ตอนที่ 152 ทักษะกระบี่ที่ยอดเยี่ยม
เซี่ยวเฉินเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นต้นเมื่อไม่นานมานี้ เขาต้องทําให้ขอบเขตการบ่มเพาะมั่นคง เขาไหลเวียนพลังงานวิญญาณอันเชี่ยวกรากภายในร่างกายของตนหนึ่งรอบใหญ่ ก่อนที่จะส่งมันไปที่ตันเถียน
แม่น้ําไหลเชี่ยวทันใดนั้นก็พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง มังกรฟ้าตัวเล็กว่ายวนในแม่น้ําอย่างมีความสุข ทําให้เกิดน้ํากระเซ็นเป็นครั้งคราว
น้ําที่กระเซ็นเป็นพลังปราณที่บริสุทธิ์อย่างมาก เพียงแค่นึกคิด ระดับแม่น้ําเพิ่มสูงขึ้นและมีคลื่นบ้าคลั่งก็โหมกระหน่ํา พลังปราณจํานวนมากไหลออกจากตันเถียน และไหลผ่านเส้นปราณสายต่างๆในร่างกาย
พลังปราณซึมซับเข้าไปในเส้นปราณแล้วเข้าสู่ผิวหนัง เลือดเนื้อและกระดูก เพื่อบํารุงร่างกายอันทรงพลังของเซี่ยวเฉินอย่างต่อเนื่อง เมื่อพลังปราณหมดลง พลังปราณก็ถูกดูดซึมจากรอบข้างไหลเข้าไปสู่ตันเถียนอีกครั้งหนึ่ง นี่เป็นวงจรที่ดําเนินต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด จบวงจรเก่าเริ่มวงจรใหม่
เวลาไหลผ่านไปรวดเร็วมากในขณะบ่มเพาะพลัง เมื่อเซี่ยวเฉินเปิดตาขึ้น ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างขึ้น เขารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากในขณะที่ยืดเส้น เขารู้สึกว่าเขาเต็มไปด้วยพลังงานอันไร้ขีดจํากัด
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”
มีเสียงเคาะและน้ําเสียงอันไพเราะของหลิวหรูเยว่ที่ได้ยิน ผ่านเข้ามาทางประตู “ลูกศิษย์น้อยของข้า เลิกนอนได้แล้ว ถึงเวลาตื่นแล้ว”
ในขณะที่หลิวหรูเยว่กําลังเคาะต่อไปเรื่อยๆ ประตูของเซี่ยวเฉินทันใดนั้นก็เปิดออกทันที เมื่อนางเห็นท่าทางกระปรี้กระเปร่าของเซียวเฉิน นางกล่าว “มีความมุ่งมั่นดี จงจําเอาไว้ ภายในภาคหน้า เจ้าต้องไปพื้นที่ประลองทุกวันในช่วงเวลานี้ ถ้าเจ้าไม่ไป เจ้าจะโดนลงโทษ ไปกันได้แล้ว”
เซี่ยวเฉินพยักหน้าและกล่าว “ข้ายังไม่ได้ทานอาหารเช้า”
“ดีที่สุดคือไม่ทาน มิฉะนั้นเจ้าอาจจะปวดท้องได้” หลิวหรูเยว่กล่าวอย่างลวกๆด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
เอาจริง?! เซี่ยวเฉินรู้สึกไม่ดี เขาตามหลิวหรูเยว่ไป และในที่สุดพวกเขาก็มาถึงพื้นที่ประลองอันกว้างขวาง
พื้นที่ประลองนี้กว้างใหญ่เป็นอย่างมาก และมันทํามาจากหินภูผาสวรรค์ทั้งหมด หลังคาทรงกลมของที่นี่มีความสูงกว่าร้อยเมตร เมื่อยืนอยู่ที่นั่น คนผู้หนึ่งจะรู้สึกว่าตัวเองเล็กจ้อยมาก ในส่วนกลางของพื้นที่ประลอง ที่นั่นมีอุปกรณ์ทุกประเภทวางอยู่อย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม ภายในพื้นที่ประลองขนาดใหญ่ มันมีเพียงหลิวสุยเฟิงที่กําลังฝึกกระบี่อยู่ผู้เดียว มันโอ่โถงอย่างที่สุดแต่กลับว่างเปล่า เมื่อหลิวสุยเฟิงเห็นเซียวเฉิน เขายิ้มเล็กน้อยคล้ายกับเป็นการทักทายเซี่ยวเฉิน
“พี่สาวหรูเยว่ มีทักษะกระบี่อันยอดเยี่ยมอะไรที่จะส่งผ่านมาให้ข้าหรือไม่?” เซี่ยวเฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม เมื่อพวกเขามาถึงพื้นที่ประลอง เชี่ยวเฉินรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
หลิวหรูเยว่ กล่าวพร้อมเยาะเย้ย “ด้วยพื้นฐานของเจ้า เจ้าต้องการที่จะเรียนรู้ทักษะกระบี่อันยอดเยี่ยม ไม่ต้องกล่าวถึงทักษะกระบี่ขั้นสวรรค์ เจ้ายังไม่แม้แต่จะเข้าใจแก่นแท้ของทักษะกระบี่ขั้นปฐพี”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลิวหรูเยว่กล่าวว่าพื้นฐานของเซี่ยวเฉินไม่ดี เซียวเฉินรู้สึกไม่เชื่อเล็กน้อยแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนมาใช้กระบี่โดยไม่ได้ฝึกฝนขั้นต้นมากมาย
อย่างไรก็ตาม ข้าคิดว่าตนเองค่อนข้างขยันในการฝึกฝน และไม่เคยขี้เกียจเลยแม้แต่น้อย ทําไมนางถึงกล่าวว่าพื้นฐานของข้าไม่ดี?
เมื่อหลิวหรูเยว่เห็นท่าทางไม่เชื่อเล็กน้อยของเซียวเฉิน นางยิ้ม “ถ้าเจ้าไม่เชื่อเช่นนั้นก็ใช้ออกด้วยทักษะกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดต่อกรกับข้า ข้ารับประกันว่าจะไม่ใช้ความแข็งแกร่งที่สูงชั้นกว่าขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ์”
เซี่ยวเฉินเองก็เคยคิดที่จะทดสอบความแข็งแกร่งของหลิวหรูเยว่ ย้อนกลับไปในห้องโถงเมฆา เนื่องจากหลิวหรูเยว่โจมตีเขาอย่างฉับพลัน เขาจึงรู้สึกไม่มั่นใจ แต่ตอนนี้ โอกาสกําลังรอเขาอยู่
เซี่ยวเฉินกุมกระบี่เงาจันทร์ในแนวนอนเบื้องหน้าของเขาและยิ้มขึ้น “เช่นนั้นก็ลองดูทักษะกระบี่ที่เร็วที่สุดในโลกของข้าให้ดี ข้าจะใช้ออกเพียงครั้งเดียว มันจะทําให้ท่านยอมรับในความพ่ายแพ้อย่างเต็มใจแน่นอน”
“แคร่ก!”
เกิดประกายแสงหนาวเหน็บ พร้อมกับเสียง “ครืน” ออก มาและทันใดนั้นกระบี่เงาจันทร์ก็ถูกดึงออกจากฝัก ในทันที ที่มันถูกดึงออกจากฝัก มีเสียงสายฟ้าประทุขึ้นมาด้านหลัง เขา กระบี่เงาจันทร์กําลังวูบวาบไปด้วยกระแสไฟฟ้า
“วาดกระบี่!!”
การเคลื่อนไหวของเซี่ยวเฉินเร็วขึ้นอย่างช้าๆ และไม่นาน กระบี่แสงก็มาถึงความเร็วสูงสุดของมัน และผ่าไปทางหลิวหรูเยว่ ในระยะใกล้เช่นนี้ และเขาเป็นผู้ที่เคลื่อนไหวก่อน เซี่ยวเฉินมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะทําให้หลิวหรูเยว่ต้องถอยกลับ.
เมื่อหลิวหรูเยว่ถอยกลับ การโจมตีในทันทีของพันธนาการไม่จบสิ้นแห่งทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันก็จะเริ่มขึ้น การโจมตีในแต่ละครั้งจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า
ครั้งก่อน ความเร็วของเขาจะค่อยๆเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะนางได้ แต่มันก็ทําให้นางไม่ดูถูกเขา
“เครั้ง!”
เสียงโลหะปะทะกันดังขึ้น เซี่ยวเฉินไม่เห็นว่านางชักกระบี่เล็กออกจากฝักได้อย่างไร เขาพบว่ากระบี่ของหลิวหรูเยว่นั้นเร็วกว่าเขา แม้ว่านางจะออกตัวช้ากว่าการเคลื่อนไหวของเขา มันก็ยังปะทะกับกระบี่เงาจันทร์อย่างรุนแรง
พละกําลังมากมายเคลื่อนผ่านคมของกระบี่ มือขวาของเซียวเฉินที่กําลังถือกระบี่เอาไว้รู้สึกชา มันถึงขนาดมีแรงผลักดันที่จะทําให้กระบี่เงาจันทร์กระเด็นออกไป
เมื่อพลังกําลังมากมายถูกส่งเข้าไปในร่างของเซียวเฉิน เขาเดินเซถอยหลังไปสองก้าวก่อนที่จะค่อยๆยืนได้อย่างมั่นคง ความเร็วกระบี่ของหลิวหรูเยว่โจมตีไปยังจิตใจของเขา
มันเป็นเพียงแค่การโจมตีกระบี่ธรรมดาๆ ไม่ใช่ทักษะต่อสู้ เหมือนกับวาดกระบี่ อย่างไรก็ตาม ความเร็วของมันรวดเร็วมากจนน่าเหลือเชื่อ
อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินยังคงไม่เชื่อในขณะที่เขายังไม่ได้ ใช้ออกด้วยทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน มันจะมอบโอกาสที่ทําให้หลิวหรูเยว่มองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
เซี่ยวเฉินย่างไปข้างหน้าพร้อมคําราม เกิดการปะทุของสายฟ้าอีกครั้ง น้ํากระเซ็นที่พุ่งพล่านจากแม่น้ําเชี่ยวภายในตันเถียนของเขาเปลี่ยนเป็นพลังปราณจํานวนมาก และ ไหลไปยังคมกระบี่ของเขา
กระบี่เปร่งประกายขึ้นอีกครั้ง และเชี่ยวเฉินก็ใช้ออกด้วย วาดกระบี่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์มันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง หลิวหรูเยว่ไม่ได้ขยับออกจากตําแหน่งเดิมของนาง แม้จะออกตัวช้ากว่า กระบี่เล็กที่อยู่ในมือนางก็ทําลายทักษะกระบี่ในทันที
เห็นเชี่ยวเฉินโซเซถอยหลังไป หลิวหรูเยว่โค้งริมฝีปากและยิ้มออกมา “นี่คือเทคนิคกระบี่ที่เร็วที่สุดในโลก? มันก็แค่งั้นงั้น”
หลังจากถูกล้อเลียนโดยหญิงสาวที่มีอายุมากกว่าเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เซี่ยวเฉินก็เริ่มร้อนใจ เขาใช้วาดกระบี่อย่างต่อเนื่อง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม
เซี่ยวเฉินโซเซถอยกลับไปอีกครั้ง เขาโบกมือและกล่าว “เราทําเช่นนี้ไม่ได้ ท่านอย่าได้ขัดขวางการเคลื่อนไหวของข้า มิเช่นนั้น ข้าจะไม่สามารถใช้ออกด้วยการเคลื่อนไหวที่ทรงพลังมากกว่านี้ออกมาได้”
หลิวหรูเยว่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา การแสดงออกที่มีสเน่ห์อันหายากปรากฏบนใบหน้าของนาง นางกล่าว “ตามเจ้าต้องการ แสดงให้ข้าเห็นถึงทักษะกระบี่ที่รวดเร็วที่สุดในโลก!”
ดวงตาของเซี่ยวเฉินประกายขึ้นหลังจากหลิวหรูเยว่กล่าวเสร็จ เขาทันใดนั้นก็ใช้ออกด้วยวาดกระบี่ หลิวหรูเยาถอยหลังกลับ และเซียวเฉินทันใดนั้นก็ใช้ออกด้วยฟาดฟันประกายแสง
“เครั้ง!”
เซี่ยวเฉินรักษาท่าทางใช้ออกฟาดฟันประกายแสงต่อไป แต่มีประกายแสงหนาวเหน็บปะทุขึ้นที่ด้ามจับของกระบี่เงาจันทร์ การโจมตีกระบี่นี้ทั้งรวดเร็วและแม่นยํา มันโจมตีไปยังพื้นที่อย่างแม่นยํา โดยไม่มีการทําร้ายนิ้วมือของเซียวเฉินสักนิดระหว่างด้ามจับกระบี่และนิ้วมือของเขา
หลิวหรูเยว่เก็บกระบี่ของนางเข้าไปในฝัก มีท่าทางอันโหดเหี้ยมปรากฏบนใบหน้าของนางในขณะที่นางปลดปล่อยจิตสังหารออกมา “ข้าเองก็ควรจะปลดปล่อยทักษะกระบี่ที่รวดเร็วที่สุดในโลกเช่นกัน ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงการวาดกระบี่ที่แท้จริง”
หลังจากหลิวหรูเยว่กล่าว นางชักกระบี่ออกในทันที ทันทีที่กระบี่ออกจากฝัก เกิดลมรุนแรงปรากฏขึ้นจากที่ไหนก็ไม่ทราบ กระบี่เปล่งแสงออกมาด้วยแสงที่เฉียบคมทําให้ดวงตาของเซียวเฉินเจ็บตามการตอบสนองตามธรรมชาติ เซียวเฉินปิดตาของเขา
เมื่อเขาเปิดตาอีกครั้ง ลมอันรุนแรงก็ได้หยุดลงแล้ว หลิวหรูเยว่ถอนกระบี่กลับและยืนตัวตรง ราวกับว่านางไม่ได้ทําอะไรเลย ราวกับว่าเรื่องก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้นเป็นภาพลวงตา
อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินรู้สึกเย็นเยือกเล็กน้อยที่คอของเขา เขายื่นมือออกมาสัมผัสมัน และรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เขาไม่รู้จนเมื่อบาดแผลเล็กปรากฏขึ้นบนคอของเขา
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว หากแผลนี้ลึกขึ้นอีกเล็กน้อย เขาจะต้องสูญเสียชีวิตของเขา
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถตอบโต้ได้เลย เมื่อแสงสุกสกาวสว่างขึ้น ในชั่วพริบตาของเขา เขาถูกโจมตีไปแล้ว ยิ่งกว่านั้น ทันทีที่นางเคลื่อนไหว หลิวหรูเยว่สามารถควบคุมพลังของนางได้อย่างสมบูรณ์
เคลื่อนไหวไปมาอย่างอิสระ สังหารโดยไม่กระพริบตา นี่คือขอบเขตพลังที่หลิวหรูเยว่อยู่ เซียวเฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันน่าขบขัน ในอดีต เขาคิดว่าเขารวดเร็วมากแล้ว ตอนนี้ เขาเชื่ออย่างหมดจด
หลิวหรูเยว่ยิ้มออกมาเล็กน้อย “เย่เฉินน้อย เจ้ายังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของอาจารย์หรือไม่?”
เซี่ยวเฉินยิ้มออกมาอย่างเขินอาย “ข้าไม่กล้าแล้ว ข้าจะ ชื่อฟังคําพูดของพี่สาวหรูเยว่ตลอดในอนาคต ท่านเริ่มสอนสั่งข้าเลยได้หรือไม่?”
รอยยิ้มงดงามปรากฏบนใบหน้าของหลิวหรูเยว่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นมัน เขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น “มีตุ้มถ่วงน้ําหนักอยู่ตรงนั้นสําหรับฝึกฝนร่างกาย ใส่มันหนึ่งร้อยกิโลและวิ่งรอบพื้นที่ประลองยี่สอบรอบ”
“เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พลังปราณ ถ้าข้าพบว่าเจ้าใช้ปราณ ข้าจะผนึกจุดปราณและลงโทษเจ้าเป็นสองเท่า”
เซียวเฉินมองไปที่พื้นที่ประลองขนาดใหญ่ หนึ่งรอบอย่างน้อยก็หนึ่งกิโลเมตร เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมา “พี่สาวหรูเยว่ ไม่ใช่ว่านี่มันมากเกินไปหน่อยหรือ?”
หลิวหรูเยว่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าว “อันดับแรกเจ้าดูถูกอาจารย์ของตน จากนั้นเจ้าก็เถียงกลับ วิ่งเพิ่มอีกสิบรอบ!”
เชี่ยเอ้ย! เซี่ยวเฉินสาปแช่งอยู่ในใจของเขา หลิวหรูเยว่ผู้นี้ ดูเหมือนพี่สาวที่อ่อนโยน ใครจะรู้ว่านางจะเลือดเย็นขนาดนี้เมื่อนางโกรธ
เมื่ออยู่ภายใต้หลังคาบ้านผู้อื่น มันไม่มีทางเลือกนอกจากก้มหัวของเขา เซี่ยวเฉินเดินไปอย่างไร้พลัง และค่อยๆผูกตุ้มถ่วงน้ําหนักก่อนที่จะเริ่มออกวิ่ง มันเป็นเรื่องดีที่ร่างกายของเขาแข็งแกร่ง เขารู้สึกว่ามันไม่ได้ยากจนเกินไป
หลิวสุยเฟิงมีรอยยิ้มกว้างขึ้นบนใบหน้า ในขณะที่เขาค่อยๆมองเซี่ยวเฉินวิ่ง เขาเดินไปหาหลิวหรูเยว่และกล่าว “พี่สาว เซียวเฉินสามารถใช้ออกด้วยทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันพร้อมกับการประทุสายฟ้าในทุกการเคลื่อนไหว มันทรงพลังอย่างมาก มันกล่าวได้ว่าเขายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ทําไมพี่ถึงยังมอบช่วงเวลายากลําบากให้กับเขา?”
ใบหน้างดงามของหลิวหรูเยว่เผยรอยยิ้มเล็กน้อย “สหายผู้นี้มั่นใจเกินไป เขาดูเหมือนว่าจะมีประสบการณ์ต่อสู้แล้ว หากไม่ทําเช่นนี้ เขาจะไม่รับฟัง นอกจากนี้ พื้นฐานของเขาก็อ่อนแอเป็นอย่างมาก และเขาควรจะพัฒนามันให้ดีขึ้น มันยังมีความสามารถแฝงอีกมากมายภายในทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน”
หลิวสุยเฟิงคิดบางอย่างและกล่าว “ก็จริง พี่สาว พี่คิดอย่างไรเกี่ยวกับสิ่งที่ข้าพูดเมื่อวาน?”
“ฟังเสียงดาบและสื่อสารกับมัน?” หลิวหรูเยว่แสดงถึงการคิดอย่างหนัก “เนื่องจากเย่เฉินถูกแนะนําโดยเฟิงเฟยเสวี่ย เขาเคยช่วยช่าวหยางและเซี่ยวเพิ่งไว้ก่อนหน้านี้ มันไม่ควรมีปัญหาเกี่ยวกับตัวตนของเขา
“หากเขาต้องการที่จะเรียน มันไม่มีปัญหาที่จะสอนเขา อย่างไรก็ตาม การฟังเสียงดาบและสื่อสารกับมันนี้เป็นสิ่งที่จับต้องยากเกินไป เราจะไม่ทําเรื่องนี้ในตอนนี้”
หลิวสุยเฟิงมองไปที่ร่างของเซียวเฉินและกล่าว “ข้ารู้สึกว่ายอดเขาฉิงหยุนจะมีโอกาสในการแข่งขันสิ้นปี”
เมื่อหลิวหรูเยว่ได้ยินเรื่องนี้ มีท่าทางอันเศร้าโศกในดวงตาของนาง นางกล่าวอย่างเฉยเมย “ทุกปีที่ผ่านมา ข้าพยายามที่จะพิสูจน์ตนเอง อย่างไรก็ตาม มันไม่เคยมีผู้สืบทอดที่เหมาะสมในยอดเขาฉิงหยุน ข้าหวังว่าข้าจะไม่ผิดหวังในคราวนี้”
เซี่ยวเฉินใช้เวลาทั้งหมดสี่ชั่วโมงในการวิ่งสามสิบรอบ เริ่มแรก เขารู้สึกว่ามันไม่มีอะไร หลังจากนั้น ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพของร่างกายเขา มันไม่ได้มีความเหนื่อยล้ามากแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พลังปราณ
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นไปจนจบ เซียวเฉินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ มันต้องมีวัตถุพิเศษบางอย่างที่อยู่ด้านใต้ของพื้นดินของพื้นที่ประลองอย่างแน่นอน เขารู้สึกได้ถึงพละกําลังของเขาที่หมดลงอย่างรวดเร็ว