ตอนที่ 185 กดข่ม
เซียวเฉินใจลอยตลอดทั้งช่วงบ่าย เขาไม่อาจเข้าใจได้ว่าคนเหมืองกลุ่มนั้นหายตัวไปได้อย่างไร กลุ่มคนตัวเป็นๆจํานวนมากจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร?
นอกจากนั้น,คนเหล่านี้ยังมีสัญญาณเตือนติดอยู่กับตัวหากพวกเขาพบกับอันตราย,พวกเขาต้องส่งสัญญาณออก มาในทันที่ที่พวกเขาทําได้เสียงของมันจะดังทะลุไปทั่วทั
มู่ซินหยาก็รู้สึกแปลกประหลาดเช่นเดียวกัน “พี่ชายเย่, เจ้าคิดวว่ามันเกิดอะไรขึ้น? มันน่าแปลกประหลาดอย่างมาก”
เซี่ยวเฉินยิ้มขึ้น “แม้แต่คนฉลาดล้ําเช่นเจ้ายังคิดไม่ตกข้าจะไปรู้ได้เยี่ยงไร?”
ได้ยินที่เซียวเฉินกล่าว,มู่ซินหยาก็เผยรอยยิ้มออกมา “ความจริง,ข้าก็มีอยู่ความคิดหนึ่งมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่คนทั้งกลุ่มจะหายตัวไปได้ มันมีอุโมงค์ทางตันมากมาย ที่มืดมิดจนแม้แต่มือของตัวเองยังมองไม่เห็นทั้งหมดที่พวกเขาต้องทําก็คือซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์เหล่านั้นมันเป็นการยากที่จะมีใครไปพบเจอเข้า”
เซียวเฉินส่ายหัวและตอบกลับ “เป็นไปไม่ได้ คนพวกนั้นจะซ่อนตัวทําไม? พวกเขาล้วนเป็นคนธรรมดา ปราศจากการปกป้องของพวกเราพวกเขาไม่มีโอกาสจะรอดชีวิต แม้ว่าจะไม่พบอันตราย,พวกเขาก็ต้องอดตายอยู่ดี”
มู่ซินหยาพูดขึ้น “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าพวกเขาหายไปไหนพวกเขาคงมุดลงดินหนีไปไม่ได้”
เซียวเฉินจะวางสิ่งที่เขาไม่อาจเข้าใจทิ้งไว้ชั่วคราวนี่เป็นสิ่งที่เขาทํามาตลอด เนื่องจากเขาไม่สามารถทําอะไรได้,เขาไม่อาจไปเสียเวลาคิดเกี่ยวกับมัน
“อย่าไปใส่ใจกับมันนัก:พวกเราจะปล่อยให้เป็นหน้าท่าของเยเหวินและคนอื่นๆจัดการไป พวกเราควรระวังตัวให้มากขึ้นพวกเราน่าจะต้องยุ่งไปตลอดทั้งเดือน นี้ จากนั้นก็จากไป”เซียวเฉินรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่รับภารกิจนี้มา
เหมืองแห่งนี้แปลกประหลาดยิ่งกว่าเดิม ความไม่มั่นคงในใจของเขายิ่งหนาแน่นขึ้น เซียวเฉินอยากจะออกไปจากเหมืองแห่งนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
อีกหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างเงียบสงบ ไม่มีข้อสรุปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น คนที่เย่เหวินส่งออกไปตามหาคนเหมืองที่หายไปไม่พบแม้แต่ร่องรอยแม้ว่าจะค้นหาอยู่เป็นเวลานาน
ระหว่างวันนี้เองเซี่ยวเฉินและมู่ซินหยาก็ลาดตะ เวนของพวกเขาต่อไปบางครั้ง,พวกเขาก็พบกับซากศพตอนนี้มันง่ายดายสําหรับทั้งสองในการรับมือ:การประสานงานของพวกเขาเริ่มดีขึ้น
ค่ําคืนหนึ่ง,เซี่ยวเฉินยังคงฝึกฝนทักษะกระบี่ของเขาในพื้นที่อุโมงค์กว้างแห่งหนึ่ง เขาหยิบเอาไข่มุกราตรีออกมา จากแหวนห้วงจักรวาลและติดในพื้นที่รอบๆ:อุโมงค์ที่ มิดมือพลันสว่างขึ้นมาในทันที
ไข่มุกราตรีพวกนี้คือของที่ฉกมาจากห้องสมบัติของตระกู ลเจียง ขณะที่เขากําลังจัดระเบียบแหวนห้วงจักรวาลของ เขาอยู่นั้น,เขาก็ไปพบเข้า ช่างบังเอิญ.มันเหมาะที่จะนําออก มาใช้ที่นี่พอดี
มีแสงสว่างดูดีกว่าอุโมงค์มืดสนิทก่อนหน้านี้อย่างมาก เหมือนกับครั้งก่อนเชี่ยวเฉินฝึกฝนแปดกระบวณท่าพื้นฐานเป็นอันดับแรกเขาไม่อาจปล่อยให้ท่ากระบี่ พื้นฐานของเขาฝุ่นเกาะได้
จากนั้นเขาก็จะฝึกในทักษะทั้งหมดที่เขาเรียนรู้มา ทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน,หัตถ์จับมังกร,สยายปีก,ดาบดาราร่ายรํา…ไม่ว่าจะเป็นทักษะที่เขาได้ศึกษาหรือลอกเลียนมา โดยต้นกําเนิดปัญญายุทธรูปแบบแปรลักษณ์,เขาจะฝึกฝนมันทั้งหมด
เฉพาะเมื่อเขาผลาญปราณจนหมด เขาถึงหยุดพักลงครูหนึ่ง จากนั้นเขาก็หยิบหินวิญญาณระดับตําออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลและดูดซับมัน,ฟื้นฟูพลังปราณของเขา
หลังจากนั้นเซียวเฉินจึงลุกขึ้นและฝึกฝนสับวายุใส เขาทุ่มเวลาที่เหลือทั้งหมดไปกับสับวายุใส
ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานสามารถเข้ากันได้ดีกับสับวายุใสเขาสามารถเคลื่อนไหวไปในอากาศได้ราวกับมังกรและใช้ออกสับวายุใสออกมาได้จากทุกท่วงท่าที่เขาต้องการ
อย่างไรก็ตาม,ไม่ว่าเขาจะฝึกฝนถึงเพียงใด เซียวเฉินก็ไม่อาจปิดซ่อนเจตนาฆ่าของเขาไว้ได้ ในจังหวะที่กระบี่เงาจันทร์ถูกชักออกมาเจตนาฆาฟันของเขาก็ระเบิดออก:ไม่มีทางควบคุมเอาไว้ได้
เซี่ยวเฉินเอนพิงกําแพงอุโมงค์อย่างช่วยไม่ได้ ครุ่นคิดถึงปัญหาเจตนาฆ่าฟันของเขา เจตนาฆ่าฟันนั้นคือพลังฉีกดข่มที่ก่อตัวขึ้นมาหลังจากที่ผู้บ่มเพาะพลังคนนั้นได้สัง หารคนไปเป็นจํานวนหนึ่ง
โดยปกติ,เมื่อจ้องมองไปที่คนคนหนึ่ง,เจตนาฆ่าฟันของพวกเขาจะพุ่งออกไปโดยอัตโนมัติมันจะทําให้คนผู้นั้นหวาดกลัวขึ้นมาในใจเป็นผลให้พวกเขาไม่อา จตั้งสมาธิได้
นอกจากนั้น,บุคคลที่น่าหวาดกลัวบางคนผู้ที่สามารถควบคุมเจตนาฆ่าฟันของพวกเขาได้อย่างอิสระ พวกเขาสามารถรวบรวมเจตนาฆ่าฟันมากมายของพวกเขาให้เป็นเส้นสาย;พวกเขาอาจจะเปลี่ยนมันให้ไปเป็นดา บหรือหอกแหลมและทุ่มแทงจิตใจของผู้คน,ทําร้ายจิตวิญญาณของพวกเขาและทําให้พวกเขาสิ้นสภาพในการต่อสู้ทัน
อย่างไรก็ตาม,สภาวะดังกล่าวสามารถบรรลุได้เฉพาะคนที่ฝึกฝนในเส้นทางแห่งการฆ่าฟันเท่านั้นคนอย่างหลีวหรูเยว่และเย่เหวินไม่ได้ฝึกฝนเส้นทางแห่งการฆ่าฟัน เช่นนั้นพวกเขาสามารถควบคุมมันได้เช่นไร?
เซี่ยวเฉินค่อยๆลุกขึ้นและวางกระบี่เงาจันทร์ทิ้งไว้ด้านข้าง จากนั้นเขาก็ใช้มือของเขาเลียนแบบกระบี่ขึ้นมาในจังหวะนั้นเจตนาฆ่าฟันของเขาถูกผิดซ่อนไว้ไม่มีรั่ว ไหลออกมาแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นเซียวเฉินก็เข้าใจเขารู้แล้วว่าทําไมเจตนาฆ่าฟันของเขาจึงปรากฏออกมา
–
ในตอนที่เขาถือกระบี่เงาจันทร์,เจตนาฆ่าฟันของเขาจะรั่วไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ถึงอย่างไร,จุดประสงค์ของสับวายุใสมันก็เพื่อสังหารผู้คนมันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ออกมาโดยปราศเจตนาฆ่าฟัน
เมื่อเจตนาฆ่าฟันปรากฏขึ้น, พลังฉีฆ่าฟันก็จะระเบิดออก มาโดยอัตโนมัติอย่างไรก็ตาม เมื่อเขาต่อยออกไปเมื่อครู่ มี เจตนาฆ่าฟันปรากฏขึ้นในใจของเขาแต่ไม่ระเบิดออกมา
นี่เป็นเพราะเขาเพียงแค่ใช้กําปั้นของเขาเคลื่อนไหวเขาทํากับมันเหมือนเป็นเพียงแค่ท่วงท่าธรรมดาสามัญ
เซียวเฉินจับกระบี่เงาจันทร์อีกครั้งและชักมันออกมา จากฝักเขาพูดกับตัวเองซ้ําๆ นี่เป็นเพียงท่วงท่าเคลื่อนไห วธรรมดาสามัญ,ข้าเพียงแค่เคลื่อนไหวทั่วไปข้าเพียงแค่ดึงกระบี่ออกจากฝักมาถือเอาไว้
เป็นเหมือนการเดินเหินและดื่มกิน,นี่เป็นเพียงแค่ การเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายไม่จําเป็นต้องคิดอะไรมากเซี่ยวเฉินสะกดจิตตัวเองเช่นนั้นพร้อมกับใช้สับวายุใสออกมาช้าๆ
คมกระบี่กวาดผ่านอากาศพร้อมกับเขาที่ใช้ทักษะมังกร ฟ้าเมฆาทะยานออกมาพร้อมกัน สายลมเย็นก็รวมตัวภาย ในอุโมงค์ จิตใจของเซียวเฉินว่างเปล่าเขาสงบเป็นอย่างมาก
“ชั่ว!”
ลําแสงเย็นเฉียบส่องประกายในอากาศ,ร่างของเซียวเฉินหยุดลงที่กบางอากาศพร้อมกับใช้ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานออกมาอย่างต่อเนื่อง เท้าของเขาลอยออกเห นือพื้น,ราวกับว่าเขากําลังนั่งอยู่บนสายลมเย็น,พร้อมกับเขาใช้ออกสับวายุใสต่อเนื่องออกมาอีกสามครั้ง
ภายในสายลมเย็น,กระบี่เงาจันทร์ราวกับกิ่งไม้ที่กําลังร่ายํรำ ท่ามกลางสายลม มันไม่ได้แบกรับเจตนาฆ่าฟันเอาไว้แม้ แต่น้อยผู้ใดที่เผชิญหน้ากับมัน ผู้นั้นจะไม่รู้สึกถึงแรงกดดันแม้แต่น้อย
“ในที่สุดข้าก็สําเร็จ!” เซี่ยวเฉินอุทานอย่างเป็นสุขขณะที่เขาลงถึงพื้น เขาใช้ออกสับวายุใสออกไปทั้งสิ้นสี่ครั้ง เจตนาฆ่าฟันทั้งหมดถูกปิดซ่อนเอาไว้
มันเป็นเช่นนี้นี่เอง! นี่จะต้องเป็นสิ่งที่เรียกกันว่า “บรรลุฉับพลัน” ปัญหาที่ไม่อาจแก้ได้มาเป็นเวลานานทันใดนั้นก็คลี่คลายทุกสิ่งกลายเป็นแจ่มชัด
เซี่ยวเฉินมีความคิดเช่นนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าหากผู้ใดก็ตามไม่มีประสบการณ์และการฝึกฝนที่เพียงพอ,มันจะมีการบรรลุฉับพลันได้อย่างไร?
ตราบใดที่ข้าสะกดจิตตัวเอง,ข้าสามารถปิดซ่อนเจตนาฆ่า ฟันเอาไว้ได้หากหลอกได้แม้กระทั่งตัวเอง,ข้าจะไม่หลอกคนอื่นได้เช่นไร? เซียวเฉินตื่นเต้นอย่างมาก
เซี่ยวเฉินฝึกฝนต่อไป มีสายลมเย็นเคลื่อนไปตามคมกระ บีของเขาบางครั้ง,จะมีแสงเย็นเฉียบที่ประสานกับทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานเพื่อเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิด
เซี่ยวเฉินฝึกฝนต่อไปจนพลังปราณของเขาเดือดแห้ง เขานั่งลงกับพื้นและครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขาได้ร่ําเรียนมา ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็เก็บไข่มุกราตรีและเดินกลับไปที่ห้องของเขา
ระหว่างทาง, เซี่ยวเฉินผ่านพื้นที่ขุดเจาะแห่งหนึ่ง เซี่ยวเฉินลดฝีเท้าลงเขาสังเกตเห็นว่ามีหนอนสูบวิญญาณประมาณสิบตัวกําลังเคลื่อนไหวอยู่กลางพื้นที่ขุดเจาะ
เสียง กี กี” ของพวกมันช่างฟังดูไม่สบายหู นี่เป็นเสียงของพวกมันที่กําลังกินแร่ดิบหินวิญญาณ
พวกหนอนสูบวิญญาณถือแร่ดิบหินวิญญาณคืออาหารและอาศัยอยู่ในดิน พูดตามหลักการ,พวกมันควรจะเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศาลากระบีสวรรค์ อย่างไรก็ ตาม,มองดูไปที่ฉากตรงหน้าเหมือนกับว่าพวกเขาตั้งใจเลี้ยงหนอนสูบวิญญาณเอาไว้
เซียวเฉินเดินผ่านสถานที่แห่งนี้ทุกวัน ทุกครั้งที่เขาเดินผ่าน,เกิดความอยากจะสังหารพวกมันให้หมดทุกตัว เป็นเพราะคะแนนสะสมสชจํานวนมาก หลังจากที่สังหา รพวกมันทั้งหมด,เขาจะได้รับทั้งหมด 50 แต้มสะสม
ทันใดนั้น,สายลมอันแข็งแกร่งพัดเขามาด้านหลังของเซี่ยว เฉินร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้าและตบลงที่ไหล่ของเขาเบาๆ
เซี่ยวเฉินนั่งสมาธิและชักกระบี่เงาจันทร์ของเขาออกมา ทันทีแสงเจิดจ้าที่ก่อตัวขึ้นมาจากพลังปราณรวมตัวบนผิวกระบี
“ชิน” ขณะที่กระบี่แสงกําลังจะก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์,ร่างนั้นก็ดีดนิ้วลงบนกระบี่เงาจันทร์ เกิดละลอกคลื่นขึ้นในอากาศและกระบีก็ถูกผลักกลับ
“การตอบสนองของเจ้าไม่เลวเจ้าสามารถชักกระบี่ออกมาได้ในชั่วอึดใจเดียว เจ้าน่าจะต้องฝึกฝนท่ากระบีพื้นฐาน ถึงระดับสมบูรณ์ขั้นกลางแล้วเรียบร้อย” เย่เหวินพูดกับ เซียวเฉินพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนขณะที่ปรากฏตัวขึ้น
เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นว่าเป็นเย่เหวิน,เขาก็ลดมือลงอย่าช้าๆเขาเก็บกระบี่เข้าฝักและคํานับมือทักทาย “ลุงเย่,ท่านกล่าวชมข้าเกินไปแล้ว”
เย่เหวินยิ้ม เมื่อเขาเห็นหนอนสูบวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขา
เขาก็กล่าวกับเซียวเฉิน “เจ้าคิดว่ามันแปลกประหลาดที่แม้ว่าจะมีหนอนสูบวิญญาณมากมายแต่ข้าก็ไม่สังหา รพวกมันทิ้ง?”
เซี่ยวเฉินพยักหน้าเนี้เป็นสิ่งที่เขากําลังครุ่นคิดอยู่ หากเย่เหวินบอกให้เขากระจ่าง,มันจะดีมาก
“ไปกัน,ข้าจะพาเจ้าไปสถานที่แห่งหนึ่ง มันไม่ใช่รวามลับอะไรข้าจะบอกเจ้าที่หลัง”
หลังจากที่เย่เหวินพูดจบ,เขาก็นําเชี่ยวเฉินไปตามอุโมงค์ที่คิดเคี้ยวเลี้ยวแล้วเลี้ยวอีก ระหว่างทางเขาก็ได้เปิดประตูลับบางอย่าง สถานที่ที่เซียวเฉินริดว่ามันเป็นทา งตันทันใดนั้นก็เปิดออก
เขากําลังจะพาข้าไปที่ไหน? เซียวเฉินสงสัยเป็นอย่างมากแต่เดิมเขาคิดว่าเย่เหวินจะพาเขาไปที่กองบัญชาการของชั้นนี้ อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
“ซ่า ซ่า ซ่า!”
ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงน้ําไหลดังมาจากด้านหน้าของพวกเขาไม่อาจทราบได้ว่าเย่อหวินเปิดใช้กลไกลับอะไร,แต่กําแพงหินด้านหน้าของพวกเขาก็เลื่อนเปิดไปด้านข้าง
“ฟู!” มีสายลมเย็นพัดผ่านมาจากประตูด้านหน้า ถ้ําขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเซียวเฉิน,มันสูงกว่าร้อยเมตรและกว้างนับพันเมตร
มันไม่ได้อยู่ในขนาดของถ้ําอีกต่อไป มันเหมือนกับมีคนใช้กําลังแกะสลักสร้างพื้นที่นี้ขึ้นมา มีแม่น้ําเชี่ยวกรากให้ดินกําลังไหลอย่างรวดเร็วเนี่เป็นต้นกําเนิดของเสียงที่เขา ได้ยินก่อนหน้านี้
พื้นที่ที่กลายเป็นกว้างขวางขึ้นมาอย่างฉับพลัน มันรู้สึกสบายเป็นอย่างมาก
สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้นก็คือเย่เหวินไม่ได้เป็นคนเดียวที่อยู่ที่นี่มีคนอื่นอีกมากมายที่มาจากศาลากระบี่สวรรค์
คนพวกนนี้สวมชุดเกราะสีดํา, บางครั้งก็มีแสงเรืองออกมาจากพวกเขามีเจตนาฆ่าฟันพลุ่งพล่านขยายออกมาจากพวกเขาทุกคน
แม้แต่เซียวเฉินที่อยู่ห่างออกมาไกล,เขายังสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าฟันที่แหลมคม แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจตนาฆ่าฟันพวกนี้ไม่ ได้มุ่งมาที่เขาแต่เขากลับรู้สึกราวกับถูกจ้องมองด้วยภูติผีปีศาจมันน่าหวาดกลัวอย่างมาก
เซี่ยวเฉินวางมือลงไปบนด้ามกระบีของเขา เจตนาฆ่าในใจของเขาถูกดึงออกมาอย่างไม่รู้ตัวมีแรงกระตุ้นที่จะชักกระบีออกมาและสังหารทักคนที่ใส่ชุดเกราะสีดํา
“ผ่อนคลาย, อย่าได้ขู่วาม คนพวกนี้มาจากค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์พวกเขาจะไม่ทําอะไรเจ้า” เยาเหวินทันใดนั้นก็เรียกออกมาเมื่อเขาเห็นว่าเซี่ยวเฉินกําลังจะเสียการควบคุมตัวเอง เขาตบไปที่ไหล่ของเซียวเฉินด้วยมือขวาของเขาและส่ง พลังปราณอบอุ่นเข้าไปในร่างของเซียวเฉิน
หลังจากที่พลังปราณอันอบอุ่นของเยเหวินเข้ามาในร่างของเซียวเฉิน,เจตนาฆ่าฟันในใจของเขาก็สงบลง;เขาตัวหยุดสัน
อย่างไรก็ตาม,เขารู้สึกหวาดกลัวในใจ “เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้? ทําไมข้าถึงปลดปล่อยเจตนาฆ่าฟันออกมาโดยไม่มีเหตุผล?”