ในขณะที่ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจำนวนมากต่างทยอยกันส่งสัญญาณปราบปรามหลี่ชิเย่นั้น ขณะที่หลี่ชิเย่ในฐานะผู้เป็นเป้าหมายถูกปราบปรามกลับไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่น้อย เวลานี้เขาได้เข้าไปบริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของเทือกเขาเทือกนี้แล้ว
เทือกเขาเทือกนี้กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต เสมือนดั่งไร้ขอบเขตสิ้นสุดอย่างนั้น หลี่ชิเย่ก้าวเดินไปข้างหน้าตลอดทาง ในที่สุดได้ไปถึงจุดหมายปลายทางที่ต้องการจะเข้าไปแล้ว
ตูม…ตูม…ตูม…ขณะที่หลี่ชิเย่ยังไม่ทันเข้าไปใกล้จุดหมายปลายทางนั้น ปรากฎเสียงดังตูมตามดังขึ้นมาเป็นระลอกไม่ขาดสาย ดินสะเทือนภูเขาสั่นไหว ฟ้าถล่มดินทลาย ดุจดั่งเป็นวันสิ้นโลกอย่างนั้น
เปรียะ เปรียะ…ในเวลาเดียวกันนี้ เสียงฟ้าแลบก็ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย มองเห็นท้องฟ้าข้างหน้าที่สว่างไสว ฟ้าแลบจำนวนนับไม่ถ้วนที่คล้ายดั่งงูยักษ์กำลังส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง พริบตาเดียวนั่นเอง ฟ้าแลบจำนวนนับไม่ถ้วนเหมือนถูกเทลงมาลักษณะคล้ายน้ำหลากจากเคลื่อนพังอย่างนั้น
ปัง…เสียงดังสนั่น ในขณะเดียวกัน มองเห็นข้างหน้าปรากฎคลื่นพลังที่เกิดจากการปะทะดั่งคลื่นยักษ์สูงนับล้านล้านจ้าง ต้องการสอยเอาสุริยันจันทราและดวงดาวบนท้องฟ้าลงมา
เมื่อมองดูจากระยะห่างไกลก็รู้ได้ทันทีว่าข้างหน้ามีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดยิ่งนัก
เมื่อหลี่ชิเย่เดินเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นปี้โซ่วสามตัวที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมต่อสู่กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ที่ถูกต้องควรบอกว่าเป็นปี้โซ่วเป็นๆ หนึ่งตัวสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับโครงกระดูกปี้โซ่วสองโครง ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือดจนเลือดสาดกระเซ็น
หลี่ชิเย่ไม่รู้สึกแปลกหน้ากับปี้โซ่วที่ยังมีชีวิตอยู่ตัวนั้น มันคือวัวขุยหนิวที่บรรทุกพวกของหลี่ชิเย่เข้ามาตัวนั้น เพียงแต่เวลานี้นาทีนี้วัวขุยหนิวตัวนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด ได้รับบาดเจ็บไม่เบา
สำหรับโครงกระดูกปี้โซ่วอีกสองโครงนั้น เป็นโครงกระดูกที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารมาก หนึ่งในจำนวนนั้นดูไปแล้วเหมือนแมงป่องยักษ์ แมงป่องยักษ์นี้มีขนาดที่ใหญ่น่ากลัวมาก โครงกระดูกทั้งโครงเสมือนหนึ่งวางทาบอยู่บนยอดเขาหลายลูก ที่ทำให้รู้สึกน่ากลัวมากที่สุดก็คือ เข็มพิษที่อยู่ตรงหางของมันนั่น แม้ว่าโครงกระดูกของแมงป่องยักษ์ตัวนี้จะเน่าเปื่อยจนเหลือเพียงเปลือกและกระดูกส่วนหัวเท่านั้น แต่ว่าเข็มพิษของมันยังถูกคงไว้อย่างสมบูรณ์ เข็มพิษที่อยู่ตรงนั้นยังคงส่งประกายดำเงาวับ
ได้ยินเสียงดังฉึกเสียงหนึ่ง เข็มพิษของแมงป่องยักษ์ได้ฉกเข้ามาดั่งสายฟ้าแลบ พลันทะลุผ่านภูเขาได้ลูกหนึ่ง ภูเขาลูกนี้ภายใต้การฉกเข้าหาของหางพิษแมงป่องยักษ์เสมือนหนึ่งบางดั่งกระดาษ ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ขณะที่เข็มพิษจากหางของแมงป่องยักษ์ฉกทะลุผ่านภูเขาลูกนี้ ได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดขึ้น ภูเขาทั้งลูกถึงกับปรากฏเป็นควันขาวหนาทึบขึ้นมา ภายในระยะเวลาอันสั้น มองเห็นภูเขาลูกนี้ถึงกับละลายกลายเป็นเหมือนลาวา ความน่ากลัวของเข็มพิษเช่นนี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากเห็นแล้วต้องร่างสั่นเทิ้มขึ้นมา
นอกจากโครงกระดูกแมงป่องยักษ์ที่ใหญ่โตมโหฬารแล้ว ยังมีโครงกระดูกปี้โซ่วที่ใหญ่โตมากกว่าอีกโครงหนึ่ง มันเป็นปี้โซ่วที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายเต่า ความใหญ่โตมโหฬารของโครงกระดูกคล้ายเต่าสร้างความตื่นตระหนกยิ่งนัก ยามที่มันยืนขึ้น ภูเขาจำนวนมากล้วนแล้วแต่อยู่ใต้เท้าของมัน กระดองเต่าของมันดุจดั่งสามารถครอบภูเขาเอาไว้
แม้ว่าการเคลื่อนไหวของโครงกระดูกเต่ายักษ์ตัวนี้จะค่อนข้างเก้งก้าง แต่ว่าฟันของมันแหลมคมเป็นอย่างยิ่ง ได้ยินเสียงดังคร๊ากกก คร๊ากกก คร๊ากกกที่ดังขึ้นเป็นระลอก เห็นเต่ายักษ์ตัวนี้เมื่อมันอ้าปากกัดก็จะมีภูเขาแต่ละลูกที่ถูกฟันกัดจนแหลกละเอียดไป
ในเวลานี้ ปี้โซ่วที่เป็นเหมือนวัวขุยหนิวได้ต่อสู้กับโครงกระดูกปี้โซ่วที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารทั้งสองอย่างดุเดือด ชนิดเจ้าตายข้าอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้การประสานร่วมมือกันของโครงกระดูกปี้โซ่วทั้งสองแล้ว ปี้โซ่วที่เป็นขุยหนิวยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู่ของพวกมัน
มองเห็นปี้โซ่วขุยหนิวอ้าปากและร้องคำรามเสียงดัง ตามติดมาด้วยเสียงเปรียะ เปรียะ เปรียะดังขึ้น ฟ้าแลบฟ้าผ่าได้ฟาดลงมาจากท้องฟ้าอย่างบ้าคลั่งและรุนแรง เหมือนดังเป็นแส้ยักษ์แต่ละเส้นที่ฟาดเข้าใส่โครงกระดูกปี้โซ่วทั้งสอง
มองเห็นเต่ายักษ์ร้องคำรามเสียงดังทีหนึ่งเมื่อต้องเผชิญกับฟ้าแลบและฟ้าผ่าที่ฟาดลงมาอย่างบ้าคลั่ง กระดองเต่าขนาดยักษ์ปราศจากผู้เทียบเทียมยกสูงขึ้น เสมือนดั่งเป็นโล่ยักษ์ขวางกั้นอยู่บนท้องฟ้า พลันกันฟ้าแลบฟ้าผ่าที่ฟาดลงมาทันที
ตูม ตูม ตูมเสียงแต่ละเสียงที่ดังขึ้นไม่ขาดสาย กระดองเต่าได้ต้านฟ้าแลบฟ้าผ่าที่บ้าคลั่งเอาไว้ ขณะที่ฟ้าแลบฟ้าผ่าที่บ้าคลั่งฟาดลงบนกระดองเต่าปรากฎสะเก็ดไฟที่แตกกระจาย เสมือนดั่งภูเขาไฟระเบิดอย่างนั้น
จังหวะที่เต่ายักษ์ได้ต้านขวางฟ้าแลบฟ้าผ่าที่บ้าคลั่งเอาไว้แล้ว แมงป่องยักษ์ตัวนั้นได้อ้อมไปด้านหลังของปี้โซ่วขุยหนิว เสียงฉึกดังขึ้น เข็มพิษของมันได้ต่อยเข้าไปยังกลางหลังของปี้โซ่วขุยหนิวด้วยความเร็วที่สุดเปรียบเปรยโดยพลัน
พริบตาเดียวนั้นเอง ปี้โซ่วขุยหนิวพลันเปลี่ยนตำแหน่ง ขณะเดียวกันร้องคำรามเสียงดังขึ้นมา ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา ภายใต้การคำรามเสียงดังนั้น มองเห็นโล่ดินยักษ์โผล่ขึ้นมาจากใต้พื้นดิน และขวางอยู่ด้านหน้าของมัน
แต่ทว่า ยังคงได้ยินเสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา เข็มพิษพลันทะลุโล่ดินและข่วนบริเวณไหล่ของปี้โซ่วขุยหนิวจนได้รับบาดเจ็บ เลือดสดๆ พุ่งกระฉูดออกมา แม้ว่าปี้โซ่วขุยหนิวสามารถรองรับกับพิษร้ายแรงของแมงป่องยักษ์เอาไว้ได้ แต่ยังคงส่งผลกระทบต่อมันเป็นอันมาก สีเลือดที่ออกมากลายเป็นสีดำ
ตูมเสียงดังสนั่น จังหวะเดียวกันกับที่ปี้โซ่วขุยหนิวถูกเข็มพิษแทงจนได้รับบาดเจ็บ ด้วยความโกรธมันได้เข้าสู่ลักษณะของบ้าคลั่งรุนแรง ได้ยินมันร้องฮือด้วยความโกรธ เสียงเปรียะเสียงหนึ่งดังขึ้น ทันใดนั้นปรากฎสายฟ้าแลบฟ้าผ่าที่บ้าคลั่งที่มีขนาดเขื่องเกิดและรวมตัวขึ้นตรงหน้าของมัน เหมือนว่ามันใช้มือข้างหนึ่งคว้าเอาฟ้าแลบฟ้าผ่าที่บ้าคลั่งจำนวนมากเข้ามาอย่างนั้น
ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง มองเห็นฟ้าแลบฟ้าผ่าที่บ้าคลั่งจำนวนนับไม่ถ้วนพลันจับตัวกลายเป็นกระบี่สวรรค์ที่มีขนาดใหญ่โตเล่มหนึ่งอยู่ด้านหน้าของปี้โซ่วขุยหนิว กระบี่สวรรค์ที่มีขนาดใหญ่โตเล่มนี้มีความวาววับดั่งหิมะ ส่องสว่างทั่วฟ้าดิน ทะลุผ่านหมื่นแดน ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ มองเห็นกระบี่สวรรค์ที่รวมตัวขึ้นจากฟ้าแลบฟ้าผ่าที่บ้าคลั่งปรากฎอักขระยันต์ที่แวบวับอยู่ภายใน ประดุจดั่งกระบี่สวรรค์เล่มนี้ไม่เพียงรวบรวมเอาพลังจากฟ้าแลบฟ้าผ่าที่บ้าคลั่งทั้งหมดเอาไว้ ยังมีพลังจากสัจธรรมแรกเริ่มอยู่ในครอบครองอย่างนั้น
แค่ปี้โซ่วตัวหนึ่งถึงกับเหมือนเบิกปัญญาอย่างนั้น และมันก็มีความสามารถเหมือนยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วไปที่สามารบังคับควบคุมพลังสัจธรรมอย่างนั้น ไม่ได้อาศัยเพียงพรสวรรค์ตามสัญชาตญาณอีกต่อไป ปี้โซ่วลักษณะเช่นนี้นับว่าน่ากลัวอย่างยิ่ง วันใดที่มันแข็งแกร่งขึ้นจะต้องกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แน่นอน
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น มองเห็นกระบี่สวรรค์เล่มนี้ของปี้โซ่วขุยหนิวที่ฟาดฟันลงมา ผ่าท้องฟ้าให้แยกออก ทำลายสุริยันจันทรา หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงมา ได้ยินเสียงดังคร๊ากกกที่เป็นเสียงแตกร้าวดังขึ้น กระดองเต่าที่หนามากของเต่ายักษ์ตัวนั้นแตกร้าวจากกระบี่สวรรค์ที่ฟาดฟันลงมา
ฉึก…เข็มพิษดั่งสายฟ้าแลบ กระทั่งไวกว่าสายฟ้าแลบเสียอีก จังหวะที่กระดองเต่าของเต่ายักษ์ถูกฟันจนแตกละเอียดนั้น การช่วยเหลือของแมงป่องยักษ์ก็มาถึง หางพิษของมันได้ต่อยเข้าไปดั่งสายฟ้าแลบในทันที พุ่งเป้าไปที่บริเวณลำคอของปี้โซ่วขุยหนิว
ปี้โซ่วขุยหนิวได้แต่ละทิ้งเต่ายักษ์ และร้องคำรามเสียงดังขึ้นมา กลับหลังหันฟาดฟันใส่แมงป่องยักษ์ทันที
ในขณะนี้ ปี้โซ่วยักษ์ทั้งสามสู้กันจนฟ้าถล่มดินทลาย สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้ว่าปี้โซ่วขุยหนิวจะแข็งแกร่งมาก แต่ว่า ภายใต้การประสานร่วมมือกันอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างแมงป่องยักษ์กับเต่ายักษ์ที่หนึ่งรุกหนึ่งรับ ทำให้ปี้โซ่วขุยหนิวไม่ได้เปรียบแต่อย่างใด บางครั้งกลับจะต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบด้วยซ้ำ
ในขณะที่ปี้โซ่วทั้งสามต่อสู้กันจนฟ้าถล่มดินทลายอยู่นั้น สถานที่หนึ่งที่ไม่ไกลจากพวกมันมีถ้ำหินมือตึดตื๋อแห่งหนึ่ง ถ้ำหินนี้มองเห็นเหมือนสัตว์ขนาดยักษ์ยุคดึกดำบรรพ์ที่กำลังอ้าปากว้าง
แม้ว่าจากการต่อสู้ของพวกปี้โซ่วขุยหนิวจนฟ้าถล่มดินทลาย ภูเขาโดยรอบแต่ละลูกล้วนแล้วแต่ แตกละเอียดไปสิ้น ผืนแผ่นดินก็แตกละแหง กระทั่งดาวขนาดใหญ่ใจจักรวาลก็ยังถูกทำลาย แต่ก็น่าแปลก มีเพียงถ้ำหินที่มืดตึดตื๋อนี้ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ทุกอย่าง แม้ว่ามันจะห่างจากสมรภูมรบใกล้เช่นนี้ แต่ก็ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย
หลังจากที่หลี่ชิเย่มาถึงแล้ว เขามองดูสภาพตรงหน้าทีหนึ่ง ขณะที่พวกของปี้โซ่วขุยหนิวก็มองเห็นการมาถึงของหลี่ชิเย่เช่นกัน แต่พวกมันไม่ให้ความสนใจต่อหลี่ชิเย่ ยังคงต่อสู้กันอย่างเผ็ดร้อนจนฟ้าถล่มดินทลาย
เมื่อหลี่ชิเย่มองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็เพียงยิ้มๆ นิดหนึ่ง และไม่ไปสนใจมองดูพวกมันมากนัก สายตาของเขาตกอยู่ที่ถ้ำหินที่มืดตึดตื๋อนั่น
ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง เดินเข้าหาถ้ำหินนั้นอย่างช้าๆ นี่คือสถานที่ที่เขาตามหานั่นเอง
ฮือออ…จังหวะที่หลี่ชิเย่เข้าไปใกล้ถ้ำหินที่มือตึดตื๋อนั้นเอง ได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธจากเต่ายักษ์และแมงป่องยักษ์พร้อมกัน พริบตาเดียวนั่นเอง ทั้งเต่ายักษ์และแมงป่องยักษ์ได้ละทิ้งปี้โซ่วขุยหนิว และวิ่งเข้าหาหลี่ชิเย่ทันที
ปุ…ในเสี้ยววินาทีนี้เองเสียงหนึ่งดังขึ้น ที่มีความเร็วสูงสุดก็คือแมงป่องยักษ์ เข็มพิษของมันรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ แทงตรงไปยังลำคอของหลี่ชิเย่
สายตาของหลี่ชิเย่ที่เพ่งไปข้างหน้าเมื่อเผชิญกับเข็มพิษที่ดั่งสายฟ้าแลบ ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น เป็นเสียงที่เบามาก คล้ายเสียงผลิบานของดอกไม้ เสียงที่บางเบาเช่นนี้คนทั่วไปไม่สามารถได้ยินอยู่แล้ว
ในพริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่ได้กำกระบี่เล่มหนึ่งในมือ แต่ทว่า กระบี่เล่มนี้มองเห็นได้ยากมาก มันเป็นกระบี่ที่โปร่งแสง เรียกได้ว่าไร้รูปไร้เงา ความบางของกระบี่นั้นบางจนยากจะจินตนาการ บางยิ่งกว่ากระดาษแผ่นหนึ่งพันเท่าหมื่นเท่า
ช่าาา…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่เข็มพิษได้ต่อยเข้ามาจังหวะนั้น กระบี่ในมือได้สำแดงออกไป ท่วงท่านั้นต่อเนื่องเหมือนดั่งเป็นจังหวะเดียว แยกชิ้นส่วนออกเป็นชิ้นๆ ด้วยความชำนาญ
สุดท้าย ได้ยินเสียงช่าาาดังขึ้นอีกครั้ง หลี่ชิเย่ ยังคงยืนอยู่ที่ตรงนั้น เพียงแต่เขาได้เก็บกระบี่แล้วเวลานี้
ตูมเสียงดังสนั่นขึ้นเสียงหนึ่ง ในขณะที่หลี่ชิเย่ได้เก็บกระบี่แล้วนั้น เต่ายักษ์ได้บุกมาถึง ขาเต่าขนาดยักษ์ได้กระทืบใส่หลี่ชิเย่อย่างแรง
หลี่ชิเย่ไม่ได้เลิกกระทั่งหนังตา กระบี่ในมือสำแดงออกไปอีกครั้ง ท่วงท่าเป็นไปอย่างต่อเนื่องเหมือนไม่มีกระบวนท่าใดๆ เป็นการแยกร่างออกเป็นชิ้นๆ ด้วยความชำนิชำนาญ
เมื่อหลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง ทำอย่างดูจะเงียบสงัดยิ่งนัก เหมือนว่าแม้แต่อากาศก็จับตัวกันแน่นไปแล้วอย่างนั้น มองเห็นเต่ายักษ์และแมงป่องยักษ์ล้วนแล้วแต่ยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวอยู่ตรงนั้น
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ จึงได้ยินเสียงดังคร๊ากกก คร๊ากกก คร๊ากกกขึ้นมา เห็นเพียงเต่ายักษ์และแมงป่องยักษ์พลันแยกร่าง ทุกๆ ส่วนที่เป็นข้อต่อปริแยกออก และร่างกายของพวกมันก็แยกออกเป็นชิ้นๆ ทั้งยังอยู่ในสภาพที่เรียบร้อยสมบูรณ์ เหมือนว่านี่คือศิลปะแขนงหนึ่ง
พริบตาเดียวนั่นเอง โครงกระดูกทั้งเต่ายักษ์และแมงป่องยักษ์กระจายอยู่บนพื้น ปราศจากเสียงใดๆ อีก
หลี่ชิเย่มองดูภาพตรงหน้าด้วยความเรียบเฉย เพียงยิ้มๆ นิดหนึ่งเท่านั้น ในเวลานี้กระบี่คริสตัลในมือก็จางหายไป
กระบี่คริสตัลคือชื่อที่หลี่ชิเย่ตั้งให้กับกระบี่เล่มนี้นี่เอง หรือให้ถูกต้องยิ่งกว่า มันไม่ใช่กระบี่เล่มหนึ่งที่แท้จริง มันคือวิชากระบี่ เพียงแต่วิชากระบี่นี้ได้จับตัวกลายเป็นกระบี่เล่มหนึ่งอยู่ในมือหลี่ชิเย่เท่านั้นเอง