ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ตอนที่ 2555 ปฐมบรรพบุรุษ

ตอนที่ 2555 ปฐมบรรพบุรุษ
ตอนที่ 2555 ปฐมบรรพบุรุษ
‘อาวุธปฐมบรรพบุรุษ’ ทุกคนอดกลั้นลมหายใจเอาไว้ไม่ได้ขณะมองดูอาวุธปฐมบรรพบุรุษในมือของพวกโต้วจ้านหวง และมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกตื่นเต้นไม่มีสิ้นสุด ทุกคนต่างนึกไม่ถึงเลยว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ของพวกเขายังคงมีอาวุธปฐมบรรพบุรุษ
ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่สืบทอดกันมาเนิ่นนานเกินไปแล้ว พันล้านปีที่ผ่านมา ศิษย์ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่จำนวนเท่าไรที่เข้าใจว่าอาวุธปฐมบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้หายสาบสูญไปนานแล้ว ที่ยังคงสามารถสืบทอดกันมาได้ก็คืออาวุธราชัน และหรือของวิเศษระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะของสำนักเจ้าลัทธิแต่ละแห่งเท่านั้น สิ่งที่พวกเขานึกไม่ถึงก็คือเวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้ยังคงมีอาวุธปฐมบรรพบุรุษสืบทอดต่อกันมา อีกทั้งยังปรากฏตัวทีเดียวถึงสี่ชิ้น แล้วจะไม่ให้ศิษย์จำนวนมากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจกันเล่า
ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย มองเห็นอาวุธปฐมบรรพบุรุษที่อยู่ในมือของพวกโต้วจ้านหวงส่งเสียงดังตูมตามไม่หยุด เสมือนดั่งเสียงตูมตามของวิถีอย่างนั้น ในขณะนี้ที่อยู่ในมือของพวกเขาดูเหมือนจะไม่ใช่อาวุธปฐมบรรพบุรุษ แต่เป็นวิถีสายหนึ่งของปฐมบรรพบุรุษ
ภายใต้พลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรที่กรอกเข้าไปยังวิถีแห่งปฐมบรรพบุรุษสายนี้ ทำให้เปล่งประกายเจิดจ้าละลานตา เสมือนดั่งต้องการฟื้นตื่นขึ้นมาอย่างนั้น ในเวลานี้เอง กลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษเริ่มตลบอบอวลระหว่างฟ้าดิน เสมือนดั่งมีปฐมบรรพบุรุษผู้หนึ่งกำลังจะลงมายังโลก
ในช่วงเริ่มต้น กลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษที่ตลบอบอวลระหว่างฟ้าดินไม่ได้ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเป็นพิเศษ เพียงคล้ายไอหมอกที่ตลบอบอวลเท่านั้น แม้ว่ากลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษที่ตลบอบอวลบางเบาเช่นนี้เอง แต่ก็ได้ทำให้ภายในใจของทุกคนรู้สึกสะเทือนหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่บังเกิดเป็นมโนภาพขึ้นมา รู้สึกว่าท่ามกลางพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ยังคงมีปฐมบรรพบุรุษที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่
ภายใต้กลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษที่ตลบอบอวลลักษณะเช่นนี้ เหมือนว่าได้ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าปฐมบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ไม่เคยไปจากพวกเขาเลย ไม่เคยไปจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ เพียงนอนหลับสนิทอยู่ใต้พื้นดินเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้เอง จากการตลบอบอวลของกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษ ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงผืนแผ่นดินที่อยู่ใต้เท้าเหมือนมีพลังที่น่าเกรงขามไม่มีสิ้นสุดกำลังเคลื่อนไหวอย่างนั้น เสมือนน้ำในมหาสมุทรกำลังไหลเป็นคลื่นใต้น้ำอย่างนั้น เหมือนว่าทุกๆ ตารางนิ้วของใต้ดินล้วนแล้วแต่ตลบอบอวลไปด้วยพลังสัจธรรม เหมือนว่าผืนแผ่นดินทุกตารางนิ้วล้วนแล้วแต่ค่อยๆ ฟื้นตื่นขึ้นมา
แว้งค์…เสียงแต่ละเสียงที่ดังขึ้น ในขณะนี้ผืนแผ่นดินของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้รับผลกระทบจากอาวุธปฐมบรรพบุรุษ ผืนแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขตของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้แผ่ประกายแต่ละสายขึ้นมา เวลานี้พลังสัจธรรมตลบอบอวลระหว่างฟ้าดิน เหมือนว่าพลังทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างนั้น
เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้นมา ในเวลานี้ มองเห็นพวกโต้วจ้านหวงสี่คนพลังลมปราณพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงพร้อมกัน พลังทั้งหมดเสมือนหนึ่งน้ำตกที่บ้าคลั่งพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง อีกทั้งพลังลมปราณตลบอบอวลทั่วร่างส่งประกายวูบวาบออกมา
นาทีนี้กระทั่งสามารถได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดที่ดังขึ้น เหมือนว่ามีอะไรบางสิ่งที่กำลังลุกไหม้อยู่
ย่อมไม่ต้องสงสัย นาทีนี้พวกของโต้วจ้านหวงได้ทุ่มเทพลังทั้งหมดที่มีอยู่ ลมปราณทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกถ่ายทอดเข้าไปยังอาวุธปฐมบรรพบุรุษที่อยู่ในมือ ขณะเดียวกัน พวกเขาไม่เสียดายที่จะเผาผลาญอายุขัยของตน เผาผลาญเลือดวัฒนะของตน เพื่อให้สามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าออกมาขับเคลื่อนอาวุธปฐมบรรพบุรุษ และปลุกอาวุธปฐมบรรพบุรุษให้ตื่นขึ้นมา
กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนคนใดก็ตาม การผลาญอายุขัยของตน เผาผลาญเลือดวัฒนะของตนล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไม้ใกล้ฝั่งอย่างพวกโต้วจ้านหวงที่เป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะแล้ว ทุกๆ อายุขัย ทุกๆ เลือดวัฒนะล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งล้ำค่าอย่างยิ่ง หากไม่ทันระวัง ไม่แน่นักยังไม่ทันได้ฆ่าศัตรูให้ตาย พวกเขาต้องล้มตายลงก่อนอันเนื่องมาจากอายุขัยของตนถูกใช้ไปจนหมด
แต่ว่า ในขณะนี้พวกของโต้วจ้านหวงไม่มีทางเลือก นี่เป็นโอกาสเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น พวกเขาไม่เสียดายที่จะเผาผลาญอายุขัย เผาผลาญเลือดวัฒนะก็เพื่อให้อาวุธปฐมบรรพบุรุษได้ระเบิดพลังที่ทรงพลังมากที่สุดออกมา หวังอาศัยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดนี้ฆ่าหลี่ชิเย่ให้ตาย
กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว การโจมตีในครั้งนี้หากไม่สำเร็จก็ต้องสละชีพ ถ้าหากพวกเขาล้มเหลว คนที่ต้องตายไม่เพียงมีแต่พวกเขาเท่านั้น เกรงว่าสำนักของพวกเขาก็ต้องติดตามหายวับไปกับตาในพริบตา
ตูม ตูม ตูมเสียงตูมตามดั่งขึ้นมาเป็นระลอกไม่ขาดสาย จากการที่พวกโต้วจ้านหวงทำการขับเคลื่อนอาวุธปฐมบรรพบุรุษอย่างบ้าคลั่งในขณะนี้ พลังที่แข็งแกร่งของพวกเขาก็ได้เคลื่อนย้ายพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ จะอย่างไรเสียพวกเขาก็คือผู้ดำรงอยู่ในจุดสูงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ ต่อให้พวกเขาไม่สามารถควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้ แต่ยังคงสามารถบังคับควบคุมพลังอันยิ่งใหญ่ที่น่าเกรงขามของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้
พลังลักษณะเช่นนี้ที่พวกเขาสามารถควบคุมได้ ถือว่าห่างไกลจากราชันแท้จริงปาเจิ้นที่เป็นอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่จะสามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว
ดังนั้น ในเวลานี้เอง ภายใต้การบังคับควบคุมของพวกโต้วจ้านหวง พลังที่น่าเกรงขามไม่มีสิ้นสุดเสมือนดั่งคลื่นที่เคลื่อนไหวรุนแรง ทันใดนั่นเอง มองเห็นประกายที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ พลังสัจธรรมที่ไม่มีสิ้นสุดเสมือนดั่งคลื่นที่โหมสาดซัดอย่างรุนแรงพลุ่งพล่านมุ่งหน้าเข้าหาพวกของโต้วจ้านหวง
เสียงตูม…ดังสนั่น ขณะที่พลังทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่วิ่งห้อเข้ามานั้น พลังทั้งหมดพลันวิ่งเข้าไปในอาวุธปฐมบรรพบุรุษ โดยที่อาวุธปฐมบรรพบุรุษก็คล้ายดั่งเหวลึกที่ไม่เห็นก้นเหว พลันจัดการดูดกลืนพลังที่น่าเกรงขามและไม่มีสิ้นสุดเข้าไป
ในพริบตาเดียวนั่นเอง อาวุธปฐมบรรพบุรุษทั้งสี่ได้ระเบิดอานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่ปราศจากผู้ต่อกรขึ้นมา เพียงชั่วพริบตาเดียว อานุภาพปฐมบรรพบุรุษได้อาละวาดทั่วฟ้าดิน เสมือนหนึ่งปฐมบรรพบุรุษกำลังจะมาถึงอย่างนั้น ภายใต้อานุภาพปฐมบรรพบุรุษที่น่ากลัวเช่นนี้ ในขณะนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงอีกต่อไปแล้ว พลันเข่าอ่อนทั้งสองข้างทยอยกันคุกเข่าลงกับพื้น
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น นาทีนี้เองมองเห็นประกายศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง โดยอาวุธปฐมบรรพบุรุษทั้งสี่ต่างพวยพุ่งประกายศักดิ์สิทธิ์ที่แทงทะลุท้องฟ้าออกมาในพริบตาเดียว ขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้แทงทะลุท้องฟ้านั้น ได้ปรากฏเป็นตราสัญลักษณ์ขึ้นเสมือนดั่งได้เปิดประตูที่เก่าแก่โบราณออกมา ทันใดนั้นเอง กลิ่นอายที่ปราศจากผู้ต่อกรเป็นนิรันดร์ได้เทราดลงมาจนคล้ายดั่งท่วมระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่จนมิดอย่างนั้น
ปฐมบรรพบุรุษ…จังหวะที่กลิ่นอายปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาลสายนี้ท่วมจนมิดทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่นั้น ภายในใจของทุกคนต่างสั่นเทาทีหนึ่ง กลิ่นอายลักษณะเช่นนี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ได้จมปลักอยู่กับกลิ่นอายลักษณะเช่นนี้มาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วน
กล่าวได้ว่า กลิ่นอายลักษณะเช่นนี้ได้เคียงข้างสรรพสิ่งมีชีวิตทุกๆ ชีวิตในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ชั่วชีวิต นี่แหละคือกลิ่นอายที่เก่าแก่โบราณที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ นั่นก็คือกลิ่นอายของปฐมบรรพบุรุษจิ่วมี่
เสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง เสมือนดั่งท้องฟ้าปริแยกออกมาอย่างนั้น ท่ามกลางท้องฟ้าที่ปริแยกออกมาปรากฏคนผู้หนึ่งก้าวเท้าออกมา ปรากฎตัวต่อสายตาของผู้คนบนโลก
นี่หาใช่ร่างคนที่แท้จริง เป็นเพียงร่างเงาเท่านั้นเอง ร่างเงาที่เกิดจากการรวมตัวกันของพลังที่แข็งกร้าวปราศจากผู้ต่อกรของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่เท่านั้นเอง
ร่างเงานี้ยืนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า ฟ้าดินที่สูงกว้างไกลพลันกลับกลายเป็นเล็กจิ๋วอะไรขนาดนั้น สุริยันจันทราดวงดาว ผืนแผ่นดินภูเขาแลแม่น้ำล้วนแล้วแต่กลายเป็นเล็กจิ๋วดั่งฝุ่นผง กลายเป็นไร้ค่าไม่คู่ควรจะกล่าวถึง
แม้แต่ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะเมื่ออยู่ท่ามกลางร่างเงานี้แล้ว อดที่จะละอายเทียบไม่ได้ ต่างอดแหงนหน้ามองไม่ได้ กระทั่งต้องกราบไหว้
ร่างเงาร่างนี้ที่ยืนอยู่ตรงนั้นเสมือนดั่งก้าวข้ามตลอดกาล บงการจักรวาล จังหวะที่ดวงตาทั้งสองของเขาลืมขึ้นมา เสมือนหนึ่งกาลเวลากำลังเคลื่อนไหวอย่างนั้น เหมือนว่ากาลเวลาตั้งแต่อดีตเป็นต้นมาล้วนแล้วแต่อยู่ท่ามกลางดวงตาของเขา
นาทีนี้เหมือนว่าขอเพียงร่างเงานี้ยื่นมือออกไป ทุกสิ่งในหล้าล้วนแล้วแต่สามารถคว้าเอามาได้ตามอารมณ์ วิถีสัจธรรม สรรพสิ่งที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมล้วนแล้วแต่คว้าเอามาได้อย่างง่ายดาย
“ปฐมบรรพบุรุษ…” ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อได้เห็นร่างเงาร่างนี้
“ปฐมบรรพบุรุษ…” ในเวลานี้ อย่าว่าแต่เขาจิ่วเหลียนซาน แม้แต่สิ่งมีชีวิตจำนวนมากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ต่างทยอยกันคุกเข่าลงกับพื้น อดที่จะโน้มตัวหมอบกราบกับพื้นต่อร่างเงาร่างนี้
“ปฐมบรรพบุรุษ เป็นปฐมบรรพบุรุษจริงๆ…” มีผู้ที่ถึงกับน้ำตาล้นเบ้าตา ตื่นเต้นจนน้ำตานองหน้าขณะมองดูร่างเงาร่างนี้ กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “ข้าได้เห็นปฐมบรรพบุรุษแล้ว ได้เห็นปฐมบรรพบุรุษแล้ว” กล่าวพลางอดที่จะกระโดดตัวลอยขึ้นมา
“เป็นปฐมบรรพบุรุษจริงๆ” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิก็ต่างเต้นอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นร่างเงาร่างนี้
แม้ว่าพวกเขาเองก็รู้ดีว่าสิ่งนี้หาใช่เป็นการลงมายังโลกมนุษย์ของปฐมบรรพบุรุษจิ่วมี่จริงๆ เป็นเพียงร่างจำแลงเท่านั้น แต่ทว่า สิ่งนี้สำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
กล่าวสำหรับศิษย์ผู้หนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่แล้ว สามารถพบเห็นปฐมบรรพบุรุษของตนสักครั้ง ก็คือเกียรติอันสูงส่งแล้ว
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว นาทีนี้ ร่างเงาที่ยืนอยู่บนท้องฟ้าก้าวขาออกมาก้าวหนึ่ง ยืนประจัญหน้ากับหลี่ชิเย่อยู่ตรงนั้นแล้ว
นาทีนี้ แม้แต่พวกของโต้วจ้านหวงก็อดที่จะกลั้นลมหายใจเอาไว้ จะชนะหรือแพ้ขึ้นอยู่กับสิ่งนี้แล้ว เวลานี้สีหน้าของพวกเขาดูขาวซีดเหมือนมีลมหายใจแต่ไร้เรี่ยวแรง
เนื่องจากหลังการสำแดงการโจมตีลักษณะเช่นนี้แล้ว พวกเขาได้สูญเสียพลังลมปราณไปทั้งหมด ไม่สามารถสำแดงการโจมตีครั้งที่สองได้อีก ถ้าหากครั้งนี้ล้มเหลวล่ะก็ เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็จะไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป
นาทีนี้ พวกของโต้วจ้านหวงก็ต้องอกสั่นขวัญแขวน อธิฐานในใจเงียบๆ หวังว่าภายใต้การคุมครองของปฐมบรรพบุรุษจิ่วมี่ สามารถช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นอุปสรรคปราบหลี่ชิเย่ลงได้
ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ เมื่อมองเห็นปฐมบรรพบุรุษประจันหน้ากับหลี่ชิเย่ และเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “จะเปิดศึกกันแล้ว”
กระทั่งยอดฝีมือรุ่นอาวุโสก็อดที่จะกล่าวเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า “เกรงว่าฮ่องเต้องค์ใหม่จะไม่สามารถต่อกรกับปฐมบรรพบุรุษได้”
สิ่งนี้หาใช่ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสด้อยค่าหลี่ชิเย่ แต่เป็นเพราะปฐมบรรพบุรุษจิ่วมี่มีฐานะที่สูงส่งมากเหลือเกินในทัศนะคติของพวกเขา
ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ล้วนแล้วแต่ถือกำเนิดในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว พวกเขาเกิดที่นี่ โตที่นี่ สามารถมีผืนแผ่นดินให้อาศัยล้วนแล้วแต่เป็นการประทานจากปฐมบรรพบุรุษทั้งสิ้น
ดังนั้น กล่าวสำหรับศิษย์คนหนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่แล้ว ปฐมบรรพบุรุษในทัศนะคติของพวกเขาคือผู้ที่มีฐานะสูงสุด พวกเขาไม่เชื่อว่าจะมีใครเอาชนะปฐมบรรพบุรุษของพวกเขาได้
ถ้าหากวันนี้ร่างเงาจำแลงของปฐมบรรพบุรุษนี้ถูกหลี่ชิเย่เอาชนะไปได้ หากเป็นเช่นนั้นล่ะก็กล่าวสำหรับศิษย์จำนวนมากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่แล้ว มันคือเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง
ดังนั้นในเวลานี้ ภายในใจของผู้คนจำนวนมากเข้าใจว่า หลี่ชิเย่จะไม่สามารถต้านทานกับร่างเงาจำแลงของปฐมบรรพบุรุษได้
แต่ทว่า บรรดาบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิมีท่าทีหนักแน่นจริงจัง พวกเขามองว่าปฐมบรรพบุรุษจะเอาชนะหลี่ชิเย่ได้หรือไม่นั้นยังพูดยาก
เสียงปังดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง นาทีนี้เอง เห็นร่างเงาจำแลงของปฐมบรรพบุรุษยื่นมือขวาออกมา แขนของเขาสั่นไหวนิดหนึ่ง ยามที่แขนของเขาสั่นไหวทีหนึ่ง ทำให้ช่องว่างก็กระเพื่อมทีหนึ่งเช่นกัน
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังขึ้น ในพริบตาเดียวนี่เอง แขนของร่างเงาเหมือนได้รวบรวมหมื่นแดน ทางช้างเผือกและดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนในจักรวาลล้วนแล้วแต่ถูกรวบรวมเอาไว้อยู่ที่แขนของเขา
ท่ามกลางเสียงปังเสียงนี้ที่ดังขึ้น ทางช้างเผือกและดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนพลันห่อหุ้มแขนของเขาเอาไว้
………………………………………………..
ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

Status: Ongoing

สิบล้านปีก่อน หลี่ชีเย่ตัดไผ่เขียวขจีหนึ่งลำ   แปดล้านปีก่อน หลี่ชีเย่เลี้ยงปลาไนหนึ่งตัว ห้าล้านปีก่อน หลี่ชีเย่รับเลี้ยงเด็กสาวหนึ่งคน   วันนี้ ทันทีที่หลี่ชีเย่ตื่นขึ้น กิ่งไผ่เขียวบำเพ็ญตนจนกลายเป็นวิญญาณเทพ ปลาไนกลายร่างเป็นมังกรทอง เด็กสาวกลายเป็นจักรพรรดินีเก้าแดน  นี่คือเรื่องราวของการฝึกฝน เรื่องราวของเด็กหนุ่มปุถุชนที่มีชีวิตอมตะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท