ตอนที่ 2498 บังเกิดวามคิดขึ้นมากะทันหัน
ในเวลานี้เอง ทุกคนต่างอดไม่ได้มองไปที่หลี่ชิเย่ ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ต้องการรู้ว่า แม้ว่าหลี่ชิเย่เคยเป็นฮ่องเต้มาก่อน แต่ เขาไม่ได้ฝึกปรือ ‘เคล็ดวิชาโต่วมี่ และเคล็ดวิชาเจื่อมี่’ ที่เป็นสองเคล็ดวิชาจิ่วมี่ของราชวงศ์โต่วเซิ่นมาก่อน
ในเวลานี้เอง ทุกคนต่างอดไม่ได้มองไปที่หลี่ชิเย่ ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ต้องการรู้ว่า แม้ว่าหลี่ชิเย่เคยเป็นฮ่องเต้มาก่อน แต่ เขาไม่ได้ฝึกปรือ ‘เคล็ดวิชาโต่วมี่ และเคล็ดวิชาเจื่อมี่’ ที่เป็นสองเคล็ดวิชาจิ่วมี่ของราชวงศ์โต่วเซิ่นมาก่อน
“เป็นความจริง ข้าไม่เคยได้ฝึกปรือสองเคล็ดวิชานี้มาก่อน” หลี่ชิเย่ก็ดูอิสระเสรีไม่สะทกสะท้าน
“ฮึ สองเคล็ดวิชานี้คือระบบการสืบทอดของราชวงศ์โต่วเซิ่น ไม่เคยฝึกแม้แต่เคล็ดวิชาเดียว ไหนเลยมีสิทธิ์พูดถึงเรื่องของการสืบทอด” ทังเฮ่อเสียงกล่าวน้ำเสียงเย็นชา
คำพูดเช่นนี้ของทังเฮ่อเสียงต้องการปฏิเสธฐานะความถูกต้องตามกฎความเป็นฮ่องเต้ของหลี่ชิเย่ เนื่องจากทุกคนต่างก็รู้ว่า เคล็ดวิชาโต่วมี่ และเคล็ดวิชาเจื่อมี่สองเคล็ดวิชานี้คือเคล็ดวิชาที่ไม่มีการถ่ายทอดของราชวงศ์โต่วเซิ่น ถ้าหากได้กุมอำนาจปกครองแล้วไม่เคยได้ฝึกปรือเคล็ดวิชาใดวิชาหนึ่งล่ะก็ นับว่าอธิบายไม่ได้จริงๆ
ขณะที่ทังเฮ่อเสียงนั้น เขาเป็นผู้ที่ได้ฝึก ‘เคล็ดวิชาเจื่อมี่’ มาก่อน ในข้อนี้อย่างน้อยเท่ากับได้รับการถ่ายทอดมาจากราชวงศ์โต่วเซิ่นจริง อาจกล่าวได้ว่า อนาคตหากเขาจะสืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้ก็นับว่าสมเหตุสมผล
หลี่ชิเย่ขึ้คร้านจะไปให้ความสนใจในตัวทังเฮ่อเสียง มองดูปิงฉือหานยวี่ทีหนึ่ง ยิ้มกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉยว่า “แม้ว่าข้าจะไม่ได้ฝึกปรือแม้แต่เคล็ดวิชาเดียวมาก่อน แต่ว่า มันก็แค่ ‘เคล็ดวิชาเจิ้นมี่’ ขั้นสมบูรณ์เท่านั้นเอง ไม่คู่ควรที่จะมาโอ้อวดต่อหน้าข้าหรอกนะ จิ๊บๆ เท่านั้นเอง”
“โง่เขลาและอวดดี” ปิงฉือหานยวี่ยิ้มเยาะทีหนึ่งกล่าวเย้ยหยันว่า “เทียนจือสำเร็จ ‘เคล็ดวิชาเจิ้นมี่’ ขั้นสมบูรณ์ ทำให้เขาสามารถควบคุมค่ายกลทั่วหล้า ขับเคลื่อนค่ายกลทั่วฟ้าดิน ความสำเร็จของเขาไหนเลยเจ้าจะเทียบเทียมได้ เจ้าเองก็ได้แต่คุยโวสักครั้งว่า ‘คว้าเคล็ดวิชาจิ่วมี่ตามอารมณ์’ มาได้”
“ดูท่าข้าจะคุยโวแล้วล่ะ” หลี่ชิเย่อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ และถามหลิ่วชูฉิงที่อยู่ข้างกายว่า “นังหนูเอ๊ย เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถคว้าเอาเคล็ดวิชาจิ่วมี่ตามอารมณ์มาได้”
“เชื่อ” หลิ่วชูฉิงตอบโดยไม่ลังเล และพยักหน้า นางเชื่อในตัวของหลี่ชิเย่โดยไม่มีเงื่อนไขแม้แต่น้อย
“ศิษย์น้อง อย่าได้ตาบอด เคล็ดวิชาจิ่วมี่คือสิ่งที่พบได้ยากตลอดกาล” เมื่อดาบอริยะกวานไห่เห็นศิษย์น้องของตนเองไม่มีหลักการที่เป็นของตนเองอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเจื่อนๆ ส่ายหน้าและกล่าวว่า “นับแต่อดีตกาลเป็นต้นมา มีเพียงพวกของราชันแท้จริงจิ่วหนิงเพียงคนสองคนเท่านั้นที่ฝึกปรือได้ครบ ไหนเลยจะคว้ามาได้ตามอารมณ์อย่างง่ายดาย”
แม้ว่าดาบอริยะกวานไห่ไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของหลี่ชิเย่โดยตรง แต่ก็เป็นการไม่เชื่อในคำพูดของหลี่ชิเย่ทางอ้อม
“เพ้อเจ้อ” ทังเฮ่อเสียงก็หัวเราะเยาะทีหนึ่งกล่าวเหยียดหยามขึ้นมา
“ฮึ คิดจะคุยโวก็ควรจะร่างเอาไว้ก่อน” ปิงฉือหานยวี่หัวเราะเยาะทีหนึ่ง จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยสายตาที่เย็นชา กล่าวท่าทีเย็นชาว่า “ถ้าหากเจ้าสามารถคว้ามาได้ตามอารมณ์ มันก็คือสิ่งมหัศจรรย์นิรันดร์กาลแล้วล่ะ”
ในบรรดาพวกเขาทั้งหมด หนึ่งเดียวที่ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมาก็คือฉินเจี้ยนเหยา นางเอียงคอเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างไม่เชื่อในคำพูดของหลี่ชิเย่ มีผู้หัวเราะเย็นชา และกล่าวเหยียดหยามว่า “ช่างโง่เขลาเหลือเกิน เคล็ดวิชาเจื่อมี่สามารถคว้าเอามาได้ตามอารมณ์ เขาคิดว่าเขาคือใคร? คิดว่าตัวเองเป็นปฐมบรรพบุรุษจิ่วมี่รึ?”
“คำพูดแบบนี้ แม้แต่ความรู้ขั้นพื้นฐานที่สุดก็ไม่มี” แม้แต่ระดับปรมาจารย์ของตระกูลขุนนางโบราณก็ส่ายหน้า ไม่เชื่อในคำพูดเช่นนี้ และกล่าวว่า “เคล็ดวิชาเจื่อมี่มีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่เช่นใด ปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า ใครบ้างที่สามารถคว้ามาได้ตามอารมณ์? ราชันแท้จริงจิ่วหนิงในครั้งนั้นก็ยังทำไม่ได้”
“จะอย่างไรเสียก็เป็นฮ่องเต้ที่โง่เขลาเบาปัญญาและเหลวไหล ทำอะไรยังคงเชื่ออะไรไม่ได้” ผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยกันส่ายหน้า ก่อนหน้านี้ มีผู้คนจำนวนมากต่างเข้าใจว่าฮ่องเต้องค์ใหม่จะผงาดขึ้นมา เวลานี้ดูไปแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงเชื่ออะไรไม่ได้…
“ปาฏิหาริย์นิรันดร์กาลอะไร แค่ทำไปตามอารมณ์เท่านั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว
“ตกลง ถ้าหากเจ้าสามารถคว้าเอามาได้ตามอารมณ์ ข้า ปิงฉือหานยวี่เป็นคนแรกที่เลื่อมใสและยอมรับในตัวเจ้าด้วยความจริงใจ” ในเวลานี้เอง ปิงฉือหานยวี่ได้ก้าวออกมา หัวเราะเยาะนิดหนึ่งและเอ่ยขึ้น
“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าเลื่อมใสและยอมรับในตัวข้า” หลี่ชิเย่หัวเราะนิดหนึ่งและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ความเลื่อมใสศรัทธาและยอมรับในตัวข้ามีค่าเท่าไรกันเชียว แต่ทว่า เฉกเช่นคนสวยอย่างเจ้าข้ากลับมีอารมณ์ที่จะสั่งสอนเจ้าสักครั้ง น่าสนุกออก”
“เจ้า…” ปิงฉือหานยวี่พลันมีใบหน้าที่แดงก่ำ อดจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธไม่ได้ แต่ว่า มาคราวนี้น่าแปลกตรงที่นางไม่ได้โมโห จ้องเขม็งที่หลี่ชิเย่ครู่หนึ่งก็กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าหากเจ้าสามารถบรรลุเคล็ดวิชาเจื่อมี่ได้ถือว่าข้าแพ้ ข้าปิงฉือหานยวี่สุดแต่เจ้าจะจัดการ จะฆ่าจะแกงก็แล้วแต่เจ้า ถ้าหากเจ้าแพ้ล่ะ?”
ปิงฉือหานยวี่ถึงกับพูดคำๆ นี้ออกมา พลันทำให้ทุกคนตกตะลึง ไม่นึกเลยว่าปิงฉือหานยวี่จะพนันกับฮ่องเต้องค์ใหม่ได้
“เจ้าต้องการอะไร?” หลี่ชิเย่จ้องมองดูปิงฉือหานยวี่ และเผยรอยยิ้มขึ้นมา
ปิงฉือหานยวี่มองดูหลี่ชิเย่ด้วยความเย้ยหยันอยู่พักหนึ่ง จากนั้นกล่าวด้วยท่าทีเย็นชาว่า “ข้าก็จะไม่หาเรื่องอะไรเจ้า ไม่ต้องการให้เจ้าทำอะไร ถ้าหากเจ้าพ่ายแพ้ ง่ายมาก เจ้าประกาศต่อใต้หล้าว่าจะยกตำแหน่งฮ่องเต้ให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้น!”
พลันที่ปิงฉือหานยวี่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้ทุกคนต่างตะลึงไปนิดหนึ่ง เมื่อทุกคนได้สติกลับมาแล้ว ทำให้พวกเขาต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงเงียบๆ แม้ว่าปิงฉือหานยวี่จะเป็นคนที่หยิ่งยโสคนหนึ่ง แต่นางยังคงฉลาดยิ่งนัก
ถ้าหากว่า สามารถทำให้ฮ่องเต้องค์ใหม่ประกาศต่อใต้หล้าว่ายกตำแหน่งฮ่องเต้ให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้นได้จริง เท่ากับเป็นการยืนยันความถูกต้องตามกฎในการเป็นฮ่องเต้ของราชันแท้จริงปาเจิ้นอย่างไม่ต้องสงสับ ส่วนคนอื่นๆ คิดจะแย่งบัลลังก์กับเขามันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ว่า ขอเพียงตำแหน่งฮ่องเต้ของราชันแท้จริงปาเจิ้นถูกต้องตามกฎ อย่างน้อยที่สุดก็จะไม่เป็นที่วิพากวิจารณ์ของผู้คนในอนาคต ซึ่งกล่าวสำหรับชื่อเสียงของราชันแท้จริงคนหนึ่งแล้ว นับเป็นเรื่องที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง
พลันที่ปิงฉือหานยวี่พูดออกมาเช่นนี้ ทังเฮ่อเสียงพลันรู้สึกเสียใจภายหลังในทันที ทำไมเขาจึงคิดไม่ถึงจุดนี้นะ หากรู้แต่แรกเป็นเช่นนี้ เขาก็สามารถทำการเดิมพันเฉกเช่นปิงฉือหานยวี่ได้เหมือนกัน
ทุกคนต่างอดที่จะจ้องมองไปยังหลี่ชิเย่ทันที เนื่องจากสิ่งที่ทุกคนสามารถจินตนาการได้ก็คือ เกมเดิมพันเช่นนี้ปิงฉือหานยวี่ชนะแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ หลี่ชิเย่จะต้องประกาศถ่ายทอดตำแหน่งให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะเป็นการวางรากฐานตำแหน่งฮ่องเต้ให้ราชันแท้จริงปาเจิ้นได้อย่างมั่นคงแล้ว
ในเวลานี้เอง ทำให้ผู้คนอดที่จะชมเปาะว่าปิงฉือหานยวี่มีความฉลาดอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นผู้ช่วยที่เปี่ยมด้วยสติปัญญาและยอดเยี่ยมมาก สามารถทำการวางรากฐานอย่างมั่นคงให้กับฐานะความเป็นฮ่องเต้ของราชันแท้จริงปาเจิ้น มันช่างเป็นเรื่องที่ทรงคุณค่าเพียงใด ผู้หญิงที่ฉลาดเพรียบพร้อมด้วยคุณธรรมเช่นนี้ ก็คงมีเพียงผู้ชายอย่างราชันแท้จริงปาเจิ้นที่คู่ควร
“กล้าเดิมพันหรือไม่?” เวลานี้ปิงฉือหานยวี่จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเย้ยหยัน และทำการบีบคั้นหลี่ชิเย่อีกครั้งหนึ่ง นางต้องการถือโอกาสเวลานี้ฉกฉวยโอกาสเช่นนี้เอาไว้
“พูดเช่นนี้ เจ้ายินยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อราชันแท้จริงปาเจิ้นแล้ว” หลี่ชิเย่พลันเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าขึ้นมาทันที
“เขาคู่ควรให้ข้าไปสนับสนุน” ปิงฉือหานยวี่เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เฉกเช่นบุรุษยิ่งใหญ่อย่างเขา เดิมทีก็สมควรทำอะไรเพื่อระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่อยู่แล้ว เพื่อประโยชน์และความสุขให้กับอาณาประชาราษฎร์ใต้หล้า”
“ดังนั้น เจ้ากล้าเดิมพันไหมล่ะ? กล้ายกตำแหน่งฮ่องเต้ให้กับเขาหรือไม่?” เวลานี้ปิงฉือหานยวี่จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เจ้าคงไม่หดหัวอยู่แต่ในกระดองกระมัง” เมื่อนางเอ่ยถึงตรงนี้แล้ว หัวเราะเยาะทีหนึ่ง
ปิงฉือหานยวี่คิดจะใช้วิธียั่วยุทำการยั่วยุหลี่ชิเย่อีกครั้งหนึ่ง ให้เขากระโดดเข้าไปในเกมเดิมพันนี้ ขอเพียงหลี่ชิเย่กระโดดเข้าไปยังเกมเดิมพันนี้ล่ะก็ เช่นนั้นแล้วนางก็ชนะอย่างแน่นอน โลกนี้ไม่มีใครสามารถคว้าเอาเคล็ดวิชาจิ่วมี่มาได้ตามอารมณ์
“ข้าน่ะอย่างไรก็ได้ เจ้าสิต้องคิดให้รอบคอบนะ” ในเวลานี้เองรอยยิ้มบนใบหน้าหลี่ชิเย่ดูเบิกบานใจอย่างยิ่ง
“ข้าปิงฉือหานยวี่พูดคำไหนคำนั้น ถ้าหากเจ้าชนะ จะฆ่าจะแกงสุดแต่เจ้า” ปิงฉือหานยวี่กล่าวท่าทีหนักแน่นจริงจัง
“ตกลง ข้ารับเดิมพันแล้ว” หลี่ชิเย่ตบมือและหัวเราะขึ้นมา
ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่โดยพลัน ทุกคนต่างรู้สึกว่าเขาเสียสติไปแล้ว แม้แต่ทังเฮ่อเสียงที่อยู่ด้านข้างพลันรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง นี่เท่ากับทุกอย่างกลับกลายเป็นที่แน่นอนไปแล้ว เมื่อไรที่หลี่ชิเย่พ่ายแพ้ เขาก็ต้องประกาศยกตำแหน่งให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้น ถึงเวลานั้นแล้ว ราชันแท้จริงปาเจิ้นชิงอำนาจใต้หล้าก็จะมีเหตุผลอย่างเพียงพอ
ต่อให้ภายหลังหากเขาจะข่วงชิงบัลลังก์กับราชันแท้จริงปาเจิ้น เขาก็จะไม่สมเหตุสมผลแล้ว
ในขณะนี้ ทังเฮ่อเสียงรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ทำไมเขาจึงคิดไม่ได้อย่างนี้เล่า เวลานี้ถูกปิงฉือหานยวี่แย่งขิงโอกาสไปก่อน นับว่าคำนวณผิดพลาดมากเหลือเกิน
“ไร้สาระ” แม้แต่ดาบอริยะกวานไห่ก็ส่ายหัว รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เขาไม่เชื่อว่าหลี่ชิเย่สามารถคว้าเอาเคล็ดวิชาจิ่วมี่มาได้ตามอารมณ์ มันเป็นเรื่องที่ใครก็ทำไม่ได้
ดาบอริยะกวานไห่มองว่า เกมนี้ปิงฉือหานยวี่ชนะแน่นอนแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่อย่างหลี่ชิเย่นับว่าเหลวไหลจนเกินไปจริงๆ
แม้จะกล่าวว่าดาบอริยะกวานไห่ไม่ได้สนใจอะไรนักกับตำแหน่งฮ่องเต้ แต่ว่า ชั่วดีอย่างไรหลี่ชิเย่ยังคงเป็นฮ่องเต้อยู่ในเวลานี้ อย่างน้อยที่สุดศิษย์น้องแต่งงานกับเขาก็ยังได้ชื่อเสียงจอมปลอมมา หากหลี่ชิเย่พ่ายแพ้ในเกมพนันนี้แล้ว ต่อไปเขาจะไม่เหลือแม้แต่ชื่อฮ่องเต้จอมปลอม
“เหลวไหลยิ่งนัก” ในเวลานี้เอง ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่าฮ่องเต้องค์ใหม่เหลวไหลเหลือเกิน มีผู้พูดขึ้นมาอย่างไม่ลังเลว่า “มิน่าเล่าเขาถึงได้สูญเสียแผ่นดิน คนแบบนี้หากไม่เสียแผ่นดิน นั่นแหละคือปาฏิหาริย์ชั่วนิรันดร์”
“เห็นทีราชันแท้จริงปาเจิ้นจะขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้อย่างสมเหตุสมผลแล้วล่ะ” มีปรมาจารย์ของตระกูลขุนนางโบราณพึมพำขึ้นมา
เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่เหนือความคาดคิดผู้คนทั้งหมด ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่นึกไม่ฝันว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นจะได้รับตำแหน่งฮ่องเต้ง่ายดายถึงเพียงนี้ แน่นอน ผลงานทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่กับปิงฉือหานยวี่ นางนับว่าเป็นผู้ช่วยที่ฉลาดคนหนึ่ง
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกว่าฮ่องเต้องค์ใหม่ไร้เหตุผลสิ้นดี พลันสูญเสียตำแหน่งฮ่องเต้โดยพลัน ไม่มีใครเชื่อว่าเขาสามารถเอาชนะเกมเดิมพันเกมนี้ไปได้
มีผู้อยู่ในเหตุการณ์เพียงคนเดียวที่ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ออกมา นั่นก็คือฉินเจี้ยนเหยา นาทีนี้นางจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ และรู้สึกประหลาดมาก ส่วนประหลาดที่ตรงไหนนั้น นางเองก็บอกไม่ถูก แต่ลางสังหรณ์บอกนางว่า หลี่ชิเย่ในเวลานี้มีความมั่นใจอย่างยิ่ง เหมือนว่าสามารถคว้าเอาเคล็ดวิชาจิ่วมี่ตามอารมณ์ได้อย่างนั้น
เรื่องเช่นนี้ สติสัมปชัญญะบอกฉินเจี้ยนเหยาว่า มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว นับแต่อดีตกาลเป็นต้นมา มีใครบ้างที่สามารถทำได้ชนิดสามารถคว้าเอาเคล็ดวิชาจิ่วมี่ตามอารมณ์ ได้? ไม่มีใครทำได้!
แต่ว่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไรลางสังหรณ์บอกนางว่า หลี่ชิเย่น่าจะทำได้ อีกทั้งลางสังหรณ์ของนางนั้นมีความแม่นยำมาโดยตลอด
ในเวลานี้ ฉินเจี้ยนเหยารู้สึกขัดแย้งในใจ ดังนั้นนางจึงยืนอยู่ด้านข้างไม่พูดสักคำ เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ ในขณะนี้มีเพียงเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ จึงเป็นการเลือกที่มีสติมากที่สุด
“ตกลง พวกเราตกลงตามนี้” ปิงฉือหานยวี่ก็ตรงไปตรงมา และกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าจะบรรลุเคล็ดวิชาจิ่วมี่ เช่นนั้นแล้ว พวกเราสามารถเว้นที่ว่างให้กับเจ้า โดยไม่มีใครมารบกวนเจ้า และข้าก็จะไม่บังคับว่าเจ้าจะต้องพลันยื่นมือออกไปก็สามารถคว้าเอาเคล็ดวิชาจิ่วมี่มาได้ตามอารมณ์ ขอเพียงเจ้าสามารถบรรลุเคล็ดวิชาจิ่วมี่ได้ ก็ถือว่าเจ้าชนะ”
เวลานี้ปิงฉือหานยวี่เองก็แสดงความเปิดเผยตรงไปตรงมา แน่นอนกล่าวสำหรับนางแล้วเกมนี้นางชนะแน่ หากจะใจกว้างสักหน่อยคงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
ตอนนี้ทุกคนต่างมองไปที่หลี่ชิเย่ ทุกคนล้วนแล้วแต่รอคอยผลอย่างหนึ่ง นั่นก็คือรอให้หลี่ชิเย่ออกมาประกาศให้ราชันแท้จริงปาเจิ้นเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้
…………………………………………………