สีหน้าของหวู่ปิงหนิงเปลี่ยนไป นางรู้ว่าเรื่องนี้ได้กลายเป็นความจริงที่ไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว เมื่อยายเฒ่าเทวะล่าวายุพูดออกมาก็เท่ากับเทพสงครามมังกรคชาธารเป็นคนพูด
สมควรทราบว่า ไม่มีใครในจูเซียงหวู่ถิงมีฐานะสูงส่งยิ่งไปกว่าเทพสงครามมังกรคชาธารอีกแล้ว เขาคือผู้ที่มีตำแหน่งอำนาจสูงสุด สิ่งที่เขาตัดสินใจแล้วไม่ว่าใครก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ และไม่มีใครกล้าต่อต้าน
หากเป็นในอดีต นางต่อต้านนิดหนึ่ง อาศัยอาจารย์และเหล่าบรรพบุรุษที่รักใคร่ต่อนาง ในเรื่องลักษณะเช่นนี้จะมากหรือน้อยพวกเขาก็จะลังเลบ้าง
แต่ว่า เมื่อใดที่เทพสงครามมังกรคชาธารออกปากพูดออกมา ทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น คำพูดของเทพสงครามมังกรคชาธารเสมือนหนึ่งเป็นราชโองการที่สูงสุด เมื่อออกจากปากก็จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก และกลายเป็นความจริงที่ไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าใครก็ตามไม่มีสิทธิ์ไปตั้งข้อสงสัยและต่อต้าน ต่อให้อาจารย์ของนางที่รักนางมากเพียงใดก็ทำอะไรไม่ได้
ต่อให้นางคิดจะต่อต้าน แต่ภายใต้ปณิธานของเทพสงครามมังกรคชาธารก็ไร้ประโยชน์ ภายใต้อำนาจที่เด็ดขาด การต่อต้านของนางแลดูช่างปราศจากเรี่ยวแรง ช่างเปราะบาง สุดที่จะต้านทานได้
ไม่… หวู่ปิงหนิงปฏิเสธทันควัน กล่าวเสียงเย็นชาว่า ข้าคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้ ข้าจะไม่แต่งเข้าตระกูลมู่ ยิ่งไม่แต่งกับนายน้อยมู่!
แม้ว่าหวู่ปิงหนิงจะรู้ว่าการคัดค้านของตนไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด แต่ว่า นางยังคงต้องพูดออกมา
ภายในใจของผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่รักใคร่ชื่นชมหวู่ปิงหนิงถึงกับหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินคำพูดของนาง แม้ว่าเรื่องนี้เทพสงครามมังกรคชาธารได้ออกปากมาและกลายเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัยแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยที่สุดเทพธิดาสงครามไม่เห็นด้วย ทำให้ภายในใจของผู้คนได้รับการปลอบโยนบ้างไม่มากก็น้อย
ไม่อาจตามใจเจ้า ยายเฒ่าเทวะล่าวายุส่งเสียงเย็นชาขึ้นมา และกล่าวน่าเกรงขามว่า เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ไหนเลยทำเป็นเล่นไปได้ และไหนเลยให้เจ้าตัดสินใจเองได้! เชิญผู้สืบทอดกลับระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ
บรรดายอดฝีมือที่ติดตามมาด้วยค่อยๆ ล้อมวงเข้ามาที่หวู่ปิงหนิง เมื่อได้ยินคำสั่งของยายเฒ่าเทวะล่าวายุ
หลานสาว ล่วงเกินแล้ว ตามพวกเรากลับไปเถอะ เวลานี้ผู้เฒ่าที่มีศักยภาพในระดับเทพแท้จริงหลายคนค่อยๆ ล้อมหวู่ปิงหนิงเข้ามา ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ต้องนำตัวหวู่ปิงหนิงกลับไปยังจูเซียงหวู่ถิงให้ได้
อาวุโสเฉิน อาศัยพวกท่านน่ะหรือ? หวู่ปิงหนิงส่งเสียงฮึแสดงความไม่พอใจออกมา ง้าวในมือขวางอยู่บริเวณอก ฉับพลันเปี่ยมด้วยปณิธานการต่อสู้ที่ฮึกเหิม นางที่มีฉายาเทพธิดาสงครามใช่จะมีเพียงชื่อเสียงที่จอมปลอมเท่านั้น
ผู้เฒ่าหลายคนทำท่าลังเลนิดหนึ่ง แต่เมื่อสบตากันและกันแล้ว ยังคงล้อมวงเข้าหาหวู่ปิงหนิง พวกเขาได้ตั้งเป็นค่ายกลขึ้น หากพวกเขาคิดจะจับเป็นหวู่ปิงหนิงจะต้องอาศัยค่ายกลใหญ่มาสยบหวู่ปิงหนิง มิฉะนั้นล่ะก็ คิดจะจับเป็นนางเป็นเรื่องที่ยากมาก
ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อมองเห็นภาพเช่นนี้ นี่เป็นการหักหน้ากันอย่างเปิดเผยกับระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนอย่างสิ้นเชิงนะเนี่ย เป็นการทรยศต่อระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตน ทรยศต่อสำนักของตน
กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนคนหนึ่งคนใดแล้ว เรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจเลือก จะอย่างไรเสีย การทรยศต่อระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนเป็นเรื่องที่ยากและเจ็บปวดอย่างยิ่ง เมื่อไรที่ทรยศต่อระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตน ทรยศต่อสำนักของตน เกรงว่าบนโลกนี้ไม่มีที่ยืนสำหรับตนอีกแล้ว
โดยเฉพาะกับระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่มีกำลังจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ในแดนลัทธิพรรษเช่นจูเซียงหวู่ถิง เมื่อใดที่ทรยศต่อระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเช่นนี้แล้ว ทั่วทั้งแดนลัทธิพรรษจะไม่มีใครกล้ารับนางเอาไว้อีกเลย มิฉะนั้นล่ะก็เท่ากับเป็นศัตรูกับจูเซียงหวู่ถิง เป็นศัตรูกับเทพสงครามมังกรคชาธาร
พวกสวะไร้สมองกลุ่มหนึ่ง หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะ และส่ายหน้าเบาๆ
เจ้าคนไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ! ยายเฒ่าเทวะล่าวายุส่งเสียงฮึน่าครั่นคร้ามออกมา ไม้เท้าหัวมังกรในมือกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา ภูเขาทั้งลูกถึงกับสั่นไหวโคลงเคลงขึ้นมา นางกล่าวด้วยท่าทีน่าครั่นคร้ามว่า คิดจะล่อลวงผู้สืบทอดของจูเซียงหวู่ถิงพวกเรา โทษสมควรตายหมื่นครั้ง วันนี้ข้านี่แหละจะขจัดภัยที่อาจจะเกิดขึ้นนี้ให้สิ้นตลอดไป และเป็นการขจัดภัยให้กับแดนลัทธิพรรษ!
อาศัยเพียงเจ้าน่ะหรือ? หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น กระทั่งไม่ได้ลุกขึ้นยืนด้วยซ้ำ
เจ้าหนูโง่เขลา แม้ว่าฝีมือเจ้าจะยอดเยี่ยม แต่ว่า ที่นี่หาใช่ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิลานกำแหงของเจ้า และก็ไม่ใช่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ! ยายเฒ่าเทวะล่าวายุกล่าวน่าเกรงขามว่า การจะกุมตัวเจ้านี่เหลือเฟืออยู่แล้ว กล้าเป็นศัตรูกับพวกเรา โทษไม่อาจละเว้น! กล่าวพลางก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง
ทุกคนต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อได้ยินคำพูดของยายเฒ่าเทวะล่าวายุ ดูท่าจูเซียงหวู่ถิงได้ตัดสินใจเด็ดขาดที่จะกำจัดหลี่ชิเย่เสียแล้ว ทุกคนต่างตั้งตาคอยมองดูภาพที่อยู่ตรงหน้า
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เองผู้เฒ่าจำนวนหลายคนเหล่านี้ได้จัดตั้งเป็นค่ายกลขึ้นมา ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น แท่งเหล็กแต่ละแท่งที่ลงมาจากท้องฟ้า ทำการปิดกั้นทุกทิศทุกทางเอาไว้ พวกเขาต้องการปิดกั้นไม่ให้หวู่ปิงหนิงหนีไปได้ โดยจะไม่เปิดโอกาสให้หวู่ปิงหนิงหลบหนีได้อย่างเด็ดขาด
ทำลาย… หวู่ปิงหนิงคำรามเสียงยาว ง้าวในมือพลันเหมือนสายรุ้งทะลุผ่านดวงตะวัน แทงเข้าไปตรงๆ อันธพาลและดุดัน
แกร๊งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ผู้เฒ่าหลายคนได้คำรามเสียงยาว ปรากฏระฆังทองขนาดยักษ์ที่คอบลงมา เพื่อกักขังหวู่ปิงหนิงเอาไว้
ปัง ปัง ปังเสียงสิ่งของกระทบกันดังขึ้นเป็นระลอก สุดท้าย ได้ยินเสียงแคร่งดังสนั่นขึ้นมาเสียงหนึ่ง ภายใต้การกวาดล้างทำลายของง้าวจากหวู่ปิงหนิง ระฆังทองแตกละเอียด ได้ยินเสียงดังแว้งค์ขึ้นมา ง้าวของหวู่ปิงหนิงได้รวบรวมประกายเข้าด้วยกัน พยายามต่อสู้ฟันฝ่าเพื่อทำลายการพันธนาการของค่ายกล
ปิดกั้น… ผู้เฒ่าหลายคนนั่นร้องตวาดเสียงดังขึ้นมา เมื่อเห็นว่าหวู่ปิงหนิงกำลังจะทำลายค่ายกลเพื่อหนีไป เสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา มือขนาดยักษ์ลงมาจากท้องฟ้าทำการสยบทั่วหล้า
ได้ยินเสียงดังปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง มือขนาดยักษ์ของค่ายกลใหญ่ได้ทำการสยบลงมาที่ง้าวของหวู่ปิงหนิง เพื่อไม่ให้นางสามารถหนีไปได้
จังหวะที่มือขนาดยักษ์นี้เข้าสยบหวู่ปิงหนิงอยู่นั้น มือข้างหนึ่งได้เข้าใกล้ทางด้านหลังของหวู่ปิงหนิงเงียบๆ ได้ยินเสียงดังปังขึ้นมาเสียงหนึ่ง มือข้างนี้พลันโจมตีถูกร่างของหวู่ปิงหนิง หวู่ปิงหนิงเสมือนหนึ่งถูกไฟฟ้าดูดอย่างนั้น กระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ทักษะยุทธของนางถูกสกัดในพริบตาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ร่วงหล่นลงจากท้องฟ้า
พานางไป พริบตาเดียวนั่นเอง เสียงที่เย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงของยายเฒ่าเทวะล่าวายุนั่นเอง
ทุกคนต่างงงงันอยู่นิดหนึ่ง ทุกคนต่างคิดว่ายายเฒ่าเทวะล่าวายุจะลงมือสยบหลี่ชิเย่ ไม่นึกเลยว่านางจะก่อการขึ้นมากะทันหันด้วยการลอบโจมตีหวู่ปิงหนิง
จะอย่างไรเสีย นางคือระดับบรรพบุรุษที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นบุคคลที่สูงส่งทั้งฐานะและตำแหน่งในจูเซียงหวู่ถิง ทั้งยังเป็นระดับเทพแท้จริง ขั้นสวรรค์ชั้นที่แปดอีกด้วย ตามหลักการแล้วนางไม่สมควรลงมือด้วยการลอบจู่โจมต่อผู้เยาว์ของตนจึงถูก แต่นางกลับลงมือลอบจู่โจมหวู่ปิงหนิงในพริบตา และสยบหวู่ปิงหนิงเอาไว้ทันที ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อน
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในขณะที่ผู้เฒ่าหลายคนกำลังจะจับตัวหวู่ปิงหนิงไปนั้น เห็นเงาคนแวบขึ้นมากะทันหัน พลันพุ่งโจมตีจนพวกเขาจนกระเด็นออกไป กระอักเลือดออกมาอย่างแรง เสียงกระดูกแตกละเอียดดังคร๊ากกกแสบแก้วหูอย่างยิ่ง
ในเวลานี้เอง หวู่ปิงหนิงได้ถูกช่วยเหลือและตกไปอยู่ในมือของคนอื่นโดยพลัน
เมื่อเงานั้นหยุดนิ่ง ทุกคนจึงมองเห็นผู้ที่ลงมือช่วยเหลือหวู่ปิงหนิงก็คือหลี่ชิเย่นั่นเอง หลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่ที่ตรงนั้น เพียงแต่ขณะนี้เขาไม่อยู่ในลักษณะนั่งเท่านั้น ท่วงท่าของเขารวดเร็วมากจนไม่มีใครมองเห็นได้ชัดเจน
หลี่ชิเย่ถือโอกาสคลายการสะกดร่างของหวู่ปิงหนิงไปในตัว และสั่งการไปว่า ไปอยู่ด้านหลังของข้า เรื่องนี้มอบเป็นหน้าที่ของข้าก็แล้วกัน
หวู่ปิงหนิงนิ่งเงียบอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายไม่ต้องการพูดอะไรทั้งนั้น ค่อยๆ ก้าวไปอยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่ เริ่มต้นรักษาอาการบาดเจ็บ
สีหน้าของยายเฒ่าเทวะล่าวายุ เปลี่ยนไปมากทีเดียว เมื่อเห็นหลี่ชิเย่พลันลงมือก็ช่วยเหลือหวู่ปิงหนิงไป ไม่อาจระงับความโกรธเอาไว้ได้ ร้องตวาดเสียงดังออกมาว่า เจ้าเดรัจฉานน้อย รนหาที่ตาย!
คำพูดนี้ควรพูดกับเจ้าจึงจะถูก เวลานี้หลี่ชิเย่จึงได้มองดูนางด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า ถือโอกาสที่ข้ายังไม่คิดจะฆ่าคน ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ยิ่งไกลยิ่งดี มิฉะนั้นล่ะก็ข้าจะตัดหัวสุนัขของเจ้าออกมาเตะเป็นลูกบอลเลย
ดี ดี ดี… ยายเฒ่าเทวะล่าวายุโกรธจัดจนต้องหัวเราะออกมา นางมองดูหวู่ปิงหนิงที่กำลังรักษาอาการบาดเจ็บ ตวาดเสียงดังว่า นังหนู สำนึกและกลับตัวเวลานี้ยังทัน มิฉะนั้นแล้วโทษของเจ้าไม่อาจให้อภัย!
หวู่ปิงหนิงในเวลานี้มองหน้ายายเฒ่าเทวะล่าวายุทีหนึ่ง สุดท้ายนางเลือกที่จะนิ่งเงียบไม่ยินดีที่จะพูดคำพูดใดๆ ออกมา ก้มหน้าหลับตาลง เข้าฌานรักษาอาการบาดเจ็บ
ทุกคนต่างเข้าใจ เมื่อมองเห็นท่าทีเช่นนี้ของหวู่ปิงหนิง นาทีนี้หวู่ปิงหนิงได้ตัดสินใจทรยศออกจากจูเซียงหวู่ถิงแล้ว
ความจริงลักษณะเช่นนี้ได้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวให้กับผู้คนไม่น้อย นี่คือเทพธิดาสงครามแห่งจูเซียงนะเนี่ย ผู้สืบทอดของจูเซียงหวู่ถิง เวลานี้กลับทรยศต่อสำนักของตน ช่างเป็นเรื่องที่หวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คน
ดี ดี ดี… ยายเฒ่าเทวะล่าวายุโกรธจนถึงขีดสุด ปณิธานการฆ่ารุนแรง กล่าวน่าครั่นคร้ามว่า รอให้ฆ่าเจ้าเดรัจฉานน้อยคนนี้เสียก่อน ค่อยมาจัดการกับสวะไม่มีสมองอย่างเจ้า!
เจ้าเดรัจฉานน้อย วันนี้ข้านี่แหละจะสับเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้น! เวลานี้ดวงตาทั้งสองของยายเฒ่าเทวะล่าวายุพวยพุ่งเป็นประกายที่น่ากลัวออกมา คล้ายดั่งของมีคมที่ขูดเข้ามา
ลงมือเถอะ หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายว่า แม้ว่าข้าไม่ชอบรังแกคนแก่ที่เหมือนดั่งไม้ใกล้ฝั่ง แต่ว่า เมื่อมารนหาที่ตายเองข้าก็จะสงเคราะห์ให้อยู่แล้ว
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องหัวเราะเจื่อนๆ นี่คือศิษย์ของเทพสงครามมังกรคชาธารนะเนี่ย เทพแท้จริงสวรรค์ชั้นแปด เมื่อออกจากปากของเขากลับกลายเป็นคนแก่ที่เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ช่างเป็นการรังแกกันมากเหลือเกิน
ข้านี่แหละจะแล่เนื้อเจ้าออกมาเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น! กล่าวสำหรับยายเฒ่าเทวะล่าวายุแล้ว ท่าทีเช่นนี้คือการทำให้นางอับอายอย่างหนึ่ง นางจึงโกรธขึ้นมาถึงที่สุด ร้องคำรามเสียงดังและโกรธจนร่างสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ถึงกับต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขึ้นมา
เวลานี้ได้ยินเสียงดังโครม มองเห็นยายเฒ่าเทวะล่าวายุนำเอาไม้เท้าหัวมังกรในมือปักลงพื้นอย่างแรง พลันดวงตาทั้งสองได้พวยพุ่งประกายที่น่ากลัวออกมา
ภายในใจของผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องตกใจยิ่งนัก เมื่อเห็นดวงตาคู่นั้นของยายเฒ่าเทวะล่าวายุพวยพุ่งเป็นประกายเยือกเย็นที่ดั่งน้ำในแม่น้ำออกมา ระดับเทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นแปด ใช่เป็นเพียงชื่อเสียงจอมปลอม ยิ่งไปกว่านั้นนางยังเป็นศิษย์ของเทพสงครามมังกรคชาธาร เกรงว่าระดับความแข็งแกร่งด้านกำลังความสามารถคงล้ำหน้าเทพแท้จริงที่อยู่ในขั้นสวรรค์ชั้นแปดด้วยกันไปไกลแล้ว
ตูม…เสียงดั่งสนั่นดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง กลิ่นอายเทพแท้จริงได้ทะลักออกมาจากทั่วตัวของยายเฒ่าเทวะล่าวายุ ปรากฏวงแหวนศักดิ์สิทธิ์แต่ละวงขึ้นมา ดันฟ้าดินแยกออก ยกสุริยันจันทราขึ้นมา ขณะที่ยายเฒ่าเทวะล่าวายุอยู่ท่ามกลางวงแหวนศักดิ์สิทธิ์นั้น นางเสมือนหนึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ใจกลาง มีอานุภาพเหนือโลกหล้าอย่างนั้น
ทุกคนถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ เมื่อมองเห็นอานุภาพเทพแท้จริงของยายเฒ่าเทวะล่าวายุเพิ่มสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ยายเฒ่าเทวะล่าวายุจะลงมือแล้ว ทุกคนต่างอยากจะเห็นเป็นบุญตา จะอย่างไรเสียนี่คือศิษย์ของเทพสงครามมังกรคชาธาร ทุกคนหวังจะได้แอบส่องถึงศักยภาพของเทพสงครามมังกรคชาธารจากตัวของยายเฒ่าเทวะล่าวายุ อาศัยกระบวนท่าที่เปลี่ยนแปลงบางอย่างไปคาดเดาถึงความน่ากลัวของเทพสงครามมังกรคชาธาร
………………………………………………….