ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2544 สิ่งที่อยู่ในหลุม

ตอนที่ 2544 สิ่งที่อยู่ในหลุม
ตอนที่ 2544 สิ่งที่อยู่ในหลุม
หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้เข้าไปนานมากแล้ว และยังคงไม่ได้กลับออกมา พวกของวัวคลั่งที่ยืนอยู่บริเวณด้านนอกของหลุมยักษ์เริ่มอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
“จะเกิดเรื่องหรือไม่นะ?” คำถามนี้ไม่ได้ถามขึ้นมาเป็นครั้งแรกของวัวคลั่งแล้ว
“น่าจะไม่เป็นอะไร คุณชายแข็งแกร่งถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้เข้าไปไม่ได้ก็ต้องกลับออกมาได้ เจ้าเองก็เคยทดลองมาแล้วมิใช่รึ? ก็ยังคงกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยนี่?” อวี่เหยียนเซินกล่าวและจ้องมองวัวคลั่งแวบหนึ่ง
“เฮ่อ อย่าไปพูดถึงครั้งนั้นอีกเลย ถ้าหากไม่ได้ปิ้งจวินสกัดข้าเอาไว้ทันที ข้าต้องคลั่งขึ้นมาแน่นอน ในครั้งนั้นก็นับว่าโชคดีที่ข้าไหวตัวทัน พลันที่รู้ว่าไม่ดีก็หนีออกมาเลย” ท่าทางของวัวคลั่งดูจะอึดอัดวางตัวไม่ถูก นั่นเป็นครั้งที่เขาดูแย่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา
“ตามความเห็นของข้า คุณชายต้องต้านกับกลิ่นอายชั่วร้ายนั้นได้อยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาสามารถรับได้กับความกระสับกระส่ายร้อนรนนั้นได้หรือไม่” มังกรทองแปดแขนก็อดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ และกล่าวว่า “มันคือการแล่นเข้าหัวใจอย่างหนึ่ง มักจะไม่เกี่ยวกับกำลังความสามารถอยู่เสมอๆ สุดท้ายแล้วสามารถต้านเอาไว้ได้หรือไม่นั้น ยังต้องอาศัยจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร”
พวกของมังกรทองแปดแขนย่อมต้องเป็นกังวลในความปลอดภัยของหลี่ชิเย่อยู่แล้ว ความหวังทั้งหมดของพวกเขาล้วนแล้วแต่ฝากเอาไว้บนตัวของหลี่ชิเย่ ถ้าหากหลี่ชิเย่เกิดอะไรขึ้นมาล่ะก็ ความหวังของการจะมีชีวิตกลับออกไปก็ถูกทำลายสิ้นลงที่ตรงนี้แล้ว
“คุณชายดูจะอ่อนเยาว์ไปนิดหนึ่ง แต่ว่า ก้าวมาถึงระดับเช่นนี้แล้ว เกรงว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรคงจะเหนือกว่าพวกเรามากทีเดียว เขายังคงรองรับกับมันได้” เทพไฉไลหงส์พิษอดที่จะพูดออกมาว่า “ต่อให้ต้านเอาไว้ไม่อยู่เขาก็ต้องกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย อย่าลืมไปสิ พวกเจ้ายังสามารถกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย ความแข็งแกร่งของคุณชายใช่ว่าพวกเราจะสามารถเทียบเคียงได้?”
“กลัวว่าเขาจะฝืนต้านน่ะสิ คนที่ตายอยู่ข้างในมีเป็นจำนวนไม่น้อย ก็เพราะพวกเขาฝืนต้าน การรั้งอยู่ข้างในยิ่งนานมากเท่าไรก็จะมารเข้าแทรกมากขึ้น สุดท้ายก็เสียสติ” มังกรทองแปดแขนอดเป็นกังวลไม่ได้
“วางใจเถอะ ไม่มีอะไรหรอก” ปิ้งจวินดูจะนิ่งมากกว่า เมื่อเทียบกับความกังวลใจของพวกมังกรทองแปดแขนแล้ว และเขามั่นใจเต็มเปี่ยมในตัวของหลี่ชิเย่
“ในเมื่อคุณชายกล้าเข้ามาก็มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม” ปิ้งจวินมองดูกลิ่นอายชั่วร้ายภายในหลุมยักษ์ กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ก้าวถึงระดับเช่นพวกเขา ต่อให้วิถีบนโลกโหดร้ายทารุณมากว่านี้ก็มีความหวังสมควรไปทำ หากไม่มีความมั่นใจเขาจะเข้ามารึ? นั่นคือการรนหาที่ตายเอง หรือว่าจะเสียสติไปแล้วอย่างนั้นรึ?”
พวกของมังกรทองแปดแขนเหมือนได้กินยาที่ทำให้จิตใจสงบขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของปิ้งจวิน ระดับที่แข็งแกร่งเช่นหลี่ชิเย่เป็นไปไม่ได้ที่จะเสียสติบุกเข้ามาหากไม่มีความมั่นใจ และคงไม่โง่จนไปทำเรื่องที่รนหาที่ตายให้กับตนเอง ในเมื่อเขากล้าที่จะเข้ามาก็แสดงว่าเขามีความมั่นใจ
“พวกเรารอคอยกันเงียบๆ เถอะ อดทนหน่อย” ปิ้งจวินที่มองดูหลุมยักษ์ เขาคือผู้ที่ควบคุมอารมณ์ได้มากที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งหมด
หลี่ชิเย่ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ หลุมยักษ์มีขนาดใหญ่มากเหมือนไม่มีสิ้นสุดอย่างนั้น จากการก้าวเดินไปข้างหน้า ปรากฏใต้ฝ่าเท้ามีโครงกระดูกจำนวนไม่น้อย ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า ก่อนหน้านี้เคยมียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยที่ถูกกักขังอยู่ในคุกหลวงดึกดำบรรพ์ได้มาสำรวจที่นี่ เพียงแต่ ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาล้วนแล้วแต่ตายอยู่ที่ตรงนี้
ยิ่งก้าวเดินลึกเข้าไป กระดูกใต้ฝ่าเท้าก็จะน้อยลงๆ จะอย่างไรเสียเมื่อก้าวเดินยิ่งลึกเข้าไป กลิ่นอายชั่วร้ายก็ยิ่งทวีความรุนแรง การยุยุงให้เกิดความกระสับกระส่ายร้อนรน การยั่วยวนก็จะยิ่งน่ากลัวมากขึ้น ผู้ที่สามารถยืนหยัดมาถึงที่ตรงนี้ได้ ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือที่มีความยอดเยี่ยมมาก และฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งทั้งสิ้น
ยิ่งลึกเข้าไปกลิ่นอายความชั่วร้ายยิ่งน่ากลัว เสมือนดั่งมีมีดศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนคอยขูดเนื้อขูดกระดูกอย่างนั้น ทำให้บังเกิดความเจ็บปวดเป็นระยะๆ ต่อให้เป็นสิ่งป้องกันที่แข็งแกร่งปราศจากสิ่งเทียบเทียมก็ยากที่จะรองรับกับกลิ่นอายชั่วร้ายที่น่ากลัวเช่นนี้ได้ เหมือนว่ากลิ่นอายชั่วร้ายนี้สามารถทำให้ทุกอย่างถูกบีบรัดจนแหลกละเอียดได้อย่างนั้น
มีเพียงหลี่ชิเย่ที่แข็งแกร่งถึงระดับเช่นนี้จึงสามารถรองรับได้กับกลิ่นอายชั่วร้ายสุดเทียบเทียมเช่นนี้ได้ ภายใต้การฉีกและรัดที่น่ากลัวของกลิ่นอายชั่วร้ายนี้ ยังคงสามารถเดินไปข้างหน้าอย่างสบายๆ
จากการที่ลึกเข้าไปเรื่อยๆ ความกระสับกระส่ายร้อนรนก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ครั้นลึกเข้าไปได้ระดับหนึ่งแล้ว กระทั่งทำให้ผู้คนรับรู้ถึงความบ้าคลั่งของพื้นดินผืนนี้ เหมือนว่าที่ตรงนี้เปี่ยมด้วยจิตใจที่กระทำการใดๆ ด้วยความโหดร้ายทารุณอย่างบ้าคลั่ง พร้อมที่จะระเบิดขึ้นมาได้ทุกที่ทุกเวลา เหมือนว่าที่ตรงนี้เต็มไปด้วยเสียงร้องคำรามที่ไม่มีสิ้นสุด เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่ไม่มีสิ้นสุด พร้อมจะฉีกฟ้าดินให้แหลกละเอียดได้ทุกที่ทุกเวลา
ไม่รู้ว่าได้ก้าวเดินมานานเท่าไรแล้ว ในที่สุดหลี่ชิเย่ก็ได้ก้าวไปถึงจุดหมายปลายทาง ที่ตรงนี้มีหลุมลึกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
หลุมลึกนี้มีขนาดที่ลึกมาก เมื่อพิจารณาดูให้ละเอียด หลุมลึกที่มีลักษณะเช่นนี้เกิดจากการเผาไหม้ของไฟโลกันตร์ที่น่ากลัว เหมือนว่าไฟโลกันตร์ที่น่ากลัวต้องการเผาพื้นพสุธานี้ให้ทะลุอย่างนั้น
ตูม ตูม ตูมขณะเข้าไปใกล้หลุมลึกนี้นั้น ปรากฏเสียงดังตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสาย เสมือนดั่งฟ้าโยกดินคลอนอย่างนั้น ทั่วพื้นดินล้วนแล้วแต่สั่นคลอนกับสิ่งนี้
กลิ่นอายชั่วร้ายและความกระสับกระส่ายร้อนรนที่น่ากลัวล้วนแล้วแต่ทะลักออกมาจากหลุมลึกหลุมนี้ เหมือนว่าหลุมลึกหลุมนี้ก็คือแหล่งกำเนิดความโกรธแค้นอย่างนั้น ข้างในนั้นได้ทะลักกลิ่นอายชั่วร้ายที่บ้าคลั่งและพาลยิ่งปราศจากผู้เทียบเทียมออกมารุนแรงไม่มีสิ้นสุด พวยพุ่งความกระสับกระส่ายร้อนรนที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมขึ้นมา
ครั้นหลี่ชิเย่มองเห็นหลุมลึกลักษณะเช่นนี้แล้ว ได้กระโดดลงไปโดยไม่ลังเล ภายใต้การป้องกันที่อาศัยพลังที่แข็งแกร่งมากที่สุด ไม่ว่ากลิ่นอายความชั่วร้ายจะทรงพลังเช่นใด ความกระสับกระส่ายร้อนรนจะมีความน่ากลัวเพียงใดก็ยากจะทำให้หลี่ชิเย่ต้องได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
เมื่อหลี่ชิเย่ได้กระโดดลงไปในหลุมลึก ขณะเท้าทั้งสองข้างแตะพื้นนั้น ภาพที่เข้ามาอยู่ในสายตาก็คือภาพของศพๆ หนึ่ง หรือจะพูดให้ถูกต้องมากไปกว่านั้นก็คือ มันเป็นโครงกระดูกโครงหนึ่ง
ดูจากโครงกระดูกนี้แล้ว เป็นผู้ที่มีสรีระสูงใหญ่คนหนึ่ง โดยที่คนผู้นี้ไม่รู้ว่าได้เสียชีวิตมานานเท่าไรแล้ว สีของโครงกระดูกได้ปรากฎเป็นสีเหลืองขึ้นมา
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องหวาดผวาจนขนลุกซู่ก็คือกลิ่นอายชั่วร้ายและความกระสับกระส่ายร้อนรนที่น่ากลัวล้วนแล้วแต่ทะลักออกมาจากโครงกระดูกโครงนี้นั่นเอง เหมือนว่าคนผู้นี้ก่อนจะเสียชีวิตยังคงโกรธแค้น ยังคงบ้าคลั่ง ยังคงไม่ยินยอมอะไรอย่างนั้น เหมือนว่าเขาต้องการออกไปจากที่ตรงนี้ ต้องการฉีกฟ้าดินแห่งนี้ให้แหลกละเอียด
ทว่าต่อให้โครงกระดูกโครงนี้ขณะมีชีวิตอยู่จะบ้าคลั่ง หรือโกรธแค้นมากเช่นใดก็ตาม ยังคงไม่สามารถหนีรอดออกไปจากที่นี่ได้
ในเวลานี้ สายตาของหลี่ชิเย่ได้ตกไปอยู่บนโซ่เหล็กเส้นหนึ่งที่อยู่ข้างๆ โครงกระดูก โดยที่โซ่เหล็กเส้นนี้มีสีออกเป็นมีแดงเข้ม เหมือนว่ามันถูกเผาผลาญโดยไฟโลกันตร์ที่น่ากลัวปราศจากสิ่งเทียบเทียมมาตั้งแต่พันล้านปีมาก่อน แต่ทว่า หลังจากพันล้านปีผ่านไปมันยังคงร้อนจนลวกมือ
หลี่ชิเย่มองตามโซ่เหล็กเส้นนี้ มองเห็นปลายด้านหนึ่งของโซ่เหล็กถูกตรึงลงไปใต้ดิน เหมือนว่าโซ่เหล็กเส้นนี้ได้ตรึงลงพื้นพสุธาส่วนที่ลึกที่สุด มันกับพื้นพสุธาได้หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันอย่างนั้น
เมื่อมองดูอีกด้านหนึ่งของโซ่เหล็กเส้นนี้ มันได้พันธนาการเอาไว้บนตัวของโครงกระดูกโครงนี้ โดยพันธนาการตรงเข้าไปยังหัวใจ
เมื่อหลี่ชิเย่มองดูให้ละเอียดแล้วอดที่จะพยักหน้าและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เป็นวิธีการที่ดุเดือดมาก ไม่เพียงพันธนาการกายเนื้อเอาไว้ ยังพันธนาการชะตาแท้ไว้ด้วย ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือพันธนาการจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไว้ด้วย เมื่อถูกพันธนาการด้วยโซ่เหล็กลักษณะเช่นนี้แล้ว เกรงว่าจะไม่สามารถเอาออกได้ตลอดกาล เว้นแต่เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะที่ไม่มีวันตาย สามารถทำลายสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเริ่มต้นใหม่”
ผู้ที่สามารถอาศัยวิธีการที่ฝืนลิขิตสวรรค์เช่นนี้มาพันธนาการคนๆ หนึ่งเอาไว้ เป็นการบ่งบอกว่าผู้ที่ลงมือนั้นน่ากลัวยิ่ง และมีความฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่ง มีความแข็งแกร่งในระดับที่ไม่น่าเชื่อ
แน่นอนที่สุด ผู้ที่ถูกพันธนาการก็เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งยอดเยี่ยมจนปราศจากผู้เทียบเทียม มิฉะนั้นล่ะก็คงไม่ต้องสิ้นเปลืองความคิดมากมายไปพันธนาการคนๆ หนึ่งเอาไว้ หากเป็นคนอ่อนด้อยคนหนึ่งแค่ลงมือไปตามอารมณ์ก็สามารถสยบเขาได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องให้มันใหญ่โตเช่นนี้
เมื่อหลี่ชิเย่มองเห็นภาพนี้แล้วก็เข้าใจได้ว่าหลุมหลึกนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร คนที่ถูกพันธนาการอยู่ตรงนี้ไม่เต็มใจถูกพันธนาการเอาไว้อย่างนี้ เขาอาศัยไฟโลกันตร์ที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมไปเผาโซ่เหล็กเส้นนี้ แต่ว่า เขาใช้เวลาเผามันนานมากจนนับไม่ถ้วนก็ไม่สามารถเผาโซ่เหล็กเส้นนี้ได้
กระทั่งเป็นเพราะไฟโลกันตร์ที่น่ากลัวปราศจากผู้ใดเทียมเผาผลาญทั้งวันทั้งคืน เล่นเอาพื้นแผ่นดินถูกเผาจนกลายเป็นหลุมลึกเช่นนี้ขึ้นมา
อีกทั้ง โซ่เหล็กเส้นนี้ที่พันธนาการกับพื้นดินมันเป็นเนื้อเดียวกันกับพื้นดิน ต่อให้เผาพื้นดินให้ทะลุก็ไม่สามารถเผาให้โซ่เหล็กที่ปักลงไปถึงอีกด้านหนึ่งให้มันออกมาได้
ไม่รู้ว่ามีการเผาไหม้เป็นเวลานานเท่าไร แต่ว่า ผู้ที่ถูกพันธนาการอยู่ ณ ที่นี้ก็ยังคงทำไม่สำเร็จ สุดท้ายแก่ตายอยู่ที่ตรงนี้
หลี่ชิเย่นั่งยองๆ ลงพิจารณาโซ่เหล็กเส้นนี้อย่างละเอียด แวบแรกที่เห็น โซ่เหล็กที่มีสีแดงเข้มเส้นนี้ไม่เป็นที่สะดุดตาอะไร แต่ เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง โซ่เหล็กเส้นนี้เหมือนว่าจะเกิดจากกฎเกณฑ์เป็นล้านล้านสายถักทอเข้าด้วยกัน อีกทั้งท่ามกลางกฎเกณฑ์นับล้านล้านสายได้หลอมกลั่นด้วยโลหะเซียนที่ล้ำค่าและหาได้ยากยิ่ง เรียกได้ว่าน้ำหนักแค่หนึ่งมิลิกรัมก็ประเมินค่าไม่ได้แล้ว
ตึง หลี่ชิเย่ยื่นมือไปกำโซ่เหล็กไว้ในมือ ขณะที่หลี่ชิเย่ยื่นมือไปกำโซ่เหล็กไว้ในมือนั้น โซ่เหล็กที่เดิมพันธนาการโครงกระดูกเอาไว้ถึงกับคลายตัวออกมาทันที
ตึง ตึง ตึงในเวลานี้ อีกด้านหนึ่งของโซ่เหล็กที่เดิมลึกลงไปอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของพื้นดินและหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับพื้นดิน ก็ได้หดตัวกลับออกมาเหมือนดั่งงูที่คล่องแคล่วว่องไว หลุดออกจากพื้นดินทันที
ในเวลานี้เอง โซ่เหล็กเส้นนี้ได้หดตัวลงท่ามกลางมือของหลี่ชิเย่ หดตัวลงจนกลายเป็นโซ่เหล็กที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เส้นหนึ่ง กระทั่งมันสามารถลอยไปตามลม เสมือนดั่งไม่รู้สึกถึงน้ำหนักของมันอย่างนั้น
เวลานี้ มีใครบ้างที่จะนึกถึงว่าโซ่เหล็กที่แลดูธรรมดาๆ เส้นนี้ ถึงกับเคยพันธนาการผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมผู้หนึ่งเอาไว้ กระทั่งตายไปในที่สุดกันเล่า
“ฝีมือยอดเยี่ยมมาก” หลี่ชิเย่อดชื่นชมออกมาไม่ได้ขณะมองดูโซ่เหล็กที่อยู่ในมือ ผู้ที่สามารถสร้างโซ่เหล็กลักษณะเช่นนี้ขึ้นมาได้นั้น ชั่วนิรันดร์ในแดนสามเซียนเกรงว่าก็คงมีเพียงสองถึงสามคนเท่านั้นเอง
หลี่ชิเย่มองดูโซ่เหล็กในมือแล้วจัดการเก็บมันเอาไว้ และยึดเอาไว้เป็นของตนโดยไม่เกรงใจ ไม่แน่นักของดีลักษณะเช่นนี้อาจได้ใช้ประโยชน์สักวัน
สุดท้าย ดวงตาทั้งสองของหลี่ชิเย่เพ่งตรงไปข้างหน้า กวาดตามองไปทีหนึ่ง แววตาของเขาดูลึกล้ำปราศจากผู้เทียบเทียม เสมือนหนึ่งทะลุผ่านสามแดนหมื่นอาณาจักรอย่างนั้น ภายใต้แววตาอันลึกล้ำเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ เหมือนว่าทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ไม่สามารถหลบซ่อนตัวได้ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกเปิดเผยภายใต้ดวงตาทั้งสองของเขา
หลังจากที่แววตาของหลี่ชิเย่ได้ทำการกวาดมองไปครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายได้ไปตกอยู่ที่บริเวณหัวกะโหลกของโครงกระดูกโครงนี้ และเผยรอยยิ้มที่จางๆ ออกมาในที่สุด
“ดูท่าจะยอดเยี่ยมมากเลย เช่นนั้นแล้วข้าได้แต่ล่วงเกินแล้วล่ะ” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ กางมือออกและยื่นมือเข้าไปในหัวกะโหลก ได้ยินเสียงดังปุเสียงหนึ่ง พริบตาเดียวนั้นเอง หัวกะโหลกดังกล่าวเสมือนดั่งแปรเปลี่ยนไปอย่างน่าอัศจรรย์อย่างนั้น
นาทีนี้คล้ายดั่งช่องว่างเกิดการบิดเบี้ยวขึ้นมา เวลาสับสน มือของหลี่ชิเย่ที่ยื่นสอดเข้าไปในหัวกะโหลกเหมือนว่าได้ยื่นไปยังโลกอีกโลกหนึ่งโดยพลัน จะอย่างไรเสีย หัวกะโหลกนี้ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่สามารถจุแขนทั้งแขนของหลี่ชิเย่ได้
เสียงปุดังขึ้นเสียงหนึ่ง หลังจากที่มือของหลี่ชิเย่ได้ยื่นสอดเข้าไปในนั้นแล้ว ช่องว่างมีการกระเพื่อมไม่หยุดนิ่ง มิติทั้งหมดเสมือนดั่งถูกทำให้บิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ในขณะนี้ร่างกายของหลี่ชิเย่ดูเหมือนมีการเปลี่ยนแปลงไป ดุจดั่งร่างกายหักงอไปแล้วอย่างนั้น
…………………………………………………….
ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท