หลังจากที่ธูปก้านที่หนึ่งถูกจุดขึ้นแล้ว เสียงระฆังที่เอ้อระเหยสบายๆ ดังก้องไปทั่วทั้งเรือนโอสถ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มาจากสำนักต่างๆ ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะต่างมีกำลังวังชาขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงระฆังลักษณะเช่นนี้ดังขึ้นมาแล้ว ทุกคนต่างรู้ว่าพิธีเซ่นไหว้กำลังจะเริ่มขึ้น และจะเป็นการประกาศว่ายุคๆ หนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะกำลังจะมาถึงแล้ว
หากเปลี่ยนเป็นอดีต บรรยากาศไม่ได้มีความตึงเครียดและแตกต่างมากมายเช่นนี้ จะอย่างไรเสียพิธีการเซ่นไหว้ในอดีตก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากมายนัก หุบเขาอมตะยังคงกุมอำนาจปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ และระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะยังคงสืบทอดและพัฒนาต่อไปเช่นนี้ตลอดไป
แต่ทว่า ทุกคนต่างก็รู้ว่าในพิธีเซ่นไหว้ครั้งนี้อาจมีการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ แคว้นว่านโซ่วจะช่วงชิงอำนาจ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สำนักต่างๆ จำนวนมากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะต่างก็มีจิตใจที่แตกต่างกันไป บางคนเฝ้ารอคอยการมาถึง บางคนร้อนรนกังวล และมีบางคนมีจิตใจไม่เป็นสุข
“กษัตริย์ของแคว้นว่านโซ่วเสด็จมาด้วยพระองค์เอง เป็นตัวแทนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะให้การต้อนรับผู้แทนจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิต่างๆ ของแดนลัทธิพรรษ และร่วมปรึกษาหารือถึงแผนการในอนาคตกับผู้พเนจรหยางหมิง” หลังจากเสียงระฆังที่เอ้อระเหยดังขึ้นมาได้ไม่นาน ภายในเรือนโอสถได้มีข่าวเช่นนี้เผบแพร่ออกมา
ไม่รู้ว่ามีผู้ที่จงใจปล่อยข่าวนี้ออกมาหรือไม่ ภายในระยะเวลาอันสั้น ข่าวเช่นนี้ก็คล้ายดั่งพายุฝนฟ้าคะนองที่โหมพัดไปทั่วทั้งเรือนโอสถ
บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจากสำนักต่างๆ ภายใต้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะที่มาร่วมในพิธีเซ่นไหว้ต่างรู้สึกเย็นวาบภายในใจ และรู้สึกใจหายใจคว่ำ
ต่อให้มีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอื่นๆ ส่งผู้แทนมาเข้าร่วมพิธีเซ่นไหว้ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ก็ควรจะเป็นหุบเขาอมตะที่ให้การรับรอง จะอย่างไรเสียหุบเขาอมตะเป็นผู้กุมอำนาจปกครองของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ มีเพียงหุบเขาอมตะเท่านั้นที่มีอำนาจแทนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ
เวลานี้ กษัตริย์ของแคว้นว่านโซ่วถึงกับล้ำเส้นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ให้การต้อนรับตัวแทนต่างๆ ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอื่นๆ โดยตรง นี่ไม่เพียงแค่ล้ำเส้นเท่านั้น แต่เป็นการเข้าแทนที่เสียแล้ว ทุกคนต่างรับรู้ถึงความทะเยอทะยานได้
สิ่งที่ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะต้องเย็นวาบยิ่งกว่าก็คือ กษัตริย์ของแคว้นว่านโซ่วถึงกับเชิญผู้พเนจรหยางหมิงมาได้ ซึ่งไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ผู้พเนจรหยางหมิงคือหัวหน้าพรรคของพรรคหยางหมิง ถือเป็นหนึ่งในสองนักพรตแห่งแดนลัทธิพรรษร่วมกับนักพรตฉางเซิน ฝีมือลึกล้ำยากจหยั่งถึง มีความแข็งแกร่งยิ่งนัก
ถ้าหาก ผู้พเนจรหยางหมิงให้การสนับสนุนต่อกษัตริย์ของแคว้นว่านโซ่วจริงล่ะก็ ย่อมบ่งบอกว่าหากแคว้นว่านโซ่วช่วงชิงอำนาจได้เป็นผลสำเร็จ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิต่างๆ ในแดนลัทธิพรรษเป็นจำนวนมากก็จะให้การรับรองความชอบธรรมถึงฐานะของแคว้นว่านโซ่ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุบเขาอมตะอย่างยิ่ง
จะอย่างไรเสียความแข็งแกร่งของพรรคหยางหมิงสามารถถูกจัดให้อยู่ในสามอันดับแรกของแดนลัทธิพรรษ กระทั่งมีผู้ที่คิดว่ามันคืออันดับหนึ่งของแดนลัทธิพรรษ ถ้าหากสามารถได้รับการยอมรับจากพรรคหยางหมิงย่อมมีความแตกต่างอย่างแท้จริง
“ฟ่านเมี่ยวเจินและเหล่าศิษย์ของหุบเขาอมตะสมคบคิดกับฝ่ายมาร หมายชิงอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ถูกคุณชายหุยชุนแห่งแคว้นว่านโซ่วเปิดโปง!” ข่าวกษัตริย์แคว้นว่านโซ่วพบกับผู้พเนจรหยางหมิงเพิ่งจะแพร่ออกมา ก็ตามติดด้วยข่าวที่สะเทือนลือลั่นออกมา
เมื่อข่าวนี้ถูกแพร่ออกมา พลันทำให้ทั่วทั้งเรือนโอสถเหมือนถูกระเบิดลงอย่างนั้น บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะต่างตกใจยิ่งนัก โดยเฉพาะระดับผู้อาวุโสและบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิและตระกูลขุนนางโบราณถึงกับสีหน้าแปรเปลี่ยนมากทีเดียว รู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว
ข่าวกษัตริย์แคว้นว่านโซ่วไปพบกับผู้พเนจรหยางหมิงเพิ่งปรากฏ เวลานี้ก็มีข่าวของพวกฟ่านเมี่ยวเจินที่สมคบคิดฝ่ายมารเกิดขึ้น ข่าวเช่นนี้ออกจะทันกาลเกินไปรวดเร็วมากไปแล้วกระมัง
นี่มันเสมือนดั่งมีแผนการล่วงหน้า ทุกอย่างพัฒนาไปตามบทที่ตนได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วอย่างนั้น
“พวกของฟ่านเมี่ยวเจินและศิษย์วางแผนกบฏพ่ายแพ้ บรรดาศิษย์ถูกแคว้นว่านโซ่วควบคุมตัวรอการไต่สวน ส่วนหัวหน้าผู้ก่อการฟ่านเมี่ยวเจินหลบหนีไปได้ โดยหนีไปยังยอดเขาที่สูงที่สุด ขณะที่คุณชายหุยชุนพาผู้คนไล่ติดตามเข้าไปยังยอดเขาที่สูงที่สุด สาบานว่าจะต้องจับกุมตัวฟ่านเมี่ยวเจินให้ได้” ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้สติกลับมา ข่าวที่สามก็เหมือนระเบิดที่ทิ้งลงไปในเรือนโอสถ
“เล่นของจริงแล้ว นี่เป็นการหักหน้ากันอย่างเปิดเผย แคว้นว่านโซ่วกับหุบเขาอมตะต้องเป็นปฏิปักษ์กันถึงที่สุด” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณได้ทราบข่าวนี้แล้วก็ต้องมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมาก
ฟ่านเมี่ยวเจินเป็นใครกัน? ทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แล้วว่า นางคือศิษย์เอกของนักพรตฉางเซิน เป็นผู้คอยแบ่งเบาภาระต่างๆ ให้กับนักพรตฉางเซินอยู่เสมอๆ อาจกล่าวได้ว่าผู้คนจำนวนมากในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะล้วนแล้วแต่ยอมรับในฐานะของฟ่านเมี่ยวเจิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการต้อนรับขับสู้ก็นับว่ามีท่วงทำนองของผู้มีฐานะสูงส่ง เคยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผู้คนจำนวนมากต่างมองว่าฟ่านเมี่ยวเจินจะต้องรับตำแหน่งต่อจากนักพรตฉางเซิน
มาวันนี้ แคว้นว่านโซ่วพลันประกาศว่าฟ่านเมี่ยวเจินสมคบคิดกับฝ่ายมารเพื่อช่วงชิงอำนาจ กระทั่งแคว้นว่านโซ่วส่งคนตามล่าฟ่านเมี่ยวเจินโดยตรง เรื่องเช่นนี้นับเป็นเรื่องทีตลกมาก อีกทั้งเป็นการก้าวล่วงอย่างสิ้นเชิง
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าฟ่านเมี่ยวเจินสมคบคิดฝ่ายมารหรือไม่ ต่อให้มีการสมคบคิดกับฝ่ายมารจริง ก็ไม่ใช่หน้าที่ของแคว้นว่านโซ่วมาตัดสิน ต้องให้หุบเขาอมตะเป็นผู้ที่มาจัดการกับศิษย์ทรยศเอง
เวลานี้แคว้นว่านโซ่วได้ก้าวล่วงหุบเขาอมตะโดยตรง ลงมือกับฟ่านเมี่ยวเจินในทันทีเพื่อจับกุมนาง เท่ากับไม่เห็นหุบเขาอมตะอยู่ในสายตา ต้องการแย่งชิงอำนาจโดยสิ้นเชิง
ทุกคนต่างรู้สึกขนลุกซู่ในใจเมื่อข่าวลักษณะเช่นนี้ถูกแพร่ออกมา เนื่องจากการแย่งชิงอำนาจของแคว้นว่านโซ่วไม่ได้หยุดอยู่ที่หลักการแล้ว และไม่ได้อยู่ที่ขั้นตอนของการหยั่งเชิง แต่เป็นการดำเนินการช่วงชิงอำนาจโดยตรงแล้ว
แม้ว่าก่อนหน้านี้ก็มีลางสังหรณ์ต่างๆ นานา แต่การที่แคว้นว่านโซ่วก่อการกบฎขึ้นอย่างกะทันหันดูจะรวดเร็วเกินไปแล้ว พายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นโดยไม่มีการโหมโรงใดๆ ก่อน เรียกได้ว่าลงมือสังหารแบบไม่ให้ทันตั้งตัว
“เหล่าตระกูลเย่ นิกายหลิวยวี่ แคว้นเสวี่ยเพียว…ต่างๆ ร่วมมือกับฟ่านเมี่ยวเจินสมคบคิดกับฝ่ายมาร บรรดาศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกแคว้นว่านโซ่วจับกุมคุมขังรอการไต่สวน เวลานี้ให้แคว้นว่านโซ่วรับมอบปฏิบัติหน้าที่เต็มรูปแบบสำหรับพิธีเซ่นไหว้” ทุกคนยังไม่ทันได้สติกลับมากับข่าวที่น่าตื่นตะลึง ข่าวที่สร้างความตื่นตะลึงข่าวที่สามก็ถูกเผยแพร่ออกมา
ภายในใจของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะถึงกับผวาหนักเมื่อได้ยินข่าวนี้ เนื่องจากบรรดาสำนักและตระกูลขุนนางโบราณเฉกเช่นตระกูลเย่ แคว้นเสวี่ยเพียวล้วนแล้วแต่เป็นผู้สนับสนุนหุบเขาอมตะอย่างแข็งขัน โดยสำนักเหล่านี้ติดตามหุบเขาอมตะมาโดยตลอด เรียกได้ว่าเป็นพวกมากประสบการณ์แล้ว
เวลานี้แคว้นว่านโซ่วพลันจัดการควบคุมตัวศิษย์ของบรรดาสำนักต่างๆ เหล่านี้ที่อยู่ในเรือนโอสถไว้ทั้งหมด ทำการกวาดล้างสิ้นในคราเดียวด้วยการจับกุมตัวไว้ทั้งหมด การกระทำของแคว้นว่านโซ่วใช่เพียงแค่ชิงอำนาจอย่างเดียว เป็นการกำจัดผู้ที่เห็นต่างและตัดตอนกำลังสนับสนุนที่มีต่อหุบเขาอมตะ
จากข่าวที่บรรดาผู้ติดตามสนับสนุนต่อหุบเขาอมตะอย่างแข็งขันถูกจับกุมตัวทั้งหมด ทำให้บรรดาสำนักต่างๆ จำนวนมากล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าตกอยู่ท่ามกลางอันตราย โดยเฉพาะสำนักที่มีกำลังไม่แข็งแกร่งพอ เวลานี้ถึงกับร้อนรนเป็นกังวลขึ้นมา เนื่องจากเวลานี้พวกเขาไม่อาจไม่ตัดสินใจเลือกข้าง ว่าจะเลือกอยู่ข้างหุบเขาอมตะ หรือไปเข้ากับแคว้นว่านโซ่ว ?
“พิธีเซ่นไหว้จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ สำนักทุกๆ สำนักของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะล้วนแล้วแต่เข้าร่วมได้ พิธีจะดำเนินการโดยกษัตริย์จากแคว้นว่านโซ่ว ฝ่าบาทของแคว้นว่านโซ่วจะร่วมกันทุกๆ คนกวาดล้างสิ้นพิษภัย คืนความสงบแจ่มใสให้กับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ” ในเวลานี้ แคว้นว่านโซ่วได้ปล่อยข่าวที่เป็นทางการยิ่งออกมาในที่สุด
ถ้าหากข่าวดังกล่าวข้างต้นออกมาจากแหล่งข่าวอื่นๆ อาจพิสูจน์ไม่ได้ว่าจริงหรือเท็จ แต่ข่าวนี้ทางแคว้นว่านโซ่วเป็นผู้ออกประกาศด้วยตนเอง ทุกอย่างย่อมไม่เหมือนเดิม เป็นการบ่งชี้ว่าแคว้นว่านโซ่วได้ควบคุมสถานการณ์เอาไว้แล้ว
“รวดเร็ว รวดเร็วจริงๆ พายุฝนฟ้าคะนองมาถึงในพริบตาเดียว” ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงวันเดียวเท่านั้น แคว้นว่านโซ่วก็ได้แย่งชิงอำนาจและแทนที่หุบเขาอมตะในการเป็นผู้ดำเนินการพิธีเซ่นไหว้เสียแล้ว ช่างเป็นความรวดเร็วเพียงใด และมีความพาลเช่นใด
แม้ว่าผู้คนจำนวนมากต่างคาดการณ์เอาไว้แล้วว่า แคว้นว่านโซ่วจะช่วงชิงอำนาจ แต่ว่ากล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว มันออกจะรวดเร็วมากเกินไป ภายในระยะเวลาอันสั้นก็เข้าแทนที่หุบเขาอมตะในการเป็นผู้ดำเนินการจัดพิธีเซ่นไหว้ มันออกจะสร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเกินไปแล้ว
“แคว้นว่านโซ่วมีกำลังเพียงพอที่จะแทนที่หุบเขาอมตะได้จริงรึ?” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสถึงกับคาดการณ์อยู่ภายในใจ จะอย่างไรเสียหุบเขาอมตะได้ปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะมานานนับไม่ถ้วน ไม่รู้ว่าผ่านอุปสรรคมากมายมาเท่าไร ยังคงยืนหยัดไม่ล้มลง อีกทั้งตลอดเวลาที่ผ่านมามีคนไม่มากที่รู้ว่าธาตุแท้ภายในของหุบเขาอมตะมีอยู่เท่าไรกันแน่
“เกรงว่าจะมีความเป็นไปได้แล้ว ในหลายยุคสมัยที่ผ่านมาเรียกได้ว่าแคว้นว่านโซ่วสั่งสมทรัพยากรมากกว่าใช้จ่ายออกไป กำลังทหารดั่งพระอาทิตย์ที่อยู่กลางหาว แคว้นว่านโซ่วอาศัยกำลังเลื่องลือในหล้า เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกร แม้ว่าหุบเขาอมตะจะปราศจากผู้ต่อกรด้านยาเม็ด สมุนไพร และการแพทย์ แต่ด้านกำลังทหารจะอย่างไรเสียก็ไม่ใช่สิ่งที่หุบเขาอมตะถนัด” ระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณถึงกับหวั่นไหว คิดจะหันไปพึ่งพาแคว้นว่านโซ่ว
จะอย่างไรเสีย ในช่วงเวลาหลายยุคหลายสมัยที่ผ่านมา หุบเขาอมตะทำตัวค่อมต่ำจนผู้คนเกือบจะละเลยไปได้แล้ว ทุกคนต่างรู้สึกว่าหุบเขาอมตะอ่อนแอลง เรียกว่าเป็นอาทิตย์อัสดงแล้ว หาใช่หุบเขาอมตะในครั้งกระนั้นอีกต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องเผชิญกับแคว้นว่านโซ่วที่ยกตนข่มท่านแล้ว หุบเขาอมตะรักษาท่าทีที่โอนอ่อนผ่อนตามมาโดยตลอด ยิ่งทำให้ผู้คนจำนวนมากเข้าใจว่าหุบเขาอมตะไม่ไหวแล้วจริงๆ ด้านกำลังทหารถูกแคว้นว่านโซ่วแซงล้ำหน้าไปนานแล้ว
“สำนักหังเหมินยินดีช่วยเหลือฝ่าบาทดำเนินการจัดงานพิธีเซ่นไหว้” หลังจากที่แคว้นว่านโซ่วปล่อยข่าวออกมาได้ไม่นาน ก็มีสำนักที่หันไปพึ่งพิงแคว้นว่านโซ่วทันที
“หมู่บ้านฟ่านเหรียญเป่า ยินดีช่วยเหลือฝ่าบาทแคว้นว่านโซ่ว”
“เกาะหวงเหอเต่าก็ยินดีช่วยเหลือฝ่าบาทแคว้นว่านโซ่ว”
……
ในเวลานี้ สำนักต่างๆ จำนวนมากที่อยู่ในท่าทีไม่มั่นใจ ต่างทยอยกันเข้ากับแคว้นว่านโซ่ว ฉับพลันนั้นบรรยากาศภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะก็เปลี่ยนไป สำนักต่างๆ จำนวนมากพลันไปเข้ากับแคว้นว่านโซ่ว สถานการณ์พลันเปลี่ยนไป ทำให้หุบเขาอมตะดูจะเสื่อมถอยเด่นชัดยิ่งขึ้นไปอีก
“หุบเขาอมตะกำลังจะสิ้นสุดลงแล้วรึ? หรือว่านักพรตฉางเซินได้เสียชีวิตจากการบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว?” บรรดาสำนักต่างๆ ที่ยืนหยัดให้การสนับสนุนต่อหุบเขาอมตะอย่างมั่นคงพลันรู้สึกกังวลใจอย่างยิ่ง เมื่อเห็นว่าหุบเขาอมตะยังคงนิ่งเงียบ ขณะที่สำนักต่างๆ จำนวนมากทยอยกันเข้าไปยืนอยู่ข้างฝ่ายแคว้นว่านโซ่ว
“หุบเขาอมตะได้ตกต่ำลงแล้ว การที่จะฟื้นฟูระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะขึ้นมาใหม่ จะต้องเลือกผู้กุมอำนาจที่ใหม่ทั้งหมด” ในเวลานี้เอง บรรดาสำนักที่หันไปพึ่งพาแคว้นว่านโซ่วบางส่วนเริ่มสร้างความชอบธรรมให้กับแคว้นว่านโซ่วแล้ว
“พูดได้ถูกต้อง หากยังคงปล่อยให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะอยู่ภายใต้การปกครองของหุบเขาอมตะต่อไป ต้นกำเนิดสัจธรรมจะต้องเหือดแห้ง แผ่นดินแตกสลาย เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว สิ่งมีชีวิตนับล้านล้านก็จะกลายเป็นไร้ที่อยู่อาศัย เพื่อความสุขของสิ่งมีชีวิตนับล้านล้านชีวิต ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะของพวกเราสมควรให้แคว้นว่านโซ่วที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเป็นผู้ปกครอง”
“ฟื้นฟูระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ เริ่มต้นที่แคว้นว่านโซ่ว”
ภายในระยะเวลาอันสั้น คำขวัญรูปแบบต่างๆ เพื่อสนับสนุนแคว้นว่านโซ่วได้ดังก้องไปทั่วเรือนโอสถ กระทั่งดังก้องไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ
…………………………….