ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2253 ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่า

ตอนที่ 2253 ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่า
“ไม่มีไม้เย่ามู่ ไม่มีอะไรเลย” จางเหยียนรู้สึกโล่งอกอย่างสิ้นเชิงและกลับไปอยู่บนเรือ เมื่อมองเห็นบริเวณดินโคลนที่ถูกระเบิดออกมานั้นไม่มีสิ่งใดอยู่เลย
หูชิงหนิวเองก็อาศัยจมูกของเขาสูดดมอากาศ ตัวเขาในฐานะหมอเทวดามีประสบการณ์มากมาย ขอเพียงมีไม้เย่ามู่อยู่เขาแค่สูดดมอากาศบริเวณนี้ก็สามารถได้กลิ่นหอมของไม้ได้แล้ว แต่เขาได้สูดดมอย่างละเอียดแล้ว นอกจากกลิ่นเน่าเปื่อยของดินโคลนแล้ว ไม่พบกลิ่นหอมของไม้ใดๆ แต่อย่างใด
“ที่ตรงนี้ไม่มีไม้เย่ามู่” สุดท้ายหูชิงหนิวลงความเห็นอย่างหนักแน่น
เมื่อได้ยินข้อสรุปของหูชิงหนิวแล้ว ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ หาดดินโคลนที่ระเบิดออกมาแล้วไม่มีสิ่งใดอยู่เลย เป็นสิ่งที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกๆ คน
“ไม่มีไม้เย่ามู่จริงๆ นะเนี่ย” เวลานี้ ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยต่างมองตากันและกัน และวิจารณ์กันเสียงแผ่วเบา มีบางคนที่รู้สึกเสียใจ หากรู้แต่แรกว่าไม่มีไม้เย่ามู่พวกเขาก็ลงเดิมพันด้วย เมื่อเป็นฝ่ายชนะแล้วไม่ว่าจะอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ได้หน้าได้ตา
“ดูท่าสถานที่ตรงนี้เคยมีไม้เย่ามู่อยู่นะเนี่ย เสียดายที่เหามอดไม้สร้างรังอยู่ที่ตรงนี้ เกรงว่าไม้เย่ามู่ที่จมทับถมอยู่ที่ตรงนี้คงถูกพวกมันแทะกินจนหมดไปนานแล้ว เป็นการคำนวณที่ผิดพลาดนะเนี่ย” มีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่กล่าวคาดการณ์ขึ้นมา
“เจ้าแพ้แล้ว” เวลานี้หูชิงหนิวกล่าวเสียงเย็นชาว่า “ต่อให้ที่ตรงนี้เคยมีไม้เย่ามู่มาก่อน แต่เวลานี้ไม่มีอยู่แล้ว คาดผิดก้าวเดียวแพ้ทั้งกระดาน”
“พวกเราชนะแล้ว” เวลานี้จางเหยียนถึงกับดีใจอย่างยิ่ง ตัวเขาที่ยังคงลังเลก่อนหน้าถึงกับระงับอารมณ์ความดีใจภายที่อยู่ภายในใจไม่อยู่ จ้องไปที่หลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “เวลานี้ควรเป็นเวลาที่เจ้าจะได้แสดงการแทะกินดินโคลนได้แล้ว”
“ยังคงเป็นหมอเทวดาที่ยอดเยี่ยมมาก สายตาคมกริบ แค่มองดูก็สามารถมองทะลุ เยี่ยมมาก” มีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ถือโอกาสในเวลานี้ประจบสอพรอหูชิงหนิว จะอย่างไรเสียชีวิตของผู้บำเพ็ญตนอยู่กับคมดาบ บอกไม่ได้ว่าเมื่อไรได้รับบาดเจ็บต้องขอความช่วยเหลือจากหูชิงหนิวก็ได้
แหะ…หมอเทวดาหูและตันหวังน้อยนับว่ายอดเยี่ยมมาก เอาชนะได้อย่างง่ายดาย มีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ถือโอกาสซ้ำเติมและพูดฉีกหน้าว่า “ดินโคลนคงไม่อร่อย ถ้าหากรู้สึกติดคอล่ะก็ สามารถผสมกับน้ำบึงมาดื่มก็ได้ น้ำในบึงโอสถของพวกเรามาจากบนสวรรค์ และมีรสชาติของไม้เย่ามู่เหมือนกัน”
ในเวลานี้ ทุกคนต่างมองดูหลี่ชิเย่ ส่วนใหญ่แล้วท่าทางบ่งบอกว่าดีใจที่เห็นคนอื่นได้รับความเดือดร้อน การที่หลี่ชิเย่ได้รับการปรนนิบัติจากสองสาวงามอย่างมู่หย่าหลันและฉินซาวเย่า ช่างเป็นโชคทางความรักขนาดไหน แล้วจะไม่ให้บรรดาผู้รักใคร่ชื่นชมเหล่านี้เกิดความริษยาได้อย่างไร พวกเขาต้องการให้หลี่ชิเย่ได้รับความอับอายเดี๋ยวนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไป อยากจะให้หูชิงหนิว และจางเหยียนได้ทำให้หลี่ชิเย่ให้ได้อายอย่างเต็มที่ พวกเขาเองก็จะได้รู้สึกสบายใจไปด้วย
“ท้องฟ้าโปร่งแบบนี้ แทะกินดินโคลนและดื่มน้ำบึงไปด้วยยิ่งเข้ากันได้ดีเลยนะ” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่อดที่จะพูดหยอกล้อเสียงแผ่วเบาขึ้นมา
หลี่ชิเย่เพียงยิ้มเฉยเมย ดื่มชาโสมที่อยู่ในมือ ท่าทางไม่ได้ร้อนรนอะไรแม้แต่น้อย ยังคงไม่สะทกสะท้าน ยังคงสบายอกสบายใจ
“ต่อให้เจ้าคิดจะประวิงเวลาก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อแพ้แล้วก็ควรทำตามสัญญา รีบๆ มากินดินโคลนเสีย” เมื่อจางเหยียนเห็นหลี่ชิเย่ยังคงโอ้เอ้นั่งดื่มชาโสมอย่างเชื่องช้า
ในที่สุดก็ชนะมาได้ตาหนึ่ง ทำให้ภายในใจของเขารู้สึกสบายใจเป็นพิเศษ มีความรู้สึกเหมือนได้ลืมตาอ้าปาก โดยเฉพาะสามารถทำให้หลี่ชิเย่ต้องเสียหน้าต่อหน้ามู่หย่าหลัน กับฉินซาวเย่า มันช่างเป็นเรื่องที่สะใจเช่นใด
“พูดได้แต่เพียงว่าพวกเจ้าอ่อนเยาว์เหลือเกิน” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าและกล่าวว่า “ประสบการณ์ตื้นเขินก็แล้วกันไป แม้แต่ความอดทนขั้นพื้นฐานที่สุดสักนิดก็ยังไม่มี มาตรฐานเช่นนี้ก็กล้าออกมาท่อง”
จางเหยียนส่งเสียงฮึไม่พอใจ และกล่าวดูแคลนว่า “ไม่ใช่เวลาที่พวกเรามาฟังเจ้าสั่งสอน เวลานี้เป็นเวลาที่ดูเจ้าแทะดินโคลน…”
จี๊ด…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่จางเหยียนพูดยังไม่ทันจบ บริเวณหาดดินโคลนพลันเห็นเป็นน้ำถูกฉีดพ่นขึ้นมาสายหนึ่งกะทันหัน ได้ยินเสียงดังช่าาาเสียงหนึ่ง ภายใต้ดินโคลนมีสิ่งหนึ่งอ้าออก พลิกเอาดินโคลนขึ้นมาทั้งหมด เมื่อน้ำสายนั้นตกลงมาก็ได้ชะล้างดินโคลนรอบๆ ออกไปหมด
ช่าาา…ในที่สุดภายในดินโคลนมีสิ่งหนึ่งที่อ้าปากกว้างขนาดใหญ่ออกมา
“นั่นมันหอยอะไร…” เวลานี้ทุกคนต่างทยอยมองตามไป ปรากฏหอยขนาดยักษ์ขึ้นที่หาดดินโคลนตัวหนึ่ง หอยยักษ์ตัวนี้มีขนาดเท่ากับหน้าโต๊ะตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ยามที่หอยขนาดยักษ์ตัวนี้อ้าฝาหอยของมันออกมานั้น พลันปรากฏหมอกควันที่ลอยขึ้นมาเหมือนควันที่ถูกพ่นออกมา
“หอมมาก…” ยามที่หมอกควันสายนี้ลอยขึ้นมานั้น บรรดาผู้คนทั้งหมดล้วนแล้วแต่ได้กลิ่นหอมของไม้อยู่สายหนึ่ง พริบตาเดียวนั่นเองทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าตัวเองนั้นอยู่ท่ามกลางป่าไม้ กลิ่นหอมของไม้สายนี้ช่างเข้มขนเหลือเกิน ทำให้ผู้คนเหมือนอาบเอิบอยู่ท่ามกลางกลิ่นหอมของไม้นี้จนควบคุมตนเองไม่ได้ เหมือนเป็นเหล้าเก่าที่ทำให้ผู้คนลุ่มหลง
“ไม้เย่ามู่ ไม้เย่ามู่ชั้นเลิศ!…” หูชิงหนิวในฐานะหมอเทวดาถึงกับกล่าวด้วยความตกใจเมื่อได้กลิ่นหอมสายนี้แล้ว
ปุ…บังเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น เมื่อหอยยักษ์ตัวนี้ได้อ้าฝาออกมาอย่างเต็มที่ ภายในตัวหอยปรากฎแสงที่จางๆ แผ่ออกมา ขณะที่แสงสีเขียวอ่อนตลบอบอวลขึ้นมา เสมือนดั่งนำมาซึ่งความมีชีวิตชีวาที่น่าเกรงขามไม่สิ้นสุดมาด้วย เหมือนเป็นโลกแห่งทุ่งกว้างอันเป็นที่ลาบที่เปี่ยมด้วยชีวิตถูกเปิดออกอย่างนั้น
ทุกคนทอดสายตามองออกไป มองเห็นแสงสีเขียวอ่อนจางๆ นั้นแผ่ออกมาจากสิ่งของสิ่งหนึ่ง สิ่งของสิ่งนี้ถูกหอยยักษ์อมอยู่ภายใน ไม่ทราบว่าได้บ่มฟักมาแล้วกี่ปี
สิ่งของสิ่งนี้มีลักษณะรูปทรงยาวไม่ได้มีมาตรฐาน มองดูคล้ายเป็นท่อนไม้เก่าแก่ท่อนหนึ่ง ดูจากชั้นขาดที่ทับซ้อนกันสามารถมองเห็นได้ลางๆ ถึงวงปีแต่ละวง เพียงแต่ท่อนไม้เก่าแก่ท่อนนี้ถูกสายน้ำกัดเซาะมาแล้วนานเท่าไร และไม่รู้ว่าได้ถูกหอยยักษ์บ่มฟักมาแล้วเท่าไร ชั้นขาดได้สูญเสียเหลี่ยมมุมไปแล้ว กลายเป็นกลมมนและลื่นยิ่งนัก
อีกทั้งท่อนไม้แก่ท่อนนี้ได้กลายเป็นฟอสซิลไปแล้ว เหมือนว่ามันได้จมทับถมอยู่ในดินมาเป็นเวลาพันล้านปี ไม่ได้อยู่ในสภาพของไม้อีกต่อไป เสมือนดั่งได้กลับกลายเป็นหินหยกแล้วอย่างนั้น
ท่อนไม้เก่าแก่ลักษณะเช่นนี้มีความยาวราวสามฟุตเศษ แผ่กระจายกลิ่นหอมออกมาสายหนึ่ง เมื่อได้สูดดมกลิ่นหอมสายนี้เบาๆ สามารถขจัดสกปรกชำระล้างจิตใจ เสมือนหนึ่งได้ลงไปอาบอยู่ในน้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้น
“คุณภาพชั้นเลิศ ไม่สิ สามารถเรียกได้ว่าเป็นไม้เย่ามู่ระดับเทพ” แม้แต่หูชิงหนิวก็ต้องรู้สึกหวั่นไหว เมื่อได้เห็นท่อนไม้แก่ท่อนนี้ ถึงกับมองจนน้ำลายไหลยืด
เวลานี้ หลี่ชิเย่ยื่นมือออกไป และคว้าเอาท่อนไม้แก่ท่อนนี้มาได้ มองดูแล้วหัวเราะและกล่าวว่า “นับว่าเป็นของดีโดยแท้ มันคือรากแก้วท่อนหนึ่งของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ผ่านการบ่มฟักมาเป็นล้านล้านปี เกือบจะสามารถสื่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว ไม้ผุท่อนหนึ่งกลายเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ นับว่าเหลือเชื่ออยู่ไม่น้อย”
“หุบเขาของพวกเราก็เคยมีไม้เย่ามู่ขั้นเทพครอบครองอยู่ท่อนหนึ่ง มีเพียงท่อนเดียวเท่านั้น ขนาดไม่ได้ใหญ่เท่านี้ มีความยาวแค่ฟุตเศษ เหล่าบรรพบุรุษบูชาดั่งของล้ำค่า เคยอาศัยมันช่วยฟื้นฟูร่างกาย” มู่หย่าหลันถึงกับตกใจเมื่อมองเห็นไม้เย่ามู่ที่อยู่ในมือหลี่ชิเย่ท่อนนี้
ครั้นผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่คนอื่นๆ ที่อยู่บนเรือได้สติกลับมานั้น ก็รู้สึกหวั่นไหวกับสิ่งนี้เช่นกัน พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นผู้บำเพ็ญตนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ มีความเข้าใจใจคุณภาพของสมุนไพรเป็นอันมาก พวกเขาสามารถเข้าใจถึงมูลค่าของไม้เย่ามู่ระดับเทพท่อนหนึ่ง ซึ่งมันเป็นของล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้
สมุนไพรเซียนขั้นเทพที่หุบเขาอมตะมีไว้ในครอบครองมีมากมายดั่งดอกเห็ด ธาตุแท้ภายในของหุบเขาอมตะในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะก็ไม่มีแคว้นเจ้าลัทธิใดๆ สามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว
แต่ทว่าไม้เย่ามู่ระดับเทพเช่นนี้ ในหุบเขาอมตะก็มีอยู่เพียงแค่ท่อนเดียวที่มีความยาวเพียงหนึ่งฟุตเศษเท่านั้นเอง เทียบกับไม้เย่ามู่ระดับเทพท่อนที่อยู่ตรงหน้าซึ่งยาวถึงสามฟุตเศษแล้ว ไม่รู้ว่าด้อยกว่ากันเท่าไร
“ของวิเศษที่ประเมินค่าไม่ได้” มีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองดูแล้วถึงกับน้ำลายไหลยืด เมื่อน้ำลายหยดใส่เสื้อผ้าจึงได้สติกลับมา รีบปาดน้ำลายด้วยท่าทีเขินอาย
บรรดาผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างจ้องมองไม้เย่ามู่ระดับเทพที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่จนน้ำลายหก แม้ว่าพวกเขาจะมีชาติกำเนิดที่ไม่ธรรมดา แต่หากว่าพวกเขาสามารถครอบครองไม้เย่ามู่ระดับเทพลักษณะเช่นนี้ล่ะก็ พวกเขาก็ร่ำรวยอย่างแน่นอน ถ้าหากนำกลับไปมอบให้กับสำนักของตน ต้องได้รับสิ่งตอบแทนที่น่าตกใจอย่างแน่นอน หรือต่อให้เก็บเอาไว้กับตัวเอง มันก็คือสุดยอดไม้ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดท่อนหนึ่งเช่นกัน
‘หอยศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่า’ ระหว่างที่สายตาของทุกคนไปรวมอยู่ที่ไม้เย่ามู่ระดับเทพที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่ สายตาของฉินซาวเย่ากลับถูกหอยขนาดยักษ์ที่อยู่ในดินโคลนดึงดูดเอาไว้ กล่าวด้วยความตระหนกว่า “นี่ก็เป็นพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ หอยตัวนี้พบเห็นได้ยากยิ่งในหล้า”
“ถูกต้อง นับว่าซาวเย่ามีประสบการณ์ดี” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “เพียงแต่ มันได้ครอบครองรากแก้วท่อนนี้ก่อนก้าวหนึ่ง บุ่มฟักมานานนับสิบล้านปี ขณะที่เหามอดไม้อยากได้มันแต่สู้หอยตัวนี้ไม่ได้ ดังนั้น พวกมันจึงไม่ยอมแพ้ด้วยการสร้างรังอยู่ในดินโคลน เพื่อรอคอยโอกาสเท่านั้นเอง”
“หอยตัวนี้หากนำมาเคี่ยวเป็นยาครีม สามารถปรุงเป็นสุดยอดโอสถเทพ” ในใจของหูชิงหนิวถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินฉินซาวเย่าพูดถึง ‘หอยศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่า’ เมื่อครู่เขาไม่ทันสังเกตถึงหอยตัวนี้ ในฐานะที่เป็นหมอเทวดาเขารู้เรื่องของหอยตัวนี้ แต่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน และรู้ถึงมูลค่าของมัน
เวลานี้ หลี่ชิเย่ลงมือด้วยการหยิบมีดเงินออกมาและผ่าเนื้อของหอยศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่าให้เปิดออก ท่วงท่าของเขาต่อเนื่องรวดเร็วและชำนิชำนาญ ทำให้มองตามแทบไม่ทัน
เสียงปุเสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่เฉือนเนื้อหอยให้เปิดออกนั้น หลี่ชิเย่ถึงกับหยิบเอาสิ่งหนึ่งออกมาจากเนื้อหอย มันเป็นมุกทองเม็ดหนึ่ง พลันที่มุกทองเม็ดนี้ปรากฏ เสมือนดั่งเป็นดวงอาทิตย์ร้อนแรงดวงหนึ่ง เปล่งประกายที่ยิ่งใหญ่ออกมา ประกายสีทองที่แวบวับนี้กระทั่งผู้คนยากที่จะลืมดวงตาทั้งสองขึ้นมา
“ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่า…” ฉินซาวเย่าถึงกับร้องเสียงหลงออกมา เมื่อมองเห็นไข่มุกทองคำเม็ดนี้ และกล่าวว่า “เล่าลือกันว่าหอยศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่าหนึ่งพันตัวจึงได้ไข่มุกทองคำเม็ดหนึ่ง ไข่มุกนี้ประเมินค่ามิได้ เคยมีบรรพบุรุษในหุบเขาอยากได้มากแต่ไม่ได้มา”
‘หอยศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่า!’ จางเหยียนมองตาค้าง พึมพำขึ้นมาว่า “บรรพบุรุษของพวกเราก็มีอยู่เม็ดหนึ่ง เคยมีระดับอมตะใช้ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่าเม็ดเท่าหัวแม่มือเม็ดหนี่งแลกกับยาเม็ดอายุวัฒนะขวดหนึ่ง”
บรรพบุรุษของจางเหยียนก็คือตันหวัง เขามีฐานะที่สูงส่งยิ่งนักในแดนลัทธิพรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเม็ดอายุวัฒนะที่ปรุงกลั่นขึ้นโดยเขานั้นประเมินค่าไม่ได้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรอยากได้แต่ก็ไม่ได้
ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่าเม็ดเท่าหัวแม่มือเม็ดหนึ่งถึงกับแลกยาเม็ดอายุวัฒนะได้ขวดหนึ่ง ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่ามูลค่าของมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน
แต่แล้ว เวลานี้ไข่มุกทองคำเม็ดนี้ในมือของหลี่ชิเย่กลับมีขนาดเท่าไข่นกพิราบ ย่อมจินตนาการได้ว่าไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่าเม็ดนี้ในมือของหลี่ชิเย่เมื่อเทียบกับเม็ดนั้นของบรรพบุรุษพวกเขาไม่รู้ว่าล้ำค่ากว่ากันอีกเท่าไร
ได้รับไม้เย่ามู่ระดับเทพมาท่อนหนึ่งก็สร้างความหวั่นไหวให้กับผู้คนแล้ว เวลานี้หลี่ชิเย่ยังได้ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่ามาอีกเม็ดหนึ่ง เท่ากับยิงธนูดอกเดียวได้นกสองตัว มิน่าเล่าเขาจึงได้มาขุดถ้ำดินที่นี่ตลอดเวลา ที่แท้ไม่ได้เพียงเพื่อไม้เย่ามู่เท่านั้นเอง
เสียงฟู่วววดังขึ้นเสียงหนึ่ง เวลานี้หลี่ชิเย่ได้หยิบเอาน้ำเต้าสุริยันออกมา และเรียกอภินิหารคืน หลังจากที่หลี่ชิเย่เรียกคืนอภินิหารแล้ว ได้ยินเสียงดังปุ ปุ ปุขึ้นมา หอยศักดิ์สิทธิ์ชิงเฮ่าได้หุบฝาหอยลง แล้วตามติดด้วยเสียงดังปุเสียงหนึ่ง หอยยักษ์ตัวนี้ได้หนีลึกลงไปในบึงโอสถ และหายไปในชั่วพริบตาเดียว
ภาพเช่นนี้ทำให้ผู้พบเห็นถึงกับอ้าปากต้าค้าง ทุกคนต่างไม่รู้ว่าหอยตัวนี้สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้
…………………………………………………….
ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท