ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2551 หวั่นไหวและหวาดกลัว

ตอนที่ 2551 หวั่นไหวและหวาดกลัว

ตอนที่ 2551 หวั่นไหวและหวาดกลัว

แม้ว่าการปรากฏตัวของปิ้งจวินนั้น บรรดาผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จะไม่เคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของเขามา แต่ว่า ยังคงมีผู้คนรุ่นอาวุโสจำนวนมากที่จดจำปิ้งจวินได้ ดังนั้น ขณะมองเห็นปิ้งจวินนั้นไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่

  ปิ้งจวินน่ะ ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ ผู้ดำรงอยู่ในฐานะเป็นที่หวาดกลัวนะเนี่ย   ระดับบรรพบุรุษอดที่จะมีสีหน้าที่หวาดผวาไม่ได้ และพึมพำขึ้นมา

ผู้เยาว์รู้สึกแปลกใจ เมื่อเห็นว่าระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักตนเองยังมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเมื่อเอ่ยถึง   แข็งแกร่งขนาดนั้นจริงหรือ?  

  ไหนเลยแค่อาศัยคำว่าแข็งแกร่งมาเปรียบเปรย ใช้คำว่าสยองขวัญก็ไม่เกินเลย   ระดับบรรพบุรุษผู้นี้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ และกล่าวว่า   เขาคือศัตรูที่แข็งแกร่งมากที่สุดของฮ่องเต้ไท่ชิง กระทั่งมีผู้กล่าวว่าเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงเสียอีก ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ สมควรทราบว่า ครั้งนั้นฮ่องเต้ไท่ชิงร่วมมือกับราชันแท้จริงจิ่วหนิงเพื่อจับเป็นตัวเขา ส่งคนจำนวนมากและสิ้นเปลืองพลังงานไปไม่น้อยจึงสามารถจับตัวเขามาได้  

แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว…เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับฮ่องเต้ไท่ชิง ทุกคนก็มีภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับศักยภาพของปิ้งจวินได้แล้ว ฮ่องเต้ไท่ชิงเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวใต้หล้า ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องตัวสั่นงันงกภายใต้อำนาจฮ่องเต้ของเขา การที่ปิ้งจวินไม่ได้ด้อยไปกว่าฮ่องเต้ไท่ชิง ย่อมสามารถจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของปิ้งจวินได้แล้ว

  อีกทั้งปิ้งจวินยังมีฐานะเป็นศิษย์พี่ของฮ่องเต้ไท่ชิง ครั้งนั้นพรสวรรค์ของเขาสูงกว่าปราดเปรื่องน่าทึ่งกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงเสียอีก หากไม่เป็นเพราะเขาออกจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ด้วยตนเอง เกรงว่าฮ่องเต้ไท่ชิงคิดจะช่วงชิงอำนาจก็คงทำได้ยาก   ระดับบรรพบุรุษอีกผู้หนึ่งที่แก่หง่อมยิ่งกว่าได้เอ่ยขึ้นช้าๆ

  ยังมีเรื่องทำนองนี้ด้วยหรือ?   ยอดฝีมือรุนอาวุโสจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้

เมื่อรับรู้ถึงความแข็งแกร่งเช่นนี้ของปิ้งจวินแล้ว ผู้ที่จ้องมองไปที่ตัวเขาต่างมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป หวาดกลัวจนขนลุกซู่ อดที่จะขนลุกซู่อยู่ในใจ เสมือนดั่งเวลานี้นาทีนี้คือฮ่องเต้ไท่ชิงคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้อย่างนั้น

สำหรับปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดทั้งสามและโต้วจ้านหวงแล้ว ยิ่งรู้สึกหัวใจเต้นกระตุกทีหนึ่ง พวกเขาคือยอดฝีมือผู้ยืนอยู่จุดสูงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ พวกเขามีความเข้าใจในตัวของปิ้งจวิน และมีความชัดเจนมากยิ่งกว่าผู้อื่น มีรึที่พวกเขาจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของปิ้งจวิน?

โดยเฉพาะโต้วจ้านหวงหากลำดับเรื่องของอาวุโสแล้ว เขานับเป็นผู้อาวุโสของปิ้งจวิน ในครั้งนั้น ขณะปิ้งจวินยังอยู่ในวัยหนุ่ม พรสวรรค์ที่ปรากฏออกมาให้เห็นนั้น เรียกได้ว่าช่างปราดเปรื่องน่าทึ่งมากเหลือเกิน หากไม่เป็นเพราะเขาออกจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ไม่แน่นัก ความสำเร็จของเขาอาจจะเหนือกว่าราชันแท้จริงจิ่วหนิงเสียอีก อย่างน้อยก็ไม่ด้อยไปกว่าราชันแท้จริงจิ่วหนิง

  พวกเจ้าที่เป็นสวะกลุ่มหนึ่งคิดจะปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ หากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ไม่เสื่อมลงนับว่าเป็นเรื่องแปลก   ปิ้งจวินจ้องมองพวกของโต้วจ้านหวงแวบหนึ่งด้วยท่าทีเย็นชาและเหยียดหยาม

คำพูดที่ดูแคลนเช่นนี้ของปิ้งจวินพลันทำให้สีหน้าของพวกโต้วจ้านหวงแดงก่ำ แม้ว่าในใจของพวกเขาจะไม่สบอารมณ์ แม้ว่าพวกเขาจะมีเพลิงแห่งความโกรธสุมเต็มอกก็แสดงอาการโกรธไม่ได้ และพูดคำพูดนักเลงออกมาไม่ได้

เรื่องนี้ว่าไม่ได้ พวกเขาล้วนแล้วแต่เคยเป็นผู้พ่ายแพ้ต่อปิ้งจวินมาแล้วทั้งสิ้น แม้แต่โต้วจ้านหวงก็ไม่เว้น พวกเขาทั้งสี่คนถ้าหากสู้กันตัวต่อตัว ไม่มีสักคนที่เป็นคู่ต่อสู้ของปิ้งจวินได้ แม้จะกล่าวว่าพวกเขามีท่าไม้ตาย แต่ว่า สมควรทราบว่าปิ้งจวินนั้นมีชาติกำเนิดมาจากการเป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ไม่แน่นัก เฉกเช่นระดับอย่างปิ้งจวินอาจมีวิธีที่จะหลบเลี่ยงท่าไม้ตายของพวกเขาก็เป็นได้

  แหะ ปิ้งจวิน เมื่อท่านโผล่หน้าออกมาทุกอย่างก็ไม่สนุกแล้วล่ะ คิดจะต่อยตีก็ยากแล้ว   เมื่อวัวคลั่งมองเห็นพวกของโต้วจ้านหวงดูจะตกใจเป็นยิ่งนัก อดที่จะบ่นขึ้นมาไม่ได้

  ต่อยตีอะไร   ปิ้งจวินเพียงจ้องมองพวกของโต้วจ้านหวงแวบหนึ่งด้วยท่าทีเย็นชา และกล่าวว่า   ข้าท้าหนึ่งต่อสี่ พวกเจ้าเข้ามาเลย  

พลันที่ปิ้งจวินพูดออกมาด้วยท่าทีเปี่ยมด้วยความพาล เป็นการดูแคลนพวกของโต้วจ้านหวงอย่างสิ้นเชิง

พวกของโต้วจ้านหวงถูกปิ้งจวินพูดดูแคลนเช่นนี้ อึดอัดจนใบหน้าแดงก่ำ แม้ว่าพวกเขาคิดจะว่ากล่าวปิ้งจวินด้วยความโกรธ แต่ทว่า พวกเขาเคยเป็นผู้พ่ายแพ้ต่อปิ้งจวินมาก่อน จะพูดออกไปก็ไม่แกร่งพอ เว้นแต่พวกเขาจะใช้ท่าไม้ตาย มิฉะนั้นล่ะก็ พวกเขาหาใช่คู่ต่อสู้ของปิ้งจวิน

อย่างไรก็ตาม ท่าไม้ตายของพวกเขาไม่ได้เตรียมมาเพื่อปิ้งจวิน เตรียมมาเพื่อหลี่ชิเย่โดยเฉพาะ

มองดูพวกของโต้วจ้านหวงที่อึดอัดจนใบหน้าแดงก่ำ ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ปิ้งจวินนับว่าแข็งแกร่งจนน่ากลัวยิ่ง มิฉะนั้นล่ะก็ ด้วยฐานะของพวกโต้วจ้านหวงคงระเบิดอารมณ์ออกมานานแล้ว

  ปิ้งจวิน อย่าได้เหยียดคนอื่นและลำพองใจมากเกินไป   โต้วจ้านหวงกล่าวเสียงเย็นชาว่า   ถูกฮ่องเต้ไท่ชิงจับเจ้าโยนเข้าไปในคุกหลวงดึกดำบรรพ์ยังไม่เพียงพออีกรึ? นี่แหละคือผลของเหยียดคนอื่นและลำพองใจของเจ้า  

  ฮ่องเต้ไท่ชิงแล้วอย่างไร   ปิ้งจวินกล่าวด้วยท่าทีเย็นชาและเรียบเฉยว่า   ขณะที่ข้าอยู่ในยุครุ่งเรืองสุดขีด เมื่อฮ่องเต้ไท่ชิงพบข้ายังต้องอ้อมไปอีกทาง! ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่มีเพียงราชันแท้จริงจิ่วหนิงที่สามารถปราบข้าลงได้ ส่วนที่เหลือหากสู้กันตัวต่อตัวไม่เห็นจะต้องหวั่น  

คำพูดเช่นนี้ของปิ้งจวินดูเย็นชาเรียบเฉย แต่เปี่ยมด้วยความพาล เป็นการหมางเมินต่อใต้หล้าชัดๆ ปิ้งจวินเป็นผู้ที่มีปณิธานกว้างไกล ระมัดระวังควบคุมความประพฤติตนอย่างมั่นคง แม้ว่าจะถูกกักขังอยู่ในคุกหลวงดึกดำบรรพ์มายุคหนึ่ง ยังคงมีความระมัดระวังและควบคุมความประพฤติตนได้อย่างมั่นคงยิ่งนัก

ย่อมไม่ต้องสงสัย แม้ว่าในครั้งนั้นปิ้งจวินจะถูกฮ่องเต้ไท่ชิงจับเป็นเอาไว้ได้ แต่ว่ายังคงไม่ยอมสยบต่อฮ่องเต้ไท่ชิง ซึ่งสามารถเข้าใจได้ เดิมทีเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงอยู่แล้ว ครั้งนั้นหากไม่เป็นเพราะราชันแท้จริงจิ่วหนิงลงมือ ใครจะเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำยังไม่แน่

  ราชันแท้จริงจิ่วหนิงแข็งแกร่งจริงๆ   ครั้นได้ฟังคำพูดเช่นนี้ของปิ้งจวินแล้ว ทุกคนก็สามารถเทียบเคียงและเข้าใจได้ว่าราชันแท้จริงจิ่วหนิงนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงเสียอีก

  มันก็สมควรอยู่หรอก เกรงว่าราชันแท้จริงจิ่วหนิงในเวลานี้คงเป็นราชันแท้จริงขั้นสิบสองลัคนาไปแล้ว   มีผู้กล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา

  หากพ่อเป็นเสือ ย่อมไม่มีลูกเป็นสุนัข   ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสอดทอดถอนใจขึ้นมาไม่ได้ ฮ่องเต้ไท่ชิงนับว่าแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว เพียงพอที่สามารถมีอำนาจสยบใต้หล้าได้แล้ว แต่ทว่า ราชันแท้จริงจิ่วหนิงลูกสาวของเขานั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่า น่ากลัวยิ่งกว่า ด้วยเหตุนี้เองนางจึงได้ไปจากแดนลัทธิราชัน เข้าไปในแดนลัทธิเซียน

  ปิ้งจวินเจ้าโอหังเกินไปแล้ว   ปิงฉือเจี๋ยจุนกล่าวน่าเกรงขามว่า   จริงอยู่ หากสู้กันเดี่ยวๆ ตัวต่อตัว พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า แต่ว่า สิ่งนี้ไม่ได้บ่งบอกว่าพวกเราจะทำอะไรเจ้าไม่ได้ หากจำเป็นขึ้นมาจริงๆ พวกเราก็จะสยบและปราบเจ้าได้เช่นกัน!  

  อย่างนั้นรึ?   ปิ้งจวินมองดูปิงฉือเจี๋ยจุนด้วยท่าทีเย็นชาเรียบเฉยทีหนึ่ง เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า   ยังคงเป็นท่าไม้ตายที่เก่าแก่โบราณ หลายปีผ่านไปยังคงไม่ได้ก้าวหน้าสักเท่าไร ปิงฉือเจี๋ยจุนเจ้ายกย่องตัวเองว่ามีอาวุธที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง มันก็แค่พูดเองเออเองเท่านั้น ทำความบรรลุมาชั่วชีวิตก็ได้แค่นำเอาไป่พั่วมาอวดบารมีเท่านั้นเอง หากมีฝีมือก็นำเอาอาวุธประจำตระกูลที่ชื่อปิงหม่ามาอวดสักหน่อย ดูท่าเจ้าคงยกไม่ไหวน่ะสิ  

  เจ้า…   ปิงฉือเจี๋ยจุนถูกปิ้งจวินนำเรื่องราวในอดีตมาเปิดเผย จึงพาลโมโหขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถระเบิดอารมณ์ออกมาได้

  ตำนานเป็นเรื่องจริง   ระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณพึมพำขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของปิ้งจวิน

  ตำนานอะไร?   รุ่นเยาว์ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่รู้สึกอยากรู้อยากเห็น

  เล่ากันว่า อาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดที่ราชันแท้จริงพั่วปิงแห่งตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือสร้างขึ้นมานั้นหาใช่เป็นพั่วปิงไม่ แต่เป็นอาวุธอีกชิ้นหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งยิ่งกว่า ซึ่งมีชื่อเรียกว่าปิงหม่า ตามตำนานเล่าว่าสามารถเทียบได้กับอาวุธปฐมบรรพบุรุษ แต่ทว่า ไม่เคยเห็นว่ามีใครคนหนึ่งคนใดในตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือนำมันออกมาใช้ เห็นทีอาวุธเล่มนี้ใช่ว่าใครก็สามารถควบคุมมันได้   ระดับบรรพบุรุษผู้นี้พึมพำขึ้นมา

แท้จริงแล้วเคยมีระดับบรรพบุรุษได้ยินตำนานเรื่องนี้มานานแล้ว เพียงแต่ผู้คนจำนวนมากต่างเข้าใจว่าเป็นเรื่องไม่จริงที่ลือกันไปเท่านั้น มาวันนี้ คำพูดลักษณะเช่นนี้ของปิ้งจวินทำให้ทุกคนรู้ว่าเรื่องนี้หาใช่เรื่องไม่จริงที่มีการลือกัน เป็นความจริงที่ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือมีอาวุธเช่นนี้อยู่จริง เพียงแต่ไม่มีใครสามารถหยิบอาวุธเล่มนี้ขึ้นมาได้เท่านั้น

  ปิ้งจวินอย่าได้ทำยกตนข่มท่าน   ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของวัดจิ้งเหลียนกวานกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า   หากบีบให้พวกเราต้องลงมือ วันนี้จะสยบเจ้าอยู่ตรงนี้แหละ  

เทียบกับปิงฉือเจี๋ยจุนแล้ว คำพูดของปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของวัดจิ้งเหลียนกวานที่พูดออกมาในเวลานี้ดูจะมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม แข็งกร้าว และใช้อำนาจบาตรใหญ่ยิ่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งหาใช่เป็นเรื่องแปลกแต่ประการใด ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของวัดจิ้งเหลียนกวานแข็งแกร่งยิ่งกว่าปิงฉือเจี๋ยจุนอยู่ไม่น้อย

ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกันเมื่อได้ฟังคำพูดลักษณะเช่นนี้ของปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของวัดจิ้งเหลียนกวาน ดูท่าพวกของโต้วจ้านหวงได้มีการเตรียมตัวมาจริงๆ พวกเขามีท่าไม้ตายที่สะเทือนเลื่อนลั่นยิ่งนักอยู่จริง มิฉะนั้นแล้วปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของวัดจิ้งเหลียนกวานคงไม่พูดคำพูดที่แข็งกร้าวและใช้อำนาจบาตรใหญ่ถึงเพียงนี้ออกมา

  ท่าไม้ตายคืออะไรกันแน่นะ?   ในเวลานี้เอง ไม่เพียงศิษย์กลุ่มคนรุ่นใหม่เท่านั้น แม้แต่ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสจำนวนมากก็อยากรู้อยากเห็น

การที่ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสูงสุดของวัดจิ้งเหลียนกวานยังคงพูดคำพูดที่แข็งกร้าวเช่นนี้ออกมาเมื่อเผชิญกับปิ้งจวิน เป็นการบ่งบอกว่าท่าไม้ตายของพวกเขามีความแข็งแกร่งจริง สามารถสยบปิ้งจวินได้ และเป็นการบ่งบอกว่าสามารถสยบและปราบฮ่องเต้ไท่ชิงได้ มิน่าเล่า ครั้งนั้นแม้ฮ่องเต้ไท่ชิงจะเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวใต้หล้า แต่ยังคงมีความหวั่นเกรงอยู่

  ข้ากลับต้องการจะลองสักหน่อย ท่าไม้ตายนี้ของพวกเจ้าไม่รู้ว่าพูดกันมากี่ครั้งแล้ว ออกจะโบราณมากไปแล้ว ครั้งนั้นสิ่งเดียวที่พวกเจ้าสามารถทำให้ฮ่องเต้ไท่ชิงต้องหวั่นเกรงก็มีแค่ท่าไม้ตายนี่แหละ เอาเถอะ วันนี้ข้าก็จะขอลองดูกับท่าไม้ตายที่ว่าของพวกเจ้าสักครั้ง ดูว่าสามารถสยบข้าได้หรือไม่   ดวงตาทั้งสองของปิ้งจวินพลันดูเข้มน่าเกรงขาม และพูดขึ้นมาอย่างทระนง

การยั่วยุเช่นนี้ของปิ้งจวินพลันทำให้โต้วจ้านหวง และพวกของปิงฉือเจี๋ยจุนต่างมองตากันและกัน พวกเขาย่อมมีความมั่นใจในท่าไม้ตายของตน พวกเขาคิดว่าสามารถสยบปิ้งจวินได้ เพียงแต่ ท่าไม้ตายนี้ของพวกเขาต้องการนำมาใช้กับหลี่ชิเย่เท่านั้น

ถ้าหากลงมือใช้สยบปิ้งจวินเมื่อไรล่ะก็ พวกเขาก็จะไม่มีความมั่นใจว่าสามารถสำแดงอานุภาพสูงสุดไปจัดการกับหลี่ชิเย่อีกครั้งได้หรือไม่

ในเวลานี้ พวกของโต้วจ้านหวงถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พวกเขามาด้วยเรื่องของเชือกเก้าเซียน ไม่ต้องการให้มีเรื่องอื่นเข้ามาแทรก ศัตรูของพวกเขาคือหลี่ชิเย่แต่ไม่ใช่ปิ้งจวิน แต่ทว่า การที่ปิ้งจวินท้าสู้เช่นนี้พวกเขาก็ยอมไม่ได้ มิฉะนั้นล่ะก็ หลังจากนี้พวกเขาจะยืนอยู่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้อย่างไรกัน?

  ปิ้งจวิน เจ้าก็อย่าทำให้พวกเขาลำบากใจ   หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า   ในเมื่อคนอื่นเขามาด้วยเรื่องของข้า ก็ให้ข้าเป็นคนจัดการก็แล้วกัน พวกเจ้าถอยไปเถอะ ข้าลงมือก็เพียงพอแล้ว   กล่าวพลางโบกมือเบาๆ

  ครับ คุณชาย   อย่าว่าแต่พวกของวัวคลั่งเลย แม้แต่ปิ้งจวินเองก็แสดงคารวะแบบจีนพร้อมกับโค้งคำนับ และล่าถอยกลับไปด้วยท่าทีเคารพยิ่ง เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่

เมื่อหลี่ชิเย่ลงมือ ยังจำเป็นต้องให้พวกเขายื่นมือเข้ามาสอดรึ? มันไม่จำเป็นอยู่แล้ว ในใจของพวกเขารู้ดีว่า พวกของโต้วจ้านหวงก็คล้ายดั่งมดปลวกอย่างนั้นเมื่ออยู่ในมือของหลี่ชิเย่ ท่าไม้ตายที่ว่าก็ไม่มีค่าคู่ควรจะกล่าวถึง

  ว้าวนี่เท่มากเหลือเกิน แม้แต่พวกของปิ้งจวินก็เชื่อฟังคำสั่งของฮ่องเต้องค์ใหม่ ขบวนเช่น เช่นนี้หรูหราจนไม่รู้จะหรูหราอย่างไรอีกแล้ว การปกครองใต้หล้าก็คงไม่เกินเลยกว่านี้อีกแล้ว   สิ่งนี้ได้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับตื่นตระหนกยิ่งนัก เมื่อมองเห็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นปิ้งจวินยังคงให้ความเคารพต่อหลี่ชิเย่อย่างยิ่ง

ผู้คนจำนวนมากที่ได้เห็นภาพนี้ใช่เพียงแต่หวั่นไหวเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นก็คือรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง

  จะอย่างไรเสียเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ที่ช่วยให้พวกเขาออกมาจากคุกหลวงดึกดำบรรพ์ บุญคุณที่ได้ช่วยชีวิตเปรียบเสมือนบิดามารดาผู้ให้กำเนิด การที่พวกเขาฟังคำสั่งของฮ่องเต้องค์ใหม่ก็ไม่นับเป็นเรื่องแปลก   มีผู้ที่อดจะพึมพำขึ้นมาไม่ได้

…………………………………………………

  

  

 

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท