค้น แต่ว่าอัตราส่วนที่จะเกิดสวรรค์ลงทัณฑ์ขึ้นที่โลกดึกดำบรรพ์นั้นต่ำกว่าที่สิบสามทวีปมากทีเดียว พวกเขาราชันสวรรค์ยิวที่เป็นเหล่าจอมราชันเซียนหวังเหล่านี้มาถึงโลกดึกดำบรรพ์นานเช่นนี้ก็ไม่เห็นสวรรค์ลงทัณฑ์ปรากฎ กระทั่งจอมราชันเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายก็เป็นเช่นนี้ แต่ทว่า ราชันซื่อตี้กลับแตกต่าง พลันที่ราชันซื่อตี้ปรากฏตัว สวรรค์ลงทัณฑ์ก็ปรากฏให้เห็นเลือนราง แม้ว่าจะยังไม่ลงมา แต่ก็เป็นที่สยบต่อจิตใจของผู้คนแล้ว
การที่ราชันซื่อตี้หลีกเลี่ยงสวรรค์ลงทัณฑ์เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ จะอย่างไรเสียในโลกนี้ยังจะมีใครสามารถต้านทานกับสวรรค์ลงทัณฑ์ได้ ราชันเหยียนตี้ในครั้งกระนั้นนับว่าแข็งแกร่งมากพอแล้วกระมัง ราชันหลันตี้ก็นับว่าแข็งแกร่งเพียงพอแล้วสิ พวกเขาต่างก็เป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายในครอบครอง แต่ สุดท้ายแล้วยังคงต้องตายภายใต้สวรรค์ลงทัณฑ์ นี่แหละคือผลของการฝืนต้านกับสวรรค์ลงทัณฑ์นั่นเอง
ภายใต้สวรรค์ลงทัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นจอมราชันเซียนหวังองค์ใดก็ตามก็ต้องหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว ข้อนี้หาใช่สิ่งที่ทุกคนต้องไปตำหนิกันอยู่แล้ว
ตูม…เสียงดังสนั่นเกิดขึ้น ในขณะนี้ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วเปล่งประกายที่เจิดจ้ายิ่งออกมา ไม่ว่าใครก็ตามล้วนแล้วแต่ยากที่จะลืมตาทั้งสองข้างขึ้นมาได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นที่สะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนกับ พลังที่ปะทุออกมาจากชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว ยามที่พลังของชุดเกราะเซียนหยินโจ้วปะทุออกมาอย่างเต็มที่นั้น ช่องว่างทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกิดการกระเพื่อม เสมือนว่ามันยังไม่ทันได้ลงมือก็ได้สะเทือนหวั่นไหวไปทั่วทั้งช่องว่างแล้วอย่างนั้น
ภายใต้พลังที่น่าสยองขวัญปราศจากผู้เทียบเทียมของชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว เหมือนว่าโลกดึกดำบรรพ์ทั้งโลกได้กลับกลายเป็นสุดจะต้านทานได้ เหมือนว่าชุดเกราะเซียนหยินโจ้วสามรถบีบโลกดึกดำบรรพ์ทั้งโลกให้แหลกละเอียดได้อย่างง่ายดาย
“นี่มันคือพลังของจอมราชันที่มีสิบสองชะตาฟ้าอย่างนั้นรึ?” ระดับเซียนหวังที่มองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าแล้วถึงกับรู้สึกเย็นวาบในใจ และกล่าวว่า “หรือว่ามันคือพลังที่ล้ำไปกว่าพลังของชะตาฟ้าสิบสองสายแล้ว?”
ไม่ว่าจะเป็นจอมราชันเซียนหวัง หรือว่าจอมเทพ ต่างรู้สึกขนลุกซู่ในใจเมื่อได้มองเห็นภาพนี้แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะเป็นจอมราชันเซียนหวังระดับสูงก็ตาม พวกเขาก็เข้าใจว่าตนเองนั้นเอาชนะชุดเกราะเซียนหยินโจ้วที่อยู่ภายใต้สภาพเช่นนี้ไม่ได้! กระทั่งชุดเกราะเซียนหยินโจ้วในสภาพเช่นนี้สามารถบดขยี้พวกเขาได้อย่างง่ายดาย!
มิน่าเล่าสวรรค์ถึงได้ถือเอาชุดเกราะเซียนหยินโจ้วเป็นของวิเศษประจำสวรรค์ ด้วยชุดเกราะเซียนหยินโจ้วชุดนี้มีอานุภาพใกล้เคียงกับอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคมาก
ในขณะเดียวกัน ทำให้ผู้คนนึกไปถึงอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุค ขนาดชุดเกราะเซียนหยินโจ้วยังไม่ถือว่าเป็นอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคยังน่ากลัวเพียงนี้ เช่นนั้นแล้ว อาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคที่แท้จริงมิยิ่งกว่านี้อีกรึ
ใครนะที่มีอาวุธยอดเยี่ยมแห่งยุคอยู่ในมือ? เวลานี้ปัญหาดังกล่าวได้ทำให้จอมราชันเซียนหวังจำนวนไม่น้อยที่จินตนาการไปไกลเลยทีเดียว!
“อยากทดสอบดูว่าเจ้าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนเชียว” หลี่ชิเย่หัวเราะเสียงดัง ก้าวเท้าออกไปก้าวเดียว หนึ่งหมัดพลันถูกปล่อยโจมตีออกไป กายเซียนเจิดจ้า สิบสามลัคนายิ่งใหญ่ไพศาล พลังที่ไร้ขอบเขตจำกัด หนึ่งหมัดที่โจมตีออกไปนั้น กฎเกณฑ์ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกทำลายสิ้น นี่คือพลังที่เด็ดขาด ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งพิสดารล้วนแล้วแต่ไม่มีค่าคู่ควรจะกล่าวถึง
เสียงตูม…ดังสนั่น ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วก็สวนมาหนึ่งหมัดเช่นกัน หนึ่งหมัดทำลายสิ้นทั้งจักรวาล ช่องว่างทั้งหมดเสมือนดั่งเศษคริสตัลจำนวนนับไม่ถ้วนที่แตกละเอียดปลิวว่อน หนึ่งหมัดของชุดเกราะเซียนหยินโจ้วไม่ได้มีกระบวนท่าอะไรแต่อย่างใด ฉับพลันโจมตีมาถึง
ปัง…เสียงสนั่นดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง หมัดเนื้อปะทะเข้ากับหมัดเหล็ก ฉับพลันทำให้โลกดึกดำบรรพ์ทั้งโลกสั่นไหวโคลงเคลงไปมา โลกดึกดำบรรพ์ทั้งใบเหมือนถูกจับโยนขึ้นไปสูงมาก เหมือนถูกโยนจนหลุดออกจากช่องว่างของตนไปแล้วอย่างนั้น โคลงเคลงจนทุกคนรู้สึกหน้ามืดตาลาย รู้สึกเหมือนจิตใจล่องลอยไปแล้วอย่างนั้น
เมื่อหมัดทั้งสองปะทะกัน เลือดสดๆ แตกกระจาย ย่อมไม่เป็นที่กังขาว่าลักษณะเช่นนี้หลี่ชิเย่เสียเปรียบเป็นอันมาก เขาอาศัยเพียงมือเปล่าเท่านั้นเอง ขณะที่ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วหลอมสร้างขึ้นมาจากโลหะเซียนที่ล้ำค่าที่สุดในโลก
“ฆ่า…” หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาว เพียงก้าวเดียวก็ก้าวข้ามกาลเวลา หวังจะอาศัยพมัดเดียวที่โจมตีจากด้านหลังของชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว หลี่ชิเย่ไว แต่ทว่าชุดเกราะเซียนหยินโจ้วไวยิ่งกว่า
หลี่ชิเย่เพิ่งจะอ้อมไปถึงด้านหลังของชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว ขณะที่ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วได้ยืนอยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่แล้ว กลับเป็นฝ่ายซัดหมัดทะลุผ่านกาลเวลาโจมตีใส่แผ่นหลังของหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่พลิกฝ่ามือยกขึ้น มือทั้งสองที่ยกเอาฟ้าดินขึ้นไป วิวัฒนาการหมื่นแดน หวังอาศัยสิ่งนี้ต้านกับหนึ่งหมัดสังหารที่เด็ดขาดหมัดนั้น
เสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา หลี่ชิเย่ถูกหมัดนี้ซัดจนตัวปลิวไปชนกระแทกเข้ากับผืนดินอย่างจัง ทำเอาพื้นดินของโลกดึกดำบรรพ์กลายเป็นหลุมขนาดยักษ์ รอยร้าวที่เกิดจากการกระแทกแผ่กระจายไปทั่วพื้นดินของโลกดึกดำบรรพ์ทั้งหมด
“ทรงพลังมากเหลือเกิน” บรรดาจอมราชันเซียนหวังต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อมองเห็นความพาลและแข็งแกร่งของชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว การที่สวรรค์สามารถยืนหยัดมายุคแล้วยุคเล่า และปราศจากผู้ต่อกรมายุคแล้วยุคเล่าใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
ช่าาา…เสียงหนึ่งที่ดังขึ้น ในเวลานี้เอง ปรากฏดินและหินที่กระจายขึ้นมา หลี่ชิเย่พุ่งตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า ทุกคนเพิ่งจะได้มองเห็นหลี่ชิเย่ถูกหมัดกระแทกเข้าใส่จนยับเยินไปหมดก่อนหน้านั้น แต่ว่า เวลานี้กลับเหมือนมังกรที่แข็งแกร่งพยัคฆ์ที่ดุดันขึ้นมาอีกครั้ง
“ฆ่า…” ในเวลานี้ ภายในชุดเกราะเซียนหยินโจ้วปรากฎเสียงทุ้มต่ำของราชันสวรรค์ยิวดังขึ้น ฉับพลันได้ประชิดตัวใกล้กับหลี่ชิเย่ ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง กระบวนท่าสังหารที่เด็ดขาดได้โจมตีเข้ามา
“มาได้จังหวะ…” หลี่ชิเย่หัวเราะเสียงดัง ปรากฏเสียงตูมดังขึ้น ได้ควบคุมตำหนักสวรรค์โจมตีใส่ชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว
ปัง ปัง ปังเวลานี้ได้บังเกิดเสียงที่พุ่งชนกระแทกด้วยกันดังขึ้นเป็นระลอก สะเก็ดไฟแตกกระจาย ทำลายฟ้าดิน ทั่วทั้งโลกดึกดำบรรพ์เสมือนหนึ่งได้ตกอยู่ท่ามกลางการทำลายล้างโลกที่น่าสยดสยองยากจะหาใดเทียม สิ่งมีชีวิตในโลกดึกดำบรรพ์ทั้งหมดถึงกับสั่นเทา ถึงกับร้องโหยหวนกับสิ่งนี้
สงครามที่มีอานุภาพทำลายฟ้าดินเช่นนี้ ต่อให้เพียงแค่สะเก็ดไฟที่กระเด็นใส่ตัวของพวกเขาก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นเถ้าธุลีเสียชีวิตไปในทันที
ไม่เสียทีที่ตำหนักสวรรค์ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำราและอาวุธสวรรค์อันดับหนึ่งนับแต่อดีตกาลเป็นต้นมา รับมือซึ่งหน้ากับอาวุธวิเศษประจำสวรรค์ได้ ถึงกับไม่ด้อยไปกว่ากันแม้แต่น้อย นับว่าฝืนลิขิตสวรรค์มากพอ” ระดับจอมเทพจำนวนมากถึงกับทอดถอนใจออกมา เมื่อเห็นว่าตำหนักสวรรค์รับมือซึ่งหน้ากับชุดเกราะเซียนหยินโจ้วได้โดยไม่ด้อยไปกว่ากัน และไม่รู้ว่าได้ทำให้ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องใจเต้นตูมตาม.Aileen-novel.
ด้วยอาวุธที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมดั่งเช่นตำราและอาวุธสวรรค์นี้ บอกว่าไม่ทำให้ผู้คนต้องหัวใจเต้นตูมตามนั้นเป็นคำโกหกแน่นอน ตำราและอาวุธสวรรค์ลักษณะเช่นนี้ เมื่อเทียบกับอาวุธและของวิเศษประจำตัวของจอมราชันเซียนหวังแล้วไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่ากันมากเท่าไร
“ฆ่า…” เวลานี้ ภายในชุดเกราะเซียนหยินโจ้วปรากฎเสียงร้องคำรามของราชันสวรรค์ยิวดังออกมา นาทีนี้ดวงดาวทั้งสามร้อยหกสิบดวงที่ฝังประดับอยู่ภายในร่างของชุดเกราะเซียนหยินโจ้วพลันสว่างไสวขึ้นมา
พริบตาเดียวนั้นเอง วงแหวนของชุดเกราะเซียนหยินโจ้วไม่เพียงแค่วิวัฒนาการโลกๆ หนึ่งขึ้นมาเท่านั้น นาทีนี้ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วได้วิวัฒนาการศักราชขึ้นมาศักราชหนึ่ง ท่ามกลางศักราชนี้ฟ้าดินสูงใหญ่กว้างไกล สรรพชีวิต… มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันในแต่ละยุคสมัย ยิ่งดวงดาวจำนวนสามร้อยหกสิบดวงนั้นด้วยแล้ว ยิ่งให้กำเนิดผู้ปราศจากผู้ต่อกรมายุคแล้วยุคเล่า
นาทีนี้เวลานี้ ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วเสมือนมีพลังของหนึ่งศักราชไว้ในครอบครอง มันไม่เพียงมีพลังของสรรพสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในหนึ่งศักราช มันยังได้ครอบครองพลังทั้งหมดในหนึ่งศักราชที่เป็นพลังของกาลเวลา พลังช่องว่าง พลังวัฏสงสาร พลังกฎแห่งกรรม…
อาจกล่าวได้ว่า นาทีนี้พลังในหนึ่งศักราชที่ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วดำรงอยู่ล้วนแล้วแต่ถูกบ่มฟักอยู่บนตัวของมันแล้วอย่างนั้น
เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้นมา นาทีนี้ พลังทั้งหมดในหนึ่งศักราชได้ทำการโจมตีลงมา ต่อให้มันไม่ใช่พลังหนึ่งศักราชอย่างสิ้นเชิงก็เพียงพอแล้ว กระทั่งกล่าวได้ว่า เวลานี้พลังของทั้งสิบสามทวีปล้วนแล้วแต่ถูกรวบรวมเข้ามาอยู่ด้วยกัน ก็ยากจะเทียบเคียงกับสิ่งนี้
เสียงแว้งค์…ดังสนั่น ในเวลานี้ตำหนักสวรรค์ก็ได้พวยพุ่งประกายและไม่มีสิ้นสุดออกมา ด้วยสัจธรรมที่ดึกดำบรรพ์ ในเวลานี้เหมือนว่าตำหนักสวรรค์ได้กลับกลายเป็นสวรรค์ไปแล้ว สูงใหญ่กำยำ สามารถต่อกรกับสิ่งดำรงไว้ซึ่งปราศจากผู้ต่อกรใดๆ ในหล้าได้
ขณะที่ตำหนักสวรรค์ทำการวิวัฒนาการนั้น ทำให้ผู้คนมีอารมณ์พลุ่งพล่านต้องการจะกราบไหว้ และต้องการหมอบอยู่กับพื้นเก้าคำนับสามคารวะ ด้วยพลังในลักษณะเช่นนี้ ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังก็ต้องหวาดกลัวจนขนลุกซู่ นี่คือพลังของสวรรค์ เป็นพลังที่สร้างความหวั่นเกรงต่อผู้คนได้มากที่สุด
ปัง…ทั้งชุดเกราะเซียนหยินโจ้วและตำหนักสวรรค์ต่างก็ได้ปะทุการโจมตีที่ทรงพลังและพาลที่สุดของตนออกมา การโจมตีด้วยกันทั้งสองฝ่าย ทำลายกาลเวลาจนละเอียด ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ทั่วฟ้าดินกลับกลายเป็นมืดมิด เหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกทำลายไปแล้วอย่างนั้น
ตูม ตูม ตูม… ผู้คนสามารถมองเห็นพลังของศักราชหนึ่งที่กดทับตำหนักสวรรค์เอาไว้ แม้ว่าตำหนักสวรรค์จะสูงตระหง่านปราศจากผู้เทียบเทียม แต่ว่า ภายใต้พลังจากทั้งศักราช ดูเหมือนตำหนักสวรรค์จะเสียเปรียบอยู่
“อีกาทมิฬ เสียดาย จะอย่างไรเสียสิ่งนี้ก็ไม่ใช่อาวุธของเจ้า เจ้าไม่สามารถสำแดงพลังของตำหนักสวรรค์ เกรงว่าวันนี้เจ้าจะต้องคิดผิด เจ้าประเมินตำหนักสวรรค์สูงเกินไปแล้ว” เวลานี้ เสียงของราชันสวรรค์ยิวได้ดังขึ้นมา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เวลานี้พลังของศักราชหนึ่งนั้นเป็นฝ่ายได้เปรียบ ตำหนักสวรรค์คิดจะพลิกเกมนั้นมีอัตราที่ต่ำมาก
“ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วชิ้นนี้นับเป็นของวิเศษที่น่าสยองขวัญยิ่งนัก มันอยู่กับสวรรค์มานานมากเกินไปแล้ว จนราชันสวรรค์ยิวสามารถควบคุมของวิเศษชิ้นได้เป็นอย่างดีมานานแล้ว” มีผู้บ่นพึมพำขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
ตำหนักสวรรค์นั้นมีความแข็งแกร่งยากจะหาผู้ต่อกรได้โดยแท้จริง น่าเสียดาย มันเป็นเหมือนดั่งที่ราชันสวรรค์ยิวได้พูดเอาไว้ว่า จะอย่างไรเสียสิ่งนี้หาใช่อาวุธของหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่ไม่สามารถไปหลอมกลั่นมันได้
ขณะที่สวรรค์กับชุดเกราะเซียนหยินโจ้วแตกต่างกัน มันคือของวิเศษคู่บ้านคู่เมืองของสวรรค์ ราชันสวรรค์ยิวในฐานะเจ้าแห่งสวรรค์ที่เก่าแก่โบราณมากที่สุด เขาสามารถควบคุมและเข้าถึงชุดเกราะเซียนหยินโจ้วมานานแล้ว เขาจึงสามารถสำแดงพลังสูงสุดปราศจากผู้เทียบเทียมของชุดเกราะเซียนหยินโจ้วออกมา
“ราชันสวรรค์ยิว เป็นเจ้าที่คิดผิดไม่ใช่ข้า” หลี่ชิเย่ยิ้มเอ้อระเหยขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเอง เสียงตึงดังขึ้น ในเวลานี้เองชะตาดั้งเดิมดึกดำบรรพ์ปรากฏ สิบสองกฎเกณฑ์พลันว่องไวเหมือนงูทำการพันธนาการชุดเกราะเซียนหยินโจ้วเอาไว้
ได้ยินเสียงตึงดังขึ้น สิบสองกฎเกณฑ์ของชะตาดั้งเดิมดึกดำบรรพ์ได้พันธนาการชุดเกราะเซียนหยินโจ้วโดยพลัน จากนั้น ได้ยินเสียงของโลหะที่กระทบกันดังตึง ตึง ตึงขึ้นเป็นระลอก มองเห็นส่วนท้ายของสิบสองกฎเกณฑ์เป็นเหมือนดั่งเข็มพิษที่ทิ่มแทงเข้าไปภายในบริเวณหน้าอกของชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว ซึ่งที่ตรงนั้นเป็นที่ที่รวมตัวกันของดวงดาว ทางช้างเผือกที่เจิดจรัส และชะตาฟ้าของพวกราชันสวรรค์ยิวที่ล้วนแล้วแต่รวมตัวกันอยู่ที่นั่น
จี๊ด…ทันใดนั้น ปรากฏเสียงดังจึ๊ดจี๊ดขึ้นมา สิบสองกฎเกณฑ์เริ่มทำการดูดเอาพลังของชุดเกราะเซียนหยินโจ้วทั้งหมด แน่นอนย่อมหมายรวมถึงชะตาฟ้าทั้งหมดของเหล่าจอมราชันเซียนหวัง!
“แย่แล้ว…” บรรดาจอมราชันเซียนหวังที่รวมตัวกันอยู่ภายในชุดเกราะเซียนหยินโจ้วพลันหวาดผวาจนหน้าถอดสี เมื่อรับรู้ถึงชะตาฟ้าของตนอยู่นอกเหนือการควบคุมขึ้นโดยพลัน ต่างร้องเสียงแหลมดังออกมา
ตูม ตูม ตุมนาทีนี้ ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วสั่นไหวขึ้นมาทั้งร่าง ตามติดด้วยเสียงดังปัง ปัง ปัง บรรดาเหล่าจอมราชันเซียนหวังที่อยู่ภายในชุดเกราะเซียนหยินโจ้วต่างพุ่งชนกระแทกต่อชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว พวกเขาหวังกระแทกให้ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วแตกละเอียดเพื่อจะได้หนีออกมาจากด้านใน
แต่ทว่า เวลานี้สิบสองกฎเกณฑ์ของชะตาดั้งเดิมดึกดำบรรพ์ได้พันธนาการชุดเกราะเซียนหยินโจ้วเอาไว้ ไม่ว่าพวกของราชันสวรรค์ยิวจะพุ่งชนอย่างไรก็ไม่สามารถเปิดออกได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะหลบหนีออกจากชุดเกราะเซียนหยินโจ้วให้ได้
“ภาษิตกล่าวไว้ว่า จับเต่าในไห วันนี้ข้ากลับรู้สึกว่ามันเป็นการจับเต่าในเต่า ทว่าไม่รู้ว่าเจ้าเต่าโง่ฝูงนี้เช่นพวกเจ้าจะเลิศรสหรือไม่ แต่หากว่ามีกลิ่นสาบโคลนหละก็นับว่าเสียอารมณ์อย่างยิ่ง” หลังจากที่หลี่ชิเย่ทำการพันธนาการชุดเกราะเซียนหยินโจ้วจนแน่น จึงกล่าวหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
“ราชันซื่อตี้ ช่วยด้วย…” ในขณะนี้ พวกของราชันสวรรค์ยิวล้วนแล้วแต่ตื่นตระหนก และหวาดผวาจนหน้าถอดสี จำต้องร้องเสียงดังขึ้นมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากราชันซื่อตี้
เนื่องจากพวกของราชันสวรรค์ยิวต่างรับรู้ถึงกฎเกณฑ์ทั้งสิบสองสายที่แทงทะลุเข้าไปในทางช้างเผือกของชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว เริ่มทำการดูดเอาชะตาฟ้าของพวกเขาไป
กล่าวสำหรับจอมราชันเซียนหวังแล้ว ชะตาฟ้าคือทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขา ถ้าหากชะตาฟ้าถูกดูดเอาไปจริงๆ หละก็ ต่อให้พวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปก็เท่ากับเป็นเหมือนคนพิการที่ไม่เหลืออะไรอีกเลย แล้วจะไม่ทำให้เหล่าจอมราชันเซียนหวังต้องตื่นตระหนกจนวิญญาณแทบออกจากร่างได้อย่างไรกัน