เทพกระบี่กูตู๋จากไปแล้ว ไปแบบค่อนข้างเดียวดาย เขาก็คือเทพกระบี่กูตู๋ และเพราะเขาเดียวดายนั่นเอง เขาจึงได้กลายเป็นเทพกระบี่เช่นนี้ได้
ทุกคนต่างไม่มีอะไรจะพูด และหรือกล่าวสำหรับเทพกระบี่กูตู๋แล้ว นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว ถ้าหากเขาต้องตายภายใต้เงื้อมมือของหลี่ชิเย่ล่ะก็ กลับจะทำให้ผู้คนรู้สึกเสียดาย
เวลานี้ถึงคราวพวกเจ้าแล้ว หลังจากที่เทพกระบี่กูตู๋ไปแล้ว หลี่ชิเย่จ้องมองพวกเทพหมื่นแขนด้วยท่าทีเรียบเฉย และเย็นชามาก
เวลานี้ทุกคนต่างจ้องมองไปที่พวกของเทพหมื่นแขน ในขณะนี้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลง สุสานกระบี่ และระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิไคเทียนพวกเขาที่เป็นสามระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใหญ่ก็ได้รวมตัวกันในที่สุด ในเวลานี้พวกเขาที่เป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้งสามจำต้องกอดคอไปด้วยกัน ต้องร่วมมือกัน มิฉะนั้นล่ะก็ อาศัยกำลังของพวกเขาโดยลำพังเกรงว่าคงต้านหลี่ชิเย่ไม่อยู่
ในเวลานี้ทุกคนต่างจ้องมองดูเทพหมื่นแขน เมื่อเทพกระบี่กูตู๋รบแพ้ย่อมบ่งบอกว่าพวกของเทพหมื่นแขน เทพแท้จริงดาบสังหารซึ่งถือเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดก็หาใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่โดยสิ้นเชิงแล้ว
แม้ว่าพวกเทพหมื่นแขนเหล่านี้จะเป็นเทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นแปด แต่เมื่อเทียบกับเทพกระบี่กูตู๋แล้วพวกเขาห่างชั้นกันมากเหลือเกิน ต่อให้พวกของเทพหมื่นแขนที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ร่วมมือกันหลายคนก็หาใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่เช่นกัน
เนื่องจากระดับเทพแท้จริงเมื่อก้าวไปถึงระดับหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ ช่วงห่างในนั้นหาใช่อาศัยคนสองคนร่วมมือกันก็สามารถชดเชยกันได้
แม้ว่าเทพหมื่นแขนกับเทพแท้จริงดาบสังหารพวกเขาสองคนจะยืนอยู่ในระดับสูงสุดของเทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นแปดแล้ว พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันก็เอาชนะเทพกระบี่กูตู๋คนเดียวไม่ได้ เนื่องจากช่วงห่างของพวกเขาไม่สามารถอาศัยเพียงหนึ่งหรือสองคน กระทั่งสามถึงห้าคนร่วมมือกันแล้วสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้
เวลานี้ใครๆ ก็มองออกว่า แม้ว่าระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ของสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่รวมกันจะมีจำนวนเกือบสิบคน แต่ทว่า ต่อให้พวกเขาร่วมมือกันทั้งหมดก็หาใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่อยู่ดี เกรงว่าคงไม่สามารถสั่นคลอนต่อหลี่ชิเย่ได้เหมือนเดิม
ถ้าหากว่า พวกของเทพหมื่นแขนที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์เหล่านี้ร่วมมือกันแล้วก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ล่ะก็ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่านี่จะเป็นการเข่นฆ่าครั้งใหญ่ที่โน้มเอียงไปข้างเดียว หลี่ชิเย่จะต้องสังหารสิ้นระดับบรรพบุรุษของสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งหมด
เมื่อนึกถึงจุดนี้แล้ว ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องรู้สึกใจหายใจคว่ำ ระดับบรรพบุรุษของสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า นั่นคือกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิพวกเขาเองแล้ว แม้จะกล่าวว่าเป็นการยกกำลังออกมาทั้งสำนักจะเป็นการโอ้อวดเกินไปบ้าง แต่หากว่าเหล่าระดับบรรพบุรุษสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าถูกหลี่ชิเย่สังหารจนสิ้น
เช่นนั้นแล้วล่ะก็ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งสามก็จะเสียหายอย่างหนัก ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งสามหากคิดจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ใหม่ เกรงว่าจะต้องใช้เวลาหลายยุคหลายสมัย
เมื่อครู่พวกของเทพหมื่นแขนยังมีท่าทียกตนข่มท่าน เนื่องจากพวกเขามีพวกมาก ย่อมมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เวลานี้เมื่อเห็นหลี่ชิเย่พลันลงมือก็เอาชนะเทพกระบี่กูตู๋ได้ ดังนั้นในขณะนี้พวกของเทพหมื่นแขนจึงมีท่าทีที่หนักแน่นจริงจังมาก พวกเขาก็ไม่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมบ้างอยู่เหมือนกัน
แต่ว่าเวลานี้เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหนีไป ระดับบรรพบุรุษสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ล้วนแล้วแต่อยู่กันที่นี่ ถ้าหากพวกเขาหลบหนีไปในเวลานี้จะสูญสิ้นเกียรติยศของสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ไปทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้น เกรงว่าหลี่ชิเย่ก็ไม่อนุญาตให้พวกเขาได้หนีไป
เวลานี้มีทางเลือกเพียงทางเดียวอยู่ตรงหน้าระดับบรรพบุรุษของสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ คือ สู้จนถึงที่สุดไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย!
สังหารมารพิทักษ์คุณธรรม ถึงพลีชีพก็ไม่เกี่ยง… เวลานี้เทพหมื่นแขนพูดได้มีน้ำหนักมาก เปี่ยมด้วยพลัง
เอาล่ะ…หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ และกล่าวว่า คำพูดที่คุยโวโอ้อวดไม่ต้องพูดอีกแล้ว ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นท่าทางที่ขี้ขลาดตาขาวของเจ้า แค่คนขึ้แพ้เท่านั้นเองยังกล้าทำอวดบารมีต่อหน้าข้า วันนั้นหากไม่เป็นเพราะพวกของตันหวังขอร้องล่ะก็ ตัดหัวพวกเจ้าออกมานานแล้ว ยังทำเป็นโอ้อวดจะพิทักษ์คุณธรรมอยู่ตรงนี้
สีหน้าของเทพหมื่นแขนพลันดูไม่จืดถึงขีดสุด ใบหน้าแดงก่ำ นอกจากจะเป็นการยืนยันในจุดยืนของตนเองแล้ว ยังเป็นการให้กำลังใจตนเอง ไม่นึกว่าคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่เปรียบเสมือนตบหน้าให้หนึ่งฉาด ทำให้เขาต้องกลับมาอยู่ร่างเดิม
เจ้าคนแซ่หลี่ ผู้กล้าฆ่าได้หยามไม่ได้! สุดท้ายเทพหมื่นแขนร้องกล่าวเสียงดังด้วยท่าทางที่โกรธมาก
เสียดาย พวกเจ้าไม่ใช่ หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยว่า เมื่อเทียบกับเทพกระบี่กูตู๋แล้ว พวกเจ้าไม่รู้ว่าอ่อนกว่ากี่ขั้น ยังเรียกยกย่องตัวเองว่าผู้กล้า
เวลานี้ ทำให้พวกเทพหมื่นแขนถึงกับจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
พวกเราระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งสามขจัดมารปกป้องคุณธรรม จะก้าวไปด้วยกัน เวลานี้เทพแท้จริงดาบสังหารกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมา
หลี่ชิเย่นั้นอย่างไรก็ได้อย่างสิ้นเชิง โบกมือเบาๆ ว่า ข้ารู้ ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าไม่ให้พวกเจ้าร่วมมือกันเข้ามา วางใจเถอะ ข้าจะไม่แยกตัวพวกเจ้าออกให้เข้ามาทีละคนๆ อยู่แล้ว พวกเจ้าคิดว่าท่าไม้ตายที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเจ้าคืออะไรก็เข้ามาเลย เข้ามาพร้อมกันยิ่งดี จะได้จัดการพวกเจ้าทั้งหมดในครั้งเดียว และสะอาดหมดจด
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ พวกข้าก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ ที่เทพแท้จริงดาบสังหารต้องการก็คือคำๆ นี้ เขากลัวหลี่ชิเย่จะก่อการขึ้นกะทันหันจริงๆ เพราะว่าหากหลี่ชิเย่ลงมืออย่างกะทันหันสำแดงกระบี่ไวออกมาทันที เกรงว่าคงมีระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิทั้งสามไม่มีโอกาสกระทั่งลงมือ ต้องตายอนาถภายใต้กระบี่ไวของหลี่ชิเย่เสียแล้ว
อยากร่วมมือกันก็ร่วมมือกันเถอะ ข้ารอสิ่งที่เรียกว่าท่าไม้ตายจากพวกเจ้าอยู่นะเนี่ย ท่าทีของหลี่ชิเย่อย่างไรก็ได้อยู่แล้ว กล่าวเฉยเมยขึ้นมา
สีหน้าของเหล่าบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งหลายดูไม่จืดยิ่งนัก กับท่าทีที่อย่างไรก็ได้อย่างสิ้นเชิงของหลี่ชิเย่ ชั่วดีอย่างไรพวกเขาที่เป็นสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ก็คือสำนักผู้สืบทอดที่มีความสำคัญยิ่งของแดนลัทธิพรรษ พวกเขามีระดับบรรพบุรุษจำนวนมากอยู่ในเหตุการณ์ ไม่ว่าใครก็ต้องให้เกียรติพวกเขาอยู่สามส่วน แต่ว่า หลี่ชิเย่ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลย
ความโกรธแค้นในใจก็เป็นส่วนของความโกรธแค้น เวลานี้บรรดาบรรพบุรุษ และยอดฝีมือของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งสามต่างรวมตัวกันอยู่ที่นี่ การร่วมมือทั่วไปของพวกเขาคงไม่บังเกิดผลอะไรมากนัก ต่อให้พวกเขาทุกคนที่มาจากสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ลงมือพร้อมกันก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เกรงว่าล้วนแล้วแต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่
ดังนั้น พวกเขาจำเป็นต้องมีท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า จะต้องมีเคล็ดวิชาที่สยบเอาชนะฝ่ายตรงข้ามให้ได้ จึงสามารถสังหารหลี่ชิเย่ได้ มิฉะนั้นล่ะก็ พวกเขาจะต้องถูกหลี่ชิเย่สังหาร
หลี่ชิเย่ปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้าอย่างช้าๆ ท่าทางเย็นชาเรียบเฉย มองดูพวกของเทพหมื่นแขนด้วยท่าทีเมินเฉย เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า พวกเจ้าเตรียมพร้อมกันแล้วยัง?
เหมือนว่าในขณะนี้ พวกระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งสามไม่แตกต่างอะไรกับคนที่ตายไปแล้วในสายตาของหลี่ชิเย่ ท่าทีลักษณะเช่นนี้ได้ทำให้ผู้คนต้องใจหายใจคว่ำ
ทุกคนที่ยืนชมเหตุการณ์อยู่ในระยะห่างไกลต่างเข้าใจ หลี่ชิเย่ไม่ได้เพียงแค่พูดไปอย่างนั้น แต่เมื่อไรที่เขาลงมือก็จะจัดการเข่นฆ่าสังหารคนของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งสามที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ในพริบตาเดียวนั่นเอง ท่ามกลางคำพูดที่เย็นชาของหลี่ชิเย่นั้น ทุกคนเสมือนหนึ่งได้กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นสายหนึ่งลอยเข้ามา
พวกเราสู้ตาย ไม่ตายไม่เลิกรา! ในเวลานี้เอง เทพแท้จริงดาบสังหารกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมา
เวลานี้เทพแท้จริงดาบสังหารยืนอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางระหว่างระดับบรรพบุรุษของสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งหมด ระดับบรรพบุรุษและยอดฝีมือทั้งหมดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งสามต่างติดตามและอาศัยเทพแท้จริงดาบสังหารเป็นศูนย์กลาง ตั้งเป็นค่ายกลขึ้นมา
ในบรรดาพวกเขาเทพแท้จริงดาบสังหารหาใช่เทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ทว่าเทพแท้จริงดาบสังหารในเวลานี้กลับเป็นแกนกลางของพวกเขาทั้งหมด
เวลานี้มองเห็นในมือเทพแท้จริงดาบสังหารได้ยกเอาบาตรวิเศษขึ้นมาใบหนึ่ง ภายในบาตรวิเศษดังกล่าวได้รวบรวมเลือดสดๆ เอาไว้เต็มบาตร โดยเลือดสดๆ ที่มีอยู่เต็มบาตรไม่ได้มาจากเทพแท้จริงดาบสังหารคนเดียว แต่เป็นเลือดสดๆ ของระดับบรรพบุรุษ และยอดฝีมือทั้งหมดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ทั้งสามที่อยู่ในเหตุการณ์
แท้จริงแล้ว ขณะหลี่ชิเย่กำลังต่อสู้ชี้ขาดกับเทพกระบี่กูตู๋อยู่นั้น พวกของเทพแท้จริงดาบสังหารและเทพหมื่นแขนได้วางแผนการที่จะรับมือแล้ว ถือโอกาสที่หาได้ยากยิ่งเช่นนี้ พวกเขาได้รวบรวมเอาเลือดสดๆ ของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ทุกคนหยดเลือดออกมานิดหนึ่ง เลยสามารถรวบรวมเลือดสดๆ ได้เต็มบาตรๆ หนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เลือดสดๆ ที่มีเต็มบาตรหาใช่เลือดธรรมดา เป็นเลือดบรรพบุรุษทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ของสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ มีความล้ำค่าอย่างยิ่ง!
เวลานี้ มองเห็นท่าทีของเทพแท้จริงดาบสังหารที่หนักแน่นจริงจังยิ่ง ได้ล้วงหยิบขวดวิเศษขึ้นมาใบหนึ่ง โดยที่ขวดวิเศษดังกล่าวมีขนาดไม่ใหญ่นัก มันมีตราผนึกปิดทับเป็นชั้นๆ ตราผนึกทุกชั้นล้วนแล้วแต่เปล่งอานุภาพที่ทรงพลังปราศจากผู้ต่อกรออกมา ดูจากตราผนึกแต่ละชั้นก็สามารถมองออกว่า ผู้ที่ทำการผนึกขวดวิเศษคือผู้ที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่งอยู่แล้ว
ในเวลานี้ทุกคนต่างรู้สึกอยากรู้อยากเห็นแล้วว่า ภายในขวดวิเศษนี้ได้บรรจุสิ่งใดเอาไว้กันแน่นะ? เมื่อมองเห็นขวดวิเศษดังกล่าวมีตราผนึกปิดทับเป็นชั้นๆ มีความล้ำค่าถึงเพียงนี้ เวลานี้ทุกคนที่ดูชมเหตุการณ์ในระยะห่างไกลต่างอดที่จะยืดคอของตนออกไปเพื่อต้องการมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในขวดนั้นอย่างชัดเจน
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง เทพแท้จริงดาบสังหารได้เปิดตราผนึกขวดวิเศษใบนี้ออก
ตูม…เสียงดังสนั่นขึ้นมา จังหวะที่ตราผนึกของขวดวิเศษถูกเปิดออกนั้น ประกายสายหนึ่งที่เหมือนดั่งคลื่นที่บ้าคลั่งพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ส่องสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า ภายใต้การส่องสว่างจากประกายที่ถูกพ่นออกมาอย่างบ้าคลั่งนี้ เสมือนหนึ่งดวงตะวันจำนวนร้อยพันระเบิดขึ้นมาอย่างนั้น แสงเจิดจ้าละลานตายิ่งนัก และดวงตะวันเองก็สลดและอับแสงไปโดยพลัน ไม่สามารถเทียบเทียมกับมันได้
ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ขวดวิเศษได้พวยพุ่งอานุภาพที่ไม่สิ้นสุดขึ้นมา มันคืออานุภาพสูงสุดสายหนึ่งปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า พลังที่ปราศจากผู้ต่อกรนี้สามารถทะลุผ่านยุคสมัยแล้วยุคสมัยเล่า
อานุภาพบรรพบุรุษ…แม้แต่ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะระดับบรรพบุรุษเมื่อรับรู้ถึงพลังที่ปราศจากผู้ต่อกรสายนี้แล้ว ล้วนแล้วแต่หวาดผวาจนหน้าถอดสี รู้สึกเย็นวาบภายในใจและร้องเสียงแหลมดังขึ้นมา
อานุภาพบรรพบุรุษ…ยิ่งผู้ที่มีทักษะยุทธอ่อนด้อยด้วยแล้วถูกอานุภาพศักดิ์สิทธิ์สายนี้ทำเอาตกใจจนยืนเซ่อ พลังสายนี้ปราศจากผู้ต่อกรเกินไป เสมือนหนึ่งเป็นการฟื้นคืนชีพของระดับปฐมบรรพบุรุษดึกดำบรรพ์ผู้หนึ่งอย่างนั้น
เปะ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้ มองเห็นขวดวิเศษถึงกับหยดเลือดออกมาหยดหนึ่ง หยดเลือดนี้มีสีที่ฉูดฉาดมาก เสมือนดั่งเป็นทับทิม ดูไปแล้วไม่เหมือนกับเป็นเลือดโดยสิ้นเชิง
เลือดปฐมบรรพบุรุษ…ระดับบรรพบุรุษถึงกับตื่นตระหนกเมื่อได้เห็นเลือดหยดนี้ พลันรับรู้ได้ทันทีว่าสิ่งนี้คือสิ่งใด
‘เลือดปฐมบรรพบุรุษ!’ คำพูดนี้พลันทำให้ในใจของผู้คนจำนวนมากต้องหวั่นไหว เลือดปฐมบรรพบุรุษช่างเป็นสิ่งที่สะเทือนหวั่นไหวเพียงใด แม้จะเป็นเลือดเพียงหยดเดียวก็ล้ำค่าอย่างยิ่ง
เลือดปฐมบรรพบุรุษ…ระดับบรรพบุรุษถึงกับตื่นตระหนกเมื่อได้เห็นเลือดหยดนี้ พลันรับรู้ได้ทันทีว่าสิ่งนี้คือสิ่งใด
‘เลือดปฐมบรรพบุรุษ!’ คำพูดนี้พลันทำให้ในใจของผู้คนจำนวนมากต้องหวั่นไหว เลือดปฐมบรรพบุรุษช่างเป็นสิ่งที่สะเทือนหวั่นไหวเพียงใด แม้จะเป็นเลือดเพียงหยดเดียวก็ล้ำค่าอย่างยิ่ง
‘เลือดผู้เฒ่าไคเทียน!’ มีผู้ที่รับรู้ถึงพลังดาบที่ตลบอบอวลของเลือดหยดนี้แล้ว พลันรู้ได้ทันทีว่าเลือดหยดนี้มาจากผู้ใด
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ เลือดของผู้เฒ่าไคเทียน มันคือสิ่งล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้
ในเวลานี้เอง ทุกคนจึงได้เข้าใจแล้วว่า เพราะอะไรระดับบรรพบุรุษทั้งหมดของสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่จึงติดตามเทพแท้จริงดาบสังหาร ในบรรดาพวกเขามีเพียงเทพแท้จริงดาบสังหารเท่านั้นที่สามารถนำเอาสิ่งนี้ออกมาได้
……………………..