ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2341 กระบี่หนักปราศจากผู้ต่อกร

ตอนที่ 2341 กระบี่หนักปราศจากผู้ต่อกร

หนึ่งกระบี่ที่สำแดงออกไป เป็นหนึ่งกระบี่ที่ตามอารมณ์ยิ่งนัก แต่ทว่า หนึ่งกระบี่นี้กลับมีน้ำหนักเท่ากับโลกเป็นล้านล้านดวง น้ำหนักลักษณะเช่นนี้สามารถบดอัดทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ไม่ว่าสิ่งนั้นจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ก็รับไม่ได้

สิ่งนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ที่น่ากลัวที่สุดก็คือน้ำหนักทั้งหมดของหนึ่งกระบี่นี้ล้วนแล้วแต่รวมตัวกันอยู่บนส่วนที่เป็นปลายแหลมของกระบี่ ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าส่วนปลายแหลมที่มีขนาดเท่าเข็มกลับรวบรวมน้ำหนักของโลกนับหมื่นพันมาอยู่ที่ตรงนี้ ช่างเป็นน้ำหนักที่สุดจะจินตนาการ เป็นเรื่องที่ไม่อาจคิดคำนวณได้

ลองนึกภาพดู น้ำหนักของโลกนับหมื่นพันถูกรวบรวมเอาไว้บริเวณส่วนปลายแหลมของกระบี่ ต่อให้กระบี่นี้ถูกทิ่มแทงมาอย่างตามอารมณ์ ยังจะมีสิ่งใดที่มันไม่สามารถทิ่มแทงให้ทะลุได้? ยังจะมีสิ่งใดสามารถต้านมันเอาไว้ได้? บนโลกนี้ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านมันได้

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อหนึ่งกระบี่นี้แทงเข้ามา กระบี่ทองแดงที่แฉลบผ่านไป ปรากฏเป็นเส้นผลึกเส้นหนึ่ง เส้นผลึกเส้นนี้เป็นการบ่งบอกว่าปลายกระบี่ได้กรีดช่องว่างจนขาด แทงทะลุช่องว่าง และเฉือนช่องว่างให้แยกออก อีกทั้งการเฉือนลักษณะเช่นนี้มีขนาดที่เล็กมาก และยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง

เหมือนดั่งที่ก่อนหน้านั้น ขณะที่หนึ่งกระบี่ของเทพกระบี่กูตู๋ที่กดทับลงมานั้น หนึ่งกระบี่ก็ได้กรีดตัดจนช่องว่างแตกละเอียด แต่ว่า ช่องว่างที่ถูกเขากรีดจนละเอียดนั้น ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ยังคงมีช่องว่างที่แตกละเอียดและร้าว ขณะที่ยังไม่สามารถทำได้ถึงขั้นกรีดเป็นเส้นออกมาได้จริงๆ นั่นย่อมบ่งบอกว่ากระบี่หนักของเทพกระบี่กูตู๋ยังคงไม่สามารถควบคุมให้อยู่ในหนึ่งกระบี่นี้

ขณะที่หนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่แตกต่างกันแล้ว หนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่ สามารถควบคุมน้ำหนักทั้งหมดให้อยู่ที่จุดๆ นี้ แม้ว่าจุดนี้มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมเสียอีก เขายังคงสามารถควบคุมน้ำหนักทั้งหมดให้อยู่ที่ตรงนี้ได้

เสมือนดั่งยอดฝีมือร่ายรำกระบี่สองคน คนหนึ่งเมื่อสำแดงกระบี่ออกไป เขาสามารถฟันยุงที่บินอยู่กลางอากาศให้ตกลงมาได้ ขณะที่ยอดฝีมืออีกคนหนึ่งสำแดงกระบี่ออกไป เขาสามารถฟันเส้นขนบนตัวของยุงให้ร่วงลงมาอย่างแม่นยำ

เทพกระบี่กูตู๋คือคนแรก หลี่ชิเย่คือคนหลัง อีกทั้งต่างก็เป็นยุงตัวหนึ่ง คนหนึ่งฟันยุงได้ตัวหนึ่ง ขณะที่อีกคนฟันเส้นขนที่อยู่บนตัวของยุงได้เส้นหนึ่ง ความห่างชั้นตรงนี้เรียกได้ว่าห่างไกลกันหนึ่งแสนแสนแปดพันลี้เลยเชียว ช่วงห่างเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจชดเชยกันได้ และช่วงห่างเช่นนี้เป็นร่องที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้

ในเวลานี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ดูชมเหตุการณ์อยู่ที่ที่ห่างไกลล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าบริเวณหน้าผากชื้นๆ มีของเหลวไหลลงมา เอื้อมมือไปคลำดู ปรากฏว่าเต็มไปด้วยเลือด

  แม่เจ้า…   นาทีนี้ ทำเอาระดับบรรพบุรุษวิญญาณไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บนหน้าผากของเขาถึงกับปรากฎเป็นรอยกระบี่เส้นเล็กมากเส้นหนึ่ง โดยมีเลือดที่ไหลลงมา

แม้ว่ากระบี่ของหลี่ชิเย่ไม่ได้แทงไปที่พวกเขา อีกทั้งเขาเองก็ไม่ได้แผ่ปณิธานกระบี่ใดๆ ออกมา แต่ทว่า หนึ่งกระบี่ที่แทงออกไปมันก็ได้แทงเข้าไปอยู่ภายในใจของทุกคนแล้ว แม้ว่าหนึ่งกระบี่นี้ไม่ได้ต้องการทำร้ายพวกเขา แต่ บนหน้าผากพวกเขาก็ได้ปรากฎเป็นรอยกระบี่ขึ้นมา เนื่องจากภายในใจของพวกเขาถูกกระบี่แทงเข้าให้แล้วทีหนึ่ง

  ถอยห่างอีก…   มาคราวนี้ทำให้ผู้คนทั้งหมดตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง

ก่อนหน้านั้น ขณะที่กระบี่ทั้งสองปะทะกัน ได้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่รู้เท่าไร ส่งผลให้ทุกคนทยอยกันถอยหลังห่างออกไปจนอยู่ในระยะที่ห่างไกลเพียงพอ เวลานี้ดูไปแล้วระยะห่างนี้ก็ยังไม่พอ ดังนั้น ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดจึงมีการถอยหลังดึงระยะห่างมากขึ้นไปอีก เพื่อประกันความปลอดภัยให้ตนเอง

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง กระบี่ยักษ์ของเทพกระบี่กูตู๋คำรามโดยไม่มีการเคลื่อนไหว เห็นเพียงมือทั้งสองข้างของเทพกระบี่กูตู๋กำกระบี่เอาไว้ในลักษณะกระบี่ยักษ์ตั้งขึ้นบริเวณด้านหน้าของหน้าอก

เวลานี้ นาทีนี้เทพกระบี่กูตู๋ไม่ได้ระเบิดอานุภาพที่สะเทือนฟ้าขึ้นมา กระบี่ยักษ์ตั้งตรงอยู่ด้านหน้าของตนแค่นั้นแหละ จังหวะที่กระบี่ยักษ์ตั้งตรงอยู่บริเวณด้านหน้าของหน้าอกนั้น มันก็ได้ทำให้ทุกคนตระหนักถึงเทพกระบี่กูตู๋นาทีนี้ได้ทำการปิดกั้นตนเองเอาไว้ เมื่อเขาทำการปิดกั้นแล้วยอดฝีมือใดๆ ก็อย่าหวังจะกล้ำกรายเข้าไปได้แม้เพียงครึ่งก้าว

โดยเฉพาะนาทีที่เทพกระบี่กูตู๋อาศัยกระบี่วางท่าทางในลักษณะตั้งตรงนั้น ประดุจดั่งโลกทั้งโลกได้กลับกลายเป็นโล่ขนาดยักษ์ขวางอยู่ด้านหน้าของเขา

ทันใดนั้น มีผู้คนจำนวนมากที่รู้สึกเป็นมโนภาพขึ้นมา กระบี่นี้ของเทพกระบี่กูตู๋ไม่เพียงแต่มีน้ำหนักไร้ขีดจำกัด ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ กระบี่นี้เหมือนมีความหนาเป็นสิบล้านลี้ เป็นไปไม่ได้ที่อาวุธใดๆ จะสามารถแทงทะลุพื้นปฐพี หรือฟ้าดินที่มีความหนาเป็นสิบล้านลี้เช่นนี้ได้

หลังจากที่อาศัยหนึ่งกระบี่ทำการปิดกั้นตนเองไว้แล้ว เหมือนว่าใครก็ตามล้วนเป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายกระบี่นี้ไปได้

ไร้กระบวนท่า ปราศจากเคล็ดวิชา ไม่มีของวิเศษใดๆ ปกป้องรักษา เทพกระบี่กูตู๋อาศัยหนึ่งกระบี่ตามใจเช่นนี้แหละมาปิดกั้นอยู่ตรงหน้าของตน เสมือนหนึ่งไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายกระบี่นี้ของเขาได้อีกแล้ว

ภาพนี้นับว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนได้โดยแท้จริง ผู้คนจำนวนมากเพิ่งจะเข้าใจในนาทีนี้เองว่า แท้จริงแล้วการป้องกันด้วยหนึ่งกระบี่สามารถทำได้ถึงขั้นหนักและหนากว่าผืนแผ่นดินสิบล้านลี้ ไม่ว่าจะเป็นโล่ยักษ์อะไร หรือกำแพงศักดิ์สิทธิ์เช่นใดก็เทียบไม่ได้กับหนึ่งกระบี่นี้

หนึ่งกระบี่สามารถโจมตีทำลายฟ้าดิน หนึ่งกระบี่สามารถตั้งรับ ต้านหมื่นศัตรู ระหว่างรุกและรับของเทพกระบี่กูตู๋ไม่รู้ว่าได้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวให้กับผู้คนจำนวนเท่าไร ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์เมื่อได้เห็นลักษณะของการรุกและรับเช่นนี้ของเทพกระบี่กูตู๋แล้ว ก็ต้องรู้สึกระอายใจ และลุกขึ้นแสดงความเคารพเลื่อมใสอย่างสุดซึ้ง

ในพริบตาเดียวนั้นเอง ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ก่อนหน้านั้นรู้สึกว่าวิชากระบี่ที่ว่าเป็นเพียงท่าทางที่เด็กๆ เขาเล่นกันเท่านั้น ไม่สามารถนำมาแสดงต่อหน้าผู้คนได้อยู่แล้ว แต่เมื่อได้ดูวิชากระบี่ของเทพกระบี่กูตู๋อีกครั้ง นั่นแหละคือวิชากระบี่ที่แท้จริง หนึ่งกระบี่ในมือใต้หล้ามีเพียงข้า นี่แหละคือวิชากระบี่ที่แท้จริง

ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ นาทีนี้ก็รู้สึกว่าวิชากระบี่ของตนนั้นไม่คู่ควรจะกล่าวถึง ถ้าหากไปสำแดงกระบี่ต่อหน้าเทพกระบี่กูตู๋ล่ะก็ ถือว่าไม่เจียมตนเหลือเกิน

เทพกระบี่! พริบตาเดียวนั้นเอง ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ตระหนักอย่างแท้จริงว่า เทพกระบี่กูตู๋นั้นไม่เสียทีที่เป็น ‘เทพกระบี่’ โดยแท้จริง สำหรับคนอื่นๆ ที่ยกย่องตัวเองว่าเป็นเทพกระบี่นั้น แค่หาเรื่องให้ตนเองต้องอับอายเท่านั้น

ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง ส่วนปลายแหลมกระบี่ของหลี่ชิเย่ปะทะเข้ากับกระบี่ยักษ์ของเทพกระบี่กูตู๋เข้าให้แล้ว เสียงตึงที่ดังขึ้นไม่เหมือนเป็นเสียงปะทะกันระหว่างกระบี่ทั้งสอง มันเหมือนปลายแหลมของเข็มทองแดงที่ทิ่มถูกกระดิ่งลมมากกว่า เสียงดังกล่าวดังค่อยมากๆ เบามาก น่าแปลกยิ่ง

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เมื่อทุกคนได้ยินเสียงตึงเสียงนี้นั้น ต่างรู้สึกว่าหนึ่งกระบี่นี้ได้ทิ่มแทงทะลุหน้าอกของตนไปแล้ว ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นก็คือ ถ้าหากเวลานี้ตนเองต้องถูกฆ่าตายจริงๆ ล่ะก็ กลับจะไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวที่บอกไม่ถูก ตรงกันข้ามกลับมีความรู้สึกว่ามีความสุขยิ่ง

คร๊ากกกเสียงสิ่งของแตกละเอียดดังขึ้น จังหวะที่ปลายแหลมของกระบี่กระทบเข้ากับกระบี่ยักษ์นั้น อาศัยจุดที่ปลายกระบี่กระทบเป็นศูนย์กลาง ปรากฏรอยร้าวเป็นริ้วๆ ขยายวงไปทุกทิศทุกทางของกระบี่ยักษ์

สุดท้าย ได้ยินเสียงดังปังเสียงหนึ่ง กระบี่ยักษ์ของเทพกระบี่กูตู๋พลันแตกละเอียด กระบี่ยักษ์ทั้งเล่มแตกออกเป็นเม็ดผลึกขนาดเล็กที่แวววาว อีกทั้งทุกๆ เม็ดที่แตกละเอียดนั้นดูเป็นระเบียบยิ่ง ทั้งหมดแตกละเอียดไปตามลายบนตัวกระบี่ ดูไปแล้วเหมือนงานศิลปะ งดงามไร้ที่ติ

นาทีนี้เวลานี้ กระบี่ยักษ์ในมือของเทพกระบี่กูตู๋รวมทั้งด้ามกระบี่ล้วนแล้วแต่กลับกลายเป็นเม็ดผลึกแวววาวล่องลอยไปตามลม ทำให้กระบี่ยักษ์ปลิวกระจายไปทั่วฟ้าดิน

เมื่อทุกคนได้สติกลับมานั้น มองเห็นปลายแหลมของกระบี่ทองแดงได้จ่ออยู่ที่คอหอยของเทพกระบี่กูตู๋แล้ว เวลานี้ขอเพียงหลี่ชิเย่ขยับอีกนิด หนึ่งกระบี่นี้ก็จะพุ่งทะลุคอหอยของเทพกระบี่กูตู๋ในทันที

เวลานี้ ฟ้าดินเงียบสงัด ทุกคนถึงกับกลั้นลมหายใจเอาไว้ มองดูภาพเหตุการณ์ข้างหน้าด้วยความหวั่นไหวยิ่งนัก ทุกคนต่างจ้องมองไปที่พวกเขา

ไม่ต้องบอก ทุกคนต่างรู้ดีว่าเทพกระบี่กูตู๋พ่ายแพ้แล้ว พ่ายแพ้อย่างยับเยิน

  ข้าแพ้แล้ว กระบี่นี้คู่ควรข้าใช้เวลาไปฝึกมันหนึ่งแสนปี   มือทั้งสองของเทพกระบี่กูตู๋ทิ้งลงข้างลำตัว หลับตาลงช้าๆ พ่ายแพ้ทั้งกายและใจ และกล่าวว่า   ฆ่าข้าเสีย  

เวลานี้ฟ้าดินเงียบสงัด ทุกคนไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจแรง ภาพเช่นนี้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนโดยแท้ เทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นเก้าพ่ายแพ้เสียแล้ว เทพกระบี่กูตู๋แพ้แล้ว เขาเหนือกว่าเทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นเก้าทั่วไปไม่รู้เท่าไร แต่ยังคงพ่ายแพ้ต่อหลี่ชิเย่เหมือนเดิม

ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า สร้างความหวั่นไหวจนผู้คนจำนวนมากพูดอะไรไม่ออก ก่อนหน้านั้น ทุกคนต่างรู้ว่ากระบี่ไวของหลี่ชิเย่นั้นปราศจากผู้ต่อกร ความรวดเร็วของกระบี่ไวนั้นยากหาผู้ใดมาเทียบเทียม หนึ่งกระบี่ที่สำแดงออกไปหัวต้องหลุดจากบ่าอย่างแน่นอน อีกทั้งหนึ่งกระบี่ที่ลงมือไม่มีผู้ใดมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลี่ชิเย่ลงมืออย่างไร

ในเวลานี้ ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกเสียดาย เทพแท้จริงคนหนึ่งกำลังจะตายในลักษณะเช่นนี้ แดนลัทธิพรรษกำลังจะสูญเสียระดับเทพแท้จริงเช่นนี้ไป

ในแดนลัทธิพรรษอาจจะมีเทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นเก้าอยู่ไม่น้อย แต่ทว่า เทพแท้จริงที่เหมือนดั่งเช่นเทพกระบี่กูตู๋อย่างแท้จริงนั้น เกรงว่าคงมีเพียงคนเดียวเท่านั้น คนอื่นๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพกระบี่กูตู๋ล้วนไม่มีสิทธิ์เรียกตัวเองว่าเป็นระดับเทพแท้จริง

ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น ท่ามกลางสายตาของผู้คนจำนวนมาก มองเห็นหลี่ชิเย่เก็บกระบี่ทองแดงคืน กล่าวท่าทีเฉยเมยว่า   ในโลกนี้ ผู้ที่เข้าใจกระบี่อย่างแท้จริงมีไม่มาก ฆ่าเจ้าแล้วก็เสียดาย เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้าไปได้แล้ว  

เทพกระบี่กูตู๋ได้ลืมตาทั้งสองขึ้นช้าๆ จ้องมองดูหลี่ชิเย่ สุดท้ายทอดถอนใจออกมาเบาๆ ทีหนึ่งและไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้กล่าวขอบคุณหลี่ชิเย่ หันหลังเดินจากไปทันที

สำหรับคนอย่างเทพกระบี่กูตู๋แล้ว จะเป็นหรือตายเขาไม่ได้ให้ความสำคัญ กระทั่งกล่าวได้ว่าเขาไม่กลัวความตาย ในใจของเขามีแต่กระบี่ เขาหลงใหลในกระบี่มาชั่วชีวิต ดังนั้น เขาจึงได้ฉายา ‘เทพกระบี่กูตู๋’ เขาจึงได้เดียวดาย

  ท่านบรรพบุรุษ…   มีระดับบรรพบุรุษของสุสานกระบี่ร้องเสียงดังขึ้นมา ขณะมองเห็นเทพกระบี่กูตู๋จากไป แต่ว่า เทพกระบี่กูตู๋ขี้คร้านจะสนใจพวกเขา ไม่มองพวกเขาสักครั้งด้วยซ้ำ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็หายไปท่ามกลางท้องฟ้า

หลังจากที่เทพกระบี่กูตู๋จากไปแล้ว เวลานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ยังไม่อาจเรียกสติกลับคืน ทุกคนต่างหวั่นไหวไปกับการต่อสู้ชี้ขาดเช่นนี้

การต่อสู้ชี้ขาดครั้งนี้ตั้งแต่ต้นจนจบมีเพียงสองกระบี่เท่านั้น อีกทั้งสองกระบี่ที่ว่ากลับไม่มีกระบวนท่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยม ไม่มีท่วงท่ากระบี่ที่งดงาม ยิ่งไม่มีพลังกระบี่ที่สะเทือนฟ้าดิน

เป็นสองกระบี่ที่ธรรมดามาก ต่างคนต่างสำแดงหนึ่งกระบี่ออกมา ต่างคนต่างมีโอกาสหนึ่งรุกหนึ่งรับคนละครั้ง เรียกได้ว่าหากว่ากันถึงเรื่องกระบวนท่ากระบี่แล้ว ท่วงท่ากระบี่ที่ใช้ตัดสินชี้ขาดธรรมดามากเหลือเกิน ธรรมดาจนเปรียบเหมือนน้ำเปล่าอย่างนั้น

แต่ทว่า ด้วยสองกระบี่ที่ราบเรียบดั่งน้ำเปล่านี้ กลับสร้างความหวั่นไหวให้กับทุกคน ทำให้ผู้คนได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าอะไรที่เรียกว่าวิชากระบี่ อะไรที่เรียกว่ากระบี่ปราศจากผู้ต่อกร

กระบี่ที่ปราศจากผู้ต่อกรไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่วงท่างดงามเพียงใด ยามที่ก้าวไปถึงระดับปราศจากผู้ต่อกรท่วงท่ากระบี่ที่ธรรมดามากกว่านี้ก็จะปราศจากผู้ต่อกรเช่นกัน

……..

 

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท