บทที่ 1293 – การเตรียมตัวกลับบ้าน ประมุขสุข พลังการรักษาของชิงสุ่ย
ตอนนี้ชิงสุ่ยไม่แน่ว่าเขาควรจะร้องไห้หรือยิ้มยินดีกันแน่ เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
ตูม!
เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น แม้จะไม่ดังแต่ก็ได้ยินอย่างชัดเจน ชิงสุ่ยมองหญิงสาวโผเข้าจูบเขาก่อนจะถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่หยุดเสียตอนนี้ เรื่องคงจะบานปลายแน่
“ท่านปรมาจารย์ป้า ถึงท่านอยากจะฉวยโอกาสจากข้า แต่ท่านก็ไม่ควรทำอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้”ชิงสุ่ยรู้สึกแปลก ๆ เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่ารู้สึกอย่างไร แต่เขารู้สึกว่าเขาไม่อยากเข้าใกล้เธอ
หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุข ชิงสุ่ยมองรูปร่างของเธอที่มีเสน่ห์ราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีจันทร์ฉายแสง ยิ่งกว่านั้นเขารู้สึกว่าเธอเปี่ยมไปด้วยความใคร่
และเขาไม่ค่อยชอบนิสัยนี้ของเธอเท่าไรนัก!
ก่อนหน้านี้ เธอเคยเข้าไปในห้องเขาและยังจับน้องชายสุดหวงของเขาจนชิงสุ่ยตกใจ เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นชิงสุ่ยยิ่งสงสัยว่าเธอเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันแน่
“ก็ได้ งั้นพวกเราไปหาอะไรทานกันเถอะ หลังจากนั้นข้าจะไปหา ลู่หยานและหยวนเอ๋อ และถ้าเจ้าอยากกลับไป 5 มหาทวีป ก็ตามใจเจ้า ข้าจะไม่ไปจากมหาทวีอู่เซียตะวันตกสักพัก ดังนั้นถ้าเจ้าอยากกลับมาเมื่อไร เจ้าก็กลับมาได้ทุกเมื่อ”หญิงสาวบอก
“ตกลง!”
ชิงสุ่ยยิ้มและพยักหน้ารับ ตอนนี้ ธงสวรรค์ปัญจธาตุสามารถใช้ได้แค่เพียงครั้งเดียว เขาไม่รู้ว่าเขาสามารถพาใครมากับเขาด้วยได้หรือไม่ ชิงสุ่ยจึงรู้สึกเสียดายลึกๆ หากจะทำเช่นนั้น เขาคงต้องมีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้
อวี้ ลู่หยานไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามใบหน้าของเธอยังเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จนอาจารย์และถานท่าย หยวนไม่สามารถละสายตาได้ ซึ่งถานท่าย หยวนรู้เหตุผลเบื้องลึกเป็นอย่างดี
“ลู่หยาน วันนี้เจ้าช่างงามจริง ๆ ถ้าเจ้าทำอะไรกับชิงสุ่ยแล้วเจ้าจะสวยขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”หญิงสาวยิ้มและมองชิงสุ่ยสลับกับ อวี้ ลู่หยาน
อวี้ ลู่หยานก้มหน้าลงเล็กน้อย ถานท่าย หยวน เองก็ก้มหน้าลงพลางทานอาหารของตน ชิงสุ่ยยิ้มอย่างปะหม่าก่อนจะตอบ “ไม่ใช่แค่เพียงทำให้สวยขึ้น แต่ยังเพิ่มอายุขัยและระดับพลังอีกด้วย..”
“ชิงสุ่ย…” อวี้ ลู่หยานปรามชิงสุ่ยทันที
“พอรู้ว่ามันมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ข้าก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นแล้วสิ ลู่หยาน เจ้าว่ามันดีไหม?”อาจารย์หญิงมอง อวี้ ลู่หยาน อย่างสงสัย
ชิงสุ่ยรู้สึกว่าหญิงสาวกำลังหยอกล้ออวี้ ลู่หยาน ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไร เขารู้สึกว่าเธอแสดงละครเก่งราวกับว่าเธอเป็นหญิงสาวผู้ไร้เดียงสาที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน
ในตอนเช้า หญิงสาวกล่าวลาชิงสุ่ย ก่อนชิงสุ่ยจะกอดอวี้ ลู่หยานและพูดบางอย่างกับเธอ หลังจากแยกย้าย อวี้ ลู่หยานก็ผลักถานท่าย หยวนไปหาชิงสุ่ย
“มาให้ข้ากอดเจ้าสิ เพราะในชีวิตนี้ มีเพียงข้าเท่านั้นที่จะเป็นผู้ชายของเจ้า”ชิงสุ่ยพูดและกอดเธอ เขาสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างกายอันบอบบางของอีกฝ่าย เช่นเดียวกับความรู้สึกของเธอที่ส่งผ่านมาถึงชิงสุ่ย จนแม้แต่ชิงสุ่ยก็เกือบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่
“หยวนเอ๋อ!”
“หืม!” ถานท่าย หยวน กอดชิงสุ่ยเบา ๆ เธอรู้สึกแปลกๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
แม้ทั้งสองจะแสดงออกถึงความรู้สึกของทั้งคู่อย่างชัดเจน แต่ชิงสุ่ยก็จะรอจนเธอพร้อม ดังนั้นเขาต้องให้เธอเข้าใจถึงความรักและความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงเสียก่อน ไม่อย่างนั้นพวกเขาทั้งสองอาจจะต้องเสียใจในภายภาคหน้า
“จูบข้า ก่อนเจ้าจะไปสิ”ชิงสุ่ยกระซิบบอกเธอข้างหู
“ไม่!”
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะทำเอง!”หลังจากพูดจบ ชิงสุ่ยก็กัดหูเธอเบา ๆ
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้หูของเธอแดงระเรื่อ ร่างบางกอดชิงสุ่ยในขณะที่ตัวสั่นเทา
“พอเถอะ ท่านอาจารย์ยังอยู่รอบๆ ห้ามทำอะไรเกินเลยมากกว่านี้” ถานท่าย หยวน พูดอย่างเขินอาย
“ถ้าท่านอาจารย์ไม่อยู่ เจ้าก็จะยอมให้ข้าทำเลยเถิดงั้นเหรอ?”
“ไม่ ไม่มีทาง!” หญิงสาวตอบ
“จูบข้า ไม่อย่างนั้นข้าไม่รับปากว่าข้าจะทำอะไรต่อไป”
“ไม่!”
มือของชิงสุ่ยค่อย ๆ เลื่อนมือไปตามร่างกายของร่างของถานท่าย หยวน
“อย่าขยับ เจ้าคนบ้ากาม …ข้าจะทำตามที่เจ้าบอก แต่เจ้าต้องรักษาสัญญาด้วย”ถานท่าย หยวนบอก
ชิงสุ่ยพยักหน้ารับ
ริมฝีปากอ่อนโยนประกบลงบนริมฝีปากเขาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวใจเต้นระรัว
หญิงสาวผละจูบจากเขาอย่างรวดเร็ว
ชิงสุ่ยไม่อยากเร่งรัดเธอมากไปกว่านี้ นี้เป็นก้าวแรกสำหรับเธอ และชิงสุ่ยอยากให้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอเลยสักนิด
“ดูแลตัวเอง และตั้งใจฝึกฝนล่ะ แล้วพวกเราค่อยไป 3 มหาทวีปพร้อมกัน”ชิงสุ่ยปล่อยมือเธอ
ถานท่าย หยวนเขินก่อนจะพยักหน้าและจากไป เธอรู้สึกเหมือนวิญญาณหลุดจากร่างไปแล้ว นี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกเช่นนี้ในช่วงหลายปีมานี้ ความรู้สึกราวกับฝันไป แต่ก็เป็นฝันที่เหมือนความจริง เป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยรู้จัก เป็นความรู้สึกที่วิเศษที่สุด
ความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ ทุกคนคงเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เพียงแต่อาจจะยังไม่เจอคนที่ใช่ก็เท่านั้น อีกทั้ง หากรีบค้นหา ก็ยากที่จะเจอคนที่ใช่
อาจารย์หญิงไม่ได้เข้ามากอดชิงสุ่ย เธอเรียกสัตว์อสูรของเธอและจากไปพร้อมทั้งสอง
เขายืนมองจนทั้งสามหายลับไปจากสายตา แม้จะอยากใช้ทักษะย่างก้าว 9เทวาไปส่งพวกเธอ แต่ชิงสุ่ยก็ตัดสินใจไม่ทำเช่นนั้นเพราะเขาคิดว่าคงไม่มีใครทำอะไรพวกเธอได้
ทักษะย่างก้าว 9เทวา!
ชิงสุ่ยมุ่งหน้าไปยังสำนักสวรรค์เร้นลับ เขาควรจะกลับไปดูเสียหน่อย หากมีเวลา เขาก็อาจจะสำรวจรอบ ๆ 5 มหาทวีป เพราะครอบครัวและพวกพ้องของเขาก็อยู่ที่นั้น เขาน่าจะกลับไปได้สัก 3-5 วันต่อเดือน
สำนักสวรรค์เร้นลับ!
ชิงสุ่ยใช้เวลาไม่กี่วันก็มาถึงสำนักสวรรค์เร้นลับด้วยทักษะย่างก้าว 9เทวา
เหยียน จินยวี้, ชิงซา, และองค์หญิงลำดับเจ็ดอยู่ที่นั่น อวี้ซูหนี่ ยังไม่ออกจากการเก็บตัว เมื่อทุกคนเห็นชิงสุ่ย พวกเขาต่างยินดี ชิงซาเข้ามากอดชิงสุ่ยทันที
“พวกเจ้าเป็นอย่างไรกันบ้าง?”
“พวกเราสบายดี..ใช่มั้ยทุกคน?”
“แน่นอน ท่านพ่อ ท่านจะออกเดินทางอีกแล้วเหรอ?” ชิงซาถาม
“ข้ายังต้องเดินทางอีก ช่วงนี้ข้ามีสิ่งที่ต้องสะสางมากมาย เจ้าก็ตั้งใจฝึกฝนด้วยล่ะ แล้วเราค่อยมาคิดเรื่องอนาคตกัน ตกลงไหม?”ชิงสุ่ยลูบหัว ชิงซา
“อืม..ข้ารู้ ข้าจะตั้งใจฝึกฝน” ชิงซาพูดอย่างแน่วแน่
หลังจากฝึกฝนที่สวนอยู่พักหนึ่ง ชิงสุ่ยมุ่งหน้าไปยังสนามหญ้าของสำนัก ในเมื่อเขากลับมาเยี่ยมเยียนที่นี้ เขาก็ควรจะแวะไปเยี่ยมชายชราทั้งสอง ไม่ว่าอย่างไรทั้งสองก็ช่วยเหลือชิงสุ่ยไว้หลายครั้ง และในอนาคตเขาก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากทั้งสอง ถ้าพวกเขาอยู่ที่นี้ ชิงสุ่ยก็ไม่ต้องกังวลอะไรนัก
ในตอนที่ชิงสุ่ยไปถึงที่หมาย เขามองเห็นชายชรากำลังออกมา และเมื่อพวกเขาเห็นชิงสุ่ย พวกเขาก็แสดงท่าทางยินดี
“เจ้ากลับมาแล้วเหรอ? ดูเหมือนว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นเยอะเลย!”ประมุขสุยที่อยู่ในชุดคลุมมังกรสีทองพูดขึ้น
ประมุขเฉาเองก็มองชิงสุ่ยอย่างประหลาดใจ
“ไม่เท่าไรหรอก ว่าแต่พวกท่านอยู่ดีมีสุขหรือไม่?”ชิงสุ่ยถามอย่างมีความสุข ชายชราทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกเหมือนได้กลับมาหาครอบครัว
“ดีสิ ดี..มา เข้ามานี่ มานั่งคุยกันเสียหน่อย”ประมุขเฉาชักชวน
“ชิงสุ่ย ครั้งนี้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นมาก ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าเจ้าได้รับเทวะแห่งเต๋ามาแล้วงั้นเหรอ” ประมุขสุยถาม
เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายถาม ชิงสุ่ยเองก็ประหลาดใจที่ชายชราสัมผัสพลังของเขาได้ นั่นเพราะประมุขสุยเองก็ได้รับเทวะแห่งเต๋า พลังของเขามีมากถึง 10,000 สุริยะ
ไม่แปลกเลยที่เขาจะกลายมาเป็นประมุขของสำนักสวรรค์เร้นลับ แต่น่าเสียดายเพราะเขาอายุมากแล้ว เขาจึงไม่สามารถพัฒนาพลังไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว
“ท่านพอจะรู้จักหัวหน้าของเทือกเขาปู๋โถว?”ชิงสุ่ยถามประมุขสุย
“นางไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย ๆ อย่างที่เห็นหรอก ว่ากันว่านางมาจาก 3 มหาทวีป และมาที่นี้เพื่อฝึกฝนเมื่อถึงเวลา นางก็กลับไป” ประมุขสุยตอบ
“นางเองก็ได้รับเทวะแห่งเต๋า” ชิงสุ่ยมองชายชราทันทีที่เขาพูดจบ
“เฮ้อ..นางเป็นปีศาจชัด ๆ นางแข็งแกร่งทั้ง ๆ ที่ยังอายุไม่มาก ทั้งยองปกครองมหาทวีอู่เซียตะวันตก เทวะแห่งเต๋าของนางคงยิ่งใหญ่มากในอนาคต”คำพูดของประมุขสุยทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
ชิงสุ่ยไม่ถามอะไรอีก เขารู้เหตุผลที่ชายชราไม่ได้อธิบายรายละเอียดอะไรให้เขามากนัก เพราะประมุขสัยก็ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องราวของเธอนัก อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชิงสุ่ยรู้คือ เขาไม่เข้าใจจิตใจของผู้หญิงจริงๆ..
ในโลกนี้ทุกคนใช้ชีวิตโดยสวมหน้ากากเอาไว้ และไม่ใช่แค่ชิ้นเดียว ทุกคนต้องสวมหน้ากากมากกว่าหนึ่งชิ้น เพื่อจะได้ใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น
ชีวิตก็เหมือนการแสดง ทุกคนต้องแสดงละคร และละครของบางคนก็ไม่มีทางจบลง ในขณะที่ละครของบางคนกลับต้องจบอย่างน่าเศร้า…
“ท่านประมุข ให้ข้าท่านฝังเข็มให้ท่านอีกเถอะ อายุขัยของท่านยังมีปัญหาบางอย่าง ข้าอยากลองทำให้เทวะแห่งเต๋า ไหลเวียนอย่างสะดวก”ชิงสุ่ยคิดก่อนจะบอกอีกฝ่าย
ประมุขสุยตะลึงก่อนจะมองชิงสุ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ แม้เขาจะยังได้รับเทวะแห่งเต๋ามาไม่นาน แต่เขาก็รู้ว่าเขาเหลืออายุขัยไม่มากแล้ว สิ่งนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกเสียดาย
แม้ว่าผู้ฝึกตนจะได้รับอายุขัยจากระดับพลังของเขา แต่น่าเสียดายที่โรคร้ายมักปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
ครั้งก่อนชิงสุ่ยช่วยเพิ่มอายุขัยให้เขา แม้เขาจะไม่รู้ว่าอายุขัยของเขาเพิ่มขึ้นเท่าไร แต่ชายชราก็ไม่คิดจะยืดอายุขัยตนอีก ทว่าชิงสุ่ยเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน สถานการณ์จึงต่างกัน
“เป็นไปได้อย่างนั้นเหรอ? เจ้ามีทักษะด้านการรักษาด้วยรึ แล้วเจ้าบอกวิธีพวกข้าก่อนออกเดินทางไป 3 มหาทวีปได้รึไม่? ข้าคิดว่ามีผู้ฝึกตนมากมายที่น่าจะเจอปัญหาเดียวกัน” ประมุขสุยมองชิงสุ่ยอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“ให้ข้าลองดูเถอะ แล้วท่านทั้งสองจะได้รู้..”ชิงสุ่ยได้รับเทวะแห่งเต๋า อีกทั้งพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นมาก เขาจึงค่อนข้างมั่นใจ
เข็มทองคำ 9 หยาง!
ครั้งนี้ชิงสุ่ยใช้เวลานานกว่าครั้งก่อน ราวๆ 4 ชั่วโมง แม้เขายังไม่สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งสกปรกหรือโรคร้ายออกจากร่างกายของพวกเขาได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็สามารถกำจัดออกไปได้สัก 2-3 จุด ยิ่งกว่านั้นเขายังมอบเหล้าดอกบ๊วยผลิบานให้ประมุขทั้งสองอีกด้วย แม้เขาจะไม่สามารถยืดอายุขัยได้อย่างสมบูรณ์ แต่พวกเขาก็สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อีกพันปี..
1,000 ปี….เท่านี้ชิงสุ่ยก็พอใจมากแล้ว เพราะนี้เป็นอายุที่ทั้งสองควรจะมีตั้งแต่แรก.. แต่เพราะสภาพร่างกาย ทั้งสองจึงไม่สามารถมีอายุยืนขนาดนั้นได้
หลังจากผ่านไป 4 ชั่วโมง ประมุขสุยมองชิงสุ่ยอย่างประหลาดใจ นั่นเพราะเขาตระหนักได้ว่าร่างกายของเขาดีขึ้น จนเขาแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง