เสียงปังดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง จังหวะที่ผู้คนจำนวนมากไม่รู้ถึงความยอดเยี่ยมและลึกซึ้งของกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ นั้น หลี่ชิเย่ได้ต้านรับกระบวนท่านี้เอาไว้แล้ว
มองเห็นหลี่ชิเย่ที่กางฝ่ามือออกอย่างชำนาญ และต้านรับกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ ของเทพสงครามมังกรคชาธารเอาไว้พอดิบพอดี เมื่อกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ ลักษณะเช่นนี้โจมตีถึงบริเวณหน้าอกก็ถูกมือของหลี่ชิเย่ขวางเอาไว้อย่างชำนาญ ขณะที่มือของหลี่ชิเย่หุบลง คล้ายหมื่นสกุณากลับรังอย่างนั้น
อีกทั้งเหมือนว่าหลี่ชิเย่ไม่ได้ต้านรับกับหมัดที่ซัดเข้ามานี้อย่างจงใจ เขาทำไปด้วยความสบายๆ และตามอารมณ์อย่างยิ่ง เหมือนว่าทุกอย่างล้วนแล้วแต่คล้อยตามธรรมชาติ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นไปตามธรรมชาติอย่างนั้น
ในพริบตาเดียวนี้เอง ทุกคนล้วนแล้วแต่บังเกิดมโนภาพขึ้นมา เทพสงครามมังกรคชาธารไม่ได้เป็นผู้ออกหมัดก่อนด้วยกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ แต่เป็นหลี่ชิเย่ที่ใช้ฝ่ามือป้องกันอยู่ตรงนั้นแต่แรก นิ้วทั้งห้ากางออกเล็กน้อย จากนั้นจึงตามด้วยหนึ่งหมัดของเทพสงครามมังกรคชาธารที่ซัดเข้าไป อีกทั้งหมัดนั้นของเทพสงครามมังกรคชาธารก็ได้โจมตีเข้าไปถูกฝ่ามือของหลี่ชิเย่อย่างพอดิบพอดี
ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เหมือนผลกรรมกลับตาลปัตรในพริบตาเดียว นี่แหละคือสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุด
หากจะกล่าวว่า เมื่อไรที่ถูกเทพสงครามมังกรคชาธารโจมตีด้วยหมัดๆ นั้น คือฟ้าดินถูกทำลายพินาศย่อยยับ แต่ ขณะที่มือของหลี่ชิเย่กางออกอย่างชำนิชำนาญก็ทำให้ผลกรรมกลับตาลปัตร เท่ากับทุกสิ่งทุกอย่างถูกเปลี่ยนแปลงไป
การทำลายฟ้าดินให้พินาศย่อยยับกลับกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่จุดเริ่มต้น เหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนเห็นคือภาพของหลี่ชิเย่ที่กุมหมัดของเทพสงครามมังกรคชาธารเอาไว้ ช่างเป็นธรรมชาติ ช่างตามอารมณ์อะไรอย่างนั้น
สิ่งนี้ดูไปแล้วดุจดั่งเป็นการปะหมัดและฝ่ามือเบาๆ ระหว่างสหายสองคนเท่านั้น แต่ผู้ที่สามารถมองออกถึงความยอดเยี่ยมลึกซึ้งของหนึ่งหมัดและหนึ่งฝ่ามือนี้ได้จริงๆ จึงจะเข้าใจได้ว่า พลังที่ปะทุขึ้นระหว่างหมัดและฝ่ามือของพวกเขามากพอที่จะทำลายโลกๆ หนึ่งให้พังพินาศย่อยยับได้แล้ว จะเป็นระดับเทพแท้จริง หรือขั้นอมตะอะไรนั่น ล้วนแล้วแต่มลายหายวับไปในพริบตาภายใต้หนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือนี้!
การปะมือกันระหว่างสองฝ่ายไม่ได้สร้างความสะเทือนเลื่อนลั่น แต่ว่า พลังที่ซ่อนอยู่ระหว่างหนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือของพวกเขานั้น สามารถทำลายฟ้าดินให้พินาศย่อยยับได้
ในพริบตาเดียวนี้เอง รูม่านตาของเทพสงครามมังกรคชาธารพลันหดตัว เนื่องจากหลี่ชิเย่หลังจากต้านรับหมัดนี้ของเขาไว้แล้ว นิ้วมือทั้งห้าหุบลงเล็กน้อย ฝ่ามือจึงหุ้นหมัดนั้นของเขาเอาไว้
อาจกล่าวได้ว่า พลังของหลี่ชิเย่ไม่ได้มากเป็นพิเศษ ไม่ได้บีบรัดจนบังเกิดความเจ็บปวดให้กับหมัดของเขา หลี่ชิเย่ใช้พลังได้อย่างพอดิบพอดี กระทั่งทำให้ผู้คนไม่ได้รู้สึกว่าฝ่ามือของเขาได้กุมหมัดนั้นเอาไว้แล้ว
นี่แหละคือการกุมเอาไว้ที่พอเหมาะพอเจาะ ทำให้เทพสงครามมังกรคชาธารพลันรับรู้ได้ว่าหมัดของตนได้ถูกล็อกเอาไว้แล้ว ท่วงท่านี้ถูกหยุดและค้างอยู่อย่างนั้น ไม่เพียงแค่หมัดของเขาเท่านั้น กระทั่งร่างทั้งร่างก็เหมือนถูกทำให้ค้างอยู่ในท่าทางแบบนั้น
เนื่องจากพลังของหลี่ชิเย่มีความแม่นยำจนถึงขั้นไม่สามารถนำมาคำนวณได้ จึงสามารถควบคุมร่างกายของเขาได้อย่างพอดี แม้แต่เส้นผมบนศีรษะถูกลมพัดให้เคลื่อนไหวสักเส้น ก็จะถูกพลังที่พอดิบพอดีนั้นควบคุมเอาไว้
กล่าวได้ว่า หมัดนี้ของเทพสงครามมังกรคชาธารได้ถูกพลังที่มีความแม่นยำสุดเปรียบเปรยเข้าควบคุมทุกๆ การเปลี่ยนแปลงทั่วร่างของเทพสงครามมังกรคชาธารเอาไว้
การควบคุมลักษณะนี้กระทั่งผู้อื่นสังเกตไม่เห็น กระทั่งทำให้ผู้คนเข้าใจว่าเป็นความต้องการที่จะยืนอยู่ในท่านี้ของตนเอง เป็นตัวเขาเองที่ต้องการรักษาท่วงท่าให้อยู่ในลักษณะเช่นนี้ เป็นตัวเขาเองที่คิดว่าภายใต้ท่วงท่าเช่นนี้มีความประสานสอดคล้องต้องการต่อทุกๆ ส่วนของร่างกายมากที่สุด
นี่แหละคือภายใต้การควบคุมพลังที่ยอดเยี่ยมสูงสุดของหลี่ชิเย่ ทำให้ผู้คนบังเกิดภาพลวงตาที่เกิดจากการสะกดจิตตัวเอง ดังนั้น ถ้าหากในขณะนี้ผู้ที่มีทักษะยุทธอ่อนด้อยกว่านี้เพียงนิดเดียว ภายใต้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมสูงสุดเช่นนี้จะอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถขัดขืนได้อย่างสิ้นเชิง เพียงหลี่ชิเย่เพิ่มกำลังเข้าไปอีกเล็กน้อยก็สามารถทำให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายได้
เนื่องจากภายใต้พลังที่หลี่ชิเย่สามารถควบคุมได้อย่างยอดเยี่ยมสูงสุดนี้ พลังทั่วทั้งตัวของเทพสงครามมังกรคชาธารการอยู่ในลักษณะที่ประสานสอดคล้องต้องการมากที่สุด ขอเพียงหลี่ชิเย่เพิ่มพลังเข้าไปอีกนิดก็สามารถทำลายสภาพที่สอดคล้องต้องกันนี้ลง เมื่อใดที่ความสอดคล้องต้องกันถูกทำลาย พลังที่น่ากลัวปราศจากผู้ต่อกรทั่วร่างของเทพสงครามมังกรคชาธารก็จะเกิดระเบิดขึ้นในพริบตา ทำให้เขาระเบิดตัวเองจนเสียชีวิตได้โดยพลัน
ลักษณะเช่นนี้ก็คล้ายผู้ที่ฝึกวิชาจนอยู่ในสภาพที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น เมื่อพลังทั้งหมดขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ขอเพียงมีการล้นออกมาแม้แต่นิดเดียว ก็จะทำให้ธาตุไฟเข้าแทรกระเบิดร่างตัวเองจนเสียชีวิต แล้วจะไม่ทำให้เทพสงครามมังกรคชาธารต้องตระหนกขึ้นในใจจนรูม่านตาต้องหดตัวได้อย่างไรกันเล่า เมื่อต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของหลี่ชิเย่ในหนึ่งกระบวนท่า
ที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือ แม้ว่าภายในใจของเขาเกิดความตระหนกและรูม่านตาหดตัว พลังที่เปลี่ยนแปลงเพียงน้อยนิดเช่นนี้ก็ยังอยู่ในความควบคุมของหลี่ชิเย่
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแม้เพียงน้อยนิดก็หนีไม่พ้นจากการควบคุมของหลี่ชิเย่ มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใด
ฉึก…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเสี้ยววินาทีนี้เอง เทพสงครามมังกรคชาธารยังคงทำลายลักษณะของการสอดคล้องต้องกันที่พิสดารเช่นนี้ลง เทพสงครามมังกรคชาธารย่อมเป็นเทพสงครามมังกรคชาธาร เขาทำการโจมตีในเชิงรุกภายในระยะเวลาอันสั้น เปลี่ยนจากหมัดเป็นมือ ลื่นไหลหลุดจากการควบคุมของหลี่ชิเย่คล้ายเป็นงูที่คล่องแคล่วอย่างนั้น และกระโดดเหินฟ้าขึ้นไปดั่งงูที่คล่องแคล่ว ทำลายการประสานสอดคล้องต้องการที่สมบูรณ์แบบนี้ลง
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนี้เอง เทพสงครามมังกรคชาธารได้หลุดจากการควบคุม แต่ว่าพลังที่เสียสมดุลได้เกิดระเบิดขึ้นในพริบตาจนช่องว่างถูกระเบิดจนแหลกละเอียด ตึงตึงตึงเทพสงครามมังกรคชาธารก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว เหยียบช่องว่างจนละเอียด ไม่ง่ายนักกว่าจะยืนได้อย่างมั่นคง
ในเวลานี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้คนจำนวนมากต่างมองไม่ออกถึงควางยอดเยี่ยมลึกซึ้งแต่ละกระบวนท่าระหว่างพวกเขา และมองไม่ออกถึงอันตรายของแต่ละกระบวนท่าระหว่างพวกเขา
ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่า ท่ามกลางหนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือนี้สามารถกำหนดความเป็นความตายให้กับคนๆ หนึ่งได้ กล่าวอย่างไม่เป็นการโอ้อวดได้ว่า หนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือเมื่อครู่เทพสงครามมังกรคชาธารได้ไปเยือนประตูผีมาแล้วรอบหนึ่ง
ท่ามกลางเสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหวนี้เอง ช่องว่างถูกระเบิดจนแหลกละเอียด แม้ว่าทุกคนจะมองไม่ออกว่าระหว่างหนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือจะมีความลึกซึ้งยอดเยี่ยม มีความน่ากลัวเพียงใดก็ตาม เวลานี้ก็รู้แล้ว่าอานุภาพระหว่างหนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือมีความแข็งแกร่งเช่นใดแล้ว อานุภาพของการระเบิดลักษณะเช่นนี้มันสามารถระเบิดระดับเทพแท้จริงทั้งหมดให้แหลกละเอียดภายในชั่วพริบตา
ภาพเช่นนี้ได้ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากถึงกับร่างสั่นเทิ้มขึ้นมา ดูไม่รู้ไม่มีปัญหา การระเบิดเช่นนี้เพียงพอที่ทำให้ผู้คนรับรู้ว่าสามารถเอาชีวิตใครก็ได้ทุกคน อานุภาพเช่นนี้คงมีเพียงผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นเทพสงครามมังกรคชาธารเท่านั้นที่รองรับได้
“ถ้าหากกล่าวว่าเทพสงครามมังกรคชาธารได้ก้าวไปถึงขั้นควบคุมได้ดั่งใจ และฝีมือถือว่าอยู่ในขั้นสุดยอดแล้วล่ะก็ เช่นนั้นแล้ว คนโหดอันดับหนึ่งก็ก้าวถึงจุดสูงสุด จุดสูงสูงสูงสุดของจุดสูงสุดแล้ว เกรงว่าคงเป็นจุดสูงสุดที่ไม่มีใครสามารถล้ำหน้าไปกว่านี้ได้อีก” ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่แข็งแกร่งยิ่งผู้หนึ่งมองรู้ถึงความยอดเยี่ยมลึกซึ้งระหว่างแต่ละกระบวนท่าของพวกเขาสองคน ถึงกับกล่าวด้วยความหวาดผวาว่า “คนโหดอันดับหนึ่งได้ก้าวถึงขั้นสามารถเอาชีวิตคนได้ในทุกความเคลื่อนไหวได้แล้ว โดยที่เทพสงครามมังกรคชาธารห่างชั้นกับเขามาก ไม่สามารถเทียบเคียงได้เลย”
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องใจหายใจคว่ำเมื่อได้ยินคำพูดจากระดับบรรพบุรุษผู้นี้ การเปลี่ยนแปลงที่น่าหวาดผวายิ่ง เทพสงครามมังกรคชาธารคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแดนลัทธิพรรษนะเนี่ย ช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน ถึงกับห่างชั้นกับคนโหดอันดับหนึ่งเป็นอันมาก เช่นนั้นแล้วก็นับว่าน่ากลัวเหลือเกิน
ก่อนหน้านั้นก็เคยมีผู้คาดเดาเอาไว้ว่า คนโหดอันดับหนึ่งอาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเทพสงครามมังกรคชาธารเสียอีก แต่ว่า ถึงแกร่งก็ต้องมีขีดจำกัด เวลานี้ดูไปแล้วเกรงว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น
“การพลิกแพลงของกระบวนท่า ความแม่นยำในด้านน้ำหนัก เป็นการอวดเก่งต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ ไม่รู้จักเจียมตนของข้า” ท่าทีในเวลานี้ของเทพสงครามมังกรคชาธารดูหนักแน่นจริงจัง เอ่ยขึ้นมาช้าๆ
เทพสงครามมังกรคชาธารสามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ แต่ พลันที่ปะมือก็รู้ได้ทันทีว่าตนเองห่างชั้นกับหลี่ชิเย่อยู่มากทีเดียว คิดจะไม่ยอมแพ้ก็ไม่ได้แล้ว
คำพูดที่เทพสงครามมังกรคชาธารพูดออกมานี้ ไม่รู้ว่าภายในใจของผู้คนจำนวนเท่าไรถึงกับสะดุ้ง ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำขึ้นมา
ตั้งแต่ต้นจนจบ เทพสงครามมังกรคชาธารแค่สำแดงกระบวนท่า ‘เสือดำควักใจ’ เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ขณะที่หลี่ชิเย่ก็อาศัยการกางฝ่ามือที่ธรรมดาๆ ออกมาเท่านั้น หนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือก็รู้ผลแพ้ชนะ นี่มันออกจะสร้างความตระหนกเพียงได้ยินแล้วกระมัง
มีเพียงระดับบรรพบุรุษที่สามารถมองออกถึงความยอดเยี่ยมและลึกซึ้งของหนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือได้อย่างแท้จริงเท่านั้น นั่นแหละที่รู้สึกหวั่นไหวอย่างแท้จริง เนื่องจากระหว่างหนึ่งหมัดกับหนึ่งฝ่ามือนี้ เทพสงครามมังกรคชาธารพ่ายแพ้แล้วจริงๆ กระทั่งกล่าวได้ว่าเกือบจะเอาชีวิตของตนไปทิ้งด้วยซ้ำ ลองจินตนาการดูว่ากระบวนท่าหนึ่งฝ่ามือนี้ช่างอันตรายมากมายเช่นใด
“มีท่าไม้ตายอะไรก็สำแดงออกมาเลย” หลี่ชิเย่ยิ้มตามอารมณ์ กล่าวเรียบเฉยขึ้นมา
“ตกลง เช่นนั้นแล้วข้าไม่เจียมตนแล้ว” เทพสงครามมังกรคชาธารสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เวลานี้เขาไม่มีทางเลือก แม้จะรู้อยู่แล้วว่าหลี่ชิเย่นั้นลึกล้ำยากจะหยั่งถึง เขาก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วทั้งแดนลัทธิพรรษถูกทะเลเข้าท่วมจนจมมิด นี่ไม่เพียงแค่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิงเท่านั้น แต่เป็นการท่วมมิดทั้งแดนลัทธิพรรษในพริบตาเดียว
ขณะที่ทะเลที่น่ากลัวท่วมฟ้าดินจมมิดในฉับพลันนั้น ทุกคนรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกในทันที ทุกคนต่างมองดูทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขตเหนือศีรษะที่ท่วมโลกทั้งโลกจนจมมิด
ฮูม…ปรากฎเสียงช้างร้องคำรามขึ้นมา ช้างขนาดยักษ์เชือกหนึ่งก้าวลงไปในทะเล ช้างยักษ์ตัวนี้มีขนาดใหญ่โตจนไม่สามารถเปรียบเปรยได้ ขณะที่มันก้าวเท้าข้างหนึ่งลงไปในทะเล คลื่นทะเลก็พุ่งสูงขึ้นไปเป็นล้านล้านจ้าง กวาดต้อนทุกสิ่งไปอย่างรวดเร็ว เสมือนหนึ่งสามารถกวาดเอาสุริยันจันทราและดวงดาวบนจท้องฟ้าลงมาได้อย่างนั้น
ปรากฎการณ์บนท้องฟ้าเกิดจากการก้าวเท้าลงทะเลเพียงข้างเดียวและกระเด็นเป็นฟองคลื่นเท่านั้น ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า ขนาดของช้างเชือกนี้มีขนาดใหญ่ยักษ์ถึงระดับเช่นใด กระทั่งกล่าวได้ว่าตัวของช้างเชือกนี้ก็คือโลกๆ หนึ่งอยู่แล้ว
“คชสารหอมข้ามแม่น้ำ…” ทุกคนต่างรู้สึกหวั่นไหวกับภาพที่เห็น ถึงกับร้องเสียงแหลมออกมา หนึ่งใน ‘สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่’!
พลันที่เทพสงครามมังกรคชาธารลงมือก็คือ ‘คชสารหอมข้ามแม่น้ำ’ อีกทั้งการโจมตีด้วยกระบวนท่านี้ไม่ได้มีสัญญาณมาก่อน สร้างความสะเทือนหวั่นไหวให้กับทุกคน
สมควรทราบว่า ก่อนหน้านั้นหวู่ปิงหนิงก็เคยสำแดง ‘คชสารหอมข้ามแม่น้ำ’ และยายเฒ่าเทวะล่าวายุก็เคยสำแดง ‘คชสารหอมข้ามแม่น้ำ’ มาก่อน แต่ว่า อานุภาพที่พวกเขาสำแดงออกมาเมื่อเปรียบเทียบกับที่เทพสงครามมังกรคชาธารสำแดงออกมานั้นห่างชั้นกันมากเหลือเกิน
‘คชสารหอมข้ามแม่น้ำ’ ที่หวู่ปิงหนิงสำแดงออกมาก่อนหน้านั้น เทียบกับเทพสงครามมังกรคชาธารในเวลานี้ มันก็แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง กระทั่งเรียกได้ว่ากระบวนท่า ‘คชสารหอมข้ามแม่น้ำ’ ของหวู่ปิงหนิงเป็นเคล็ดวิชาน้อยๆ เท่านั้น
ทั้งๆ ที่ต่างก็คือกระบวนท่า ‘คชสารหอมข้ามแม่น้ำ’ เหมือนกัน แต่ว่าดูไปแล้วในเวลานี้มันเป็นกระบวนท่าที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อานุภาพนั้นห่างชั้นกันมากเหลือเกิน
‘คชสารหอมข้ามแม่น้ำ’ หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มบางๆ ขึ้นเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
……………………………………………………