พ่อเลี้ยงยอดเซียน – บทที่ 907 ประหลาดใจจนทำตัวไม่ถูก

บทที่ 907 ประหลาดใจจนทำตัวไม่ถูก

หลังจากเย่เจียงไห่จากไป นักพรตชุดเขียวก็ควักยันต์สื่อสารแผ่นหนึ่งขึ้นมาเปิดใช้งานทันที จากนั้นเขาเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับอาจารย์ของเขาได้ฟังว่ามีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งขึ้นมาจากโลกเบื้องล่าง และต้องการมุ่งหน้าไปยังตำหนักไร้หทัย

จากนั้นเรื่องนี้ก็ถูกส่งต่อตามลำดับขั้นขึ้นไปเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดผู้นำยอดเขาเต๋าเทวะ เจ้าแห่งพรตเต๋า ฉิงอี้ จึงได้รู้เรื่องทุกอย่างเช่นกัน

เมื่อเจ้าแห่งพรตเต๋าได้ทราบเรื่อง ร่างของเขาได้หายไปจากยอดเขาเต๋าเทวะทันทีและไปปรากฏกายอีกทีที่ด้านในอารามสันติสุขในพริบตา

เจ้าแห่งพรตเต๋าถามนักเพรตชุดเขียวทันทีเมื่อปรากฏกายขึ้น “คนที่เพิ่งขึ้นมาจากโลกเบื้องล่างผู้นั้นไปไหนแล้ว?”

“คารวะเจ้าแห่งเต๋า! เขาบินมุ่งหน้าไปที่ตำหนักไร้หทัยแล้ว!” นักพรตชุดเขียวพูดขึ้นพลางไปยังทิศทางที่เย่เจียงไห่จากไป

นักพรตชุดเขียวรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากอยู่ในใจ เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้นำสูงสุดของเขาถึงได้มาที่นี่ด้วยตัวเองแบบนี้เพื่อถามหาผู้เชี่ยวชาญธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่เพิ่งขึ้นมาจากโลกเบื้องล่าง

เจ้าแห่งพรตเต๋ามองไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่เย่เจียงไห่บินมุ่งหน้าไป พร้อมกับใช้เจตจำนงอันทรงพลังของตนเองกวาดหาตำแหน่งของเย่เจียงไห่ทันที

จากนั้นเขาดีดนิ้วไปที่นักพรตเต๋าชุดเขียวหนึ่งครั้งก่อนที่ร่างกายของเขาจะหายไปในชั่วพริบตา

“เจ้าทำได้ดีมาก เศษเสี้ยวแก่นแท้เต๋านี้ถือว่าเป็นรางวัลให้เจ้า!”

เมื่อได้รับเศษเสี้ยวแก่นแท้เต๋า ระดับการบ่มเพาะของนักพรตชุดเขียวทะลวงขึ้นไปสู่ขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญขั้นกลางทันที ซึ่งเจ้าตัวเองรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก

ไม่ใช่ว่ายอดเขาเต๋าเทวะของเขาไม่ถูกกับตำหนักไร้หทัยไม่ใช่รึไง? แล้วทำไมผู้นำของเขาถึงได้มอบรางวัลให้กับเขาแบบนี้?

อีกด้านหนึ่ง เย่เจียงไห่กำลังบินมุ่งหน้าไปยังตำหนักไร้หทัยด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย อยากจะบินให้ไวได้มากกว่านี้สัก 100 เท่า เพราะถ้าหากหลิงตู้ฉิงขึ้นมาบนโลกเบื้องบนแล้ว และเขายังบินไปไม่ถึงตำหนักไร้หทัย มันคงจะเป็นเรื่องที่น่าอายเป็นอย่างมาก!

แต่แล้วหลังจากที่เขาบินไปได้ไม่กี่แสนกิโลเมตร ตะขาบยักษ์ตัวหนึ่งที่มีความยาวราว 300 เมตร จู่ ๆ ก็ผุดขึ้นมาจากพื้นดินและบินพุ่งมาหาเขาซะอย่างนั้น

เย่เจียงไห่ เมื่อเห็นเช่นนี้เหงื่อเม็ดเป้ง ๆ ผุดขึ้นบนหน้าผากของเขาทันที

บ้าเอ๊ย! ตะขาบวายุขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญ ทำไมข้าถึงซวยขนาดนี้!

เย่เจียงไห่รีบหยิบเตาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของเขาขึ้นมาทันที และปล่อยเพลิงที่กักเก็บอยู่ในเตาพุ่งไปหาตะขาบวายุ แต่น่าเสียดายที่ระดับการบ่มเพาะของเย่เจียงไห่ต่ำเกินไป เพลิงที่เขาปล่อยออกไปมันจึงไม่สามารถทำอะไรตะขาบวายุได้เลยแม้แต่น้อย

ตะขาบวายุพุ่งผ่านพลังเพลิงของเย่เจียงไห่มาได้อย่างสบาย ๆ แต่แล้วในขณะที่มันกำลังจะเข้าถึงตัวเย่เจียงไห่ จู่ ๆ ร่างของเย่เจียงไห่ก็หายไปส่งผลให้ตะขาบวายุงุนงงเป็นอย่างมาก

ตะขาบวายุมองซ้ายมองขวาพร้อมกับใช้เจตจำนงของมันกวาดดูพื้นที่โดยรอบอยู่สักพัก แต่แล้วเมื่อมันไม่สามารถจับสัมผัสของเย่เจียงไห่ได้อีกต่อไปมันจึงบินกลับลงไปที่พื้นดินด้วยท่าทีขุ่นเคือง

เย่เจียงไห่ ในขณะนี้กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ซึ่งพื้นที่รอบกายของเขามีแต่ความอ้างว้างไม่มีอะไรเลยราวกับว่าตอนนี้เขาหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง

เมื่อเห็นเช่นนี้หัวใจของเขาเต้นแรงทันที เพราะเขาพอจะเดาได้ว่าตอนนี้เขาน่าจะอยู่ในโลกของตัวตนระดับสูงมาก ๆ สักคนหนึ่ง

ความกว้างใหญ่ของโลกแห่งนี้หากเทียบกับของเขาเอง โลกของเขาน่าจะมีขนาดพอ ๆ กับเมล็ดแตงโม แต่โลกนี้น่าจะมีขนาดใหญ่ไม่น้อยกว่าแตงโมผลที่สุกเต็มที่แล้ว

“ข้าไม่ทราบเป็นผู้อาวุโสผู้ใดที่ช่วยเหลือข้า แต่ข้าขอขอบคุณท่านจริง ๆ ที่เมตตาผู้เยาว์!” เย่เจียงไห่รีบขอบคุณทันที

เขาสัมผัสได้ว่าผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยเขาไว้นั้นมีระดับสูงกว่าเขามาก ๆ ถึงแม้ว่าเทียบกับชีวิตที่แล้วก็ยังมีระดับสูงกว่าแบบไม่เห็นฝุ่น ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่แสดงความนอบน้อมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เจ้าแห่งพรตเต๋าปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเย่เจียงไห่ทันที และถามขึ้นว่า “ทำไมเจ้าต้องไปที่ตำหนักไร้หทัย?”

เย่เจียงไห่แสดงอาการอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าเขาควรจะตอบดีหรือเปล่า

เจ้าแห่งพรตเต๋าไม่ได้คาดเค้นอะไร เมื่อเย่เจียงไห่ไม่ตอบ เขายิงคำถามต่อไปทันที “เจ้ารู้จักกับสำนักเต๋าสวรรค์ดีขนาดไหน?”

เย่เจียงไห่ตอบด้วยความระมัดระวังว่า “ความสัมพันธ์ของผู้เยาว์กับสำนักเต๋าสวรรค์นั้นคงนับไม่ได้ว่าใกล้ชิด แต่มันก็ไม่นับว่าห่างไกลเช่นกัน ว่าแต่ผู้เยาว์ขอทราบนามของผู้อาวุโสสักหน่อยจะได้หรือไม่?”

เจ้าแห่งพรตเต๋ายิ้มและตอบกลับ “ข้าอยู่มานานมากแล้วจนมีชื่อมากมายซะเหลือเกิน เอาเป็นว่าเจ้าสามารถเรียกข้าได้ว่า เจ้าแห่งพรตเต๋า ผู้นำแห่งยอดเขาเต๋าเทวะ และที่ข้ามาหาเจ้าก็เพราะข้าอยากจะเข้าใจอะไรบางอย่างเท่านั้น”

เมื่อเย่เจียงไห่รู้แล้วว่าคู่สนทนาของเขาคือเจ้าแห่งพรตเต๋า เขารีบคุกเข่าลงคารวะทันที

ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ แม้ว่าเป็นเมื่อตอนชีวิตที่แล้วเย่เจียงไหก็ไม่มีทางเทียบได้กับตัวตนเช่นเจ้าแห่งพรตเต๋า

เย่เจียงไห่รีบเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเคารพทันที “ก่อนหน้านี้ผู้เยาว์เพิ่งร่วมมือกับเหล่าศิษย์ของท่านสำนักเต๋าสวรรค์ทำลายสำนักเงินตราไปก่อนที่ผู้เยาว์จะขึ้นมาบนโลกเบื้องบน ดังนั้นผู้เยาว์จึงพอที่จะมีความสัมพันธ์กับเหล่าศิษย์ของผู้อาวุโสอยู่บ้าง”

“นี่พวกเจ้าทำลายสำนักเงินตราได้สำเร็จงั้นเหรอ?” เจ้าแห่งพรตเต๋าเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ “พวกเจ้าร่วมมือกับคนอื่นอีกรึเปล่าในการทำลายสำนักเงินตรา?”

เจ้าแห่งพรตเต๋ามองปราดเดียวก็รู้ว่าความแข็งแกร่งของเย่เจียงไห่นั้นมีแค่ไหน ซึ่งความแข็งแกร่งของสำนักเงินตรานั้นไม่ธรรมดาเลย ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อว่าลำพังแค่เย่เจียงไห่และเหล่าศิษย์ของเขาจะสามารถทำลายสำนักเงินตราได้

“ไหนแสดงรายละเอียดทั้งหมดให้ข้าดูที!” เจ้าแห่งพรตเต๋าเอ่ยขึ้น

เย่เจียงไห่พยักหน้าพร้อมกับใช้เจตจำนงของเขาเองฉายภาพในความทรงจำของเขาขึ้นมาให้กับเจ้าแห่งพรตเต๋าได้เห็นเหตุการณ์วันถล่มสำนักเงินตราทั้งหมด

ในตอนแรกเมื่อเห็นหลิงตู้ฉิง เจ้าแห่งพรตเต๋าก็ยังจำไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นใคร แต่เมื่อหลิงตู้ฉิงหยิบง้าวเทวะพินาศขึ้นมาถือไว้ในมือ เจ้าแห่งพรตเต๋าก็อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิด

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้สำนักเงินตราถูกทำลายลง ที่แท้ก็เป็นเพราะไอ้สารเลวนั่น!

ด้วยความสามารถของไอ้สารเลวนั่น มันจึงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่สำนักเงินตราจะต้องถูกทำลาย

“ชายคนที่ใช้ง้าวและมีลูกหลาย ๆ คน เจ้ารู้จักเขาดีแค่ไหน?” เจ้าแห่งพรตเต๋าถามขึ้นด้วยสีหน้าคาดหวัง

เย่เจียงไห่ เมื่อได้ยินคำถามนี้เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่เจ้าแห่งพรตเต๋ารู้ว่าหลิงตู้ฉิงมีลูกหลายคน แต่เขารีบเก็บอาการทันทีและตอบกลับว่า “ผู้เยาว์รู้จักเขา เขาเป็นน้องเขยผู้เยาว์เอง”

เมื่อพูดจบ เย่เจียงไห่ก็ฉายภาพความทรงจำที่เขามีกับหลิงตู้ฉิงทั้งหมดให้กับเจ้าแห่งพรตเต๋าได้ดู ซึ่งรวมไปถึงภาพของเหล่าลูก ๆ ของหลิงตู้ฉิงด้วย

เมื่อเห็นภาพของหลิงว่านถิง เจ้าแห่งพรตเต๋าพยักหน้าด้วยความพึงพอใจในทันที

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นภาพที่ฉายขึ้นจากความทรงจำของเย่เจียงไห่ แต่ด้วยตัวตนระดับเจ้าแห่งพรตเต๋าเขาจึงสามารถมองอะไรออกได้หลายอย่าง

เมื่อเจ้าแห่งพรตเต๋าได้เห็นสิ่งที่เขาต้องการจะเห็นทั้งหมดแล้วเขาจึงพูดขึ้นว่า “ไอ้สารเลวนั่นไม่เลวเลยจริง ๆ เอาล่ะข้าจะมอบเศษเสี้ยวแก่นแท้เต๋าให้และจะปล่อยให้เจ้าเดินทางต่อไปตามทางของเจ้า จงมุ่งหน้าต่อไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือแล้วเจ้าจะได้รับผลประโยชน์มากมาย”

เมื่อพูดจบเจ้าแห่งพรตเต๋าโบกมือส่งเย่เจียงไห่ให้ไปปรากฏกายอยู่จุดที่ไกลกว่าเดิมอีกราว 1 ล้านกิโลเมตร ส่วนตัวของเขาเองก็กลับไปที่ยอดเขาเต๋าเทวะ

หลังจากนั้นสักพัก บรรดาตัวตนระดับสูงทั้งหลายจากหลายฝ่ายก็เริ่มเคลื่อนไหวกันในทันที

เย่เจียงไห่รู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าแห่งพรตเต๋าถึงได้มอบเศษเสี้ยวแก่นแท้เต๋าให้กับเขาแบบนี้? เจ้าแห่งพรตเต๋ามีจุดมุ่งหมายอะไรหรือเปล่าถึงได้ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นจนตอนนี้เหลืออีกเพียงก้าวเดียวเขาก็จะทะลวงขึ้นไปถึงขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญ?

แต่เมื่อคิดไปคิดมาเขาก็รู้สึกเสียดายอยู่ในใจลึก ๆ เพราะถ้าหากเขาสามารถเป็นศิษย์ของเจ้าแห่งพรตเต๋าได้มันก็คงเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากกว่าเดิม การมีเจ้าแห่งพรตเต๋าคอยหนุนหลังมันคงจะทำให้เขาไม่ต้องกลัวใครในโลกเบื้องบนจริงไหม?

แต่แล้วในขณะที่เขากำลังอ้อยอิ่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จู่ ๆ เขาก็สัมผัสได้ว่าสภาพแวดล้อมรอบกายของเขาเปลี่ยนไปอีกแล้ว ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่ทำให้เขารู้ตัวว่าเขาถูกดูดเข้าไปในโลกของตัวตนระดับสูงอีกรอบ

“ฮ่าฮ่า ดีจริง ๆ ที่เจ้าเป็นมนุษย์!” ราชันแห่งมวลมนุษย์หัวเราะพลางจ้องไปที่เย่เจียงไห่ “เจ้าเพิ่งขึ้นมาจากโลกเบื้องล่างสินะ? ไหนเล่าให้ข้าฟังสักหน่อยว่าตอนนี้ราชันแห่งมวลมนุษย์ของโลกเป็นยังไงและเขาเป็นคนแบบไหน?”

เขามั่นใจว่าลูกชายของเขาได้เป็นราชันแห่งมวลมนุษย์แน่นอน

เย่เจียงไห่รู้สึกตกตะลึงหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อครู่ก็เป็นเจ้าแห่งพรตเต๋ามาถามเขา ตอนนี้กลับเป็นราชันแห่งมวลมนุษย์ นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?

เมื่อได้ยินคำถามของราชันแห่งมวลมนุษย์ เย่เจียงไห่ไม่กล้าละเลยแม้แต่นิด เขารีบฉายภาพที่เกี่ยวกับหลิงยี่เทียนให้กับราชันแห่งมวลมนุษย์ดูทันที

เย่เจียงไห่รู้ข้อมูลของหลิงยี่เทียนดีพอสมควร โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาขนย้ายสมบัติของอาณาเขตเงินตรา ซึ่งกินเวลาเป็นปี

เมื่อดูภาพของหลิงยี่เทียนไปสักพัก ราชันแห่งมวลมนุษย์พยักหน้าด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลิงตู้ฉิงสอนลูกของเขาได้ดีจริง ๆ

“ขอบใจเจ้ามากสำหรับข้อมูล” ราชันแห่งมวลมนุษย์พูดขึ้น “แต่ข้าคงไม่พาเจ้าไปส่งที่ตำหนักไร้หทัยนะ เพราะการเดินทางนี้ของเจ้ามันเกี่ยวข้องกับวาสนาของเจ้าเองด้วย ดังนั้นเจ้าจำเป็นต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง แต่ให้ข้าแนะนำเจ้าสักหน่อย หากมีใครมาถามอะไรเจ้าอีก เจ้าจงแสดงภาพของเหล่าเด็ก ๆ พวกนั้นให้กับทุกคนดูแล้วการเดินทางของเจ้าจะยิ่งราบรื่นยิ่งขึ้น!”

เมื่อพูดจบราชันแห่งมวลมนุษย์ก็โบกมือส่งเย่เจียงไห่ไปปรากฏกายยังจุดที่ห่างออกไปอีกหลายล้านกิโลเมตร

พ่อเลี้ยงยอดเซียน

พ่อเลี้ยงยอดเซียน

Status: Ongoing

พ่อเลี้ยงยอดเซียนเรื่องย่อ พ่อเลี้ยงยอดเซียน

ไม่นึกเลยว่าอารมณ์ทั้งเจ็ดจะมีผลต่อการบ่มเพาะเช่นนี้!

ในชาติที่แล้วอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นข้าจะกลายเป็นนิรันดร์กาล!

ข้ายอมสละอารมณ์ทั้งเจ็ดเพื่อความเป็นนิรันดร์ แต่ท้ายที่สุดข้ากลับต้องเผชิญกับทางตัน วิถีไร้อารมณ์นั้นบกพร่อง!

ในเมื่อวิถีไร้อารมณ์ไม่สามารถพาข้าก้าวข้ามไปถึงขอบเขตนิรันดร์กาล ข้าต้องกลับไปจุติใหม่! ในชีวิตหน้าข้าจะเปลี่ยนวิถี! ในชีวิตหน้าข้าจะฟื้นฟูอารมณ์ทั้งเจ็ดของข้า!

ชาติหน้าข้าจะโอบรับพวกมันทั้งหมด

ความรัก ความชัง ปรารถนา โศกศัลย์ ยินดี เดือดดาล สุขสันต์

ครั้งนี้ข้าจักต้องไม่พลาด รอบนี้ข้าจักต้องให้ทุกสรรพสิ่งขนานนามข้าว่า ‘ไร้เทียมทาน!’

จักรพรรดิเซียนไร้อารมณ์ ผู้แสวงหาความเป็นนิรันดร์ ตัดสินใจจุติใหม่ แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อยามที่เขาลืมตาดูโลกขึ้นอีกครั้ง เขากลับจุติอยู่ในร่างของชายหนุ่มอายุยี่สิบห้าปี ที่สำคัญชายผู้ที่เขาลงมาจุติในร่างกลับอุปการะบุตรบุญธรรมไว้แล้วถึงเจ็ดคน! และเด็กทุกคนกลับมีความสามารถท้าทายสวรรค์!

————————————————————-

ขั้นพลัง

ขอบเขตหลอมรวมลมปราณ

ขอบเขตควบแน่นลมปราณ

ขอบเขตประสานทะเลลมปราณ

ขอบเขตรวมแสงดารา

ขอบเขตนภา (ขั้นต่อไปถัดจากขอบเขตรวมแสงดารา)

ขอบเขตครึ่งสวรรค์ (ขอบเขตนภาระดับ12-13)

ขอบเขตสวรรค์

– สวรรค์สามัญ

– หลุดพ้นสามัญ

ขอบเขตเหนือสวรรค์

ขอบเขตราชัน

ขอบเขตจักรพรรดิ

ขอบเขตเร้นลับ

ขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ (ระดับการบำเพ็ญเพียรของหลิงตู้ฉิงในชาติก่อน)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท