ตอนที่ 169 บังคับจูบ?
ตระหนักถึงซ่งเฉวที่อยู่ในอารมณ์เสีย,นางรีบตรงเข้ามาหยุดซ่งเฉวไม่ให้สร้างความลําบากกับยอดเขาฉิงหยุน อย่างไรก็ตาม,นางไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะต่างไปจากที่นางจินตนาการไว้อย่างสิ้นเชิง
อ๋าวเจียวเงยหน้าขึ้นไปเหลือบมองคนผู้นั้นครั้งหนึ่งและไม่กลับไปมองอีก นางรู้ว่านางหมดโอกาสในการสังหารซ่งเฉวแล้ว นางหันกลับและมุ่งหน้าตรงไปที่หลิวหรูเยว่ที่นั่งทรุดอยู่
แม้หลิวหรูเยว่จะได้รับบาดเจ็บสาหัส, นางยังผลาญพลังชีวิตของนางด้วยการใช้ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน ตอนนี้นางอ่อนแอเป็นอย่างมาก หากนางไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม,การบ่มเพาะพลังของนางจะได้รับความเสียหาย
อ๋าวเจียวควบคุมร่างของเซี่ยวเฉินก้าวเท้ายาวไปทางหลิวหรูเยว่ ท่ามกลางสายตางุนงงของหลิวสุยเฟิงเขาอุ้มหลิวหรูเยว่ขึ้นมาในอ้อมกอดของเขา
ตอนนี้,หลิวหรูเยว่อ่อนแอเป็นอย่างมากและไม่สามารถหลุดพ้นไปจากอ๋าวเจียวได้แม้ว่านางจะต้องการ ดวงตาของนางมองมาที่เซี่ยวเฉินอย่างงุนงง
“เย่เฉิน,เจ้าจะทําอะไร!” หลิวสุยเฟิงถามขึ้นเต็มไปด้วยความงุนงง เขาสามารถรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเซี่ยวเฉิน
ในขณะเดียวกัน เซี่ยวเฉินมีความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้นในใจของเขา เขาถามขึ้นในทันที “อ๋าวเจียวเจ้าจะทําอะไร!”
“ชิ!”
อ๋าวเจียวเมินเฉยกับพวกเขาทั้งสอง นางโน้มตรงไปที่ริมฝีปากของหลิวหรูเยว่ อ๋าวเจียวปลดปล่อยแสงสีทองออกมาจากริมฝีปากของเซี่ยวเฉิน มันค่อยๆลอยเข้าไปในปากของหลิวหรูเยว่
นี่เป็นพลังปราณแท้บริสุทธิ์แห่งสวรรค์และปฐพี มันแบกเอาพลังชีวิตอันไร้ขอบเขตเอาไว้
“ให้ตาย! อ๋าวเจียว! เจ้าพยายามจะฆ่าข้าหรือไร!”
“ไม่ใช่,ข้ากําลังช่วยนาง พอคิดว่าเจ้ากลับกล่าวหาข้าเช่นนี้!”
“เช่นนั้นเจ้าจะสอดลิ้นเข้าไปทําไม?! เจ้าตัวร้าย!”
“นี้มัน…ข้าไม่เคยจูบมาก่อนและอดไม่ได้ที่จะลองดู หุบปากซะ! เจ้ามีแต่ได้ประโยชน์ แค่หุบปากและนั่งนิ่งๆ!”
หลิวหรูเยวมองไปที่เซี่ยวเฉินด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง:ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจ ขณะที่เซี่ยวเฉินมองเข้าไปในดวงตาของนาง,เขาสามารถมองเห็นได้ถึงอารมณ์ของนางอย่างชัดเจนแต่เขาไม่อาจขยับร่างกายของเขาได้เขาไม่สามารถรู้สึกถึงสัมผัสใดๆ
“โปะ!”
อ๋าวเจียวควบคุมร่างกายของเซี่ยวเฉินและปล่อยจากริมฝีปากของหลิวหรูเยวพร้อมกับเสียง “โปะ” เสียงมันไม่ได้ดังแต่ภายในหุบเขาที่เงียบสงัด,มันราวกับเสียงระเบิด
หัวใจของสานุศิษย์ศาลากระปสวรรค์ระเบิดออกอย่างรุนแรง เสียง “โปะ” นั้นทําหัวใจของพวกเขาแตกสลาย
ทุกคนล้วนรู้จักสามเทพธิดาแห่งศาลากระปสวรรคะเจ้าศาลาน้อย เหลิ่งหลิวซู,ฉู่ชินอวิ๋นแห่งยอดเขาสตรีหยก,และหลิวหรูเยวแห่งยอดเขาฉิงหยุน แม้ว่าหลิวหรูเยว่จะไม่มีคนไล่ตามมากมายเช่นสองคนก่อนหน้า,มันเป็นเพราะนิสัยมุทะลุของนาง
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครปฏิเสธถึงความงามของนาง นางเต็มไปด้วยเสน่ห์ของผู้ใหญ่ เสนห์เช่นนี้เป็นบางสิ่งที่เหลิ่งหลิวซูและฉู่ชินอวิ๋นไม่อาจเทียบได้
ในหัวใจของชายทุกผู้มีความรักเพ้อฝันถึงพี่สาวคนสวย บางทีนี่อาจจะเป็นจูบแรกของหลิวหรูเยว่ หลังจากความตกตะลึงของพวกเขา,ทุกคนล้วนมองไปยังเซี่ยวเฉินด้วยสายตาอิจฉาและเกลียดชัง หัวใจของพวกเขาแตกสลายไปพร้อมกับฉากตรงหน้า
อ๋าวเจียวเผยสีหน้าสนุกสนานบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน ฉากนี้สะท้อนบนดวงตาของฝูงชน มันช่างดูต่ำช้าสามานย์
“มันจบแล้ว จากนี้ไป,ศาลากระปสวรรค์ของพวกเขาจะเหลือเทพธิดาเพียงสอง”
“แน่นอน! เจ้าหมอนั้นช่างไร้ยางอาย มันไม่เป็นไรหากเพียงแค่จูบนาง ตอนนี้เจ้ายังเผยสีหน้าต่ำช้า ช่างน่ารังเกียจ!”
“หากนั้นเป็นข้า…นี่เป็นจูบแรกของศิษย์พี่หลิวหรูเยว่!”
หลังจากฝูงชนตกไปสู่ความเงียบ,พวกเขาก็เกรี้ยวกราดอย่างสมบูรณ์ สายตาที่พวกเขามองไปยังเซี่ยวเฉินกลายเป็นความอิจฉาริษยา,และเกลียดชังปั่นรวมกันเป็นความอาฆาตหนาแน่น
อย่างไรก็ตาม,ฝูงชนไม่อาจรู้ได้ว่าเซี่ยวเฉินประสบปัญหาที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ เขาเริ่มที่จะสาปด่า หากเขาได้รู้สึกถึงสัมผัสอะไรบ้าง มันก็เป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้สึกถึงรสสัมผัสอะไรแม้แต่น้อย จูบแรกของเขาผ่านไป,ผ่านไปเช่นนั้น เขาโยนความผิดทุกอย่างใส่อ๋าวเจียว
“เจ้านายขยะ, อย่าลืมที่จะเข้าใจถึงฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่นนั้น, ข้าจะออกมาเล่นสนุกได้เป็นครั้งคราว โอ้ และดาบหักที่อยู่ในแหวนห้วงจักรวาล อย่าลืมหลอมมันกลับมาใหม่เมื่อเจ้าทําได้”
ในน้ำเสียงสนุกสนานของอวเจียวสัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้า หลังจากที่นางพูดจบ,เซี่ยวเฉินก็รู้สึกมึนหัวเล็กน้อย การควบคุมร่างกายของเขาได้กลับมา
หลังจากที่เขาคืนสติ,เขารีบปล่อยหลิวหรูเยว่ออกจากอ้อมอกของเขา ขณะที่เขามองไปยังใบหน้าอันงดงามที่เต็มไปด้วยเลือดของนางเขาพูดขึ้นอย่างกังวลใจ “พี่สาวหรูเยว่.. ข้า..”
หลิวหรูเยวยิ้มบางเบา ใบหน้าอันงดงามของนางราวกับบุปผา แม้ว่าจะปกคลุมไปด้วยเลือด,มันบดบังเสน่ห์ของนางไม่ได้แม้แต่น้อย “อย่ามาโง่เง่า,ข้ารู้ว่านั้นไม่ใช่เจ้า”
หลังจากที่หลิวหรูเยว่พูดจบ,นางก็ปิดตาลงและนั่งขัดสมาธินางเริ่มซึบซับปราณแท้แห่งสวรรค์และปฐพีอย่างช้าๆ เข้าไปในร่างของนาง ปราณแท้แห่งสวรรค์และปฐพีที่อ๋าวเจียวมอบให้นางในครั้งนี้มันมากกว่าที่นางให้กับเสี่ยวไป๋ นางจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนในการซึบซับปราณแท้แห่งสวรรค์และปฐพี่เข้าไปได้อย่าหมดจด
มันสามารถกล่าวได้ว่าหลิวหรูเยว่นั้นได้รับโชคผ่านภัยพิบัติ ไม่เพียงแต่ระดับการบ่มเพาะพลังของนางจะไม่ลดลง,นางจะสามารถยกระดับมันขึ้นไปอีกหลังจากครึ่งเดือน
เซี่ยวเฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก สายตาของเขาตกไปที่ขนตายาวงอนของหลิวหรูเยว่ อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินพบว่าแม้ว่านางจะหลับตาปี,ขนตาของนางก็สั่นไหวอย่างอดไม่ได้
ดูเหมือนพี่สาวหรูเยวจะไม่ได้นิ่งสงบอย่างที่นางว่า เซี่ยวเฉินถอนหายใจกับตัวเอง เขาไม่รู้แล้วว่านี้เป็นพรประทานหรือภัยพิบัติ,ไม่รู้แม้แต่จะรับมือกับมันเช่นไร
“ฟุ่ว! ฟิ่ว!”
ไม่ไกลนัก,ซ่งเฉวได้รับเม็ดยาจากสตรีลึกลับ สีหน้าเจ็บปวดของเขาในที่สุดก็ทุเลาลง
ทันใดนั้น,ซ่งเฉวสัมผัสได้ว่ากระแสพลังน่ากลัวในร่างของเซี่ยวเฉินได้หายไปอย่างสมบูรณ์ มันเห็นชัดว่าไม่ได้อยู่ในสถานะเมื่อก่อนหน้านี้อีกแล้ว
คิดถึงความอัปยศที่เขาประสบในวันนี้ ซ่งเฉวรู้สึกมืดมนอย่างไม่น่าเชื่อ มองดูเซี่ยวเฉินที่ไม่ได้สนใจเขาเจตนาฆ่าหนาแน่นไหลล้นออกมาจากดวงตาของเขา
ร่างของเขากระโดดขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเสียง “โซว” เขาเก็บกระบี่หนาขึ้นมาและปรากฏตัวขึ้นที่เซี่ยวเฉิน มือของเขายกกระบี่ขึ้นและลงเขาสับลงไปที่หลังของเซี่ยวเฉินอย่างเรียบง่าย
เมื่อผู้คนที่อยู่โดยรอบมองเห็นฉากนี้พวกเขาล้วนตกตะลึง ซ่งเฉวผู้นี้จะไร้ยางอายเกินไปแล้ว เขากล้าลอบโจมตีผู้เยาว์
หน้าอกของเซี่ยวเฉินบีบรัด,ชีวิตของข้ากําลังจะจบลง!
ทันทีที่ซ่งเฉินจับกระบี่ขึ้นมา เซี่ยวเฉินสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟันเย็นเฉียบ อย่างไรก็ตาม,ปราศจากอ๋าวเจียวค่อยควบคุมเขา,แม้ว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟัน,เขาไม่อาจตอบสนองได้ทันความเร็วของขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด
ยิ่งกว่านั้นเขาถูกโจมตีจากข้างหลัง แม้ว่าเขาอยากจะตอบโต้,เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้หันหลังกลับ
“ไสหัวไป!”
ในจังหวะนั้นเอง,มีเสียงตะโกนนิ่มนวลดังมาจากจุดยอดสุดของยอดเขาฉิงหยุน มันเป็นเพียงตัวอักษร “ไสหัว” แต่มันราวกับได้เดินทางผ่านมิติและกาลเวลา มันเจาะทะลุช่องว่างแบกพลังอันไร้ขอบเขต,และชัดเข้าที่ร่างของซ่งเฉวอย่างรุนแรง
ฝูงชนเห็นอย่างชัดเจน “ไสหัว” ถูกประทับลงบนร่างของซ่งเฉว ดินแดนเล็กดูเหมือนประกาศ และร่างของซ่งเฉวทันใดนั้นก็ขดลงและกลิ้งกลับไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกบอลยาง
“บูม! บูม! บูม!” เขาม้วนกลิ้งไปไม่ทราบระยะทาง ซ่งเฉวหายไปจากตีนเขาของยอดเขาฉิงหยุน
เขาเพิ่งได้ไปสัมผัสกับประตูนรกมาเซี่ยวเฉินรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง,เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบหยดลงที่หลังของเขาอย่างต่อเนื่อง่ ่
“ใครคือเย่เฉิน!”
ทันใดนั้น,สี่ขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่แต่งการชุดเครื่องแบบของโถงคุมกฏลอยลงมาจากท้องฟ้า หลังจากลงถึงพื้น,พวกเขาถามขึ้นในทันที ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เมื่อซ่งเชียนเหอเห็นพ่อของเขากําลังอยู่ในอันตราย เขาได้ส่งคนไปแจ้งโถงมกฏ
มองเห็นโถงคุมกฏได้มาถึงแล้ว ซ่งเชียนเหอผู้ที่กําลังห่อตัวเป็นเกี๊ยว,กระโดดออกมาอย่างรวดเร็ว เขาชี้ไปที่เซี่ยวเฉินและตะโกนขึ้น “นั้นเขา เขาได้ดูหมิ่นผู้อาวุโส,เขานําความอัปยศมาแก่พ่อของข้า จากนั้นเขาก็ใช้สมบัติลับและพยายามจะสังหารท่านเจ้ายอดเขาซื้อวุ่น ความผิดของเขาช่างใหญ่หลวง ข้าร้องขอให้ผู้อาวุโสโถงคุมกฏสังหารมันเสียตรงนี้”
“โถงคุมกฏรู้ว่ากําลังทําอะไร มันไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องมาสั่ง” หนึ่งในกลุ่มพวกเขากล่าวพร้อมกับมองไปที่ซ่งเชียนเหออย่างรังเกียจ
พวกเขาที่เหลือก้าวตรงไปที่เซี่ยวเฉินและพูดขึ้น “มากับพวกเราก่อน เจ้าสามารถออกไปได้หลังจากที่พวกเราสอบสวนเสร็จ”
เมื่อหลิวหรูเยว่ ผู้ที่กําลังนั่งขัดสมาธิและควบคุมพลังงานของนางได้ยินเสียงของคนจากโถงคุมกฎ,นางรีบหยุดการควบคุมพลังงานของนางและยืนขึ้น นางกล่าว “รอก่อน ข้าจะพาตัวไปที่โถงคุมกฏในสามวันให้หลัง พวกท่านถอนตัวกลับไปก่อนเป็นการชั่วคราวได้หรือไม่?”
หลิวหรูเยว่คุ้นเคยกับสถานที่เช่นโถงคุมกฏอย่างมาก โดยทั่วไป, หากมันเป็นปัญหาธรรมดาจะถูกจัดการอย่างเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม,หากมันถูกแทรกแซงโดยผู้มีอํานาจระดับสูงของศาลากระบี่สวรรค์ เมื่อเซี่ยวเฉินเข้าไปเขาอาจจะไม่ได้กลับออกมาอีก
“ใครจะรู้ว่าสถานการณ์จะกลับกลายเป็นเช่นไรในสามวันให้หลัง หากเจ้าต้องการจะอธิบายเช่นนั้นก็มากับพวกเราเดียวนี้” คนผู้นั้นพูดอย่างไม่อ่อนข้อเขาไม่ยอมรับคําขอของหลิวหรูเยว่
ในตอนนี้หลิวหรูเยว่บาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถไปกับพวกเขาได้ เซี่ยวเฉินกล่าวขึ้นมา “โปรดอย่าทําให้อาจารย์ของข้าต้องลําบาก ข้าจะไปกับพวกท่าน”
“บูม!”
ในจังหวะนั้นเอง,กล่องไม้สี่เหลี่ยวทันใดนั้นก็ตกลงมาต่อหน้าโถงคุมกฏทั้งสี่ ด้านหน้าของกล่องไม้หันไปทางโถงคุมกฎ
กล่องไม้มันช่างธรรมดาสามัญ:มันไม่มีอะไรโดดเด่น อย่างไรก็ตาม,มีสี่ตัวอักษรสีทองเขียนอยู่ที่ด้านหน้าของมัน – เสมือนจักรพรรดิเสด็จมาเอง
เมื่อคนทั้งสี่เห็นอักษรที่ด้านหน้าของกล่องไม้ สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนในทันที พวกเขาเงยหน้าขึ้นไปที่ยอดเขาฉิงหยุนและคํานับด้วยความเคารพ จากนั้นพวกเขาก็จากไปราวกับกําลังวิ่งหนี
มีมือไร้รูปที่ดูเหมือนจะลงมาจากท้องฟ้าและเก็บเอากล่องไม้ พร้อมเสียง “โซว” มันก็กลับไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กล่องไม้นั้นช่างดูคุ้นเคยอย่างมากแต่เซี่ยวเฉินไม่ไปคิดถึงมันในตอนนี้ เขาหันกลับมาและจับหลิวหรูเยวนั่งลง เขากล่าว “เจ้าควรควบคุมพลังงานต่อไป ทุกอย่างที่เจ้าทําเมื่อครู่สูญเปล่าไปเพราะเจ้ายืนขึ้น”
หลิวหรูเยว่พยักหน้าเบาๆและมองไปที่ยอดเขาฉิงหยุดที่สูงตระหง่านด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นนางก็ถอยหายใจอย่างนุ่มนวลและนั่งขัดสมาธิอีกครั้ง
สตรีลึกลับผู้นั้นมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าและเดินเข้ามาหาเซี่ยวเฉินอย่างช้าๆ นางพูดขึ้น “วีรบุรุษโผล่มาจากรุ่นเยาว์ ดูเหมือนข้าจะมาเสียเที่ยวแล้ว น้องชายเย่,หากเจ้ามีเวลาในอนาคต,ต้องมาเยี่ยมเยือนยอดเขาสตรีหยก”
หลังจากที่นางพูดจบ,สตรีนางนั้นหยิบเอาขวดยาออกมาและยื่นให้กับหลิวสุยเฟิง,ฝากเขาให้กับหลิวหรูเยว่
มองดูสตรีนางนั้นส่งขวดยามาให้กับเขา,ใบหน้าหัวหมูของหลิวสุยเฟิงเผยสีหน้าตื่นเต้นถึงขีดสุด ความตื่นเต้นเล็กน้อยในใจของเขา,จากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ถูกลบหายไปในทันที
สตรีนางนั้นยืนนามบัตรให้กับเซี่ยวเฉินและพูดขึ้น “หากเจ้ามีเวลาเจ้าจะต้องมาเยือนยอดเขาสตรีหยกให้ได้”
สายตาทุกครู่ในบริเวณรอบข้างเต็มไปด้วยความอิจฉาเซี่ยวเฉินรับเอานามบัตรมา สตรีนางนี้มีภาวะอารมณ์พิเศษ ผู้ใดที่เหลือบมองไปเห็นนางจะทําให้ผู้นั้นตกลงไปในหุบเหวที่ไม่อาจปืนกลับขึ้นมาได้
เขารู้สึกประหลาดอย่างช่วยไม่ได้ มีสตรีที่งดงามถึงเพียงนี้ในยอดเขาสตรีหยก? นางไม่อาจต้านทานได้ยิ่งกว่าฉู่ชินอวิ๋นเสียอีก เขาคํานับมือและพูดขึ้น “ขอบคุณสําหรับคําเชิญชวนของพี่สาว ข้าจะไปเยือนยอดเขาสตรีหยกอย่างแน่นอน หากข้ามีเวลา”
หลังจากที่เซี่ยวเฉินพูดจบ,คนรอบข้างต่างเผยสีหน้าประหลาดอย่างสุดขีด พวกเขาอดที่จะพูดขึ้นในใจไม่ได้ เจ้าหมอนี้มันจะไร้ยางอายเกินไปแล้ว! เขาไร้ยางอายยิ่งกว่าตาแก่นั้น,ซ่งเฉว