ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2392 ย้อนคืนต้นกำเนิด

ตอนที่ 2392 ย้อนคืนต้นกำเนิด

เป็นการสยบ สยบโดยตรง พลังลักษณะเช่นนี้ต่อให้เป็นราชันแท้จริงก็ยากจะต้านทานได้

ในเวลานี้ ทุกคนที่มองดูเทพสงครามมังกรคชาธารต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจจนขนลุกซู่ ความแข็งแกร่งของเทพสงครามมังกรคชาธารนั้นหาใช่ได้มาด้วยการอาศัยคุยโตโอ้อวด

 ไม่เสียทีที่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่ง ใช่เป็นชื่อเสียงจอมปลอม  ไม่รู้มีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องเลื่อมใสศรัทธา

ก่อนหน้านี้ ความรู้สึกทุกคนที่มีต่อเทพสงครามมังกรคชาธารยังไม่ร้อนแรงขนาดนี้ ใช่ว่าเทพสงครามมังกรคชาธารฝีมืออ่อนเกินไป แต่เป็นเพราะหลี่ชิเย่นั้นแข็งแกร่งมากเหลือเกิน

ขณะที่เทพสงครามมังกรคชาธารต่อสู้ชี้ขาดกับคนโหดอันดับหนึ่งนั้น คนโหดอันดับหนึ่งมักครองความได้เปรียบอยู่เสมอๆ ทำให้บุคลิกลักษณะอันมีเสน่ห์ของเทพสงครามมังกรคชาธารไม่สามารถสำแดงออกมา เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงมีคนบางคนรู้สึกในใจว่ายอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแดนลัทธิพรรษก็อย่างนั้นเอง ไม่ได้แข็งแกร่งมากอย่างที่จินตนาการ

แต่ว่า เวลานี้เทพสงครามมังกรคชาธารลงมือสยบโดยตรง คราวนี้จึงดูไม่เหมือนเดิมทันที และยกฐานะของเทพสงครามมังกรคชาธารที่อยู่ภายในใจของผู้คนจำนวนมากให้สูงขึ้น ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากจึงตระหนักได้ว่ายอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแดนลัทธิพรรษไม่ได้อ่อนด้อยเหมือนดั่งที่ทุกคนจินตนาการเมื่อครู่ ความจริงแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาอยู่เหนือจินตนาการของทุกคน

เท้าข้างหนึ่งของคชสารหอมที่เหยียบลงไปานั้น ได้เหยียบลงบนหางปลาไนโดยตรง พลังที่ปราศจากผู้ต่อกรได้สยบปลาไนเอาไว้โดยตรง ยากที่ปลาไนจะก่อให้เกิดคลื่นลมได้อีก ไม่สามารถทำให้บังเกิดเป็นคลื่นขึ้นมาได้อีกต่อไป ปลาไนที่ไม่สามารถก่อให้เกิดคลื่นได้ก็ไม่ต่างอะไรกับปลาเค็มตัวหนึ่ง

 ขอเชิญท่านชี้แนะด้วย  เวลานี้เทพสงครามมังกรคชาธารยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน กล้าหาญเด็ดเดี่ยว ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้า เริ่มปรากฏกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษที่ตลบอบอวลบนตัวของเขา กลิ่นอายลักษณะเช่นนี้ทำให้ผู้คนถึงกับสั่นเทา อย่าว่าแต่เทพแท้จริงเลย แม้แต่ผู้ดำรงอยู่ในขั้นอมตะก็ต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนขนลุกซู่

ภายใต้กลิ่นอายเช่นนี้ ระดับเทพแท้จริงทำได้แค่คุกเข่าลงกราบเท่านั้น ไม่สามารถต้านกับกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษเช่นนี้ได้อยู่แล้ว กระทั่งกล่าวอย่างไม่เป็นการโอ้อวดได้ว่า กลิ่นอายแต่ละสายเช่นนี้ของเทพสงครามมังกรคชาธารก็สามารถสยบบดขยี้เทพแท้จริงได้โดยตรง

 ชี้แนะคงไม่ต้อง  หลี่ชิเย่มองดูเทพสงครามมังกรคชาธารที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษ ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า  แค่กระบวนท่า ‘ปลาไนก่อคลื่น’ ก็เพียงพอแล้ว ดูให้ดีล่ะ การควบคุมพลังต้นกำเนิดสัจธรรมไม่เพียงเจ้าเท่านั้นที่มี  ขาดคำ แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น

ในพริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่ได้เปล่งรัศมีออกมาทั่วทั้งตัว รัศมีที่เหมือนใยไหมแต่ละสายที่ทิ้งตัวห้อยลงมานั้นได้มุดลงใต้ดินในชั่วพริบตาเดียว

เสียงตูมดังสนั่น ทันใดนั้นเอง ทั่งทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิงได้พวยพุ่งประกายที่ไม่สิ้นสุดออกมา ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิงมีพื้นที่กว้างขวางนับล้านล้านลี้ พื้นที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุด ประชาชนและผู้บำเพ็ญตนมีจำนวนนับไม่ถ้วน ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วทั้วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิงปรากฎลวดลายเต๋าขึ้นมา ลวดลายเต๋าจำนวนมากมายได้ครอบคลุมทุกๆ ตรารางนิ้วของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิงในพริบตา

ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น ลวดลายเต๋าสลับกันไปมา เพียงชั่วพริบตาก็กลับกลายเป็นกฎเกณฑ์สัจธรรมแต่ละข้อ ทุกๆ ข้อได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น กฎเกณฑ์สัจธรรมพลันถักทอกลายเป็นบทคัมภีร์บทหนึ่ง กลายเป็นกฎระเบียบสัจธรรม

แว้งค์เสียงหนึ่งที่ดังขึ้น กฎระเบียบสัจธรรมของคัมภีร์พลันบินเข้าหาหลี่ชิเย่ และประทับสลักเข้าไปภายในร่างกายของหลี่ชิเย่

ตูม ตูม ตูมพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิงสั่นไหวโคลงเคลงทีหนึ่ง เหมือนว่าพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกๆ ตารางนิ้วทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิงล้วนแล้วแต่พวยพุ่งพลังที่แข็งแกร่งและไม่สิ้นสุดออกมา สัจธรรมที่เป็นธาตุแท้ภายในได้ทะลักออกมาในพริบตา

เวลานี้ พลังระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่ไม่สิ้นสุดได้มารวมตัวกันบนตัวของหลี่ชิเย่ ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นขึ้น บทคัมภีร์สัจธรรมบทนั้นที่บริเวณอกของหลี่ชิเย่ได้กลับกลายเป็นวังวน และพริบตาเดียวนั้นได้นำเอาพลังที่ไม่สิ้นสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเข้าไปอยู่ภายใน

เสียงตูมดังสนั่น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง แผ่นหลังของหลี่ชิเย่เหมือนได้กางปีกแห่งสัจธรรมขึ้นมาคู่หนึ่งอย่างนั้น เมื่อปีกทั้งสองข้างสะบัด ลม ฟ้าร้อง ไฟ และสายฟ้าจะเผาผลาญทุกสิ่งให้กลายเป็นจุณ

นาทีนี้ แม้ว่าร่างกายของหลี่ชิเย่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ว่า ดูไปแล้วตัวเขาสูงใหญ่ขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว ศีรษะค้ำยันฟ้า เท้าเหยียบปฐพี อานุภาพปฐมบรรพบุรุษตลบอบอวลไปทั่วร่าง

 นี่ นี่มันเป็นไปไม่ได้…  สีหน้าของเทพสงครามมังกรคชาธารเปลี่ยนไปก่อนใครเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว กล่าวด้วยความหวาดผวา ในฐานะที่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแดนลัทธิพรรษ นาทีนี้เขาเองก็ดูจะเซ่อไปแล้ว ดวงตาคู่นั้นของเขาเบิกกว้างจ้องมองหลี่ชิเย่ที่อยู่ตรงหน้า

 นี่ นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร  หลังจากผ่านครู่ใหญ่ ผู้ที่ตะลึงได้สติกลับมา ก็ไม่อยากเชื่อสายตาตนเองเช่นกัน กระทั่งเข้าใจว่าตัวเองนั้นตาฝาดไป

เวลานี้ กล่าวได้ว่าผู้คนทั่วหล้าต่างสะเทือนหวั่นไหวกับสิ่งนี้ กระทั่งศิษย์และยอดฝีมือของจูเซียงหวู่ถิง ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ตะลึงตาค้าง ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความตะลึงจนตัวแข็งทื่อ

ทุกคนต่างสะเทือนหวั่นไหวกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า ยากที่จะได้สติกลับมาเป็นเวลานาน

ครั้นระดับบรรพบุรุษได้สติกลับมาแล้ว ต่างเสียวสันหลังวาบ เมื่อมั่นใจว่าตนเองนั้นไม่ได้ตาฝาด กล่าวด้วยความหวาดผวาว่า  นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร นี่ นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เขา เขา เขาเป็นบุคคลภายนอกคนหนึ่ง จะควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิงได้อย่างไรกัน นี่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพสงครามมังกรคชาธารเลยมิใช่รึ? 

ถูกต้อง นาทีนี้พลังที่หลี่ชิเย่ควบคุมคือพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิง อีกทั้งพลังที่เขาควบคุมอยู่นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพสงครามมังกรคชาธารแม้แต่น้อย

หากจะกล่าวว่า เทพสงครามมังกรคชาธารสามารถควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิงนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก จะอย่างไรเสียเทพสงครามมังกรคชาธารคือระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของจูเซียงหวู่ถิง เรียกได้ว่าเขาได้บรรลุระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิทั้งหมดของจูเซียงหวู่ถิงได้แล้ว

แต่ว่า หลี่ชิเย่เป็นเพียงบุคคลภายนอกคนหนึ่งเท่านั้น กระทั่งกล่าวได้ว่าเขาเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่คุ้นเคยกับจูเซียงหวู่ถิงเลย และไม่เคยได้อาศัยอยู่ภายในจูเซียงหวู่ถิงมาก่อน อีกทั้งเกรงว่านี่จะเป็นการมาที่จูเซียงหวู่ถิงเป็นครั้งแรกของเขา

แต่ ด้วยบุคคลภายนอกคนหนึ่งเช่นนี้แหละ ถึงกับสามารถควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิง แล้วจะไม่สร้างความสะเทือนหวั่นไหวได้อย่างไรเล่า

ไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใดๆ ก็ตาม มีเพียงบรรลุกฎเกณฑ์ของปฐมบรรพบุรุษ บรรลุต้นกำเนิดสัจธรรมแล้ว จึงสามารถควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนได้ ส่วนจะควบคุมได้เท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับฝีมือของแต่ละบุคคล

แต่แล้วหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงบุคคลภายนอกคนหนึ่ง กระทั่งเป็นบุคคลภายนอกที่เพิ่งจะได้มาจูเซียงหวู่ถิงเป็นครั้งแรก ถึงกับสามารถควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิงได้ แล้วจะไม่ให้ผู้คนทั่วหล้าหวั่นไหวได้อย่างไรเล่า

ถ้าหากว่าคนโหดอันดับหนึ่งสามารถควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใดลัทธิหนึ่งได้ตามอารมณ์ ลองคิดดู มันช่างเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญเช่นใด เขาเสมือนหนึ่งปราศจากผู้ต่อกรไม่ว่าจะก้าวไปถึงที่ใดก็ตาม ก็สามารถควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใดลัทธิหนึ่งได้ เท่ากับเป็นการบดขยี้ศิษย์และยอดฝีมือทั้งหมดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธินั้นๆ ได้โดยตรง

 เจ้า เจ้ารู้วิธีควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิพวกเราได้อย่างไร?  เทพสงครามมังกรคชาธารยังต้องตกตะลึง ตัวเขาที่มีความหนักแน่นถึงกับเสียบุคลิก กล่าวสำหรับเขาแล้วมันก็เป็นเรื่องที่สะเทือนหวั่นไหวเช่นกัน

แม้จะกล่าวว่า ก่อนหน้านี้มู่เส้าเฉินก็เคยควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิงพวกเขามาก่อน แต่ นั้นเป็นเพราะมู่เส้าเฉินเคยบรรลุระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิงของพวกเขา และการกระทำในลักษณะเช่นนี้ก็ได้รับการอนุญาตและเห็นด้วยจากจูเซียงหวู่ถิงของพวกเขา

อีกทั้งแม้ว่ามู่เส้าเฉินสามารถควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิงก็ตาม แต่อยู่ในวงจำกัดมาก ยังห่างชั้นไม่สามารถเทียบได้กับการควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของเทพสงครามมังกรคชาธารอยู่แล้ว

แต่ว่า เวลานี้หลี่ชิเย่ไม่เพียงควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิงของพวกเขา ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ พลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพสงครามมังกรคชาธารแม้แต่น้อย นี่แหละคือเรื่องที่น่ากลัวมากที่สุด

สิ่งนี้เป็นการบ่งบอกว่า หลี่ชิเย่ลำพังอาศัยพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิงของพวกเขาก็สามารถบดขยี้จูเซียงหวู่ถิงทั้งหมดของพวกเขาได้ เขาแทบไม่ต้องเปลืองแรงของตนเองเลยแม้แต่น้อย ลองนึกภาพดู คนๆ หนึ่งสามารถหยิบยืมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตน โดยที่ตัวเขาเองไม่ต้องอาศัยพลังของตนแม้แต่น้อย ก็สามรถบดขยี้กระทั่งทำลายระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนจนพินาศย่อยยับ มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเหลือเกิน

จะไปโทษผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเฉกเช่นเทพสงครามมังกรคชาธารที่ยังคงต้องผวาดผวาจนหน้าถอดสีก็ไม่ถูก

 นี่เป็นเพียงไล่ย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดเท่านั้นเอง  หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า  หวู่จู่ของพวกเจ้าอาศัยสิ่งใดเป็นต้นกำเนิด ข้าก็อาศัยสิ่งนั้นเป็นต้นกำเนิดเพียงเท่านี้เอง ในเมื่อสามารถไล่ย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดได้ การที่จะควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของพวกเข้าจะไปยากอะไร? 

หลี่ชิเย่พูดได้เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กลับทำให้ภายในใจของเทพสงครามมังกรคชาธารต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง เนื่องจากเขาเองก็ไม่รู้ว่าหวู่จู่ของพวกเขาอาศัยสิ่งใดเป็นต้นกำเนิด อีกทั้งในหมื่นยุคผ่านมาไม่เคยมีใครในจูเซียงหวู่ถิงที่สามารถไล่ย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดปฐมบรรพบุรุษของตนได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบุคคลภายนอกแล้ว แต่ว่า เวลานี้หลี่ชิเย่กลับไล่ย้อนไปยังต้นกำเนิดของหวู่จู่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครในจูเซียงหวู่ถิงสามารถทำได้ตลอดมา มาวันนี้หลี่ชิเย่กลับทำได้แล้ว

เมื่อเทพสงครามมังกรคชาธารนึกถึงข้อนี้แล้ว ถึงกับต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนขนลุกซู่

เทพสงครามมังกรคชาธารไม่รู้ว่าปฐมบรรพบุรุษของพวกเขาอาศัยสิ่งใดเป็นต้นกำเนิด กระทั่งกล่าวได้ว่าปรัชญาเมธีของจูเซียงหวู่ถิงแต่ละยุคที่ผ่านมาก็ไม่รู้ว่าหวู่จู่อาศัยสิ่งใดเป็นต้นกำเนิด

แต่หลี่ชิเย่กลับรู้ ด้วยเหตุนี้เอง หลี่ชิเย่จึงสามารถลงมือสำแดง ‘สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่’ ขึ้นมาได้โดยพลัน สามารถควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิง

เกี่ยวกับตำนานที่ว่าหวู่จู่เคยได้รับบทคัมภีร์แผ่นหนึ่งของคัมภีร์สวรรค์ มันไม่ใช่ตำนานแต่เป็นความจริง

เป็นความจริงที่ในยุคสมัยนั้นหวู่จู่เคยได้บทคัมภีร์แผ่นหนึ่งของตำราสวรรค์เล่มหนึ่ง ขณะที่ตำราสวรรค์เล่มนั้นก็คือ ‘ตำรากาย’ แน่นอน ยุคสมัยนั้นตำราสวรรค์เล่มนี้ไม่แน่เสมอไปว่าจะต้องมีชื่อว่า ‘ตำรากาย’

เนื่องเพราะหวู่จู่ได้รับบทคัมภีร์แผ่นนี้นี่เอง ทำให้เขาได้สร้างสัจธรรมของตนเองขึ้น สร้าง ‘สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่’ ขึ้นมา และด้วยเหตุนี้เอง ขณะที่หวู่จู่กลั่นบูชาระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจูเซียงหวู่ถิง จึงได้อาศัยบทนำของบทคัมภีร์แผ่นนี้มาเป็นโครงร่าง และหลอมกลั่นผืนแผ่นดินของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ

สมควรทราบว่า ไม่ว่าตำราสวรรค์เล่มนี้จะมีชื่อว่า ‘ตำรากาย’ หรือชื่อว่า ‘กระบี่สิ้นสุด’ และหรือมีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่น แต่ว่าก็ยากที่จะหลุดพ้นจากเนื้อแท้ของมัน มันเกิดจากหนึ่งในเก้าตัวอักษรที่มีการสลักบันทึกหรือจดจำ

ขณะที่ตำราสวรรค์เล่มนี้อยู่ในมือของหลี่ชิเย่เอง กระทั่งหลี่ชิเย่ได้ทำการพลิกเปิดหน้าที่ใหม่ทั้งหมดของตำราสวรรค์เล่มนี้ และตั้งชื่อให้มันว่า ‘กระบี่สิ้นสุด’

เนื่องเพราะเหตุนี้เอง หลี่ชิเย่จึงสามารถไล่ย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดของหวู่จู่ สามารถสำแดง ‘สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่’ สามารถควบคุมพลังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่หาใช่เป็นเรื่องแปลก

………………………………………………

 

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท