ผู้คนจำนวนมากต่างมองตากันและกันเมื่อได้ยินคำพูดที่นักเลงของหวูเลี่ยน เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่นานหวูเลี่ยนเพิ่งจะถูกหลี่ชิเย่บังคับให้กินดินโคลนนั้น เป็นเรื่องที่ผู้คนจำนวนมากต่างรู้ดี เวลานี้ได้เห็นหวูเลี่ยนแทบคลั่ง ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ในใจรู้สึกสะใจเหลือเกิน
เมื่อหวูเลี่ยนเห็นว่าไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมา รู้สึกลำพองใจน้อยๆ อยู่ในใจ แม้ว่าวันนั้นจะถูกหลี่ชิเย่ยัดดินโคลนเข้าไปในปาก กล่าวสำหรับเขาแล้วเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวง แต่ทว่ากล่าวสำหรับเขาแล้วไม่ช้าก็เร็วสักวันจะต้องแก้แค้นให้ได้อยู่แล้ว ไม่ช้าก็เร็วสักวันจะต้องให้หลี่ชิเย่ตายทั้งเป็น! เมื่อถึงตอนนั้นก็จะเป็นเวลาที่เขาได้ลืมตาอ้าปากเสียที
เวลานี้ตัวเขามีคุณชายหุยชุน นายน้อยแห่งแคว้นว่านโซ่วคอยหนุนหลังให้กับเขา ไหนเลยเขาจะต้องไปกลัวหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามเล่า แม้แต่ยอดฝีมือของสำนักเจ้าลัทธิและตระกูลขุนนางโบราณจำนวนมากก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของหวูเลี่ยนเช่นกัน
หลังจากที่หวูเลี่ยนส่งเสียงเอ็ดตะโรขับไล่บรรดาเหล่าผู้บำเพ็ญตนที่ยืนอยู่บริเวณปากทางเข้าหุบเขา ด้วยท่าทีอวดเบ่งบารมีและพึงพอใจกับเกียรติยศจอมปลอมของตนแล้ว ก็หลบเข้าไปภายในหุบเขาและไปยืนอยู่ข้างสระบงกช คล้ายดั่งเป็นคนรับใช้ที่รั้งอยู่ข้างกายของคุณชายหุยชุน
มองเห็นท่าทีจิ้งจอกแอบอิงบารมีเสือของหวูเลี่ยนแล้ว ภายในใจของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ด้านนอกสระบงกชต่างรู้สึกไม่พอใจแต่ก็จนด้วยเกล้า ได้แต่ส่งเสียงฮึเย็นชาออกมา
ปรกติแล้วทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่ต้องการไปหาเรื่องกับหวูเลี่ยน จะอย่างไรเสียชาติกำเนิดของเขานั้นยิ่งใหญ่มาก ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้ยังมีคุณชายหุยชุนที่ให้ท้ายเขา ทำให้เขายิ่งกำเริบเสิบสานและอวดดีมากขึ้นกว่าเดิมอีก ทุกคนยิ่งไม่ต้องการไปแหย่หาเรื่องกับคนถ่อยเช่นนี้
“เชิญบรรดาผู้อาวุโสผู้มีความรู้ เลือกดอกบัวสักต้น” เวลานี้คุณชายหุยชุนแสดงท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตนยิ่ง ยิ้มกล่าวกับบรรดาผู้อาวุโสผู้มีความรู้ และอัจฉริยะบุคคลของสำนักเจ้าลัทธิและตระกูลขุนนางโบราณแต่ละคน
ดอกบัวที่ดีที่สุดภายในสระบงกชก็คือดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟสองต้นที่แตกต่างจากต้นอื่นๆ โดยมีราชาบัวที่มีสีทองเป็นที่สุด และดอกบัวที่มีสีเงินรองลงมา
นอกเหนือจากนี้แล้ว ดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟของสระบงกชที่อยู่ใกล้กับราชาและราชินีบัวมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น ภายในสระบงกช ราชาและราชินีบัวก็มีอยู่เพียงแค่สองต้นเท่านั้นเอง ในอดีตที่ผ่านมา ผู้ที่ได้ครอบครองดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟสองต้นนี้ล้วนแล้วแต่เรียงตามระดับอาวุโส
“ไม่ ไม่ ยังคงเชิญคุณชายเลือกสักต้นก่อน” มีผู้อาวุโสผู้มีความรู้ที่กล่าวแสดงท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตนออกมา
หากจะว่ากันถึงฐานะ ระดับอาวุโส บรรดาผู้อาวุโสผู้มีความรู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ย่อมสูงกว่าคุณชายหุยชุนอยู่บ้าง จะอย่างไรเสียคุณชายหุยชุนก็คือผู้เยาว์ ต่อให้เป็นอัจฉริยะบุคคลที่ยอดเยี่ยม ยังคงเป็นผู้เยาว์อยู่ดี
เพียงแต่ว่า บรรดาผู้อาวุโสผู้มีความรู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนไม่น้อยต่างก็มีโอกาสต้องขอความช่วยเหลือจากคุณชายหุยชุน โดยเฉพาะยาเม็ดอายุวัฒนะที่ปรุงกลั่นโดยคุณชายหุยชุนนั้นเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่ามีบุคคลระดับบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่ต้องการได้อย่างยิ่ง
ด้วยเหตุที่ทุกคนต่างมีโอกาสที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากคุณชายหุยชุนนั่นเอง เวลานี้ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับบรรพบุรุษก็ต้องประจบประแจงต่อคุณชายหุยชุน
“ตามความเห็นของข้า คุณชายอาศัยไฟบัวจากราชาบัวมาชำระกายาก็ดีแล้ว คุณชายหุยชุนคือยอดอัจฉริยะบุคคลแห่งยุค ย่อมสมควรได้รับการปฏิบัติดูแลเช่นนี้” ระดับเทพแท้จริงขั้นต้นของตระกูลขุนนางโบราณแห่งหนึ่งยิ้มกล่าว
แม้ว่าในใจของคุณชายหุยชุนเองก็เข้าใจว่าเขาสามารถครอบครองบัวราชาต้นนี้เพียงลำพัง เพียงแต่ยังคงทำเป็นอ่อนน้อมถ่อมตน และกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโสรักและให้เกียรติข้าเกินไปแล้ว ข้าเป็นเพียงผู้เยาว์คนหนึ่งเท่านั้นเอง ด้านวัยวุฒิ ด้านคุณวุฒิไม่อาจเทียบได้กับบรรดาผู้อาวุโสได้เลย เกรงว่าละอายกับสิ่งนี้”
“ใครว่า ใครว่าล่ะ” ผู้อาวุโสผู้มีความรู้ผู้หนึ่งหัวเราะและกล่าวว่า “แม้คุณชายจะมีอายุอ่อนเยาว์กว่า แต่มีโชคที่ไม่มีผู้ใดเทียม ดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟเบ่งบานคราวก่อน ท่านนักพรตหญิงฉานเซินเป็นผู้ครอบครองราชาดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟต้นนี้ไป การเบ่งบานของดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟในครั้งนี้ คุณชายก็ต้องมีสิทธิ์ได้ครอบครองราชาดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟต้นนี้เช่นกัน”
“มิกล้า มิกล้า ข้าเป็นเพียงผู้เยาว์คนหนึ่งเท่านั้น ไหนเลยกล้าเทียบเคียงกับท่านนักพรตหญิงฉางเซินได้เล่า นับว่าน่าละอายสำหรับข้าน้อยยิ่งนัก” คุณชายหุยชุนรีบกล่าวถ่อมตนออกมา
นักพรตหญิงฉางเซินคือเจ้าสำนักคนปัจจุบันของหุบเขาอมตะ ฐานะของเขาสูงส่งกว่ากษัตริย์ของแคว้นว่านโซ่วเสียอีก ทั้งยังมีพรสวรรค์ที่น่าเกรงขาม เพียงแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมานางทำตัวค่อมต่ำยิ่งเท่านั้นเอง แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม นางยังคงมีฐานะและอำนาจที่สูงส่ง และมีชื่อเสียงที่สูงส่งยิ่งนัก
เวลานี้มีผู้อาวุโสผู้มีความรู้นำตนไปเปรียบกับนักพรตหญิงฉางเซิน แม้ว่าจะเป็นคำพูดที่ประจบสอพรอก็ตาม แต่สำหรับคุณชายหุยชุนแล้วก็นับว่าดีต่อใจเป็นอย่างยิ่ง และในใจของเขาก็รู้สึกเบิกบานเป็นยิ่งนัก
สมควรทราบว่า แม้ว่าแคว้นว่านโซ่วของพวกเขาจะมีกำลังที่ได้รับการยกย่องว่าปราศจากผู้ต่อกรในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอมตะ และยกย่องตนเองว่าสามารถเทียบเคียงกับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงได้
แต่ว่า ต่อให้แคว้นว่านโซ่วของพวกเขาจะได้ชื่อว่ามีกำลังที่กล้าแข็งมากไปกว่านี้ พวกเขายังคงเป็นเพียงแคว้นๆ หนึ่งภายใต้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอมตะเท่านั้น มันเป็นเพียงระดับสำนัก ไม่ใช่ระดับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ
ภายใต้ผืนแผ่นดินของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอมตะนั้น ยังคงเป็นหุบเขาอมตะที่เป็นสายตรง ต่อให้กำลังทหารของแคว้นว่านโซ่วจะเหนือกว่าหุบเขาอมตะ ยังคงไม่สามารถสั่นคลอนต่อฐานะความเป็นสายตรงของหุบเขาอมตะได้
เวลานี้ผู้อาวุโสผู้มีความรู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับยกเอาคุณชายหุยชุนเป็นผู้ที่สามารถเทียบเคียงกับนักพรตหญิงฉานเซินได้ คำกล่าวที่ประจบประแจงเช่นนี้จะไม่ทำให้ภายในใจของคุณชายหุยชุนรู้สึกสบายอกสบายใจได้อย่างไรกันเล่า
“คุณชายอย่าได้ถ่อมตนอีกเลย ราชาดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟต้นนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้ นอกจากคุณชายแล้วล่ะ” ผู้อาวุโสผู้มีความรู้รีบเร่งหัวเราะและเอ่ยขึ้นว่า “ได้ยินว่าเทพสงครามสตรีก็มาที่ดินแดนต้นกำเนิดไฟด้วยแล้ว พวกเราก็ขอถือวิสาสะเสนอว่า ราชินีดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟต้นนั้นมีไว้ให้เทพสงครามสตรีได้ใช้ประโยชน์”
“พูดดีมาก พูดได้ดีมาก” ระดับเทพแท้จริงขั้นต้นผู้นั้นรีบแสดงความเห็นด้วยขึ้นมาว่า “เทพสงครามสตรีคืออัจฉริยะบุคคลที่ไม่ธรรมดา นับว่ามีสิทธิ์ล้นเหลือที่ได้ใช้ประโยชน์จากราชินีดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟต้นนั้น และเป็นการสมควรแล้ว”
“ข้าก็เห็นด้วย” คุณชายหุยชุนตอบเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ทันที และเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มบนใบหน้า ท่าทางเหมือนถูกใจกับสิ่งนี้อย่างยิ่ง
เทพสงครามสตรีแห่งจูเซียงไม่เพียงเป็นอัจฉริยะบุคคลของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งยังเป็นยอดสาวงามแห่งยุคของแดนลัทธิพรรษ ผู้ที่ตามจีบนางไม่รู้ว่ามีอยู่จำนวนเท่าไร กระทั่งกล่าวได้วว่ามีผู้สืบทอดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ และอัจฉริยะบุคคลของแดนลัทธิพรรษจำนวนเท่าไรที่มีใจรักใคร่ในตัวของเทพสงครามสตรีอยู่ไม่มากก็น้อย
คุณชายหุยชุนก็มีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามคุณชาย มีความเป็นเลิศทั้งด้านปรุงกลั่นโอสถและวรยุทธ ทั้งยังได้รับการยกย่องว่ามีความยอดเยี่ยมที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง เขาเข้าใจเองว่าตนเองก็คู่ควรกับเทพสงครามสตรีแห่งจูเซียงได้เหมือนกัน กระทั่งแคว้นว่านโซ่วของพวกเขาเคยมีแนวความคิดที่จะสู่ขอต่อจูเซียงหวู่ถิงมาก่อน
เวลานี้ทุกคนต่างมีข้อเสนอที่เป็นเอกฉันท์ให้เขาเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากราชาบัว ขณะที่ราชินีบัวสงวนให้กับเทพสงครามสตรีแห่งจูเซียง ย่อมไม่ต้องเอ่ยถึงความนัยเช่นนี้แล้ว คุณชายหุยชุนเช่นเขาคู่กับเทพสงครามสตรีแห่งจูเซียง ไม่มีอะไรเหมาะสมมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“ข้าน้อยก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน” ในเวลานี้ หวูเลี่ยนที่ยืนทื่ออยู่ข้างๆ คุณชายหุยชุนก็ทำประจบสอพรอเป็นการใหญ่ และกล่าวว่า “คุณชายคือสุดยอดอัจฉริยะบุคคลของแค้วนว่านโซ่วพวกเรา ได้ฝึกปรือวิชาทั้งด้านปรุงกลั่นยาเม็ดและทักษะยุทธ หนึ่งไม่มีสองในหล้า และจะต้องได้เป็นราชันแท้จริงในอนาคต ส่วนเทพสงครามสตรีคือสาวงามอันดับหนึ่งแห่งแดนลัทธิพรรษพวกเรา มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ กล่าวได้ว่าคุณชายของพวกเรากับเทพสงครามสตรีเป็นคู่สร้างคู่สม คุณชายได้ใช้ประโยชน์จากราชาบัว เทพสงครามสตรีได้ใช้ประโยชน์จากราชินีบัว นับว่ายอดเยี่ยมที่สุดไม่มีอะไรที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว”
“อย่าได้พูดพล่อยๆ ระวังกลับไปแล้วจะต้องถูกตบปาก” คุณชายหุยชุนตวาดห้ามปรามเบาๆ สำหรับการประสบประแจงของหวูเลี่ยน แม้ว่าปากจะทำทีตวาดห้ามปรามหวูเลี่ยน แต่ภายในใจของเขากลับเป็นสุขยิ่งนัก และรู้สึกยินดีปรีดาอยู่ในใจ ดังนั้นการตวาดเช่นนี้ของเขาเป็นเพียงการแสแสร้งเท่านั้นเอง
สำหรับผู้อาวุโสผู้มีความรู้ระดับบรรพบุรุษก็ได้แต่ยิ้มๆ เท่านั้นเอง และไม่ไปเปิดโปงเรื่องนี้ แม้ว่าพวกเขาเองก็มีใจต้องการประจบประแจงต่อคุณชายหุยชุน แต่กับเรื่องเช่นนี้พวกเขาเองก็ไม่กล้าพูดให้สุด แม้จะกล่าวว่าคุณชายหุยชุนนั้นมีความยอดเยี่ยม แต่ว่าเทพสงครามสตรีแห่งจูเซียงก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน พวกเขาที่เป็นผู้อาวุโสผู้มีความรู้เหล่านี้ก็ไม่กล้าจับคู่กันสุ่มสี่สุ่มห้า
“คำพูดนี้ของพี่หวูเลี่ยนก็ไม่ผิด” อัจฉริยะบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ก็กล่าวสนับสนุนขึ้นมาว่า “คุณชายกับเทพสงครามสตรีคือกิ่งทองใบหยก เป็นคู่สร้างคู่สม นับว่าสมบูรณ์ไร้ที่ติ”
ยาเม็ดเผยหยวนตันที่ปรุงกลั่นโดยคุณชายหุยชุนก็คือสิ่งยอดเยี่ยมอย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่ามีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนเท่าไรที่ต้องการยาเม็ดเผยหยวนตันยิ่งนัก ดังนั้น ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยก็ยินดีประจบคุณชายหุยชุนอย่างเต็มที่
แน่นอนที่สุด มีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ส่วนหนึ่งที่ไม่ยินดีในเรื่องนี้ จะอย่างไรเสียมีบุรุษหนุ่มรูปงามจำนวนไม่น้อยในแดนลัทธิพรรษที่มีใจรักใคร่ในตัวของเทพสงครามสตรีแห่งจูเซียง พวกเขาย่อมไม่สบายใจเมื่อได้ยินคำพูดลักษณะเช่นนี้
“มิกล้า มิกล้า” คำพูดลักษณะเช่นนี้ย่อมทำให้ภายในใจของคุณชายหุยชุนเป็นสุขยิ่งนัก เขารีบกล่าวว่า “คำพูดเช่นนี้พูดส่งเดชไม่ได้ พูดส่งเดชไม่ได้ หากให้เทพสงครามสตรีได้ยินเข้าก็จะไม่ดี ไม่ดีแล้วล่ะ”
“แม้ว่าปากของคุณชายหุยชุนจะถ่อมตนเช่นนี้ แต่ว่า ในใจของเขาดูจะสุขใจเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเปี่ยมด้วยความสุขเต็มใบหน้า เหมือนว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นจริงๆ อย่างนั้น กระทั่งเขาฝันถึงภาพของการได้ครอบครองสาวงามแล้ว”
“คนที่หน้าไม่อายข้าเห็นมาเยอะมากแล้ว แต่ประเภทที่ต่างเยินยอกันเองซึ่งกันและกันนั้น นับว่าพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก” ในเวลานี้เอง ปรากฏเสียงปรบมือดังขึ้นเป็นระลอก เป็นเสียงที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยดังขึ้นมา ทำลายบรรยากาศมิตรภาพที่ชื่นมื่นของพวกคุณชายหุยชุน
ทุกคนต่างมองไปตามต้นเสียงที่ได้ยิน เห็นเพียงชายหนุ่มที่ธรรมดาๆ คนหนึ่งได้ยืนอยู่ด้านนอกหุบเขาของสระบงกชแล้ว เขายืนอยู่ตรงนั้นและเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าออกมา
คนผู้นี้ก็คือหลี่ชิเย่ที่เพิ่งกลับมาถึงบนพื้นดินนั่นเอง เมื่อได้ยินคำพูดที่ต่างฝ่ายต่างประจบประแจงซึ่งกันและกันถึงกับกับหัวเราะขึ้นมา และไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย
“เป็นเขานั่นเอง” มีผู้ที่จดจำเขาได้ทันทีและรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นหลี่ชิเย่ยืนอยู่ด้านนอกหุบเขา
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองสบตากันและกัน ไม่นานก่อนหน้านี้หลี่ชิเย่เพิ่งจะบังคับให้หวูเลี่ยนกินดินโคลน เวลานี้เขาได้มาปรากฏตัวขึ้นที่ตรงนี้อีก ทั้งยังออกปากล่วงเกินต่อพวกของคุณชายหุยชุนทั้งหมด
สิ่งนี้สร้างความแปลกใจให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก ชายหนุ่มที่แลดูธรรมดาๆ ไม่สะดุดตาผู้นี้เป็นใครกันแน่ถึงกับหาญกล้าเช่นนี้ กล้าหาเรื่องกระทั่งคุณชายหุยชุน
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา เท่ากับเป็นการตบหน้าคุณชายหุยชุนฉาดหนึ่งต่อหน้าผู้คนมากมาย ทำให้สีหน้าของคุณชายหุยชุนบี้งตึงขึ้นทันที พลันมีสีหน้าที่ดูไม่จืดทันที
“เป็นเจ้าอีกแล้ว” ดวงตาทั้งสองของหวูเลี่ยนพ่นเป็นไฟแห่งความโกรธออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นหลี่ชิเย่ ถึงกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เวลานี้เขาแทบอยากจะสับหลี่ชิเย่ให้เป็นหมื่นๆ ชิ้นให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
“สหาย หยุดอยู่ตรงนี้ สถานที่แห่งนี้บุคคลภายนอกห้ามเข้า” ในขณะที่หลี่ชิเย่จะก้าวเท้าเข้าไปยังสระบงกชนั้น ศิษย์แคว้นว่านโซ่วที่เฝ้ารักษาการณ์อยู่ปากทางเข้าหุบเขาจึงเข้าขวางทางของเขาทันที
ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น หลี่ชิเย่เพียงสะบัดมือไปตามอารมณ์ ก็จัดการกับศิษย์เหล่านี้จนกระเด็น แล้วเดินลิ่วเข้าไปยังหุบเขาโดยไม่ได้มองดูพวกเขาสักแวบหนึ่ง
ภายในสระบงกชแห่งนี้ มีระดับบรรพบุรุษผู้อาวุโสและมีความรู้ มีระดับบรรพบุรุษจากสำนักเจ้าลัทธิและตระกูลขุนนางโบราณ และยังมีอัจฉริยะบุคคลจากตระกูลขุนนางโบราณ ยิ่งไปกว่านั้น คุณชายหุยชุนยังอยู่ระหว่างให้การต้อนรับพวกเขาเหล่านั้นในฐานะเจ้าบ้าน
เวลานี้ หลี่ชิเย่จัดการกับบรรดาศิษย์ของแคว้นว่านโซ่วจนกระเด็นไปทันที มันเป็นการตบหน้าของคุณชายหุยชุนชัดๆ และเป็นการตบหน้าแคว้นว่านโซ่วของพวกเขา