เส้นทางกระบี่คงอยู่ ไม่มีที่ใดปราศจากกระบี่ นี่แหละคือ ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ เส้นทางกระบี่หมายถึงทุกสิ่ง เส้นทางกระบี่คือสิ่งสูงสุด
ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกหวั่นไหว เมื่อมองเห็น ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ สามารถต้านกระบวนท่าสังหารเด็ดขาดจากการร่วมมือกันของเจ้าแห่งแดนอุดรกับเฉินไท่เหอ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่จิตใจสั่นคลอน ภาพที่เห็นตรงหน้าเรียกได้ว่าละลานตาเหลือเกิน
“เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง…” ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง กระทั่งน้ำลายไหลยืด
เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหงคือสุดยอดเคล็ดวิชากระบี่สูงสุดที่ผู้เฒ่ากำแหงได้ทิ้งเอาไว้ เรียกได้ว่าหนึ่งไม่มีสองในหล้า ปราศจากผู้ต่อกรเป็นนิรันดร์ อย่าว่าแต่ในแดนลัทธิพรรษเลย กระทั่งในแดนลัทธิเซียน มันก็เคยสร้างผลงานการสู้รบที่ยอดเยี่ยมมาแล้วนับไม่ถ้วน
ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง ผู้คนจำนวนมากต่างเคยได้ยินชื่อของ ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ มาก่อน ต่างรู้ดีว่า ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ คือสิ่งแทนเคล็ดวิชากระบี่ที่สูงสุด แต่ทว่า ว่ากันจริงๆ แล้ว ผู้ที่ได้เห็น ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ กับตาตนเองนั้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น กล่าวสำหรับ ผู้คนจำนวนมากแล้ว นับว่าเป็นบุญตาที่สามารถเห็น ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ด้วยตาตนเอง ทำให้พวกเขามองดูด้วยจิตใจที่หวั่นไหว
ความจริงแล้ว กระทั่งระดับบรรพบุรุษของหอศักดิ์สิทธิ์ และกองกำลังซั่งก็เฝ้าดูการต่อสู้ในครั้งนี้ใจจดใจจ่อ พวกเขาจ้องเขม็งอยู่กับทุกๆ กระบวนท่าของหลี่ชิเย่ ไม่อยากพลาดราบละเอียดไปแม้เพียงน้อยนิด เนื่องจากพวกเขาก็ไม่เคยได้ฝึก ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ มาก่อน ถ้าหากสามารถมองเห็นเส้นสนกลในได้บ้างบนตัวของหลี่ชิเย่ นับว่าไม่มีเรื่องใดที่จะดีไปกว่านี้อีกแล้ว
“ฆ่า…” ทั้งเจ้าแห่งแดนอุดรกับเฉินไท่เหอต่างคำรามออกมาพร้อมกัน เมื่อเห็นว่าขบวนท่าสังหารที่หวังผลในกระบวนท่าเดียวทำไม่สำเร็จ ทันใดนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนกระบวนท่าสังหาร ยอดฝีมือจำนวนหลายพันคนต่างปล่อยพลังลมปราณรุนแรงออกมาในฉับพลัน พลังที่ดุจสายน้ำหลากไม่มีขาดตอน
ตูม…เสียงดังสนั่นขึ้นมา นาทีนี้มองเห็นวังวนได้พวยพุ่งเป็นเพลิงราชันออกมา คันฉ่องราชันนกหงส์เพลิงของพวกเขาได้สำแดงถึงขั้นบ้าคลั่งปราศจากผู้ต่อกร เพลิงราชันที่เสมือนดั่งไฟฟ้าแรงสูงที่พุ่งโจมตีเข้ามา พริบตาเดียวกันนี้เหมือนว่าได้ก้าวข้ามทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว
ฟ่าวว…ทันใดนั้นเอง แมงป่องยักษ์ก็ได้อ้าปากและพ่นไอเย็นออกมา มองเห็นไอเย็นที่เทลงมาจากโอ่งโบราณอย่างไม่ขาดสาย พริบตาเดียวนี้เอง ไอเย็นเสมือนหนึ่งได้ปกคลุมไปทั่วทั้งโลกอย่างนั้น
ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดที่ดังขึ้นมา ยามที่ไอเย็นโจมตีเข้ามานั้น สามารถมองเห็นทุกสิ่งถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง แม้แต่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นเพลิงราชันที่พุ่งโจมตีเข้ามา หรือว่าไอเย็นที่ปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน ในขณะนี้ล้วนแล้วแต่ไม่ได้พุ่งเป้าไปบนตัวของหลี่ชิเย่ เป้าหมายของพวกมันไม่ใช่หลี่ชิเย่
เสียงตูม…ดังสนั่น นาทีนี้เอง ไอเย็นและเพลิงราชันได้ปะทะเข้าด้วยกัน ภาพนี้เสมือนดั่งเป็นดาวดวงหนึ่งที่พุ่งชนเข้ากับทะเลอย่างนั้น ทำให้เกิดเป็นคลื่นสูงนับล้านล้านจ้างขึ้นมา
ได้ยินเสียงจี๊ด…จี๊ด…จี๊ด…ดังขึ้น ทันใดนั้นเพลิงราชันถึงกับหลอมรวมเข้ากับไอเย็น ได้ยินเสียงปังดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง พวกมันขยายตัวขึ้นโดยพลัน ยามที่พวกมันน้ำกับไฟสามารถเข้ากันได้ถึงกับกลายเป็นหยินและหยางที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารขึ้นมา
หยินหยางหมุนเคลื่อนไป หลอมละลายทุกสิ่งอย่าง ทันใดนั้น ได้ยินเสียงดังปุ ปุ ปุมองเห็นทั้งช่องว่าง กาลเวลาต่างเริ่มหลอมละลาย ภายใต้พลังหลอมละลายที่น่ากลัวเพียงนี้ เหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกหลอมละลายไปได้
ได้ยินเสียงดังแว้งค์ขึ้นเสียงหนึ่ง ภายใต้พลังหลอมละลายของหยินหยาง แม้แต่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ในเส้นทางกระบี่ก็เริ่มหลอมละลายเช่นกัน ดูเหมือนว่าภายใต้พลังหลอมละลายหยินหยางไม่มีสิ่งใดสามารถต้านทานเอาไว้ได้
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?” ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ มีผู้ที่กล่าวด้วยท่าทีหวาดผวาว่า “เพราะอะไรแดนอุดรแห่งหอศักดิ์สิทธิ์กับตระกูลเฉิงแห่งกองกำลังซั่งถึงได้มีกระบวนท่าสังหารเด็ดขาดที่เข้ากันได้ถึงเพียงนี้”
การเข้ากันอย่างกะทันหันของน้ำและไฟ และการหลอมละลายของหยินและหยาง ไม่ว่าใครก็ตั้งตัวไม่ทัน เนื่องจากหอศักดิ์สิทธิ์และกองกำลังซั่งเป็นศัตรูกันโดยตลอด ไม่น่าเป็นไปได้ที่ค่ายกลของพวกเขาจะสามารถเข้ากันได้อย่างไร้ร่องรอยกะทันหันเช่นนี้ได้ และกระบวนท่าสังหารของพวกเขาไม่น่าจะรู้ใจกันได้ขนาดนี้ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
“ได้ยินมาว่าตระกูลเฉินกับแดนอุดรเคยร่วมมือกัน ทั้งสองฝ่ายเคยร่วมมือกันคิดค้นสร้างสุดยอดเคล็ดวิชาสังหารขึ้นมาแขนงหนึ่ง แต่บุคคลภายนอกเชื่อว่านี่เป็นข่าวเท็จมาโดยตลอด” ระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณผู้หนึ่งเอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมา
แต่ว่า เมื่อทุกคนมองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว ทุกคนจึงรู้ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริงหาใช่ข่าวลือ
เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น ความเร็วในการหลอมละลายไวมาก ภายใต้การหลอมละลายของหยินหยางที่น่ากลัวเช่นนี้ แม้แต่ ‘เส้นทางกระบี่เทพกำแหง’ ก็กำลังละลาย อีกทั้งความเร็วในหลอมละลายน่ากลัวมาก เหมือนว่าหาเป็นเช่นนี้ต่อไป อย่าว่าแต่ ‘เส้นทางกระบี่เทพกำแหง’ เลย เกรงว่าคงใช้เวลาไม่นานแม้แต่หลี่ชิเย่ก็จะต้องถูกหลอมละลายไปจนไม่เหลือแม้แต่ซาก
“กระบวนท่าสังหารเช่นนี้ เกรงว่าเทพแท้จริงก็ต้านไม่อยู่ เว้นแต่ระดับเทพแท้จริงขั้นสูงแล้ว มิฉะนั้นล่ะก็ เทพแท้จริงขั้นต่ำ ขั้นกลางคงไม่ไหว ล้วนแล้วแต่มีโอกาสถูกหลอมละลายไปภายในระยะเวลาอันสั้น” ระดับหัวหน้าพรรคผู้หนึ่งรู้สึกว่าขบวนท่าเด็ดขาดนี้น่ากลัวเหลือเกิน
ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่ในใจ เนื่องจากกระบวนท่าสังหารของแดนอุดรและตระกูลเฉินช่างน่ากลัวเหลือเกิน ระดับเทพแท้จริงของพวกเขายังไม่ได้ลงมือ พวกเขาก็มีศักยภาพสังหารที่แท้จริงแล้ว ช่างเป็นกำลังความสามารถที่น่ากลัวเหลือเกิน
ในขณะนี้ แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของหอศักดิ์สิทธิ์และกองกำลังซั่งต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ขณะมองดูภาพที่อยู่ตรงหน้า เนื่องจากนี่คือท่าไม้ตายจากการ่วมมือของทั้งสองฝ่ายของพวกเขา หากแม้ท่าไม้ตายเช่นนี้ยังสังหารหลี่ชิเย่ไม่ได้ล่ะก็ เช่นนั้นแล้วผู้เยาว์คนนี้ก็น่ากลัวเหลือเกิน จำเป็นต้องให้ระดับเทพแท้จริงอย่างพวกเขาลงมือด้วยตนเอง ทั้งยังต้องสู้อย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะสังหารเขาได้
จี๊ด…เสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้ไม่เพียงแต่ ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ที่กำลังหลอมละลาย แม้แต่ตัวของหลี่ชิเย่เองก็กำลังหลอมละลาย เหมือนว่าหากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ตัวหลี่ชิเย่เองก็จะถูกหลอมละลายไปทั้งตัว
“เกรงว่าหลี่ชิเย่จะสู้ไม่ได้เสียแล้ว แม้แต่ ‘เคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง’ ยังต้านเอาไว้ไม่อยู่ เกรงว่าคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว” ระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณพึมพำออกมา
“เรื่องนี้ใช่จะเป็นเรื่องแปลก จะอย่างไรเสียหอศักดิ์สิทธิ์และกองกำลังซั่งคือสองในสี่ขั้วอำนาจใหญ่ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงพวกเรา พวกเราที่อยู่ภายใต้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงใครบ้างล่ะจะไม่สั่นเทา จากการร่วมมือของพวกเขาสองฝ่าย? ต้องโทษหลี่ชิเย่ที่อวดดีเกินไป สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งสองแห่งขึ้นมาพร้อมกัน นับเป็นการกระทำที่ไม่ชาญฉลาดเลย” ระดับหัวหน้าพรรคกถึงกับส่ายหน้าด้วยความเสียใจ
“ผู้เยาว์ วันนี้เป็นวันตายของเจ้า!” เจ้าแห่งแดนอุดรคำรามเสียงดัง เมื่อเห็นหลี่ชิเย่กำลังจะหลอมละลาย ในที่สุดเขาก็ได้ระบายแค้นแล้ว เนื่องจากเขาจะได้สังหารหลี่ชิเย่กับมือแล้ว แก้แค้นให้กับบุตรชายที่ตายไป
“ข้ายังเข้าใจว่าพวกเจ้าจะมีฝีมืออะไร ดูท่าพวกเจ้าก็มีฝีมือเพียงแค่นี้เท่านั้นเอง ความสามารถแค่หางอึ่ง ถึงเวลาข้าลงมือบ้างล่ะนะ” หลี่ชิเย่เพียงยิ้มนิดหนึ่งเท่านั้น
ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ เส้นทางกระบี่เทพกำแหงที่เดิมกำลังหลอมละลายพลันเปล่งประกายขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเอง ส่งประกายเจิดจ้าละลานตา ได้ยินเสียงดังตูม ในเวลานี้เอง เส้นทางกระบี่ได้พวยพุ่งเป็นอนุภาคของแสงที่ไม่มีสิ้นสุด เสมือนดั่งเป็นประกายกระบี่ที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และประกายกระบี่ที่พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงนี้พลันแทงทะลุท้องฟ้า และแทงทะลุหยินหยางโดยพลัน
ตึงเสียงกระบี่คำรามดังขึ้น นาทีนี้เองบริเวณชายโครงของหลี่ชิเย่ปรากฏกระบี่สวรรค์แต่ละเล่มที่งอกขึ้นมา โดยที่กระบี่สวรรค์แต่ละเล่มมีการหมุนวนไปเสมือนดั่งเป็นกระบี่ที่ใช้สำหรับสับอย่างนั้น ยามที่กระบี่สวรรค์แต่ละเล่มหมุนวนไปนั้น คล้ายดั่งหลี่ชิเย่ได้มีปีกกระบี่งอกออกมารคู่หนึ่งอย่างนั้น เมื่อมีการโบกปีกกระบี่ไปมา สามารถฟันและสังหารทุกสิ่งทุกอย่างได้
“ให้พวกเจ้าได้ประจักษ์ว่าอะไรที่เรียกว่าเคล็ดวิชากระบี่เทพกำแหง…” พริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาว ปีกกระบี่โบกสะบัด ทำให้หลี่ชิเย่หลุดพ้นจากหยินหยาง ก้าวข้ามกาลเวลา ปีกกระบี่พลันผ่าโลกออกมา ฟันขมุกขมัวให้แยกออก สับความว่างเปล่าให้เปิดออก ไม่มีสิ่งใดสามารถขวางปีกกระบี่นี้ได้
ตึง…เสียงกระบี่คำรามก้องเก้าชั้นฟ้า พริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นปีกกระบี่ลากประกายกระบี่เป็นทางยาวมาก ทุกๆ ประกายกระบี่ล้วนแล้วแต่ยาวเป็นล้านล้านจ้าง ประกายกระบี่แต่ละสายที่ฟาดฟันลงมา สามารถฟาดฟันทุกอย่างให้แหลกละเอียดได้
ทันใดนั้นเอง ปีกกระบี่ฟาดฟันลงมาเป็นวงล้อ ได้ยินเสียงดังปุ…ปีกกระบี่คู่พลันฟันวังวนของเฉินไท่เหอ แมงป่องยักษ์ของเจ้าแห่งแดนอุดรจนแยกออก
ปุ ปุ ปุ…ในเสี้ยววินาทีนี้เองมองเห็นประกายเลือดที่ดั่งคลื่นยักษ์ เลือดสดๆ ที่สาดกระเซ็นสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า เสมือนดั่งคลื่นโลหิตอย่างนั้น จังหวะที่ปีกกระบี่ได้ฟันสุดยอดค่ายกลแห่งยุคทั้งสองจนแยกออกนั้น ศิษย์จำนวนหลายพันคนของหอศักดิ์สิทธิ์ และกองกำลังซั่งพลันถูกสังหารไปสิ้น
มองเห็นเพียงศีรษะหลายพันที่ลอยขึ้นสูง พร้อมด้วยเลือดสดๆ ที่พวยพุ่งขึ้นมาดั่งฟองคลื่น สร้างความหวั่นไหวยิ่งให้กับจิตใจของผุ้คน แลดุดุดันงดงาม
“อย่าได้ทำร้ายใคร…” จังหวะที่ปีกกระบี่ฟันค่ายกลทั้งสองจนแยกออกนั้น ภายในค่ายแดนอุดรที่อยู่ห่างจากสมรภูมิรบใกล้ที่สุด พลันปรากฏเทพแท้จริงตวาดเสียงดังพร้อมกับมือขนายใหญ่ที่ยื่นเข้ามา หมายช่วยเหลือเจ้าแห่งแดนอุดรและเฉินไท่เหอ
แต่ว่า ทันใดนั้นเอง ปีกกระบี่ทั้งสองพลันรวมเป็นหนึ่ง ได้ยินเสียงดังตึงปีกกระบี่ได้กลับกลายเป็นกระบี่สวรรค์เล่มหนึ่ง ฟันฉับเข้าที่มือขนาดใหญ่ข้างนั้นที่ยื่นเข้ามาช่วยคนนั่น
การฟาดฟันลงมาของกระบี่สวรรค์ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านทานได้ ประกายกระบี่แหลมคมปราศจากผู้ต่อกร
ได้ยินเสียงดังปุขึ้นมาเสียงหนึ่ง เลือดสดๆ แตกกระจาย มือใหญ่ข้างนี้ของเทพแท้จริงก็ถูกฟันเข้าให้ทันที เลือดสดๆ พวยพุ่งขึ้นมา ทำเอาเทพแท้จริงผู้นี้ตกใจจนต้องรีบหุบมือกลับมาอย่างรวดเร็วที่สุด มิฉะนั้นล่ะก็ มือข้างนี้คงถูกฟันจนขาด
จี๊ด…แม้ว่าในมือจะมีอาวุธราชัน แม้ว่าจะมีเทพแท้จริงที่ยื่นมือเข้าช่วย แต่ทว่า ทั้งเฉินไท่เหอและเจ้าแห่งแดนอุดรยังคงหนีไม่พ้นเคราะห์กรรมนี้ไปได้ ศีรษะของทั้งสองคนถูกกระบี่สวรรค์ฟันเข้าให้ทันที ทำให้ศีรษะของทั้งสองคนหลุดลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า
ขณะที่ศีรษะของพวกเขากลิ้งอยู่กับพื้นนั้น พวกเขาจึงมองเห็นร่างกายของตนล้มลงเสียงดังปังกับพื้น ศีรษะของพวกเขามีดวงตาที่เบิกโพลงมองดูร่างกายของตนที่ปราศจากศีรษะด้วยความหวาดผวาตระหนกตกใจ แต่ว่า ทุกอย่างสายเกินไปเสียแล้ว
เวลานี้ บริเวณสมรภูมิรบไม่มีคนที่มีชีวิตแม้แต่คนเดียว ยอดฝีมือจำนวนหลายพันคนของหอศักดิ์สิทธิ์และกองกำลังซั่งทั้งหมดจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น ศพที่ปราศจากศีรษะของพวกเขานอนเรียงเป็นระเบียบอยู่ที่เดิม ขณะที่ศีรษะนั้นกระจายเกลื่นพื้นเต็มไปหมด ในขณะที่ปีกกระบี่ฟาดฟันลงมานั้น พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะวิ่งหนี ถูกตัดศีรษะไปโดยพลัน
ศีรษะที่อยู่บนพื้นต่างมีคู่ดวงตาที่เบิกโพลง โดยมีเลือดสดๆ ที่ไหลเอื่อยๆ ออกมาจากบริเวณลำคอที่ถูกตัดจนขาด เลือดสดๆ ที่ไหลออกมาได้รวมตัวกันเป็นสายอย่างช้าๆ เสมือนดั่งเป็นลำธารเลือดสายน้อยๆ ที่กำลังไหลรินอยู่ตรงนั้น
……………………………….