ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2375 ดวงตาข้างนั้น

ตอนที่ 2375 ดวงตาข้างนั้น

ในพริบตาเดียวนั่นเอง เกิดการสั่นไหวโคลงเคลงไปมาที่เงินทองตกพื้น แม้ว่าไม่ได้มีเสียงของฟ้าดินที่ถูกทำลายพินาศย่อยยับ แต่ภายในใจของทุกคนล้วนแล้วแต่บังเกิดเสียงตูมดังขึ้นมา คล้ายมีอะไรบางสิ่งที่เกิดระเบิดขึ้นโดยพลัน

ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนขนลุกซู่และร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง เหมือนว่ามีเงาทมิฬที่น่ากลัวยิ่งครอบลงกลางใจของตนอย่างนั้น

แดนปรลัยราชัน…ทันใดนั้นเอง จิตใต้สำนึกบรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่อยู่ในเงินทองตกพื้นต้องมองไปยังทิศทางอันเป็นที่ตั้งของแดนปรลัยราชัน แม้แต่ผู้ที่ไม่รู้ว่าแดนปรลัยราชันตั้งอยู่ที่ใดก็ยังมองไปยังทิศทางดังกล่าว เนื่องจากความรู้สึกหวาดกลัวที่อยู่ภายในจิตใจของผู้คนทุกคนก็มาจากทิศทางนั้น

 มันคือแดนปรลัยราชัน  ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิผู้หนึ่งกล่าวว่า  เป็นจอมวายร้ายในแดนปรลัยราชันถูกปลุกให้ฟื้นตื่นขึ้นมา ตามตำนานกล่าวไว้ว่าเป็นมารร้ายที่อยู่ในความมืดตนนี้สังหารปฐมบรรพบุรุษเซิ่นอี 

 ใครกันนะที่ไปรบกวนเจ้ามารร้ายตนนี้?  แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรก็ยังต้องมีสีหน้าที่ขาวซีดในเวลานี้ ร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง สมควรทราบว่าแม้แต่ปฐมบรรพบุรุษเซิ่นอียังต้องสู้จนตัวตายอยู่ด้านใน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆ อีกแล้วล่ะ

 ถ้าหากมีใครไปรบกวนทำให้จอมมารร้ายแตกตื่นจริงล่ะก็ มันเป็นการรนหาที่ตายชัดๆ แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษเซิ่นอีก็สู้รบจนตัวตายอยู่ในนั้น ยิ่งไม่พูดถึงคนอื่น  ระดับเจ้าสำนักถึงกับเสียวสันหลังวาบ  มีเพียงคนที่จะฆ่าตัวตายเท่านั้นที่เข้าไป 

ในเวลานี้ ยอดฝีมือทุกคนที่อยู่ในเงินทองตกพื้นต่างตกใจเป็นการใหญ่ ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครกันที่ไปทำให้มารร้ายตนนั้นภายในแดนปรลัยราชันแตกตื่น ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ร่างสั่นเทิ้ม และพึมพำขึ้นมาว่า  นี่มันเสียสติไปแล้วชัดๆ กล้าไปกระทั่งแดนปรลัยราชัน 

เสียงตูมดังสนั่นขึ้นภายในตำหนักโบราณ เงาทมิฬไม่พูดไม่จา พลันที่ปรากฏตัวก็หนึ่งฝ่ามือยักษ์ที่ฟาดลงมาเพื่อสังหาร ภายใต้ฝ่ามือยักษ์เช่นนี้ ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่แตกสลาย ทุกสิ่งล้วนถูกยิงจนกลับสู่จุดดั้งเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนจมหายไปในบัดดล ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ไม่ได้ดำรงอยู่อีกต่อไป ปราศจากเวลา ปราศจากช่องว่าง ทุกสิ่งทุกอย่างกลับไปสู่จุดเดิม

ภายใต้หนึ่งฝ่ามือลักษณะเช่นนี้ แม้แต่เทพแท้จริงขั้นอมตะล้วนแล้วแต่ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด หนึ่งฝ่ามือที่น่ากลัวเช่นนี้เกรงว่าคงมีเพียงผู้ดำรงอยู่ในฐานะปฐมบรรพบุรุษจึงสามารถต้านรับไว้ได้

หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่รู้สึกหวั่นไหว เมื่อต้องเผชิญกับหนึ่งฝ่ามือที่ทำลายล้างโลกเช่นนี้ ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า  เจ้าก็แค่หลงทางเท่านั้นเอง เจ้าสมควรชี้นำทางให้ข้าได้พบกับผู้ดำรงอยู่ในฐานะเงินทองตกพื้นที่แท้จริง! 

ระหว่างที่หลี่ชิเย่พูดคุยอยู่นั้น บนฝ่ามือได้ถือลูกบอลน้ำอยู่ลูกหนึ่งไว้แล้ว ลูกบอลน้ำลูกนี้ดูไปแล้วคล้ายเป็นดวงตาของน้ำที่เป็นฟอง ทั้งใหญ่และสุกใส

ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองลูกนี้หลี่ชิเย่ไปได้มาจากบริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของเมืองปี้โซ่วเฉิง ณ ที่ตรงนั้นแม้แต่ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวก็เคยเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ใหม่ทั้งหมด

แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองนี้พลันกลับกลายเป็นสุกใสยิ่งนัก เสมือนดั่งส่องสว่างไสวไปทั่งทั้งโลกาอย่างนั้น พลันส่องให้โลกที่กว้างใหญ่ไพศาลและโล่งแห่งนี้จนสว่างไสวปราศจากผู้เทียบเทียม และขับไล่ความมืดมิดทั้งหมดไปในทันที

จี๊ด จี๊ด จี๊ดเสียงที่ดังขึ้นเป็นระลอก ในพริบตาเดียวนั่นเอง เงาทมิฬที่น่ากลัวอย่างยิ่งพลันถูกดวงตาขนาดยักษ์ปราศจากผู้เทียบเทียมดูดเข้ามาหา กลายเป็นหมอกควันสีดำเป็นสายๆ ลอยเข้าไปในดวงตาของน้ำที่เป็นฟอง

เงาทมิฬนี้รู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก คิดหันหลังหนีไป แต่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว เหมือนว่าแต่เดิมมันกับดวงตาของน้ำที่เป็นฟองนี้เป็นร่างเดียวกัน เมื่อดวงตาของน้ำที่เป็นฟองนี้ปรากฏขึ้นมา มันก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและถูกดูดเข้าไปทันที

เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ภายในระยะเวลาอันสั้น เงาทมิฬที่น่ากลัวอย่างยิ่งพลันถูกดวงตาของน้ำที่เป็นฟองดูดเข้าไปจนหมดสิ้น

ในเวลานี้ เงาทมิฬดังกล่าวถูกรวบรวมไปอยู่บริเวณตรงกลางของดวงตาของน้ำที่เป็นฟอง ดูไปแล้วเวลานี้จึงนับเป็นดวงตาที่สมบูรณ์โดยแท้จริง

ก่อนหน้านั้น ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองดูไปแล้วเป็นเพียงแก้วตาที่ไม่มีรูม่านตาเท่านั้น แต่ว่า เมื่อมันได้ดูดเอาเงาทมิฬเข้าไปแล้ว เงาทมิฬก็ได้กลายเป็นรูม่านตาของดวงตาของน้ำที่เป็นฟอง ทั้งดำและสว่างแวววาว

ก๊อก ก๊อกเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองซึ่งถืออยู่บนฝ่ามือของหลี่ชิเย่ถึงกับมีการเคลื่อนไหว คล้ายกับตาของคนที่มีการกรอกตาไปมาอย่างนั้น คนที่ขวัญอ่อนคงตกใจน่าดูกับสิ่งนี้

 สิ่งนี้แหละที่เป็นต้นกำเนิดของเจ้า  หลี่ชิเย่มองดูดวงตาของน้ำที่เป็นฟองบนมือ หัวเราะและกล่าวว่า  ได้เวลาสมควรนำทางให้ข้าได้แล้ว 

เสียงปุดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองนี้เหมือนรู้ฟังคำพูดของหลี่ชิเย่อย่างนั้น

แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองได้เปล่งแสงออกมาอีกครั้งหนึ่ง แสงดังกล่าวมีความสว่างไสวมากขึ้นเรื่อยๆ และดวงตาของน้ำที่เป็นฟองเหมือนค่อยๆ ละลายไปอย่างนั้น ถึงกับเหมือนน้ำใสแจ๋วที่กระเพื่อมเป็นวงและเปล่งประกายออกมายามต้องแสงอาทิตย์ อีกทั้งวงแหวนที่เกิดจากการละลายนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นๆ สุดท้าย ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองก็ได้ละลายจนหมดอย่างสิ้นเชิง

ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองหลังจากละลายไปจนหมดโดยสิ้นเชิงแล้ว ได้ละลายเหมือนหนึ่งกลายเป็นทะเลสาบอย่างนั้น อีกทั้งเป็นทะเลสาบที่มีน้ำซึ่งใสแจ๋ว แต่ทว่า ตรงกลางของทะเลสาบกลับมีความมืดอยู่ก้อนหนึ่งที่เหมือนไม่สามารถทำให้มันจางหายไปได้

นาทีนี้ความมืดกลางทะเลสาบที่ไม่สามารถทำให้จางหายไปได้นั้น ได้ค่อยๆ หมุนวนรอบตัวขึ้นมาจนกลายเป็นเหมือนวังวนที่คล้ายบันไดทอดยาวไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลสาบ

หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย และก้าวเท้าลงไปในทะเลสาบทันที เมื่อมองเห็นบันไดวังวนดำมืดที่ทอดยาวออกไปยังบริเวณที่ลึกยิ่งกว่านี้

เสียงปุเสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่หลี่ชิเย่ก้าวเดินบนบันไดดำมืดที่เสมือนวังวนสายนี้ ทั่วทั้งช่องว่างคล้ายมีการหลอมละลายไปอย่างนั้น

เมื่อหลี่ชิเย่ก้าวเท้าขึ้นไปบันไดดำมืดนั้น ช่องว่างช่องนั้นคล้ายค่อยๆ หลอมละลายไปอย่างนั้น ในเวลานี้เหมือนว่าช่องว่างทั้งหมดภายใต้ฟ้าดินล้วนแล้วแต่ทับซ้อนกันกับทะเลสาบอย่างช้าๆ และค่อยๆ ละลาย จนสุดท้ายช่องว่างและทะเลสาบก็หลอมกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่สามารถแยกได้อีกว่าคือช่องว่างหรือทะเลสาบกันแน่

ในขณะนี้หลี่ชิเย่ที่ก้าวขึ้นไปยังบันไดที่มืดมิดก็เดินไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ได้หายไปท่ามกลางความมืด

ขณะที่หลี่ชิเย่เข้าไปยังบันไดที่มืดมิดนั้น ที่แดนลัทธิพรรษ ภายในจูเซียงหวู่ถิง ปรากฏเสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา ทันใดนั้นเองมองเห็นลำแสงศักดิ์สิทธิ์สายหนึ่งที่พุ่งขึ้นไปอย่างรุนแรง ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้ขอบเขตสิ้นสุดพลันตลบอบอวลไปทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ กระทั่งสาดส่องไปทั่วฟ้าดินจนสว่างไสว ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าของแดนลัทธิพรรษ

จังหวะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างนั้น กลิ่นอายที่ปราศจากผู้ต่อกรสายหนึ่งพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ในชั่วพริบตาเดียวนั้นเอง ร่างเงาสายหนึ่งเหินฟ้าออกไป ขณะที่ร่างเงาสายนี้ปรากฏขึ้นมานั้น สรรพสัตว์ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิงพลันถูกสยบ ในเวลานี้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก้มกราบอยู่กับพื้นดิน

เทพสงครามมังกรคชาธาร…พริบตาเดียวนั่นเอง ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกสะดุ้งภายในใจ พลันถูกกลิ่นอายที่ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าสายนี้สยบจิตใจเอาไว้ทันที

เทพสงครามมังกรคชาธารกลับสู่ยุทธภพ…นาทีนี้ ข่าวที่สะเทือนเลื่อนลั่นซึ่งเปรียบเสมือนพายุได้โหมกระหน่ำไปทั่วแดนลัทธิพรรษ

 เทพสงครามมังกรคชาธารกลับสู่ยุทธภพ!  ไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ ก็ตามล้วนแล้วแต่หวั่นไหวกับข่าวเช่นนี้ ในเวลานี้ระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนนับไม่ถ้วนล้วนแล้วแต่ทยอยถูกทำให้แตกตื่น

เทพสงครามมังกรคชาธาร ยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแดนลัทธิพรรษ ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า เขาอยู่ในฐานะบรรพบุรุษที่เฝ้าปกป้องจูเซียงหวู่ถิง และในฐานะยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแดนลัทธิพรรษ ไม่ได้ปรากฎตัวมาเป็นเวลาเนิ่นนานมากๆ แล้ว เขาได้หายไปจากสายตาของผู้คนในหล้ามานานมาก ตัวเขาเสมือนหนึ่งเป็นเทพนิยายที่อยู่ในตำนานอย่างนั้น มีเพียงบางครั้งเท่านั้นที่มีผู้ที่เอ่ยถึงผู้ซึ่งดำรงอยู่ในฐานะเช่นเขาด้วยความบังเอิญ

มาวันนี้ เทพสงครามมังกรคชาธารพลันกลับคืนสู่ยุทธภพกะทันหัน ทำเอาระดับบรรพบุรุษของแดนลัทธิพรรษไม่รู้จำนวนเท่าไรต้องตกอกตกใจกันยกใหญ่

 จะเกิดเรื่องใหญ่แล้วล่ะ  มีระดับบรรพบุรุษถึงกับพึมพำขึ้นมาว่า  แดนลัทธิพรรษต้องผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแล้ว จะมีบุคคล หรือเรื่องราวกี่มากน้อยที่คู่ควรให้เทพสงครามมังกรคชาธารกลับสู่ยุทธภพได้ 

เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ณ เงินทองตกพื้นเหมือนมีใครสักคนได้ทำลายท้องฟ้าจนแตกละเอียดอย่างนั้น ฟ้าดินถึงกับสั่นไหวโคลงเคลงไปทีหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเองมีผู้ที่ก้าวข้ามฟ้าดิน สั่นคลอนหมื่นอาณาจักร

นาทีนี้เอง กลิ่นอายที่น่าเกรงขามไม่มีสิ้นสุดสายหนึ่งได้ตลบอบอวลระหว่างฟ้าดินในเงินทองตกพื้น

ทุกคนต่างถูกทำให้หวั่นไหวจากกลิ่นอายสายนี้ ซึ่งลักษณะเช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วตอนเทพอินทรีหวินตู้ ตัวเขาก็เป็นขั้นอมตะคนหนึ่งเหมือนกัน แต่ว่า ขณะที่เขาปรากฎตัวนั้นยังมีท่วงท่าที่ห่างไกลจากที่เป็นอยู่เวลานี้

นาทีนี้ผู้คนจำนวนเท่าไรไม่ทราบได้ที่แหงนหน้ามองไปยังฟากฟ้า มองเห็นผู้เฒ่าคนหนึ่งที่เหินฟ้าเข้ามา

เห็นเพียงผู้เฒ่าผู้นี้สวมชุดเทาทั้งชุด บนตัวปราศจากประกายที่ส่องสว่างฟ้าดิน ปราศจากท่าทีที่อยู่เหนือผู้คนตลอดกาล แต่ละก้าวที่เขาก้าวเท้าเข้ามา เสมือนหนึ่งฟ้าดินอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา โลกทั้งโลกต้องหมุนตามเพื่อเขา

เขาสวมใส่ชุดเทาที่รัดรูป แลดูมีความสามารถแลความชำนาญยิ่งนัก แม้ว่าอายุของเขาจะมากแล้ว ยังคงมีชีวิตชีวาที่น่าเกรงขามสายหนึ่ง เหมือนว่ากาลเวลาก็ไม่สามารถทำให้เขาต้องแก่หง่อมได้อย่างนั้น

แต่ละย่างก้าวที่เขาก้าวเดินเข้ามา ภาพแห่งความทรงจำอันดับแรกก็คือ…นักสู้ เป็นนักสู้ที่ไม่สามารถทำให้ลบเลือนไปได้ มีความสามารถและความชำนาญเย็นชาไร้ความรู้สึก ภาพรวมของตัวเขาเสมือนหนึ่งเป็นรูปปั้นแกะสลักที่สมบูรณ์แบบ

มองดูเค้าโครงบนตัวของผู้เฒ่าผู้นี้ดูลงตัว ปราศจากส่วนเกินหรือสิ่งที่สลับซับซ้อน ทุกสิ่งทุกอย่างบนตัวของเขาล้วนพอดิบพอดี ปราศจากสิ่งเกินความจำเป็นที่เป็นภาระ

เทพสงครามมังกรคชาธาร…มีระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพลันจดจำประวัติความเป็นมาของเขาได้ เมื่อได้เห็นผู้เฒ่าผู้นี้ที่ก้าวเดินเข้ามาช้าๆ ร้องเสียงแหลมขึ้นมาด้วยความหวาดผวา

 เทพสงครามมังกรคชาธาร เป็นเทพสงครามมังกรคชาธาร เทพสงครามมังกรคชาธารมาแล้ว  ในเวลานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ตกใจจนอ้าปากตาค้าง มองดูผู้เฒ่าผู้นี้ที่ก้าวเดินช้าๆ แต่ไกล

ในเวลานี้ ทุกคนต่างดวงตาเบิกกว้าง มองดูผู้เฒ่าผู้นี้ที่ก้าวเดินช้าๆ เข้ามาชนิดไม่กะพริบตา

เทพสงครามมังกรคชาธาร ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแดนลัทธิพรรษ เขาไม่ได้อวดอ้างความเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรของเขา และไม่ได้ปลดปล่อยกลิ่นอายที่พาลและถืออำนาจบาตรใหญ่ของตนออกมา แต่การก้าวเดินเข้ามาทีละก้าวๆ ของเขาเท่านี้ก็โดดเด่นมากพอแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม เทพสงครามมังกรคชาธารไม่จำเป็นต้องโอ้อวดความปราศจากผู้ต่อกรของเขา เขาก็สามารถกลายเป็นศูนย์กลางของผู้คนทุกคนได้เช่นกัน และสามารถดึงดูดสายตาผู้คนทั้งหมดได้เช่นกัน

 เทพสงครามมังกรคชาธาร เขา เขามาแล้ว  ระดับบรรพบุรุษผู้หนึ่งร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง รู้สึกขนลุกในใจ

เทพสงคราม…หวู่ปิงหนิงรับรู้ได้ทันทีว่าท่าจะไม่ดีเสียแล้ว เมื่อมองเห็นเทพสงครามมังกรคชาธารแต่ไกล ถึงกับร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง รู้แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว

ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง หวู่ปิงหนิงคิดจะฉากหลบไป แต่ ทุกอย่างสายเกินไปเสียแล้ว

เมื่อครู่นี้เทพสงครามมังกรคชาธารยังปรากฏอยู่ที่เส้นขอบฟ้า และเขาแค่ก้าวเดินเข้ามาทีละก้าวๆ เท่านั้นเอง แต่ว่า ขณะหวู่ปิงหนิงคิดจะหลบหนีไปนั้น เทพสงครามมังกรคชาธารแค่ก้าวมาก้าวเดียวก็ปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าหวู่ปิงหนิงเสียแล้ว

ภายใต้ฝ่าเท้าของเทพสงครามมังกรคชาธาร เหมือนว่ามันไม่ใช่ระยะทางเป็นพันเป็นหมื่นลี้ แต่เป็นเพียงก้าวเดียวเท่านั้นเอง

……………………………………………

 

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท