ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2422 อาศัยกำลังฉุดคร่าหญิงสาวชาวบ้าน

ตอนที่ 2422 อาศัยกำลังฉุดคร่าหญิงสาวชาวบ้าน

เมืองกัวชางเฉินคึกคักไม่ธรรมดาเลยเทีเดียว โดยมีประชากรอาศัยอยู่นับหลายล้านคน กระทั่งอาจจะมากกว่า

แม้ว่ากัวชางเฉินจะตั้งอยู่บนภูเขา แต่ทว่า เขากัวชางซานมีขนาดใหญ่โตมากเหลือเกิน ดังนั้น การที่จะมีเมืองมากกว่านี้ตั้งอยู่ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

เมืองกัวชางเฉินสูงเทียมฟ้า เสมือนหนึ่งมุ่งตรงไปยังส่วนที่ไกลที่สุดของจักรวาล ดังนั้น กล่าวสำหรับมนุษย์ปุถุชนธรรมดาแล้ว การที่จะขึ้นไปยังเมืองกัวชางเฉินใช่เป็นเรื่องที่ง่ายดาย

เคยมีผู้กล่าวเอาไว้ว่า มนุษย์ปุถุชนธรรมดาบางคนที่เกิดในเมืองกัวชางเฉิน ชั่วชีวิตก็ไม่เคยได้ลงไปจากเขากัวชางซานเลย ขณะเดียวกันก็มีผู้ที่ไม่สามารถขึ้นไปยังยอดเขาสูงสุดของเขากัวชางซานตลอดชีวิตเช่นกัน

ที่เขากัวชางซานมีบันไดที่สร้างวนรอบเขาขึ้นไป และมีสะพานหินที่เชื่อมไปยังที่ต่างๆ ดังนั้น การมาอยู่ที่เขากัวชางซานทั้งสามารถอาศัยการก้าวเดินทีละก้าวๆ ไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ แต่หากเป็นผู้บำเพ็ญตน โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญตนประเภทแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งก็สามารถเหาะขึ้นไป ซึ่งจะทำให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อเป็นเช่นนี้

หลี่ชิเย่ก้าวเดินอยู่ภายในเมือง มองดูตัวเมืองที่เออัดยัดเยียดไปด้วยผู้คน ก้าวเดินอย่างสบาย และพอใจยิ่งนัก อีกทั้งท่าทางของเขานั้นเป็นการพาลและใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างสิ้นเชิง ท่าเดินของเขาคล้ายดั่งปูที่เดินขวางไปอย่างนั้น

ในเวลานี้เอง สายตาของหลี่ชิเย่ตกไปอยู่บนตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้สวมชุดทะมัดทะแมง พลันเผยให้เห็นถึงรูปร่างที่ร้อนแรงยิ่งออกมา

ผู้หญิงคนนี้มีรูปร่างทรวดทรงที่เรียกว่าหุ่นละเบิดยิ่ง อกตั้งชูชันอวบอั๋นยิ่งนัก ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเต็มไม้เต็มมือ เอวบางที่ทั้งเล็กและนุ่มนวลดั่งงูน้ำที่เลื้อยช้าๆ เรียกได้ว่ามีหลากหลายรูปแบบแลดูไม่รู้จักเบื่อ

ในขณะเดียวกัน ภายใต้การเสริมส่งด้วยขาที่เรียวยาว และก้นงอนที่อวบอิ่มถูกเผยออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการกุมเอาไว้ในมือย่ำยีให้เต็มที่ กระทั่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนถูกฟาดด้วยเส้อย่างนั้น

ชุดทะมัดทะแมงที่ผู้หญิงคนนี้สวมใส่มาจากช่างฝีมือที่โด่งดังของเมืองกัวชางเฉิน อีกทั้งด้านหน้าบริเวณอกได้กลัดเครื่องหมายของตระกูลเอาไว้ ทำให้ผู้พบเห็นรู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้หากไม่ใช่มีฐานะที่สูงส่งก็คือมีฐานะที่ร่ำรวย

อีกทั้งข้างกายผู้หญิงคนนี้มีชายหนุ่มหลายคนห้อมหน้าห้อมหลัง ประดุจดาวล้อมเดือนอย่างนั้น เมื่อมองดูให้ละเอียดอีกครั้ง ก็สามารถมองออกว่าพวกเขาต่างฝึกยุทธมาไม่เบาทีเดียว น่าจะมาจากสำนักที่มีชื่อเสียง

หลี่ชิเย่อดที่จะเผยรอยยิ้มขึ้นมา เดินเข้าไปหา เสียงเพียะเสียงหนึ่งดังขึ้น หนึ่งฝ่ามือได้ตบเข้าให้ที่ก้นงอนของผู้หญิงคนนี้อย่างแรง และคว้าเอาเนื้อที่เต่งตึงของก้นงอนมาขย้ำ

ว้ายยย…เมื่อถูกผู้ชายแปลกหน้าลอบจู่โจมสัมผัสบีบเค้นก้นงามของนางเข้า ทำให้ผู้หญิงที่มีรู้ร่างหุ่นละเบิดพลันตกใจจนกระโดดตัวลอยไปอยู่อีกด้านหนึ่ง ทำเอานางตกใจจนหน้าถอดสี หันขวับมาจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่

คนอื่นๆ ที่อยู่บนถนนสายนี้ต่างตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า เนื่องจากที่นี่คือเมืองกัวชางเฉิน ใครหาญกล้ามาก่อกรรมทำเข็ญ

ส่วนจางเจี๋ยตี้ที่ติดตามอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่นั้น มองเห็นหลี่ชิเย่ทำการลวนลามสาวงามกลางถนน อดที่จะยิ้มเจื่อนๆ ไม่ได้ โชคดีที่เขาได้ปิดบังใบหน้าเอาไว้อย่างมิดชิด มิฉะนั้นล่ะก็คงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหน

จะอย่างไรเสียกล่าวสำหรับจางเจี๋ยตี้แล้ว ถ้าหากให้เขาเข่นฆ่าไปทั่วหล้าเขาไม่รู้สึกกดดันแม้แต่น้อย แต่ให้เขาเคียงข้างหลี่ชิเย่นักเลงหัวไม้ที่ลวนลามผู้หญิงกลางถนน เป็นสุนัขรับใช้ให้กับนักเลงหัวไม้คนหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกกดดันสูงมาก

โดยที่ผู้หญิงคนนี้มีชาติกำเนิดที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว เมื่อถูกผู้ชายคนหนึ่งลวนลามกลางถนน นางจึงบันดาลโทสะพุ่งปี๊ดขึ้นมา

ชายหนุ่มหลายคนที่มากับผู้หญิงคนนี้ก็หันขวับมาทันที ดวงตาทั้งสองเผยประกายน่าเกรงขามออกมา พวกเขากระทั่งยอมเป็นผู้คุ้มครองมาแล้ว เวลานี้ถึงกับมีผู้ที่มีตาแต่ไร้แววส่งมาถึงที่ เท่ากับเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงฝีมือเต็มที่

 เฮ้ น้องหนู มาสนุกกับคุณชายอย่างข้าสักหน่อยเป็นไร?  เวลานี้หลี่ชิเย่ยืนสองมือกอดอก ท่าทางเหมือนเป็นบุคคลอันดับหนึ่งใต้หล้าอย่างนั้น ตาทั้งสองมองขึ้นฟ้า ท่าทางเหมือนนักเลงหัวที่ชอบชุดคร่าหญิงสาวชาวบ้านดีๆ นี่เอง

จางเจี๋ยตี้ที่ปิดบังใบหน้าอดที่จะยิ้มเจื่อนๆ ไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าที่หลี่ชิเย่แสดงออกมาเป็นธาตุแท้ หรือเพียงแค่ต้องการเล่นสนุกๆ เท่านั้น ท่าทางของหลี่ชิเย่เมื่อครู่นี้ยังไม่เป็นแบบนี้ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นนักเลงหัวไม้ที่เหมือนมากๆ คนหนึ่ง

 เจ้าคนไม่รู้จักคำว่าตาย!  มาคราวนี้ ชายหนุ่มหลายคนที่อยู่ข้างกายสาวงามพลันโกรธจัดขึ้นมา นี่เป็นการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงละครฉากเด็ดตอนวีรบุรุษช่วยสาวงามเลยนะเนี่ย!

สำหรับหลี่ชิเย่นั้นก็คือผู้ที่เล่นบทร้ายของละครฉากนี้ ปรกติแล้ว นักเลงหัวไม่ลักษณะเช่นนี้ล้วนแล้วแต่ไม่มีจุดจบที่ดี ล้วนแล้วแต่ถูกวีรบุรุษที่เข้ามาช่วยสาวงามซ้อมอย่างหนัก กระทั่งอาจเสียชีวิตไป

 ตายคืออะไร?  หลี่ชิเย่ยืนกอดอก เหลือบมองชายหนุ่มเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้าทีหนึ่ง และกล่าวว่า  เจ้าหนูอย่างพวกเจ้าหากรู้จักกาลเทศะก็ไสหัวไปเสีย อย่าได้ทำเสียเรื่องคุณชายอย่างข้า มิฉะนั้นล่ะก็ ข้าจะเหยียบพวกเจ้าให้ตายคาเท้า! 

หลี่ชิเย่ในเวลานี้คือนักเลงหัวไม้ประเภทที่ไม่เห็นกฎหมายและกฎแห่งกรรมอยู่ในสายตา ชอบฉุดคราหญิงสาวชาวบ้านอย่างนั้น

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเมืองกัวชางเฉินเป็นเมืองที่มีการปกครองที่เข้มงวดตลอดมา ภายใต้การปกครองของฮ่องเต้ไท่ชิง ไม่มีใครหาญกล้าเหิมเกริมมากถึงเพียงนี้

ชายหนุ่มหลายคนพลันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ เผยให้เห็นถึงปณิธานการฆ่าขึ้นมาทันที มีชายหนุ่มที่คิดจะลุยเข้าไปเพื่อสั่งสอนหลี่ชิเย่ทันที

แต่ว่า สาวงามที่มีรูปร่างหุ่นละเบิดได้ขวางพวกเขาเอาไว้ ก้าวเดินออกมาจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ด้วยแววตาที่น่าครั่นคร้าม กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า  เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร? 

 ไม่รู้  หลี่ชิเย่ยืนกอดอกกล่าวท่าทางทะนงตัวว่า  ในเมืองกัวชางเฉิน ไม่สิ ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่แห่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นใต้หล้าคุณชายอย่างข้า ต่อให้เป็นลูกสาวของจักรพรรดิสวรรค์ วันนี้คุณชายอย่างข้าก็จะเอาเจ้าทำเมียให้จงได้! น้องหนู รีบๆ ยอมคุณชายอย่างข้าเสีย ปรนนิบัติคุณชายอย่างข้าให้ดี ไม่แน่นักสามารถประทานให้เจ้าได้ดี! 

พลันที่คำๆ นี้ถูกพูดออกมา สองฟากฝั่งถนนปรากฏมีผู้คนที่มาดูความคึกครื้นเป็นจำนวนไม่น้อย และมีจำนวนไม่น้อยที่ชี้มือชี้ไม้

สาวงามหุ่นละเบิดผู้นี้พลันปรากฏเพลิงแห่งความโกรธลุกโชน เผยให้เห็นสถึงปณิธานการฆ่า กล่าวเสียงเย็นชาว่า  เจ้าคนไม่รู้จักคำว่าตาย วันนี้ข้านี่แหละหากไม่หักกระดูกเจ้า ข้าจะไม่ชื่อหลัวฉี! 

 อย่างนั้นรึ?  หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า  แต่ว่า ข้าอยากเห็นฝีมือของเจ้าบนเตียงมากกว่า มาเถอะ น้องหนู  กล่าวพลางยืนมือคว้าไปที่อกกระเพื่อมของสาวงามในทันที

เดิมสาวงามผู้นี้ก็อยู่ในอาการโกรธจัดอยู่แล้ว ความโกรธสุมอยู่เต็มอก พลันทำให้อกกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้านับว่ายั่วยวนจิตใจผู้คนเหลือเกิน

 เจ้าคนไม่รู้จักคำว่าตาย!  เวลานี้แววตาผู้หญิงที่ชื่อหลัวฉีดูไม่เป็นมิตร เสียงตึงดังขึ้นพร้อมกระบี่คมกริบได้ออกจากฝัก พลันฟันใส่มือของหลี่ชิเย่ที่คว้าเข้ามาทันที

เวลานี้ หากหลัวฉีไม่ฟันมือทั้งสองข้างทิ้งยากที่จะทำให้เพลิงความแค้นในใจดับลงได้ ดังนั้น จึงลงมือโดยไร้ความปราณีฟันตรงเข้าใส่

ทุกคนที่มองเห็นหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงนักเลงหัวไม้ที่ทักษะยุทธอ่อนด้อยจนสามารถมองข้ามไปได้ การตัดมือสองข้างของเขาทิ้งก็นับว่าสมควรกับความผิดที่เขาก่อแล้ว

ชายหนุ่มหลายคนนั้นถึงกับปรากฏรอยยิ้มที่เย้ยหยันขึ้นที่มุมปาก เมื่อมองเห็นกระบี่ของหลัวฉีที่ฟันลงไป พวกเขามองว่า หนึ่งกระบี่ของหลัวฉีที่ฟันลงมานั้นต้องตัดเอาแขนทั้งสองข้างของหลี่ชิเย่ได้แน่ รับรองได้ว่าจะต้องเลือดสดๆ ที่ไหลลงเป็นทาง ในขณะนี้พวกเขาเสมือนหนึ่งมองเห็นภาพของหลี่ชิเย่ที่ร้องด้วยความเจ็บปวดแล้ว

ไม่ว่าหลี่ชิเย่จะเป็นคนเช่นใดก็ตาม จางเจี๋ยตี้ก็จะไม่ปล่อยให้เกิดความผิดพลาดใดๆ กับเขา แม้แต่ขนสักเส้นหลุดร่วงไปก็ไม่ได้ ดังนั้น จังหวะที่หนึ่งกระบี่ของหลัวฉีฟันใส่แขนของหลี่ชิเย่นั้น จางเจี๋ยตี้แค่เคาะนิ้วเบาๆ ทีหนึ่งเท่านั้นเอง

ได้ยินเสียงตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น กระบี่ยาวของหลัวฉีพลันแตกละเอียดกลายเป็นเศษชิ้นส่วนเหล็กจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงบนพื้น

ว้ายยย…หลัวฉีตกใจจนร้องเสียงแหลมขึ้นมา เนื่องจากมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ได้คว้าเอาหน้าอกที่เต่งตึงอวบอัดของนางเอาไว้ และจัดการบีบเค้นอย่างไม่ปราณีปราศรัยทีหนึ่ง ทำเอาหลัวฉีตื่นตระหนกจนสมองเบลอไปหมด นางโตมาถึงขณะนี้ เคยถูกผู้อื่นล่วงเกินตั้งแต่เมื่อไร ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นการถูกผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเทะโลมต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้

 นับว่าเต็มไม้เต็มมือดีนี่ คุณชายอย่างข้าชอบแบบนี้แหละ  หลี่ชิเย่หัวเราะเสียงดัง ยื่นมือคว้าตัวหลัวฉีมากอดเอาไว้ นี่เป็นการฉุดคร่าหญิงสาวชาวบ้านต่อหน้าต่อตาชัดๆ ภาพลักษณ์ความเป็นนักเลงหัวไม้ถูกหลี่ชิเย่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างถึงอกถึงใจ

 เจ้าเดรัจฉานน้อย รนหาที่ตาย  ชายหนุ่มหลายคนนั้นโกรธจัด เมื่อเห็นหลี่ชิเย่กอหลัวฉีและกระทำล่วงเกิน จึงวิ่งเข้าหาทันที ทันใดนั้นปรากฏประกายดาบเงากระบี่และเสียงตึง ตึง ตึงแต่ละเสียงที่ดังขึ้น ดาบยาวกระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มล้วนฟันใส่ร่างของหลี่ชิเย่

ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น หลี่ชิเย่ไม่ได้มองดูเสียด้วยซ้ำ ไม่จำเป็นต้องให้เขาลงมืออยู่แล้ว จางเจี๋ยตี้แค่สะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง กระบี่แตกละเอียดดาบแตกหัก ชายหนุ่มหลายคนนั่นถูกกระแทกจนกระเด็นลอยออกไป

สมควรทราบว่า จางเจี๋ยตี้นั้นอยู่ในขั้นอมตะ สำหรับผู้เยาว์เช่นนี้ เขาอาศัยเพียงแววตาก็สามารถสังหารพวกเขาได้แล้ว

แม้ว่าชายหนุ่มหลายคนคิดจะเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม แต่ พลันถูกพลังของจางเจี๋ยตี้กระแทกจนกระเด็นออกไป และตกกระแทกกับพื้นอย่างแรงจนมึนมองเห็นดาว

 คิดจะเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามก็ต้องดูก่อนว่าที่เผชิญอยู่คือใคร  หลี่ชิเย่หัวเราะเสียงดัง เสียงเพียะดังขึ้น หนึ่งฝ่ามือได้ตบเข้าไปที่ก้นงอนของหลัวฉี และคลึงนวดไปทีหนึ่ง

ว้ายยย…หลัวฉีตกใจจนกระโดดไปไกลมาก สลดจนหน้าถอดสี หวาดกลัวจนร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง

กล่าวสำหรับเด็กสาวที่มีความหยิ่งผยองและอวดดีอยู่หลายส่วน ตลอดเวลาที่ผ่านมามองตัวเองว่ามีฐานะสูงเด่น โดยนางเข้าใจว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกนักเลงหัวไม้ที่ไร้ความสามารถเช่นนี้รังแกได้ ในสายตาของนางมองว่านักเลงหัวไม้ที่อาศัยว่าตัวเองมีเงินอยู่บ้างนั้น มันก็แค่เหมือนดั่งหนอนที่อยู่ในส้วมเท่านั้น แค่แววตาของนางก็สามารถสังหารนักเลงหัวไม้เช่นนี้ได้แล้ว

แต่ว่า มาวันนี้นางกลับจะต้องถูกนักเลงหัวไม้เช่นนี้แทะโลมและลวนลาม พลันทำลายความหยิ่งผยองและอวดดีที่อยู่ในใจของนางจนแหลกละเอียด ทำเอานางตกใจจนหน้าถอดสี

 คนสวย เจ้ายังคงยอมนายน้อยอย่างข้าเสียเถอะ สามารถอุ่นเตียงให้กับนายน้อยอย่างข้าถือเป็นโชคดีของเจ้า  หลี่ชิเย่หัวเราะกล่าว

 ไป…  ในเวลานี้หลัวฉีถูกทำให้ตกใจจนขลาดกลัว ร้องเสียงดังกับพรรคพวกของนางแล้วหันหลังออกวิ่งไปทันที ขณะที่ชายหนุ่มหลายคนก็ถูกศักยภาพของจางเจี๋ยตี้ทำให้ตกใจไหนเลยกล้าอยู่ต่อ หันหลังถอนกำลังวิ่งหนีไป

 เฮ่อทำไมเจ้าไม่ช่วยข้าขวางเอาไว้เล่า?  หลี่ชิเย่บ่นและโทษจางเจี๋ยตี้ว่า  คุณชายอย่างข้ากำลังคิดจะแบกนางกลับไป จัดการสำเร็จโทษนางเสีย! 

 ขาของบ่าวไม่ค่อยคล่องแคล่ว ตามไม่ทัน  จางเจี๋ยตี้เอ่ยขึ้นช้าๆ ไม่หวั่นไหว

 ไม่คล่องแคล่วบ้าอะไรของเจ้า  หลี่ชิเย่เยาะเย้ยและด่าว่า แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ เดินหน้าต่อไป

จางเจี๋ยตี้รู้สึกไม่เข้าใจในตัวของหลี่ชิเย่ ถ้าหากเขาเป็นนักเลงหัวไม้จริงๆ เวลานี้คงโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว แต่ว่า หลี่ชิเย่กลับไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย นิสัยที่เบิกบานและตามอารมณ์เช่นนี้ หาใช่สิ่งที่สามารถหาได้จากตัวของนักเลงหัวไม้ได้

……………………………………………….

 

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท