เวลานี้ ที่ตรงนี้มีเพียงหลี่ชิเย่กับผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า กระทั่งกล่าวได้ว่าใต้ฟ้าดินแห่งนี้มีเพียงพวกเขาสองคนอย่างนั้น ที่นี่เสมือนหนึ่งได้ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างนั้น
หลี่ชิเย่ลืมตาขึ้นมาด้วยท่าทีเบื่อหน่าย พิจารณาผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าจะงดงามที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง ดั่งเทพธิดาลงมายังโลกมนุษย์ ไม่อาจล่วงเกินได้ขนาดนั้น แต่สายตาของหลี่ชิเย่ยังคงตามอารมณ์ และกำเริบเสิบสานอย่างนั้น
บางทีอาจกล่าวได้ว่า ไม่มีใครสามารถไม่ปล่อยให้สายตาของหลี่ชิเย่มองตามอารมณ์ และกำเริบเสิบสานเช่นนี้ได้
หลี่ชิเย่พิจารณาผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด เหมือนมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตั้งแต่ภายนอกยันภายในไปรอบหนึ่ง หากเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่นจะรู้สึกว่าตนเองเหมือนแก้ผ้าล่อนจ้อนภายใต้สายตาของหลี่ชิเย่อย่างนั้น
แต่ว่าผู้หญิงคนนี้ยังคงมีความเป็นอิสระและทำในสิ่งที่ไม่ขัดต่อมโนธรรมของตนเอง จึงไม่ได้รับผลกระทบจากสายตาที่กำเริบเสิบสานของหลี่ชิเย่อย่างสิ้นเชิง
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ หลี่ชิเย่ได้ละสายตากลับมา นอนอยู่ตรงนั้นโดยไม่สะทกสะท้าน และไม่ได้ลุกขึ้นยืน ยังคงนอนอยู่อย่างนั้นด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย เหมือนไม่ให้ความสนใจต่อการดำรงอยู่ของผู้หญิงคนนี้
ความรู้สึกที่ได้เป็นองค์รัชทายาทเป็นเช่นใด? ขณะที่หลี่ชิเย่กำลังนอนด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายอยู่ตรงนั้น ผู้หญิงคนนี้ได้ปริปากพูดขึ้นมา น้ำเสียงของนางนั้นดูเป็นคนมีความคล่องแคล่วว่องไวและยากจะเดาใจได้ โดยที่น้ำเสียงนั้นเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติประจำตัวที่งดงามและฉลาดเฉลียว เสมือนดั่งนางได้หลุดพ้นจากโลกมนุษย์ไปแล้วอย่างนั้น
สนุกสุดยอดเลย มีคำพูดคำหนึ่งเขาว่าอะไรนะ? ข้านึกขึ้นมาได้แล้ว สนุกจนระเบิด หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า เข้าใจถึงความรู้สึกสนุกเช่นนี้แล้วยัง?
หากการได้เป็นองค์รัชทายาทก็สนุกจนระเบิด เช่นนั้นแล้วหากได้เป็นฮ่องเต้มิสนุกจนลอยขึ้นฟ้าเลยรึ? ผู้หญิงคนนี้หัวเราะทีหนึ่ง สวยหยาดเยิ้มไปหมื่นชาติ
รอยยิ้มของนักพรตฉางเซิน และนักพรตพเนจรหยางหมิงเรียกว่าสวยหยาดเยิ้ม สามารถทำให้บรรดาผู้คนต้องเคลิบเคลิ้มหลงใหล แต่ว่า รอยยิ้มของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เหมือนว่าหญิงงามอันดับหนึ่งไม่รู้จำนวนเท่าไรที่ต้องสลดและอับแสง
เรื่องนี้เจ้าไม่เข้าใจแล้วล่ะ หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า ระหว่างฮ่องเต้กับรัชทายาทนั้นมันคนละเรื่องกัน ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ขึ้นเป็นฮ่องเต้นั้น ได้ผ่านประสบการณ์และความพยายามมา ผ่านการเข่นฆ่ามาเท่าไร ผ่านการอาศัยเลือดสดๆ มาล้างกายาเท่าไร กล่าวได้ว่า เจ้าขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้ ในระดับหนึ่งนั้น เจ้าได้ผ่านประสบการณ์มาแล้ว กระทั่งมีศักยภาพพอที่จะนั่งในตำแหน่งนี้อยู่ในครอบครองแล้ว…
ขณะที่นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้นั้น ความรู้สึกที่เจ้ามีอยู่หาใช่ความรู้สึกของสนุกจนระเบิด แต่เป็นความรู้สึกของความสำเร็จอย่างหนึ่ง หรือจะเรียกว่าเป็นความรู้สึกของการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด เป็นความรู้สึกของการมีอำนาจอยู่ในมือ หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า แต่ ถ้าหากว่าเจ้าได้กลายเป็นรัชทายาทที่มีอำนาจอยู่ในมือภายในชั่วข้ามคืน กลายเป็นผู้กุมอำนาจของแคว้นๆ หนึ่งในอนาคต มันคือความรู้สึกของสนุกจนระเบิด…อะไรอย่างนั้น? เจ้าไม่ต้องอาศัยความพยายาม ไม่ต้องไปคิด อำนาจยิ่งใหญ่พลันหล่นลงมาจากฟากฟ้า เหมือนขนมเปี๊ยะที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้า ช่างเป็นความรู้สึกที่สบายยิ่ง…
นี่แหละคือความฝันของชนชั้นรากหญ้า นับแต่อดีตเป็นต้นมา มนุษย์ปุถุชนธรรมดาทั้งหลาย ผู้คนจำนวนเท่าไรที่คิดจะเป็นเศรษฐีภายในชั่วข้ามคืน ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ฝันอยากจะพาตัวเองเบียดเข้าไปอยู่ในทำเนียบของยอดฝีมือภายในชั่วข้ามคืน เมื่อไล่เรียงถึงสาเหตุแล้ว นี่แหละคือจิตใจมนุษย์ที่อยากจะได้มาโดยไม่ต้องลงแรง! ดังนั้น เมื่อเจ้าได้มันมาโดยไม่ต้องลงแรง กับการได้มาด้วยความทุ่มเทพยายามนั้น ความรู้สึกแบบไหนยิ่งจะทำให้เจ้าสนุกจนระเบิด? แน่นอนที่สุดย่อมต้องเป็นการได้มาโดยไม่ต้องลงแรงที่ทำให้เจ้ารู้สึกสนุกจนระเบิดยิ่งกว่า มิฉะนั้น เหตุใดจึงมีผู้คนจำนวนมากที่ค้นหายาเม็ดที่สามารถทำให้เจ้ามีพลังวัตรเพิ่มขึ้นอย่างมากมายในชั่วข้ามคืน…
ครั้นหลี่ชิเย่ได้เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วส่ายหัวและนอนอยู่ตรงนั้น หลับตาลงกล่าวเอ้อระเหยขึ้นมว่า ทันใดนั้น สวรรค์ได้อาศัยสุดยอดความโชคดีมหันต์เล่มหนึ่งตีข้าจนสลบ และตีจนข้ากลายเป็นรัชทายาท ความรู้สึกที่ได้มาโดยไม่ต้องลงแรงเลย ช่างสบายเหลือเกิน
หลี่ชิเย่เอ่ยเจื้อยแจ้วเอ้อระเหยขึ้นมา และผู้หญิงคนนี้ก็เอียงคอนั่งฟังด้วยความอดทนกับคำบอกเล่าเช่นนี้จากหลี่ชิเย่
คนอย่างท่านน่าสนใจมาก ผู้หญิงคนนี้ยิ้มบางๆ การยิ้มบางๆ ของนางเสมือนหนึ่งสามารถกลายเป็นสิ่งที่มีความหมายลึกซึ้งได้
แต่ว่า การเป็นรัชทายาทน่ะสนุก แต่ทว่า เมื่อเป็นฮ่องเต้ก็ไม่แน่เสมอไปแล้วล่ะ ผู้หญิงคนนี้พูดว่า การกุมอำนาจอยู่ในมือ เป็นที่ต้องการมากของผู้คนจำนวนเท่าไร
ถ้าเช่นนั้นรอให้เป็นฮ่องเต้เสียก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน ไม่แน่นักฮ่องเต้ไท่ชิงอาจไม่ตายนะ บนโลกนี้มีเรื่องราวมากมายที่ทำให้ผู้คนคาดไม่ถึง ชีวิตคนก็เหมือนละครฉากหนึ่ง ใครเล่าสามารถคาดเดาได้ว่าใครคือผู้แสดง ใครคือผุ้ชม หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า อีกอย่าง ชีวิตคนเรามันสั้น สนุกก่อนแล้วค่อยว่ากัน สำหรับเรื่องอื่นๆ น่ะ ใยจะต้องไปใส่ใจให้มันมากเกินไป
สนุกให้เต็มที่ไม่เสียโอกาส ใบหน้าผู้หญิงคนนี้แฝงด้วยรอยยิ้ม เหมือนเทพธิดาที่อยู่เหนือมนุษย์ปุถุชนธรรมดา เป็นที่หลงใหลยิ่งของผู้คน นางอมยิ้มจ้องมองหลี่ชิเย่ และกล่าวว่า ท่านคือผู้ที่สนุกให้เต็มที่ไม่เสียโอกาสอย่างนั้นรึ?
อย่างน้อยที่สุดตอนนี่น่ะใช่ หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า ก็บอกแล้วว่า ชีวิตคนเหมือนละครฉากหนึ่ง ใครกันแน่ที่กำลังแสดงละครอยู่เล่า? แล้วก็แสดงให้ใครดู? ไม่แน่นัก เจ้ากับข้าก็แค่ผู้ชมที่เดินผ่านมาเท่านั้น ผู้ที่เป็นผู้แสดงยังไม่ได้ขึ้นเวทีน่ะ?
ถ้าเช่นนั้น ท่านคิดว่าใครกันนะที่เป็นผู้แสดง? ผู้หญิงคนนี้ได้รับผลกระทบจากหลี่ชิเย่โดยไม่รู้ตัว และมีท่าทีที่เอ้อระเหยเช่นนั้น เมื่อยืดขาเรียวยาวและงดงามออกไปเต็มที่ บิดขี้เกียจทีหนึ่ง ท่ามกลางความเหนื่อยหน่ายแฝงไว้ซึ่งบุคลิกลักษณะที่ทำให้หลงใหลตลอดกาล
ใครจะไปรู้เล่า ท่าทางหลี่ชิเย่เป็นไปตามอารมณ์ยิ่ง และกล่าวว่า อาจเป็นเจ้า หรือเป็นข้า และหรือฮ่องแต้ไท่ชิง และหรือผู้คนทั้งโลกล้วนแล้วแต่กำลังแสดงละครกันอยู่ แน่นอนที่สุด ขอเพียงในใจของเจ้ามีเวที ชีวิตคนเราที่ใดไม่ใช่ละครเล่า?
ที่พูดมาก็ถูก ผู้หญิงคนนี้อดที่จะพยักหน้าเห็นด้วย และกล่าวว่า ละครของท่านยังต้องแสดงอีกนานเท่าไร?
ใครจะไปรู้เล่า บทของรัชทายาทยังแสดงไม่จบเลย ไม่แน่นักสวรรค์อาจจะให้ข้าแสดงบทฮ่องเต้ต่อไปก็ได้ หลี่ชิเย่หัวเราะพลางและกล่าวว่า ละครชีวิตคนเราบทแล้วบทเล่า แสดงบทรัชทายาทจบ แล้วแสดงบทฮ่องเต้ต่อ ดีไม่ดีเพิ่งจะได้แสดงบทฮ่องเต้ก็ต้องให้ข้าแสดงบทคนตายน่ะ
ถ้าเช่นนั้นท่านคิดจะแสดงบทฮ่องเต้อย่างไร? ผู้หญิงคนนี้อมยิ้มและเอ่ยขึ้น
มันก็ต้องรอให้ฮ่องแต้ไท่ชิงตายก่อนข้าจึงจะแสดงบทของฮ่องเต้ได้ เมื่อฮ่องเต้ไท่ชิงไม่เป็นอะไร ข้าจะไปแสดงบ้าอะไรได้ ได้แต่แสดงบทรัชทายาทแล้ว หลี่ชิเย่หัวเราะพลางและกล่าว
ถ้าหากมีบุคคลภายนอกได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ล่ะก็ ต้องเข้าใจว่าหลี่ชิเย่เสียสติไปแล้วถึงกับกล้าบอกว่าต้องการให้ฮ่องแต้ไท่ชิงสวรรคต มันคือการเบื่อมีชีวิตอู่แล้วชัดๆ!
ข้าบอกว่าเผื่อ เผื่อว่าท่านได้เป็นฮ่องเต้ ควรจะแสดงบทฮ่องเต้อย่างไรกันเล่า? ผู้หญิงคนนี้เอียงคอ โดยมีเส้นผมหลายเส้นที่ตกลงมา งดงามจนไม่สามารถเปรียบเปรยได้
แสดงบททรราชแน่นอน หลี่ชิเย่หัวเราะพลางและเอ่ยขึ้นมา
ทำไม่ต้องแสดงบททรราช? ผู้หญิงคนนี้รู้สึกแปลกใจ นัยน์ตาคู่นั้นของนางเสมือนหนึ่งเป็นอัญมณีที่งดงามที่สุดในหล้า สามารถทะลุผ่านนิรันดร์กาลอย่างนั้น
สนุกน่ะสิ ยังจะมีอะไรที่สนุกมากไปกว่าการเป็นทรราช หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า แย่งเมียชาวบ้าน เข่นฆ่าทั่วหล้า แต่งตั้งสนมจำนวนมาก ดื่มกินอย่างเต็มที่ ทำทุกอย่างตามความปรารถนา ทำตามอำเภอใจโดยไม่ต้องหวั่นเกรงต่อสิ่งใด ช่างเป็นความรู้สึกที่สนุก สนุกยิ่งกว่าระเบิดมากทีเดียวมันก็แค่ตัวเบาหวิวดั่งเซียนเท่านั้น สมองมีแต่ความว่างเปล่าเท่านั้นเอง แต่ความรู้สึกที่ทำตามอำเภอใจอย่างบ้าระห่ำ เป็นความสนุกอีกแบบหนึ่ง
กุมอำนาจในมือเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว ถ้าหากท่านเป็นทรราช เกรงว่ามีผู้ที่พร้อมโค่นล้มท่านทุกเวลา
โค่นล้มก็โค่นล้มไปสิ โค่นล้มก็ไม่เล่นแล้ว หลี่ชิเย่หัวเราะพลางและกล่าวว่า แค่เปิดก้นหนีไปก็แค่นั้น
กุมอำนาจในมือเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว หรือว่าท่านไม่เคยคิดที่จะเป็นฮ่องเต้ที่ดีมีคุณธรรม สร้างความสงบสุขทั่วหล้า ทำให้ราชวงศ์สืบทอดต่อเนื่องยืนยาวหมื่นปี? ผู้หญิงคนนี้อมยิ้มและเอ่ยขึ้น
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า? หลี่ชิเย่หัวเราะพลางและกล่าวว่า ก็บอกแล้วไง ขนมเปี๊ยะที่หล่นลงมาจากฟ้า ใครเล่าจะไปสนใจว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร เอาความมันไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!
หรือว่าท่านไม่คิดจะลงหลักปักฐานที่ตรงนี้ ผลิดอกออกผล ให้ชนรุ่นหลังของตนได้แพร่ขยายพันธุ์ที่นี่ไปเรื่อยๆ ผู้หญิงคนนี้พูดท่าทีเอ้อระเหยขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้พูดท่าทีเอ้อระเหยขึ้นมา
หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า หรือว่ามีชนรุ่นหลังแล้วจะต้องสร้างแผ่นดินเป็นหมื่นยุคให้พวกเขาอย่างนั้นรึ? เจ้าเคยเห็นสิ่งจัดตั้งเพื่อการสืบทอดที่ไม่ล่มสลายเป็นหมื่นยุคหรือไม่? เคยเห็นราชวงศ์ที่คงอยู่เป็นนิรันดร์หรือไม่?
ผู้หญิงคนนี้ทำท่าเอียงคอ ดึงดูดใจผู้คนยิ่งนัก จากนั้นนางได้ส่ายหน้าเบาๆ
ก็นั่นแหละ หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า ใครทำให้ล่มสลายมันก็คือล่มสลายเหมือนกัน ต่อให้เจ้าได้สร้างราชวงศ์ที่แข็งแกร่งยิ่งก็ต้องมีสักวันที่ลูกหลานเจ้าทำให้มันต้องล่มจม ในเมื่อลูกหลานของเจ้าสามารถทำให้กิจการของเจ้าล่มจมได้ แล้วทำไมจะต้องเหลือไว้ให้กับพวกเขา ทำให้ล่มสลายด้วยตัวเองไม่สนุกมากกว่ารึ? จะอย่างไรเสียล่มสลายในมือตัวเองมันก็คือล่มสลายเหมือนกัน!
อีกอย่าง แผ่นดินนี้ข้าก็ไม่ได้เป็นผู้บุกเบิกขึ้นมาเอง ข้าสนุกจนพอใจแล้ว จะไปสนใจน้ำหลากดังคลื่นยักษ์อะไรทำไม เจ้าว่าใช่หรือไม่ หลี่ชิเย่หัวเราะเสียงดังขึ้นมา ดวงตาทั้งสองเผยรอยยิ้มออกมา จ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า
แม้ว่าสายตาของหลี่ชิเย่ในขณะนี้แฝงด้วยรอยยิ้ม แต่ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง สายตาของหลี่ชิเย่ดูลึกล้ำยิ่งนัก เสมือนดั่งมองทะลุอดีตถึงปัจจุบันอย่างนั้น เหมือนว่าไม่มีสิ่งใดสามรถรอดพ้นจากดวงตาคู่นี้ของเขาไปได้
ผู้หญิงคนนี้เงยหน้าขึ้นมา และรับกับสายตาของหลี่ชิเย่ช้าๆ สายตาของนางช่างไม่สะทกสะท้านอย่างนั้น ช่างปราศจากความเกรงกลัว นางจ้องมองประสานกับหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีสบายๆ
หลี่ชิเย่หัวยิ้มๆ ยื่นมือออกไปเชยคางที่งดงามของนางเอาไว้ กล่าวท่าทีเอ้อระเหยขึ้นว่า ถ้าหากข้ากลายเป็นฮ่องเต้ที่ทรงคุณธรรมคนหนึ่ง คนสวยจะอยู่เคียงข้างข้าใช่หรือไม่? พวกเราจะแพร่ขยายพันธุ์ลูกหลานรุ่นหลังต่อไป?
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ามีความยอดเยี่ยมและดั่งอยู่เหนือมนุษย์ปุถุชนธรรมดา สามารถมองแต่ไกล ไม่อาจเข้าใกล้และสบประมาท แต่ทว่า หลี่ชิเย่ก็เป็นคนที่กำเริบเสิบสานแบบนี้แหละ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ กระทำการตามในปรารถนา
ผู้หญิงคนนี้หลบด้านข้างหลุดรอดจากมือของหลี่ชิเย่ไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ ยิ้มเฉยเมย เป็นที่ดึงดูดใจคนยิ่งนัก และกล่าวว่า เกรงว่าคงจะลำบาก
กล่าวสำหรับข้าแล้ว แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นจะไปยากอะไร หลี่ชิเย่อดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ และกล่าวว่า ขอเพียงข้าต้องการจริงๆ ต่อให้เป็นเทพธิดาคนหนึ่ง ข้าก็สามารถจัดการนางได้เดี๋ยวนี้ ยิ่งกว่านั้น เจ้าเองยังไม่ใช่เทพธิดา
พูดแบบนี้แสดงว่าท่านมีความมั่นใจในตนเองเต็มเปี่ยมสิ? ผู้หญิงคนนี้จ้องมองเขาด้วยอารมณ์เคืองนิดๆ และมีท่าทีของการท้าทายอยู่ในที
หลี่ชิเย่เอนตัวลงนอนในเก้าอี้ตัวใหญ่เหมือนเดิม กล่าวท่าทีเอ้อระเหยว่า ข้าแค่พูดไปตามความจริงเท่านั้นเอง ใยต้องแสดงออกด้วยความมั่นใจ
ผู้หญิงคนนี้เอียงคอจ้องมองหลี่ชิเย่ เหมือนต้องการมองเห็นบางสิ่งบางอย่างบนตัวของหลี่ชิเย่อย่างนั้น
ขณะที่หลี่ชิเย่นอนอยู่ตรงนั้นและหลับตาลง เหมือนนอนหลับไปแล้วอย่างนั้น
ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าไรแล้ว มีสายลมที่พัดมาแผ่วเบา หลี่ชิเย่เหมือนตื่นขึ้นมาจากความฝันอย่างนั้น เมื่อเขาลืมตาขึ้นมมองช้าๆ สาวใช้ยังคงอยู่ข้างกาย มีสาวใช้ที่คอยพัดให้เขา มีสาวใช้ที่คอยปอกผลไม้ และยังมีสาวใช้ที่คอยต้มชาให้กับเขา
เหมือนว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อนอย่างนั้น เหมือนว่าทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นเพียงความฝันเท่านั้นเอง
หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และไม่ได้ทำเป็นตื่นตระหนก เพียงยิ้มบางๆ เท่านั้นเอง
………………………………………………………….