ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2523 กำลังจะรบ

ตอนที่ 2523 กำลังจะรบ
ตอนที่ 2523 กำลังจะรบ
พลังอันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูงที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ทั่วทั้งเขาจิ่วเหลียนซานกลับกลายเป็นโลกแห่งกระบี่ ทุกๆ ที่ที่สามารถมองเห็นได้ล้วนมีแต่กระบี่ กระบี่แต่ละเล่มได้ปักตรึงอยู่บนยอดเขาทุกๆ ยอดเขาในเขาจิ่วเหลียนซาน พูดได้อย่างเต็มปากว่า ทุกย่างก้าวก็จะมีกระบี่อยู่เล่มหนึ่ง
ในเวลานี้ พลังอันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูงที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามได้ตลบอบอวล ไปทั่วเขาจิ่วเหลียนซาน พื้นดินทุกตารางนิ้วของเขาจิ่วเหลียนซานล้วนแล้วแต่ถูกปกคลุมด้วยพลังอันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูงที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
ด้วยเหตุที่มีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนปักอยู่บนเขาจิ่วเหลียนซานไปทั่ว ทำให้เขาจิ่วเหลียนซานล้วนแล้วแต่ถูกปกคลุมอยู่ท่ามกลางพลังอันเกิดจากการร่ายรำกระบี่ด้วยความเร็วสูง ส่งผลให้กระบี่ของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่อยู่บนเขาจิ่วเหลียนซานต่างส่งเสียงคำรามขึ้นมาเอง กระบี่วิเศษของผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างส่งเสียงคำรามมีการสั่นและเคลื่อนไหวขึ้นมา เหมือนว่าจะอยู่เหนือการควบคุมของเจ้าของ กระทั่งจะดิ้นหลุดออกจากฝักอย่างนั้น
ดูเหมือนว่ากระบี่ของยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ถูกหลอมรวมเข้าไปอยู่ในโลกของกระบี่นี้ไปแล้วอย่างนั้นเวลานี้ กระบี่ประจำกายของทุกคนล้วนแล้วแต่คล้ายต้องการส่งเสียงประสานขับขานด้วยกันกับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาลที่ปักตรึงอยู่บนเขาจิ่วเหลียนซานแห่งนี้อย่างนั้น
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อมองเห็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาลที่ปักตรึงอยู่บนเขาจิ่วเหลียนซาน ทำให้ทั่วทั้งเขาจิ่วเหลียนซานถูกปักตรึงด้วยกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จนถี่ยิบ
“ราชันแท้จริงปาเจิ้นโมโหสุดขีดขึ้นมาแล้ว คราวนี้เอาจริง อีกทั้งยังเป็นการทุ่มสุดตัว ถึงจะต้องเสียค่าตอบแทนเท่าไรก็ยอม ต้องการเล่นกันให้ตายไปข้างหนึ่ง” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสอดที่จะพึมพำขึ้นมาไม่ได้ เมื่อได้มองเห็นภาพนี้แล้ว
“นี่คงไม่เพียงแค่ราชันแท้จริงปาเจิ้นเท่านั้น เกรงว่าแม้แต่แคว้นว่านเจิ้นก็ทุ่มสุดตัวเช่นกัน ท่าทีไม่ตายไม่เลิก” ระดับบรรพบุรุษทอดถอนใจปลงอนิจจังเบาๆ
สมควรทราบว่า แม้ว่าเขาจิ่วเหลียนซานจะไม่ปรากฏตัวกับโลกภายนอก ไม่เข้าร่วมในการแย่งชิงต่างๆ ของโลกภายนอก แต่ทว่า กำลังความสามารถของพวกเขาลึกซึ้งยากจะหยั่งถึง แม้แต่ฮ่องเต้ไท่ชิงที่อยู่ในยุคข้าเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวก็ยังให้เกียรติแก่เขาจิ่วเหลียนซาน
เวลานี้ราชันแท้จริงปาเจิ้นถล่มด้วยกระบี่ นำเอากระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนมาปักอยู่บนเขาจิ่วเหลียนซานในชั่วพริบตาเดียว กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับล้านล้านเล่มปักอยู่บนผืนแผ่นดินทุกตารางนิ้วของเขาจิ่วเหลียนซาน ทำให้พื้นที่ของเขาจิ่วเหลียนซานทั้งหมดกลายเป็นสมรภูมิรบ
สิ่งนี้เป็นการบ่งบอกว่า ราชันแท้จริงปาเจิ้นไม่ได้เป็นกังวลต่อเขาจิ่วเหลียนซานอีกต่อไปแล้ว ต่อให้ต้องหักหน้ากันอย่างเปิดเผยก็ไม่หวั่น การที่ราชันแท้จริงปาเจิ้นอาศัยวิธีการที่พาลและดุดันเช่นนี้ ไม่เพียงเป็นการแสดงถึงท่าทีของตัวเขาเอง ยังเป็นการแสดงถึงท่าทีของแคว้นว่านเจิ้นอีกด้วย เกรงว่าการที่เขาลงมือเช่นนี้เป็นเพราะได้รับการสนับสนุนจากแคว้นว่านเจิ้นทั้งหมด มิฉะนั้นล่ะก็ ราชันแท้จริงปาเจิ้นก็คงไม่กระทำการนำเอากระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนยิงปักลงในเขาจิ่วเหลียนซานโดยตรง โดยที่ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น
“ราชันแท้จริงปาเจิ้นทำไมจะต้องโมโหสุดขีดถึงเพียงนี้?” มีผู้อดที่จะเอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมา
“อย่าลืมไปสิ องค์หญิงหานยวี่ตกไปอยู่ในมือของฮ่องเต้องค์ใหม่ ด้วยนิสัยของฮ่องเต้องค์ใหม่แล้ว เจ้าคิดว่าเขาจะทำเรื่องเช่นใดขึ้นมาล่ะ?” มีพรรคพวกพูดเสียงแผ่วเบาขึ้น
ครั้นผู้คนได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วพลันทำให้อึดอัดจนหายใจไม่ออก ฮ่องเต้องค์ใหม่เป็นใครกัน? ฮ่องเต้ที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรม ทารุณโหดร้าย บ้าระห่ำใช้อำนาจบาตรใหญ่ โลกนี้ยังจะมีสิ่งใดที่เขาทำไม่ได้? ลองนึกภาพดู เฉกเช่นปิงฉือหานยวี่ที่เป็นหญิงงามสวยหยาดเยิ้มตกไปอยู่ในมือของฮ่องเต้องค์ใหม่จะมีจุดจบอย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้องค์ใหม่เคยพูดออกมาต่อหน้าทุกคนว่าต้องการอบรมสอนสั่งปิงฉือหานยวี่ เวลานี้ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า ฮ่องเต้องค์ใหม่จะทำเรื่องเช่นใดต่อปิงฉือหานยวี่
“เรื่องแบบนี้ เกรงว่าผู้ชายคนไหนก็ทนไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชันแท้จริงเลย” เมื่อคิดและเข้าใจถึงความลึกลับภายในแล้ว ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยแทบจะหายใจไม่ออก อดที่จะพึมพำขึ้นมาไม่ได้
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ต้องไปดูว่าจะมองเรื่องนี้อย่างไรกัน” มียอดฝีมือรุ่นอาวุโนกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ผู้ที่นิสัยแข็งกร้าวก็คือตายกันไปข้างหนึ่ง แต่ว่า เรื่องบางเรื่องเกรงว่าจะไม่สามารถย้อนกลับมาได้ตลอดกาลแล้วล่ะ แต่หากทำได้สำเร็จ อย่างน้อยก็เป็นการระบายความอัดอั้นในใจออกมา คนเราย่อมต้องการศักดิ์ศรีซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้…”
“…แต่ว่า ถ้าหากล้มเหลว หมายถึงเดิมพันแคว้นทั้งแคว้นลงไป สิ่งที่เกิดจากกำลังกาย กำลังสมองของปรัชญาเมธีรุ่นก่อนๆ แต่ละรุ่นก็จะหายวับไปกับตาในชั่วพริบตาเดียว แล้วจะกลายเป็นคนบาป ละอายต่อบรรพชน…” เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ได้ทอดถอนใจออกมาเบาๆ และกล่าวว่า “ถ้าหากเป็นผู้ที่มีสติ บางทีอาจเพียงแค่ปล่อยผ่านไป แค่ผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น คุ้มกับการแลกกับแคว้นทั้งแคว้นรึ? คุ้มกับเดิมพันแลกกับชีวิตราษฎร์นับล้านล้านคนรึ? แต่ว่า สิ่งนี้กล่าวสำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว มันจะต้องทรมานไปชั่วชีวิต ไม่สามารถหนีไปจากเงาทมิฬนี้ตลอดไปชั่วชีวิต”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้จากผู้เฒ่าแล้ว ทำให้ผู้คนถึงกับหายใจไม่ออก ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกว่าหัวใจของตนถูกคนอื่นกำเอาไว้แน่นมากอย่างนั้น จนหายใจไม่ออก
“ฮ่องเต้องค์ใหม่นับว่าดุดัน ทารุณโหดร้ายดีแท้ เทียบกับฮ่องเต้ไท่ชิงแล้วมีแต่มากกว่าไม่มีด้อยกว่า” มีผู้ที่พูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา ขณะพูดคำพูดเช่นนี้ไม่กล้าที่จะพูดเสียงดัง
มาถึงวันนี้ นับว่าทุกคนได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับความทารุณโหดร้ายของฮ่องเต้องค์ใหม่แล้ว ผู้ชายที่เข่นฆ่ากองทัพนับล้านได้โดยไม่กะพริบตา นับว่าน่ากลัวมากเหลือเกิน เทียบกับฮ่องเต้ไท่ชิงในครั้งนั้นแล้ว ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
“เรื่องนี้จะโทษฮ่องเต้องค์ใหม่ก็ไม่ถูก” ระดับบรรพบุรุษผู้หนึ่งส่ายหน้าเบาๆ และมองไปยังที่ที่ห่างไกล กล่าวว่า “นี่แหละคือความโหดร้ายของการชิงอำนาจ ครั้งนั้นตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือทำหน้าไหว้หลังหลอก ราชันแท้จริงปาเจิ้นยกทัพตีวังหลวงแตก ขับไล่ฮ่องเต้องค์ใหม่ลงจากบัลลังก์ มาวันนี้ทุกอย่างล้วนถูกลิขิตเอาไว้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นผลกรรม หันมองไปที่องค์หญิงของหอหลินไห่เก๋อ ได้รับความโปรดปรานมากมายเช่นใดจากฮ่องเต้องค์ใหม่ แม้แต่เคล็ดวิชาจิ่วมี่ก็ยังพระราชทานให้กับนาง”
เป็นความจริงที่ทำให้ผู้คนรู้สึกอิจฉายิ่งนักเมื่อเอ่ยถึงหลิ่วชูฉิง องค์หญิงของหอหลินไห่เก๋อ ทำให้ทุกคนต่างทึ่งกับเรื่องนี้ ลองคิดดู จิ้งเหลียนกวานยอดเยี่ยมมากใช่ไหม พวกเขาก็แค่มีอยู่สองเคล็ดวิชาจิ่วมี่เท่านั้นเอง ขณะที่เวลานี้หลิ่วชูฉิงคนเดียวก็มีถึงเก้าเคล็ดวิชาจิ่วมี่ ทอดสายตามองออกไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ธาตุแท้ภายในเช่นนี้ยังจะมีผู้ใดเทียม? “ฮองเฮาจะได้เป็นราชันแท้จริงจิ่วหนิงคนที่สองรึ?” มีผู้ที่เอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ
เล่าลือกันว่า ผู้ที่มีเคล็ดวิชาจิ่วมี่ทั้งเก้าอยู่ในครอบครองก็คือราชันแท้จริงจิ่วหนิง นางเคยเป็นราชันแท้จริงที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ความสำเร็จของนางสามารถตามทันราชันเจิ้นตี้หรือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นฮ่องเต้ไท่ชิง และภูมิใจกับลูกสาวของตนเอง ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า ราชันแท้จริงจิ่วหนิงมีความปราดเปรื่องน่าทึ่งเพียงใดแล้ว
“เรื่องนี้คงพูดยาก” ระดับบรรพบุรุษกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า”สำเร็จเป็นราชันแท้จริงหรือไม่กล่าวสำหรับพระนางแล้วล้วนไม่มีความสำคัญ เวลานี้นางก็สูงส่งอย่างยิ่ง อนาคตนางก็คือแม่ผู้ดูแลคนทั้งแผ่นดิน ซึ่งก็เพียงพอแล้ว ฐานะของนางได้แซงล้ำหน้าทุกคนไปแล้ว แม้แต่เทพธิดาฉินก็เทียบไม่ได้” เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว อดที่จะทอดถอนใจออกมา
เวลานี้ผู้คนจำนวนมากต่างเรียกหลิ่วชูฉิงว่าพระนาง ทุกคนล้วนแล้วแต่มองออกว่า เมื่อฮ่องเต้องค์ใหม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์อีกครั้ง หนึ่งเดียวที่มีสิทธิ์เป็นฮองเฮาก็คือหลิ่วชูฉิง กล่าวได้ว่า ฮองเฮาในอนาคตได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
“ฝ่าบาทนับว่าโปรดปรานพระนางโดยแท้จริง นี่เรียกว่าโชคดีโดยแท้นะเนี่ย” แม้แต่ศิษย์สาวกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีรูปโฉมงดงามก็รู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง ลองคิดดู พวกนางคิดจะฝึกปรือสุดยอดเคล็ดวิชาของสำนักก็ต้องผ่านการทดสอบ สำหรับเคล็ดวิชาจิ่วมี่พวกนางพูดถึงว่าทางสำนักไม่มีเคล็ดวิชาดังกล่าว ต่อให้มีก็ใช่ว่าใครก็สามารถได้ฝึกอยู่แล้ว
เวลานี้ หลิ่วชูฉิงที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับพวกนาง กลับได้ครอบครองเคล็ดวิชาจิ่วมี่ทั้งเก้า ซึ่งทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ไม่มีผู้ใด หรือสำนักใดมีเคล็ดวิชาที่ปราศจากผู้ต่อกรนี้อยู่ในครอบครอง
“โชคดีรึ?” สำหรับการอิจฉาของบรรดาศิษย์สาวกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีรูปโฉมงดงามนั้น ผู้อาวุโสจ้องมองพวกนางด้วยท่าทีเย็นชา และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เรื่องนี้ไม่มีคำว่าโชคดี บอกได้แต่เพียงว่าสร้างเหตุเอาไว้อย่างไรก็ได้ผลอย่างนั้น ขณะที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ชื่อเสียงยังไม่ปรากฏนั้น ใครบ้างที่จะเห็นเขาอยู่ในสายตา ใครบ้างที่ยินดีติดตามอยู่เคียงข้างกายของเขา? ติดตามเขาถูกคนอื่นเยาะเย้ย ถูกคนอื่นดูถูก ถูกคนอื่นส่ายหน้าด้วยความระอา… พระนางฮองเฮาสามารถทำได้ พวกเจ้าสามารถทำได้หรือไม่?”
เมื่อศิษย์สาวกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีรูปโฉมงดงามได้ฟังคำเช่นนี้จากผู้อาวุโสแล้วต่างนิ่งเงียบไปทันที
เป็นความจริงที่พวกนางทำไม่ได้ ขณะที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังคงอยู่ในสภาพน้ำนิ่งไหลลึกนั้น ฮ่องเต้องค์ใหม่ในสายตาของพวกนางเป็นเพียงฮ่องเต้โง่เขลาที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรมผู้หนึ่ง เป็นเพียงสวะที่ไม่สามารถสอนสั่งให้ได้ดีได้
ในขณะนั้น พวกนางจะมองฮ่องเต้องค์ใหม่ว่าสูงส่ง มีความสามารถหรือไม่? ไม่ ในใจของพวกนางกระทั่งเหยียดหยามในตัวฮ่องเต้องค์ใหม่ กระทั่งเยาะเย้ยเขาอยู่ในใจ รังเกียจเขา เป็นไปไม่ได้ที่พวกนางจะติดตามฮ่องเต้องค์ใหม่อยู่แล้ว
“ดังนั้น การกระทำทุกอย่างล้วนแล้วแต่ลิขิตเอาไว้อยู่แล้ว” ผู้อาวุโสได้กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “โลกนี้ไม่มีสิ่งที่ไม่ต้องลงแรงแล้วได้มา มีเพียงให้จึงจะได้รับ” ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้ เขาเองอดที่จะทอดถอนใจออกมา
ใช่เพียงแต่เหล่าผู้เยาว์เท่านั้น ความจริงแล้ว ระดับผู้อาวุโสเช่นพวกเขาก็มองไม่ขาด ถ้าหากมองทะลุล่ะก็ ไหนเลยจะมีวันนี้ บอกได้แต่เพียงทุกคนต่างก็เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเท่านั้น สายตาตื้นเขิน มิน่าเล่าฮ่องเต้องค์ใหม่จึงดูถูกพวกเขาว่า พวกเขาเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในขณะที่ทุกคนกำลังวิพากวิจารณ์อยู่นั้น ปรากฏเสียงดั่งสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาเสียงหนึ่ง ณ แคว้นว่านเจิ้นที่อยู่ห่างไกลสุดขอบฟ้า เสียงตูมตามดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นแคว้นว่านเจิ้นได้พวยพุ่งประกายศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนขึ้นมา
ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง เหมือนว่าแคว้นว่านเจิ้นได้เปิดขุมทรัพย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีขอบเขตจำกัดขึ้นมา เหมือนว่าธาตุแท้ภายในทั้งหมดของแคว้นว่านเจิ้นล้วนแล้วแต่ถูกเปิดออกมาอย่างนั้น พลังที่น่าเกรงขามปราศจากผู้ต่อกรพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในฉับพลันทันที นาทีนี้เอง ปรัชญาเมธีแต่ละคนของแคว้นว่านเจิ้นเหมือนได้ฟื้นตื่นขึ้นมา โดยปรัชญาเมธีแต่ละคนมีทั้งระดับอมตะที่ปราศจากผู้ต่อกร มีราชันแท้จริงที่น่าทึ่งและรู้สึกหวั่นไหวในใจ พวกเขาล้วนแล้วแต่ พวยพุ่งพลังที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา
แน่นอน สิ่งนี้หาใช่เป็นการฟื้นคืนชีพและตื่นขึ้นมาของปรัชญาเมธีแคว้นว่านเจิ้นจริงๆ แต่เป็นเพราะธาตุแท้ภายในแคว้นว่านเจิ้นในเวลานี้ถูกกระตุ้นปลุกให้มีชีวิตขึ้นมา ส่งผลให้พลังที่ถูกปลุกเสกโดยปรัชญาเมธีของแคว้นว่านเจิ้นแต่ละรุ่นกับพื้นแผ่นดินนี้ถูกทำให้ทะลักและพวยพุ่งขึ้นมาทันที
ค่ายกล รวมตัวกันอย่างหนาแน่นดั่งดวงดาราและกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ดั่งหมากรุก วิถีเต๋า วิวัฒนาการสรรพสิ่ง…ในเวลานี้ ภายในแคว้นว่านเจิ้นปรากฏเสียงเทศนาธรรมแต่ละเสียงที่ดังขึ้น โดยเสียงเทศนาธรรมแต่ละเสียงนี้หาใช่เป็นเสียงเทศนาธรรมที่มาจากศิษย์ของแคว้นว่านเจิ้น แต่เป็นเสียงที่ปรัชญาเมธีแต่ละรุ่นของแคว้นว่านเจิ้นได้คงเอาไว้ พลังปลุกเสกได้ตลบอบอวลไปทั่วแคว้นว่านเจิ้น
ดังนั้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ปรากฏแสงสว่างที่โชติช่วงนับไม่ถ้วนโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า เสมือนดั่งเทพแท้จริงขั้นอมตะ และราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกรของแคว้นว่านเจิ้นได้ฟื้นชีพขึ้นมาทีละคนๆ พลังศักดิ์สิทธิ์ปราศจากผู้ต่อกรตลบอบอวลท่ามกลางฟ้าดิน แคว้นว่านเจิ้นคล้ายกลับกลายเป็นมนุษย์ยักษ์ทีสูงใหญ่ปราศจากผู้เทียบเทียมคนหนึ่งอย่างนั้น
“แคว้นว่านเจิ้นได้เปิดธาตุแท้ภายในออกมาแล้ว” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากในเขาจิ่วเหลียนซานต่างรู้สึกประทับใจบนใบหน้า เมื่อมองเห็นภาพนี้ไกลๆ ถึงกับใจหายใจคว่ำด้วยความหวาดผวา
“แคว้นว่านเจิ้นไม่เพียงแค่เอาจริงเท่านั้น ทั้งยังจะทำการใหญ่ นี่มันเป็นการทุ่มเทพลังทั้งหมดชัดๆ” มีผู้ที่พึมพำขึ้นมาเบาๆ
การที่แคว้นๆ หนึ่งเปิดธาตุแท้ภายใจออกมาเป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า ครั้งนี้ราชันแท้จริงปาเจิ้นได้ทุ่มเต็มที่แม้ต้องแลกด้วยค่าตอบแทนเท่าไรก็ยอม ต้องการเล่นบทไม่ตายไม่เลิกกับฮ่องเต้องค์ใหม่!
…………………………………………..
ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท