ตอนที่ 2539 แค่มือข้างเดียวก็เหลือเฟือ
พวกของวัวคลั่ง มังกรทองแปดแขนต่างมองตากันและกันเมื่อได้ฟังคำจากหลี่ชิเย่ พวกเขาต่างไม่ได้พูดอะไรออกมาทันที
จังหวะที่พวกของวัวคลั่ง มังกรทองแปดแขนต่างไม่พูดอะไรออกมานั้น สายตาของปิ้งจวินเพ่งตรงไปข้างหน้า และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า เจ้ามาเพื่ออะไร?
พวกเจ้าคิดว่าล่ะ? หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มที่ลึกซึ้งออกมา และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า สถานที่ที่เปลี่ยวไม่มีคนอยากมาเช่นนี้ก็แค่กรงขังแห่งหนึ่ง ตามหลักแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามหากต้องรั้งอยู่ที่ตรงนี้ก็จะอยู่ได้ไม่นาน แต่ว่าพวกเจ้าก็มีชีวิตอยู่มาได้เป็นอย่างดีมิใช่รึ?
แม้จะกล่าวว่า ทุกๆ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิก็จะมีระดับปรมาจารย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างยาวนาน มีชีวิตอยู่มายุคแล้วยุคเล่า แต่ว่า เหล่าปรมาจารย์เหล่านั้นล้วนแล้วแต่ถูกผนึกร่างเอาไว้ และหรือไปพักผ่อนกายาอย่างสงบอยู่ ณ พื้นที่ที่เปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ เรียกได้ว่าเพื่อให้ระดับปรมาจารย์สักคนของ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสักแห่ง หรือสำนักเจ้าลัทธิสักที่ได้ผนึกร่างเอาไว้นั้น ต้องสูญเสียพลังกายพลังใจไปไม่น้อย สิ้นเปลืองของวิเศษและสิ่งต่างๆ เป็นปริมาณมหาศาล
แน่นอนที่สุด เฉกเช่นคุกหลวงดึกดำบรรพ์ย่อมไม่ได้มีเงื่อนไขของการผนึกร่างและพักผ่อนกายาอย่างสงบแบบนั้น และไม่มีโอกาสในการผนึกร่างและพักผ่อนกายาอย่างสงบได้ตามหลักแล้ว ท่ามกลางความเลวร้ายของคุกเช่นนี้ ไม่ว่าใครหากถูกจับโยนเข้ามาก็จะมีชีวิตไม่ยืนยาว โดยเฉพาะเหมือนดั่งพวกของปิ้งจวินที่เป็นผู้สูงอายุแล้ว หากอยู่ภายนอกอาจตายไปนานแล้วก็เป็นได้ แต่ว่า พวกเขากลับมีชีวิตอยู่ได้ดีมาก
แหะ คนที่ตายไปก็มีไม่น้อย มังกรทองแปดแขนหัวเราะเสียงน่าเกลียดทีหนึ่ง
คำพูดของมังกรทองแปดแขนพูดไม่ผิด ครั้งนั้น ศัตรูของฮ่องเต้ไท่ชิงที่ถูกโยนเข้าไปในคุกหลวงดึกดำบรรพ์ไม่ได้มีเพียงพวกเขาเพียงห้าคนเท่านั้น ในขณะนั้น ฮ่องเต้ไท่ชิงได้จับเอาศัตรูผู้แข็งแกร่งจำนวนไม่น้อยโยนเข้าไปในคุกหลวงดึกดำบรรพ์ แต่ทว่า ท้ายที่สุดแล้วผู้ที่เหลือรอดชีวิตมาได้ก็มีเพียงพวกของมังกรทองแปดแขนห้าคนเท่านั้นเอง
ปิ้งจวินเพ่งสายตาไปข้าหน้าจ้องมองดูหลี่ชิเย่ครู่หนึ่ง และเอ่ยขึ้นมาว่า เจ้ามาเพี่อสิ่งที่ทำให้มีอายุวัฒนะตามคำเล่าลือนั่น?
ปิ้งจวินไม่เพียงมีชาติกำเนิดมาจากราชวงศ์โต่วเซิ่น เขามีฐานะเป็นศิษย์พี่ของฮ่องเต้ไท่ชิง ความเข้าใจที่มีต่อราชวงศ์โต่วเซิ่นของเขาย่อมอยู่เหนือกว่าทุคนมากทีเดียว เกรงว่าแม้แต่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ก็มีอยู่ไม่กี่คนที่สามารถเทียบเทียมได้
ใช่แล้วเป็นอย่างไร? หลี่ชิเย่เองก็ไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด ไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใดอย่างยิ่ง
แหะสิ่งที่ทำให้มีอายุวัฒนะ วัวคลั่งหัวเราะเสียงดัง คล้ายดั่งเป็นเสียงฟ้าร้อง ดวงตาที่มีขนาดดั่งกระพรวนทองแดงคู่นั้นจ้องเขม็ง และกล่าวว่า เจ้าหนู ต่อให้ที่ตรงนี้มีสิ่งที่ทำให้มีอายุวัฒนะจริง ก็ไม่มีโอกาสไว้ให้เจ้า!
ไม่มีโอกาสสำหรับข้า? หลี่ชิเย่หัวเราะท่าทีเอ้อระเหย และยิ้มกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า ถ้าหากไม่มีโอกาสสำหรับข้า แล้วมันควรเป็นโอกาสของใครเล่า? หรือว่าเป็นโอกาสของพวกเจ้ารึ?
ว่ากันตามอาวุโสแล้ว แหะ เจ้าหนู เจ้ามาทีหลัง ต่อให้ที่ตรงนี้มีสิ่งที่ทำให้มีอายุวัฒนะได้จริงก็สมควรให้พวกเราได้เสพก่อน วัวคลั่งกล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และอดที่จะกล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า น่าเสียดาย วิธีการเรียงลำดับอาวุโสใช้การไม่ได้สำหรับข้า ในเมื่อมีสิ่งที่สามารถทำให้มีอายุวัฒนะได้ พวกเจ้าหากรู้จักกาลเทศะ ก็จงยืนหลบข้างๆ เสียแต่โดยดี ยังสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้สีหน้าของพวกวัวคลั่ง มังกรทองแปดแขนแปรเปลี่ยนไป ในจำนวนพวกเขาทั้งห้าคน มีคนไหนบ้างที่ไม่ใช่คนโหดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง? ครั้งนั้น ขณะที่พวกเขาอยู่ในแดนลัทธิราชัน ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่สีหน้าเปลี่ยนไปยามที่เอ่ยถึงพวกเขา กล่าวได้ว่าหากพวกเขาโกรธขึ้นมา สามารถทำให้แผ่นดินสั่นเทาสามครั้ง
แม้จะกล่าวว่า พวกเขาล้วนแล้วแต่ถูกฮ่องเต้ไท่ชิงจับตัวเอาไว้ได้และโยนเข้าไปในคุกหลวงดึกดำบรรพ์ สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นผู้อ่อนแอ ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อจับเป็นพวกเขาและโยนเข้าไปในคุกหลวงดึกดำบรรพ์ เรียกได้ว่าฮ่องเต้ไท่ชิงได้สูญเสียกำลังกายใจไปจำนวนมากทีเดียว
เวลานี้หลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงผู้เยาว์คนหนึ่งเท่านั้น และเพิ่งจะมาถึงก็โอหังอวดดีถึงเพียงนี้ ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาอย่างสิ้นเชิง แล้วจะไม่ให้สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปได้อย่างไรกันเล่า? พูดแบบนี้ แสดงว่าเจ้ามีความมั่นใจที่จะเอาชนะพวกเราทั้งห้าคนในเวลาเดียวกันน่ะสิ? อวี่เหยียนเซินโบกพัดขนนกในมือ เพ่งสายตาทั้งสองไปข้างหน้า และเอ่ยขึ้นช้าๆ
แค่ห้าคนเท่านั้นเอง หลี่ชิเย่ดูตามอารมณ์ยิ่งนัก ยื่นฝ่ามือออกไปข้างหนึ่งและกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า ข้าอาศัยมือข้างเดียวก็เพียงพอแล้ว
พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ แม้แต่ปิ้งจวินที่สงบเงียบมาโดยตลอดก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว ปิ้งจวินคือผู้ที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง แม้แต่ฮ่องเต้ไท่ชิงขณะมีชีวิตอยู่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ตลอดมา กระทั่งมีผู้กล่าวว่าแม้แต่ฮ่องเต้ไท่ชิงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา มีเพียงกู่อี้เฟยแห่งบ้านตระกูลหลี่ที่สามารถต่อกรกับเขาได้
เวลานี้ หลี่ชิเย่แค่ยื่นฝ่ามือออกมาข้างหนึ่งก็สามารถท้าสู้กับพวกเขาทั้งห้าคน มันออกจะดูถูกพวกเขามากเกินไปเสียแล้วกระมัง ทอดสายตาไปทั่วแดนลัทธิราชัน ไม่มีผู้ใดกล้าพูดคำพูดเช่นนี้ออกมา
เจ้าหนู พูดจาอย่าคุยโวโอ้อวดเกินไป เทพไฉไลหงส์อำมหิตหัวเราะทีหนึ่งและกล่าวว่า คำพูดที่พูดออกไปก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดออกไป เจ้าควรระวังคำพูดเอาไว้
ข้าพูดไปตามความจริงเท่านั้นเอง ใยจะต้องระวังคำพูด หลี่ชิเย่ยิ้มตามอารมณ์และกล่าวท่าทีเรียบเฉยว่า ข้าไม่ค่อยอยากจะลงมือสักเท่าไร เกิดเรื่องนี้แพร่ออกไป คนอื่นก็จะหาว่าข้ารังแกคนแก่คนอ่อนแอ มิเท่ากับทำให้ชื่อเสียงของข้าต้องเสื่อมเสียไป
เมื่อถูกหลี่ชิเย่ดูแคลนถึงเพียงนี้ พลันทำให้สีหน้าของพวกวัวคลั่ง มังกรทองแปดแขนดูปั้นยากถึงขีดสุด คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่เป็นการชี้หน้าด่าพวกเขาชัดๆ เป็นการตบหน้าพวกเขาอย่างแรง
ดั่งคำว่าความอดกลั้นของคนย่อมมีขีดจำกัด ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาต่างก็เคยเป็นคนโฉดทีมีชื่อเสียงโด่งดัง เมื่อถูกหลี่ชิเย่ท้าทายเช่นนี้ ไหนเลยที่พวกเขาจะกล้ำกลืนต่อไปได้?
วาจาสามหาวยิ่งนัก… วัวคลั่งเป็นผู้ที่มีอารมณ์ร้อนและรุนแรงมากที่สุด ร้องคำรามเสียงดังและกล่าวว่า เจ้าหนู ในเมื่อเจ้าพูดจาโอหังขนาดนี้ ถ้าเช่นนั้นรับมือเขาวัวของข้า!
ขาดคำ ศีรษะของวัวคลั่งพุ่งชน เสียงตูมดังสนั่นขึ้นมาเสียงหนึ่ง เขาวัวของเขาเสมือนหนึ่งทวนขนาดยักษ์ที่พุ่งเข้าใส่หลี่ชิเย่
เดิมเขาขนาดยักษ์ของวัวคลั่งก็คือของวิเศษชิ้นหนึ่ง มีความแหลมคมสุดเทียบเทียม สามารถปะทะซึ่งหน้ากับอาวุธทุกชนิด กระทั่งสามารถทิ่มแทงทะลุทุกๆ แนวป้องกัน ตัวของเขายักษ์นี้ก็คือของวิเศษที่ทรงพลังฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งชิ้นหนึ่ง
ขณะที่เขายักษ์ทิ่มแทงเข้ามานั้น ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นเสียงหนึ่ง ช่องว่างถูกทิ่มแทงจนทะลุ กลายเป็นหลุมดำที่น่ากลัว เขาวัวมุ่งตรงไปยังบริเวณอกของหลี่ชิเย่ เขาวัวที่พุ่งเข้ามานั้นรวดเร็วปานสายฟ้า เสียงดังตูมตามดังไม่ขาดสาย ด้วยเขาวัวลักษณะเช่นนี้ที่ทิ่มแทงเข้ามาสามารถแทงทะลุปฐพีได้อยู่แล้ว
เสียงปัง…ดังสนั่นขึ้นเสียงหนึ่ง มือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่กางออก เขาวัวแทงไปยังฝ่ามือของหลี่ชิเย่ มองเห็นสะเก็ดไฟที่แตกกระจาย แต่ทว่า ไม่สามารถทำให้ฝ่ามือของหลี่ชิเย่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
พวกของมังกรทองแปดแขนต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว เนื่องจากพวกเขาเคยปะมือกับวัวคลั่งมาก่อน รู้ว่าเขาวัวของวัวคลั่งมีความแกร่งและแหลมคมเพียงใด ถ้าหากปะทะตรงๆ ล่ะก็ แม้แต่อาวุธของพวกเขาก็จะถูกแทงทะลุได้ แต่แล้ว กลับไม่สามารถแทงทะลุฝ่ามือของหลี่ชิเย่ไปได้
คร๊ากกก…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่ทุกคนยังไม่ทันได้สติกลับมานั้น หลี่ชิเย่ถือโอกาสใช้มือบิดไปตามอารมณ์ เขาวัวของวัวคลั่งถึงกับถูกหลี่ชิเย่หักเอาดื้อๆ จนเลือดสดๆ แตกกระจาย
เสียงปัง…ดังสนั่น หลี่ชิเย่เพียงใช้มือตบลงไปบนศีรษะของวัวคลั่ง ตูมเสียงดังสนั่นขึ้นมาเสียงหนึ่ง ร่างกายที่สูงใหญ่ของวัวคลั่งพลันคุกเข่าลงแล้วโน้มตัวไปข้างหน้าหัวทิ่มล้มลงกับพื้น ใบหน้าเขาซีด เห็นเป็นเดือนเป็นดาวเต็มไปหมด จนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ในเวลานี้
ภาพเช่นนี้พลันทำให้สีหน้าของพวกมังกรทองแปดแขนเปลี่ยนไปมากทีเดียว นอกจากปิ้งจวินแล้ว ศักยภาพของวัวคลั่งกับพวกเขาพอๆ กัน เวลานี้ถึงกับถูกหลี่ชิเย่เอาชนะด้วยฝ่ามือข้างเดียว มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ และสร้างความหวั่นไหวกับพวกเขาโดยพลัน ทำให้พวกเขาอดที่จะหวาดผวาไม่ได้
ข้าเอง… มังกรทองแปดแขนคำรามเสียงดังขึ้นมา เมื่อเห็นวัวคลั่งพ่ายแพ้
กรรร…เสียงคำรามของมังกรพิโรธ มังกรทองแปดแขนลงมือแล้ว พลันปรากฏมังกรทองแปดตัวที่เหินฟ้าขึ้นไป แขนทั้งแปดของเขาได้กลายเป็นมังกรทองที่มี่ขนาดใหญ่โตมโหฬาร มังกรทุกตัวล้วนแล้วแต่แยกเขี้ยวกางเล็บ ฉีกฟ้าดินจนขาด กลิ่นอายมังกรพวยพุ่งเสมือนดั่งเป็นพายุฝนฟ้าคะนองที่กวาดล้างไปทั่วปฐพีนับล้านลี้
เสียงตูม…ดังสนั่น จากการที่มังกรทองแปดแขนคำรามเสียงดังขึ้นมา พร้อมกับฝ่ามือทั้งแปดที่สยบและสังหารลงมา เสียงกรรรแต่ละเสียงที่คำรามขึ้นมา มังกรทองทั้งแปดคำรามเสียงดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง และพุ่งจิกหัวลงมาหาหลี่ชิเย่
ลองนึกภาพดู การที่มังกรทองทั้งแปดพุ่งจิกหัวลงมาจะมีอานุภาพเช่นใด ขณะที่กงเล็บที่แหลมคมของมังกรทองทั้งแปดตะปบเข้ามาอย่างรุนแรงนั้น สามารถฉีกพื้นปฐพีจนขาดกระจุย
ปัง ปัง ปัง…ในเสี้ยววินาทีนี้เอง เสียงปะทะดังขึ้นเป็นระลอก เมื่อพวกของอวี่เหยียยเซินสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนนั้น เห็นเพียงมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่คว้าเข้าไป พลันคว้าเอาคอของมังกรทองทั้งแปดตัวเอาไว้อย่างแน่นหนา แล้วยกเอามังกรทองทั้งแปดฟาดลงบนพื้นอย่างแรง
การจับเอามังกรทองทั้งแปดฟาดกับพื้นอย่างรุนแรงก็คือจับมังกรทองแปดแขนฟาดกับพื้นนั่นเอง
ปัง ปัง ปังเสียงปะทะกันดังขึ้นเป็นระลอก พื้นปฐพีถูกกระแทกจนแตกละเอียด กลายเป็นรอยร้าวแต่ละเส้นขึ้นมา มังกรทองแปดแขนถูกกระแทกจนกระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เขาก็ถูกกระแทกจนเนื้อตัวชุ่มไปด้วยเลือด
อ๊ากกก…ในเวลานี้เอง มังกรทองแปดแขนร้องเสียงน่าเวทนาขึ้นมา ได้ยินเสียงฉึกดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง แขนทั้งแปดของมังกรทองแปดแขนถูกหลี่ชิเย่ฉีกขาดหลุดติดมือมาดื้อๆ ทำให้มังกรทองแปดแขนกลายเป็นมังกรทองไร้แขนไปโดยพลัน
ภาพนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นเอง ง่ายๆ และหยาบคาย เลือดสดๆ ไหลรินเป็นทาง
เจ้าหนูน้อย อย่าได้ทำร้ายผู้คน เมื่อเทพไฉไลหงส์อำมหิตเห็นมังกรทองแปดแขนพ่ายแพ้อย่างยับเยิน จึงได้คำรามเสียงดังขึ้นเสียงหนึ่ง และปรากฎเสียงแว้งค์เสียงหนึ่งขึ้นมา พลันที่นางกล่าวขาดคำ มองเห็นด้านหลังของนางปรากฏเปลวแสงที่พวยพุ่งดั่งคลื่นยักษ์
ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ประกายไม่มีสิ้นสุดได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง หลากสีสันดูงดงามอย่างยิ่ง อีกทั้งเปลวแสงที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรงถึงกับเสมือนหนึ่งนกยูงรำแพนอย่างนั้น เมื่อประกายเช่นนี้กางออกได้บดบังฟ้าดินเอาไว้
ฉึก ฉึก ฉึก…จังหวะที่เปลวแสงดั่งคลื่นยักษ์นั้น ภายในเปลวแสงพลันยิงลำแสงสีดำจำนวนเป็นล้านล้านสายออกมาอย่างรุนแรง ลำแสงสีดำแต่ละสายก็เสมือนดั่งเป็นเข็มพิษที่น่ากลัว ฉับพลันยิงใส่หลี่ชิเย่อย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม สำแสงสีดำนี้มีความเร็วดั่งสายฟ้าและปราศจากซุ่มเสียง เมื่อลำแสงสีดำจำนวนมากมายมหาศาลถูงยิงเข้ามาดั่งพายุฝนฟ้าคะนองนั้น เรียกได้ว่าสามารถยิงฟ้าดินทั้งหมดกลายเป็นตะแกง
จี๊ด…แม้แต่เม็ดทรายถูกยิงด้วยประกายแสงสีดำ แม้แต่ทรายที่ถูกยิงด้วยลำแสงใหญ่สีดำ ก็จะปรากฏควันดำลอยขึ้น และถูกย่อยสลายไปในทันที
หลี่ชิเย่ซึ่งเผชิญหน้ากับการโจมตีสังหารที่น่ากลัวเช่นนี้ โดยไม่ได้กะพริบแม้แต่หนังตา เพียงกางนิ้วทั้งห้าออก แล้วดีดเข้าให้ทีหนึ่ง
ปุเสียงหนึ่งดังขึ้น ทั่วทั้งช่องว่างเหมือนถูกคลื่นทำให้หวั่นไหวทีหนึ่ง ท่ามกลางเสียงหนึ่งดังปุขึ้นมา ประกายสีดำที่ดั่งคลื่นยักษ์พลันแตกสลาย และหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เสียงปังเสียงหนึ่งดังขึ้น เทพไฉไลหงส์อำมหิตยังไม่ทันได้สติกลับมา มือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ที่คลุมลง ทำให้เปลวแสงที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของนางก็พลันแตกสลาย
………………………………………………….